“ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายการอนุรักษ์ป้อมและกำแพงพระนคร เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์
ซึ่งป้อมมหากาฬถือเป็นพื้นที่หนี่งที่ต้องมีการอนุรักษ์ โดยที่ผ่านมาได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน
ประกอบกับพื้นที่บริเวณป้อมมหากาฬได้มีมติคณะรัฐมนตรีให้ กทม.และกรมศิลปากร ดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณป้อมมหากาฬ
ตั้งแต่ปี 2545 และในปี 2547 ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาให้ กทม.สามารถเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างได้
ซึ่งในการรื้อย้ายบ้านเรือนภายในชุมชนป้อมมหากาฬนั้น กทม.ได้ดำเนินการจ่ายค่าทดแทนและรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินทั้งหมดแล้ว
ดังนั้นขณะนี้จึงเป็นเวลาอันสมควรที่ กทม.จะขอความร่วมมือให้ผู้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่บริเวณดังกล่าวรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่
โดยกำหนดวันให้รื้อย้ายได้ภายในวันที่ 30 เมษายน 2559 ทั้งนี้ กทม.จะเปิดบริการเกี่ยวกับการจัดหาที่อยู่อาศัยอื่นๆ ให้แก่ประชาชน
โดยร่วมกับการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดบริการแก่ประชาชนชุมชนป้อมมหากาฬ ในวันที่ 19 เมษายนนี้”
http://www.matichon.co.th/news/86323
กทม. ปิดป้ายไล่ ‘ชุมชนป้อมมหากาฬ’ ขีดเส้น 30 เม.ย. 59
ซึ่งป้อมมหากาฬถือเป็นพื้นที่หนี่งที่ต้องมีการอนุรักษ์ โดยที่ผ่านมาได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน
ประกอบกับพื้นที่บริเวณป้อมมหากาฬได้มีมติคณะรัฐมนตรีให้ กทม.และกรมศิลปากร ดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณป้อมมหากาฬ
ตั้งแต่ปี 2545 และในปี 2547 ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาให้ กทม.สามารถเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างได้
ซึ่งในการรื้อย้ายบ้านเรือนภายในชุมชนป้อมมหากาฬนั้น กทม.ได้ดำเนินการจ่ายค่าทดแทนและรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินทั้งหมดแล้ว
ดังนั้นขณะนี้จึงเป็นเวลาอันสมควรที่ กทม.จะขอความร่วมมือให้ผู้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่บริเวณดังกล่าวรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่
โดยกำหนดวันให้รื้อย้ายได้ภายในวันที่ 30 เมษายน 2559 ทั้งนี้ กทม.จะเปิดบริการเกี่ยวกับการจัดหาที่อยู่อาศัยอื่นๆ ให้แก่ประชาชน
โดยร่วมกับการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดบริการแก่ประชาชนชุมชนป้อมมหากาฬ ในวันที่ 19 เมษายนนี้”
http://www.matichon.co.th/news/86323