สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
รบกวนตอบกันดีๆ อย่าตอบแบบประชดครับ ผมว่าเป็นคำถามที่ดีและมีประโยชน์มากๆ
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมีผลรบกวนกระบวนการตกไข่ รบกวนการที่อสุจิจะเข้าไปผสมกับไข่
รวมทั้งส่งผลเปลี่ยนแปลงเยื่อบุโพรงมดลูกเพื่อทำให้ยากแก่การฝังตัวของไข่ที่ผสมกับ
อสุจิแล้ว การรับประทานยาคุมฉุกเฉินไม่ได้มีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100%
แต่เป็นการไปลดโอกาสตั้งครรภ์ลงจากเดิม ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินหากรับประทานยา
เม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ตามด้วยยาเม็ดที่สอง จะให้
ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75% แต่หากเริ่มยาเม็ดแรกภายใน
24 ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ จะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้น
เป็น 85% ดังนั้นจึงควรรับประทานยาเม็ดแรกหลังการมีเพศสัมพันธ์ให้เร็วที่สุด
ในกรณีดังกล่าวหากมีเพศสัมพันธ์อีกหลังรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ซึ่งเป็นช่วง
ที่ฤทธิ์ของยาคุมกำเนิดฉุกเฉินลดลงจึงมีโอกาสตั้งครรภ์เพิ่มขึ้น หากมีเพศสัมพันธ์
ในระหว่างที่ยังรับประทานยาไม่ครบสองเม็ด ก็รับประทานยาให้ครบไม่ต้องเริ่มยาใหม่
แต่หากมีเพศสัมพันธ์หลังรับประทานยาครบทั้งสองเม็ดก็อาจเริ่มยาแผงใหม่ได้
แต่อาจเพิ่มความเสี่ยงของอาการข้างเคียงจากยา เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เจ็บเต้านม
เลือดประจำเดือนแปรปรวน หรือมีเลือดออกผิดปกติ ดังนั้นหากต้องการมีเพศสัมพันธ์
ต่อไปแนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัย หรือรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดปกติทั่วไป
โดยเริ่มรับประทานตามที่แนะนำในเอกสารกำกับยา และหากประจำเดือนไม่มาตาม
กำหนด แนะนำให้ตรวจสอบการตั้งครรภ์
https://www.google.co.th/url?sa=t&rct=j&q=&esrc=s&source=web&cd=2&cad=rja&uact=8&ved=0ahUKEwiNpJyUhdbLAhWJxI4KHQwdAY0QFggmMAE&url=http%3A%2F%2Fwww.pharmacy.mahidol.ac.th%2Fdic%2Fqa_full.php%3Fid%3D4303&usg=AFQjCNHzWrweYdSrVcr6SyyDaVeu_L9giA
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมีผลรบกวนกระบวนการตกไข่ รบกวนการที่อสุจิจะเข้าไปผสมกับไข่
รวมทั้งส่งผลเปลี่ยนแปลงเยื่อบุโพรงมดลูกเพื่อทำให้ยากแก่การฝังตัวของไข่ที่ผสมกับ
อสุจิแล้ว การรับประทานยาคุมฉุกเฉินไม่ได้มีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100%
แต่เป็นการไปลดโอกาสตั้งครรภ์ลงจากเดิม ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินหากรับประทานยา
เม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ตามด้วยยาเม็ดที่สอง จะให้
ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75% แต่หากเริ่มยาเม็ดแรกภายใน
24 ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ จะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้น
เป็น 85% ดังนั้นจึงควรรับประทานยาเม็ดแรกหลังการมีเพศสัมพันธ์ให้เร็วที่สุด
ในกรณีดังกล่าวหากมีเพศสัมพันธ์อีกหลังรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ซึ่งเป็นช่วง
ที่ฤทธิ์ของยาคุมกำเนิดฉุกเฉินลดลงจึงมีโอกาสตั้งครรภ์เพิ่มขึ้น หากมีเพศสัมพันธ์
ในระหว่างที่ยังรับประทานยาไม่ครบสองเม็ด ก็รับประทานยาให้ครบไม่ต้องเริ่มยาใหม่
แต่หากมีเพศสัมพันธ์หลังรับประทานยาครบทั้งสองเม็ดก็อาจเริ่มยาแผงใหม่ได้
แต่อาจเพิ่มความเสี่ยงของอาการข้างเคียงจากยา เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เจ็บเต้านม
เลือดประจำเดือนแปรปรวน หรือมีเลือดออกผิดปกติ ดังนั้นหากต้องการมีเพศสัมพันธ์
ต่อไปแนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัย หรือรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดปกติทั่วไป
โดยเริ่มรับประทานตามที่แนะนำในเอกสารกำกับยา และหากประจำเดือนไม่มาตาม
กำหนด แนะนำให้ตรวจสอบการตั้งครรภ์
https://www.google.co.th/url?sa=t&rct=j&q=&esrc=s&source=web&cd=2&cad=rja&uact=8&ved=0ahUKEwiNpJyUhdbLAhWJxI4KHQwdAY0QFggmMAE&url=http%3A%2F%2Fwww.pharmacy.mahidol.ac.th%2Fdic%2Fqa_full.php%3Fid%3D4303&usg=AFQjCNHzWrweYdSrVcr6SyyDaVeu_L9giA
ความคิดเห็นที่ 30
เห็นหลายคอมเม้นเลยที่ว่าเค้าหงี่อ่ะ พวกไม่เคยหงี่เลยหรอ ถ้าไม่เคยควรพิจารณาได้แล้วน่ะว่าใช่มนุษย์รึป่าว เค้าพลาดแทนที่จะให้คำปรึกษาหรือปลอบใจดีๆ ไปว่าเค้าเฉย ทำไม!! มีปมด้อยหรอ? ถ้าให้คำปรึกษาดีๆไม่ได้ก็ไม่ต้องซ้ำเติม ไม่ต้องประชด หรือคิดว่าที่เค้ายังไม่ถึงวัยที่ควรตั้ม ขอโทษน่ะ บรรพบุรุษพวกคุณน่ะเค้าตั้มตั้งแต่13-14แล้ว เพราะมัวแต่คิดว่ายังไม่ถึงเวลาแบบนี้ไง ประเทศไทยถึงได้มีเด็กท้องก่อนวัยกันเกลื่อนขนาดนี้ แทนที่จะสอนวิธีป้องกันดันไปห้าม พอพลาดมาสังคมก็ซ้ำเติมอีก น่าสงสารน่ะครับ ไม่ใช่น้องน่ะแต่เป็นสังคมไทยในอนาคต
แสดงความคิดเห็น
จะท้องมั้ยค่ะ