การดูแลเด็กติดเชื้อเอชไอวี

เด็กที่ติดเชื้อเอชไอวี ต้องการความรักและการเลี้ยงดูเอาใจใส่ เหมือนเด็กปกติทั่วไป เด็กควรได้กินอาหารที่มีประโยชน์เหมาะสมตามวัย ควรส่งเสริมกิจกรรมต่าง ๆ และการออกกำลังกายที่เหมาะสม ส่งเสริมให้เด็กไปโรงเรียนเมื่อถึงวัย ไม่จำกัดการเล่นและการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ กับเด็กอื่น นอกจากนี้ยังมีข้อควรระวังเป็นพิเศษ ในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้

- การกินอาหารและน้ำต้มสุก สะอาด
- ส่งเสริมสุขอนามัยส่วนบุคคล เน้นเรื่องความสะอาด การล้างมือก่อนรับประทานอาหาร รักษาสิ่งแวดล้อมให้สะอาด
- ของเล่นสำหรับเด็ก ควรจะทำจากพลาสติก ไม่มีแหลมคม และสามารถล้างทำความสะอาดได้
- เมื่อเด็กเจ็บป่วย ควรพาไปพบแพทย์ และเมื่อมีคนในบ้านเจ็บป่วยเป็นโรคติดต่อ หรือเด็กสัมผัสโรคที่อาจเป็นอันตรายได้ เช่น โรคอีสุกอีใส หัด วัณโรค ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
- ควรพาเด็กไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง
- ก่อนจะรับวัคซีนใดๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง
- เมื่อมีบาดแผลเลือดออก หรือเริ่มมีประจำเดือนครั้งแรก ควรสอนการดูแล ทำความสะอาด และปิดแผล
- หลีกเลี่ยงการใช้มือเปล่าสัมผัสเลือด น้ำเหลือง และน้ำมูกของเด็ก ควรใช้สิ่งปกป้องการสัมผัสโดยตรง เช่น ถุงมือ ถุงพลาสติก ผ้า กระดาษทิชชู เป็นต้น

โดยปกติ เด็กที่ติดเชื้อเอชไอวี จะไม่แพร่เชื้อให้แก่ผู้ใกล้ชิด จึงไม่เป็นอุปสรรคในการทำกิจวัตรประจำวัน และกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น ดังนั้นแพทยสภาจึงแนะนำว่า ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยสภาวะการติดเชื้อของเด็กให้ผู้อื่นทราบ เว้นแต่ในกรณีที่อาจเกิดการสัมผัสเลือด หรือน้ำเหลือง โดยตรง
เด็กเล็กที่ติดเชื้อเอชไอวี มักไม่ทราบสภาวะการติดเชื้อของตนเอง เมื่อเด็กโตขึ้น ควรได้รับรู้การวินิจฉัยโรคของตนเอง รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับโรค การปฏิบัติตนอย่างถูกต้อง เพื่อที่เด็กจะได้มีการปรับตัวได้ดีขึ้นต่อการเจ็บป่วยเรื้อรัง มีทัศนคติที่ดีต่อโรคที่ตนเป็นอยู่ เข้าใจถึงความจำเป็นในการกินยา ส่งผลให้มีวินัยในการกินยามากขึ้น

การเปิดเผยสภาวะการติดเชื้อควรกระทำก่อนที่เด็กจะเข้าสู่วัยรุ่น และเริ่มมีเพศสัมพันธ์ เพื่อเป็นการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีเพิ่มเติม และการแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่น ทั้งนี้ควรบอกเมื่อใดขึ้นอยู่กับความพร้อมของเด็ก และครอบครัวเป็นรายๆไป

โดยทั่วไปเด็กที่ติดเชื้อเอชไอวี ไม่มีข้อจำกัดหรือข้อห้ามในการดำเนินชีวิตประจำวัน ที่แตกต่างจากเด็กที่ไม่ติดเชื้อเอชไอวี แต่จะต้องเน้นในเรื่องอาหารและน้ำที่สุก สะอาด ไม่ควรกินอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ เชื้อเอชไอวีจะไม่ติดต่อผ่านทางการสัมผัสในชีวิตประจำวัน เด็กที่ติดเชื้อเอชไอวี สามารถไปสถานรับเลี้ยงเด็ก โรงเรียน และร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามความเหมาะสม สำหรับการเล่นกีฬา ควรหลีกเลี่ยงกีฬาที่ต้องปะทะกัน ซึ่งอาจมีการเกิดบาดแผล และสัมผัสเลือดได้ เช่น ชกมวย มวยปล้ำ รักบี้ เป็นต้น

วัยรุ่นเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและอารมณ์ ในด้านของการเจริญเติบโตเด็กผู้หญิงเริ่มมีประจำเดือน ส่วนเด็กผู้ชายจะสามารถหลั่งน้ำอสุจิได้ เด็กควรได้รับการสอนสุขลักษณะอนามัยที่ดี เช่น ล้างมือก่อนและหลังจากเข้าห้องน้ำ ผ้าอนามัยที่ใช้แล้ว วัสดุที่ปนเปื้อนเลือดหรือน้ำอสุจิ ควรห่อกระดาษหรือใส่ถุงก่อนทิ้งลงในถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิด เป็นต้น นอกจากนั้นควรเน้นในเรื่องของการไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หากมีเพศสัมพันธ์ ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง ส่วนในด้านของจิตใจ อารมณ์ และการปรับตัวในสังคม เด็กที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง อาจมีปัญหาในเรื่องของพฤติกรรม การกินยาอย่างสม่ำเสมอ ความมั่นใจในตนเอง ผู้ดูแลควรคอยสังเกต และเป็นที่ปรึกษาให้แก่เด็กอย่างใกล้ชิด รวมทั้งอาจช่วยวางแนวทางในการเลือกอาชีพด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก    สมาคมโรคเอดส์แห่งประเทศไทย

Report by LIV APCO
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่