ชาวเยเมนเรือนหมื่นรวมตัวเดินขบวนในเมืองหลวง ต้านซาอุฯโจมตีทางอากาศ




เอเอฟพี / เอพี / เอเจนซีส์ / MGR online –
ประชาชนชาวเยเมนเรือนหมื่นรวมตัวเดินขบวนในกรุงซานา เมืองหลวงของประเทศในวันเสาร์ (26 มี.ค.)  เพื่อแสดงพลังต่อต้านและร่วมประณามปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ของซาอุดีอาระเบียและชาติพันธมิตรอาหรับ  ที่ดำเนินต่อเนื่องมาครบ 1 ปี และสร้างความสูญเสียใหญ่หลวง แก่พลเรือนผู้บริสุทธิ์ในดินแดนที่ได้ชื่อว่า ยากจนข้นแค้นที่สุดของโลกอาหรับแห่งนี้



      
การเข้าแทรกแซงด้วยปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของซาอุดีอาระเบียในเยเมนซึ่งเปิดฉากขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคมปีที่แล้ว มีขึ้นเพื่อเป็นการสนับสนุนประธานาธิบดีอาเบดราบบู มันซูร์ ฮาดี ผู้นำเยเมนซึ่งมีจุดยืนใกล้ชิดซาอุฯ ที่ถูกฝ่ายกบฏฮูตีที่เป็นพวกมุสลิมฝ่ายชีอะห์ที่มีอิหร่านหนุนหลัง รุกไล่จนต้องหลบหนีออกนอกประเทศ

      
อย่างไรก็ดี ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศตลอด 1 ปีที่ผ่านมาของซาอุดีอาระเบียและชาติพันธมิตรอาหรับฝ่ายสุหนี่กลับล้มเหลวที่จะขับไล่กลุ่มกบฏฮูตี และไม่สามารถนำมันซูร์ ฮาดีกลับเข้าครองอำนาจในเยเมนได้ ขณะที่ฝ่ายกบฏยังคงยึดครองพื้นที่ของกรุงซานาที่เป็นเมืองหลวง และอีกหลายเมืองสำคัญของเยเมนไว้ได้อย่างเหนียวแน่น

      
รายงานข่าวระบุว่า ผู้เข้าร่วมเดินขบวนจำนวนหลายหมื่นคน ได้รวมตัวกันบริเวณจัตุรัสซาบาอีน ของกรุงซานาในวันเสาร์ (26 มี.ค.) พร้อมกับป้ายข้อความหลากหลายรูปแบบซึ่งล้วนมีเนื้อหาต่อต้านการโจมตีที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย

      
ด้านอดีตประธานาธิบดีอาลี อับดุลลาห์ ซาเลห์ ผู้นำเยเมนที่ครองอำนาจมายาวนานก่อนหน้ามันซูร์ ฮาดี และเป็นผู้มีจุดยืนสนับสนุนฝ่ายกบฏฮูตี ถูกระบุว่า ได้ปรากฏตัวช่วงสั้นๆ ระหว่างการเดินขบวนในครั้งนี้ที่มีพรรคการเมืองของเขาเป็นผู้ร่วมจัดขึ้น

      
การเดินขบวนดังกล่าวถูกจัดขึ้นร่วมกับการประท้วงต่อต้านซาอุดีอาระเบียอีกจุดหนึ่ง ที่จัดขึ้นโดยฝ่ายหนุนกบฏฮูตีในพื้นที่ทางตอนเหนือของกรุงซานา ซึ่งเป็นจุดที่อับดุลมาลิก อัล-ฮูตี ผู้นำฝ่ายกบฏได้ขึ้นกล่าวปราศรัย ประณามทางการซาอุฯ ว่าเป็นอาชญากรสงครามและกำลังวางแผนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในเยเมน

      
ทั้งนี้ ฝ่ายกบฏฮูตีซึ่งเป็นพวกมุสลิมชีอะห์จากเขตที่ราบสูงทางภาคเหนือของประเทศและเชื่อว่าได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอิหร่านสามารถบุกเข้ายึดครองกรุงซานา ที่เป็นเมืองหลวงของเยเมนเอาไว้ได้ตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2014 และรุกคืบเข้ายึดครองอีกหลายเมืองสำคัญทางภาคใต้ของประเทศ ตลอดจนเข้าควบคุมพื้นที่ของ 8 จังหวัดจาก 22 จังหวัดของเยเมนไว้ได้จนถึงขณะนี้

      
ความสำเร็จในการรุกคืบอย่างต่อเนื่องของฝ่ายกบฎฮูตี ทำให้ซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นผู้นำโลกมุสลิมฝ่ายสุหนี่หวั่นวิตกว่าจะเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำต่ออิหร่าน และตัดสินใจเปิดการโจมตีทางอากาศต่อฝ่ายกบฏในเยเมน และหวังจะช่วยให้ประธานาธิบดีมันซูร์ ฮาดีแห่งเยเมนที่ลี้ภัยอยู่นอกประเทศ ได้กลับเข้าครองอำนาจ

      
ที่ผ่านมา องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากความขัดแย้งนี้ในเยเมนไปแล้วกว่า 6,300 รายตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ซาอุดีอาระเบียและพันธมิตรเปิดการโจมตีทางอากาศในเยเมน โดยที่มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้เสียชีวิตนั้นเป็นพลเรือนผู้บริสุทธิ์ ท่ามกลางเสียงประณามจากองค์กรเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนทั่วโลกที่เรียกร้องให้มีการลงโทษซาอุดีอาระเบียต่อการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติในครั้งนี้ รวมถึงข้อเรียกร้องให้สหรัฐอเมริกาที่เป็นพันธมิตรสำคัญของรัฐบาลริยาดห์ ยุติการขายอาวุธให้ซาอุฯ
      

ความเคลื่อนไหวล่าสุดในเยเมน มีขึ้นไม่นานภายหลังจากที่อิสมาอิล โอลด์ ชีคห์ อาห์เม็ด ทูตพิเศษของสหประชาชาติออกมาเปิดเผยว่า คู่ขัดแย้งทุกฝ่ายในเยเมนตกลงจะหยุดยิงชั่วคราว ก่อนถึงการพูดคุยสันติภาพที่จะจัดขึ้นในวันที่ 18 เมษายนนี้

http://www.manager.co.th/around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000031457
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่