ก่อนอื่น เป็นเกย์นะครับ
พอดีบังเอิญได้มีโอกาสมาเที่ยวที่ไต้หวัน แล้วเลยลองไปร้านนวดของที่นี่ดูครับ
ร้านนวดเกย์ของที่นี่ ก็คือเน้นนวด แต่ช่วงท้ายจะจบด้วยภายนอก ไม่มีการสอดใส่อะไรแต่อย่างใด
แล้วบังเอิญว่าชอบพนักงานที่นวดให้มากเลยครับ ผมก็เลยชวนคุยไปเรื่อยๆ ด้วยภาษาอังกฤษไก่กาของผมไป ก็รู้ว่ากฎของร้านก็มีเรื่องห้ามติดต่อเป็นการส่วนตัวกับลูกค้า
น้องพนักงานก็เล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟังพอสมควร แล้วน้องเค้าก็บอกว่า ช่วงสงกรานต์เค้าจะมาไทย ผมเลยถือโอกาสขอแลกไลน์ไว้ ซึ่งน้องเค้าก็ให้ ทั้งๆที่ผิดกฎของร้าน ผมก็คิดว่าเรื่องจะจบแค่นั้น คงได้คุยกันประปรายแค่นั้น
และอีกข้อคือพนักงานก็ทำหน้าที่แค่นวดเท่านั้น ไม่ต้องทำนอกเหนือหน้าที่ แต่ระหว่างที่นวด น้องเค้าก็เล่าเรื่องสัตว์เลี้ยงของเค้า ว่าเค้ามีสัตว์เลี้ยงด้วย ต้องให้อาหารตลอด น้องเค้าบอกว่า give him some food and then he will sleep, sometimes give him some hug. แต่ผมได้ยินเป็น hog เลยงง ว่ากินหมูตอนเลยหรอ เลยถาม what is a hog?? น้องเค้าเลยโน้มตัวลงมากอดแล้วพูด this is a hug. ซึ่งมันไม่จำเป็นเลยด้วยซ้ำที่ต้องทำแบบนี้
แต่ถัดมา2วัน ผมเลยลองเอ่ยปากชวนน้องเค้าไปกินข้าว มาค้างด้วย น้องเค้าก็โอเค มากินข้าวแล้วค้างด้วยกันที่ที่พักผม แต่ก็เดินกอดกันเหมือนเปนแฟนกันเลยครับ แต่ถึงที่พักก็แค่นอนคุยกันจริงๆ ไม่ได้มีอะไรเกินเลยครับ พอตอนเช้าน้องเค้าจะกลับ น้องเค้าก็เข้ามากอดผม แล้วยิ้ม บอกว่า take care ผมนี่ละลายเลย
แล้วพอผมจะกลับไทยแล้ว ผมก็ทักไปคุยตามปกติ แต่เห็นน้องเค้าไม่ตอบ แต่พอลองถามดูว่า ถ้าจะนวดอีกโอเคกี่โมง น้องเค้าก็ตอบเลย ผมเลยไม่รู้ว่าเค้าทำเพราะหน้าที่ หรือเพราะเค้ารู้สึกอะไรกับผมรึป่าว เพราะเค้าไม่จำเป็นต้องออกมากินข้าวกับผมเลย ไม่จำเป็นต้องมานอนค้างด้วย
อย่าเพิ่งด่านะครับ เพราะความรู้สึกมันบังคับไม่ได้นะครับ ผมรู้ว่ามันไม่สมควรเท่าไหร่ แต่มันรู้สึกจริงๆครับ
และส่วนเรื่องโรคติดต่อ ถ้าไปกันได้จริงๆ ผมแน่ใจว่าตรวจก่อนมีอะไรกันแน่นอนครับ ป้องกันเสมอครับ
แค่อยากลองถามความเห็นจากหลายๆมุมมองจากเพื่อนๆสมาชิกครับ ว่าผมควรจะชวนคุยเดินหน้าต่อมั้ยครับ มันมีปัญหาทั้งระยะทาง ที่ประเทศไทยกับไต้หวัน แล้วยังมีเรื่องงานของน้องเค้าอีก แต่ผมลองถามลอยๆว่าถ้ามีแฟนแล้วทำงานแบบนี้มันจะโอเคหรอ น้องเค้าบอกว่าเค้าก็เลิกทำงานแบบนี้ทันทีถ้ามีแฟน เพราะใจจริงผมก็อยากให้น้องเค้าหยุดทำงานแบบนี้เหมือนกัน
ชอบพนักงานร้านนวด ทำไงดีครับ (ช-ช)
พอดีบังเอิญได้มีโอกาสมาเที่ยวที่ไต้หวัน แล้วเลยลองไปร้านนวดของที่นี่ดูครับ
ร้านนวดเกย์ของที่นี่ ก็คือเน้นนวด แต่ช่วงท้ายจะจบด้วยภายนอก ไม่มีการสอดใส่อะไรแต่อย่างใด
แล้วบังเอิญว่าชอบพนักงานที่นวดให้มากเลยครับ ผมก็เลยชวนคุยไปเรื่อยๆ ด้วยภาษาอังกฤษไก่กาของผมไป ก็รู้ว่ากฎของร้านก็มีเรื่องห้ามติดต่อเป็นการส่วนตัวกับลูกค้า
น้องพนักงานก็เล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟังพอสมควร แล้วน้องเค้าก็บอกว่า ช่วงสงกรานต์เค้าจะมาไทย ผมเลยถือโอกาสขอแลกไลน์ไว้ ซึ่งน้องเค้าก็ให้ ทั้งๆที่ผิดกฎของร้าน ผมก็คิดว่าเรื่องจะจบแค่นั้น คงได้คุยกันประปรายแค่นั้น
และอีกข้อคือพนักงานก็ทำหน้าที่แค่นวดเท่านั้น ไม่ต้องทำนอกเหนือหน้าที่ แต่ระหว่างที่นวด น้องเค้าก็เล่าเรื่องสัตว์เลี้ยงของเค้า ว่าเค้ามีสัตว์เลี้ยงด้วย ต้องให้อาหารตลอด น้องเค้าบอกว่า give him some food and then he will sleep, sometimes give him some hug. แต่ผมได้ยินเป็น hog เลยงง ว่ากินหมูตอนเลยหรอ เลยถาม what is a hog?? น้องเค้าเลยโน้มตัวลงมากอดแล้วพูด this is a hug. ซึ่งมันไม่จำเป็นเลยด้วยซ้ำที่ต้องทำแบบนี้
แต่ถัดมา2วัน ผมเลยลองเอ่ยปากชวนน้องเค้าไปกินข้าว มาค้างด้วย น้องเค้าก็โอเค มากินข้าวแล้วค้างด้วยกันที่ที่พักผม แต่ก็เดินกอดกันเหมือนเปนแฟนกันเลยครับ แต่ถึงที่พักก็แค่นอนคุยกันจริงๆ ไม่ได้มีอะไรเกินเลยครับ พอตอนเช้าน้องเค้าจะกลับ น้องเค้าก็เข้ามากอดผม แล้วยิ้ม บอกว่า take care ผมนี่ละลายเลย
แล้วพอผมจะกลับไทยแล้ว ผมก็ทักไปคุยตามปกติ แต่เห็นน้องเค้าไม่ตอบ แต่พอลองถามดูว่า ถ้าจะนวดอีกโอเคกี่โมง น้องเค้าก็ตอบเลย ผมเลยไม่รู้ว่าเค้าทำเพราะหน้าที่ หรือเพราะเค้ารู้สึกอะไรกับผมรึป่าว เพราะเค้าไม่จำเป็นต้องออกมากินข้าวกับผมเลย ไม่จำเป็นต้องมานอนค้างด้วย
อย่าเพิ่งด่านะครับ เพราะความรู้สึกมันบังคับไม่ได้นะครับ ผมรู้ว่ามันไม่สมควรเท่าไหร่ แต่มันรู้สึกจริงๆครับ
และส่วนเรื่องโรคติดต่อ ถ้าไปกันได้จริงๆ ผมแน่ใจว่าตรวจก่อนมีอะไรกันแน่นอนครับ ป้องกันเสมอครับ
แค่อยากลองถามความเห็นจากหลายๆมุมมองจากเพื่อนๆสมาชิกครับ ว่าผมควรจะชวนคุยเดินหน้าต่อมั้ยครับ มันมีปัญหาทั้งระยะทาง ที่ประเทศไทยกับไต้หวัน แล้วยังมีเรื่องงานของน้องเค้าอีก แต่ผมลองถามลอยๆว่าถ้ามีแฟนแล้วทำงานแบบนี้มันจะโอเคหรอ น้องเค้าบอกว่าเค้าก็เลิกทำงานแบบนี้ทันทีถ้ามีแฟน เพราะใจจริงผมก็อยากให้น้องเค้าหยุดทำงานแบบนี้เหมือนกัน