ผมไม่เคยเจอข้อหา " เมาหลังขับ "

ผมไม่เคยเจอข้อหาเมาหลังขับ http://www.posttoday.com/crime/423998
  #ตำรวจ #คดีทายาทกระทิงแดง #เมาไม่ขับ #เมาแล้วขับ #เมาหลังขับ

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ตำรวจมีข้อบกพร่องชัดเจนทั้งสำนวนที่ส่งไปให้อัยการ พบว่า ไม่มีการแจ้งข้อหาเมาแล้วขับแก่นายวรยุทธ แต่กลับแจ้งข้อหาข้อหาขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดและเมาหลังขับแก่ผู้ต้องหา ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือฝ่ายผู้ต้องหาหรือจะมีใครรู้เห็นหรือไม่นั้นขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะไม่อยากพาดพิงไปถึงหน่วยงานอื่น แต่ในส่วนของตำรวจยืนยันว่าไม่สามารถรื้อคดีของนายวรยุทธใหม่ได้ เป็นหน้าที่ของอัยการที่จะพิจารณา

-พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้าการสอบสวนตำรวจสน.ทองหล่อ ที่ทำคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทเจ้าของเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง ที่ขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2555
กระทิงเริงร่ากระทิงเริงร่ากระทิงเริงร่า



อสส.ชี้คดีทายาทกระทิงแดง ผู้ต้องหาเบี้ยวนัดจนขาดอายุ
โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดแจงคดีทายาทกระทิงแดงข้อหาขาดอายุความ เป็นเพราะผู้ต้องหาไม่มาพบตามนัด ชี้ประวิงเวลาขอสอบสวนเพิ่มเติม เผยไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินคดีในข้อหาหลัก พร้อมยันไม่มีการค้าสำนวนคดี

http://www.dailynews.co.th/crime/388532

เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ห้องประชุม 303 สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ ร.ท.สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) และ นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษก อสส. ร่วมกันแถลงข่าวคดีความคืบหน้าคดี นายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ทายาทมหาเศรษฐีเจ้าของเครื่องดื่มกระทิงแดง ขับรถสปอร์ตเฟอร์รารี ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ อายุ 47 ปี อดีตตำรวจสายตรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิต เมื่อเช้ามืดวันที่ 3 ก.ย. 2555 โดยเมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2556 อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ มีคำสั่งฟ้อง นายวรยุทธ รวม 3 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย 2.ไม่หยุดให้ความช่วยเหลือตามสมควร และแจ้งเหตุต่อเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียง (อายุความ 5 ปี) และ 3.ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด แต่ นายวรยุทธ ไม่ยอมเดินทางมาพบอัยการตามนัด จนทำให้ข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย และขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ขาดอายุความ ไปเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2556

โดย ร.ท.สมนึก โฆษก อสส. กล่าวถึงคดีนี้ว่า ประเด็นคดีขาดอายุความสำหรับข้อหาขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ซึ่งมีโทษปรับ 1,000 บาทนั้น ไม่ได้กระทบต่อการดำเนินคดีในข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งมีโทษหนักที่สุด โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี อายุความ 15 ปี ส่วนสาเหตุที่คดีล่าช้าจนขาดอายุความนั้น เพราะหลังจากที่พนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้อง นายวรยุทธ ในข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย และขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ที่จะขาดอายุความในวันที่ 3 ก.ย. 2556 แต่ทนายของ นายวรยุทธ ได้ยื่นหนังสือต่อพนักงานอัยการขอเลื่อนนัดส่งตัว เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2556 อ้างว่า นายวรยุทธ อยู่ประเทศสิงคโปร์และป่วยกะทันหัน ซึ่งอัยการเห็นว่ามีพฤติการณ์ประวิงคดี จึงแจ้งพนักงานสอบสวนขอศาลออกหมายจับ นายวรยุทธ แต่ นายวรยุทธ ก็ร้องขอความเป็นธรรมอีกหลายครั้ง พร้อมกับขอชะลอการออกหมายจับ ซึ่งพนักงานสอบสวนก็ไม่ได้ออกหมายจับตามที่อัยการแจ้ง

ด้าน นายประยุทธ รองโฆษก อสส. ระบุถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ว่ามีการค้าสำนวนคดีนี้ ยืนยันว่าส่วนตัวไม่เคยได้ยินเรื่องดังกล่าว เนื่องจากอัยการมีอิสระในการพิจารณาคดี โดยดำเนินการตามข้อกฎหมายและระเบียบ ส่วนที่บางข้อหาขาดอายุความก็ไม่ใช่ความผิดของพนักงานสอบสวนและอัยการ สำหรับประเด็นที่ นายวรยุทธ ร้องขอความเป็นธรรมหลายครั้งในหลายประเด็นนั้น ทางอัยการได้ยุติไม่สอบให้ในบางประเด็น แต่ที่ผู้ต้องหาอ้างเป็นประเด็นใหม่ไม่เคยปรากฎในสำนวนการสอบสวน พร้อมขอให้สอบพยานเพิ่มเติม 5 ปากนั้น พนักงานสอบสวนได้ส่งผลการสอบสวนมาให้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่าใช้เวลาไม่นานในการพิจารณารายละเอียด ส่วนข้อหาเมาแล้วขับนั้น อัยการสั่งไม่ฟ้องตามพนักงานสอบสวน เนื่องจากมีไม่หลักฐานยืนยัน ซึ่งมีการตรวจวัดระดับปริมาณแอลกอฮอล์ พบว่า นายวรยุทธ มีแอลกอฮอล์ 64.48 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แต่เป็นการตรวจหลังจากเกิดเหตุ และ นายวรยุทธ อ้างว่าดื่มสุราหลังเกิดเหตุแล้ว ทั้งนี้ ข้อหาที่ขาดอายุความมีอัตราโทษปรับสถานเดียว ยืนยันไม่กระทบต่อข้อหาหลักฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งเป็นข้อหาหลักมีอายุความ 15 ปี และข้อหาไม่หยุดให้ความช่วยเหลือและแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ฯ มีอายุความ 5 ปี อัยการขอยืนยันสามารถฟ้องคดีได้ทันเวลา และหาก นายวรยุทธ ไม่มาพบอัยการ ก็ไม่สามารถส่งฟ้องศาลได้ และจะต้องให้พนักงานสอบสวนขอหมายจับผู้ต้องหาต่อไป.
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่