หลังจากผ่านเกมสุดสัปดาห์นัดที่ 31 ของหลายๆทีม ในพรีเมียร์ลีกมาหมาดๆ จ่าฝูงก็คงเป็นหน้าเดิม คือ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ยังรักษามาตราฐานการเล่นได้อย่างคงเส้นคงวา ด้วยการบุกไปเก็บสามแต้มถึง เซลเฮิสต์พาร์ก จากทีม"ปราสาทเรือนแก้ว" คริสตัล พาเลซ เอาชนะไปได้ 0-1 จากการทำประตูสุดสวยของ ริยาด มาห์เรซ เจ้าเก่า ทำให้ทีมจิ้งจอกสยามรั้งจ่าฝูงอย่างเหนียวแน่นต่อไป
ส่วนทีมรองจ่าฝูง ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ส ที่นัดนี้ได้เล่นในบ้านตัวเอง ที่ไวต์ฮาร์ตเลน รับการมาเยือนของทีมน้องใหม่ที่ฟอร์มช่วงหลังไม่ธรรมดาอย่าง บอร์นมัธ แต่ก็ยากที่จะรับมือ เพราะนัดนี้ เจ้าพายุ เฮอร์ริเคน ซัดคนเดียวสองประตูตั้งแต่ครึ่งแรก และ คริสเตียน อิเรคเซน อีกหนึ่งประตู ให้สเปอร์สชนะ 3-0 เก็บสามแต้มได้ไม่ยากนัก
ขณะเดียวกัน ทีมที่กำลังตามมาห่างๆ อย่างปืนใหญ่อาร์เซน่อล ก็ถือว่าฟอร์มสุดยอดเหมือนกัน กับการที่สามารถบุกไปเก็บชัย 0-2 ได้ถึงถิ่น กูดิสันปาร์ค ของท็อฟฟี่สีน้ำเงิน ' เอฟเวอร์ตัน จากการยิงของ มหาเทพเวลซิอุส และเจ้าหนูไอโวบี้ ทำให้อาร์เซน่อลก็ยังรักษาช่องว่างไว้เท่าเดิม
เรามาดูตารางคะแนนครึ่งบนล่าสุดกัน 22/03/2559

จะเห็นได้ว่า เลสเตอร์ซิตี้ ยังทิ้งห่างทีมอันดับสองอย่างสเปอร์ส อยู่ 5 คะแนนด้วยกัน และยังทิ้งห่างอาร์เซน่อลอยู่ถึง 11 คะแนน แต่อาร์เซน่อลแข่งน้อยกว่า 1 นัด (แข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด ไม่ใช่ว่าจะดีนะครับ เพราะไม่อาจรู้ได้ว่าหนึ่งนัดนี้จะ ชนะ เสมอ หรือว่าแพ้)
ทีนี้เรามาดูว่าโปรแกรมที่เหลือของ 3 ทีมหัวตาราง จะเจอใครกันบ้าง มีเกมที่จะชนทีมใหญ่ๆมั้ย
เริ่มจาก ทีมจิ้กจอกสยาม 'เลสเตอร์ ซิตี้ (31 นัด / 66 คะแนน)
บิ๊กแมตซ์
30 เม.ย 2016 จะออกไปเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่โอลแทร็ฟฟอร์ด
15 พ.ค 2016 จะออกไปเยือน เชลซี ที่สแตมป์ฟอร์ดบริด
ดูแล้วถ้าลูกทีมของรานิเอรี่ ยังคงรักษามาตราฐานการเล่น และผู้เล่นตัวหลักๆไม่พากันเจ็บซะก่อน ก็มีสิทธิ์ลุ้นแชมป์กันยาวๆละครับ
ต่อมา มาดูทีมรองจ่าฝูงอย่าง"ไก่เดือยทอง"ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ส(31 นัด / 61 คะแนน)
บิ๊กแมตซ์
2 เม.ย 2016 จะออกไปเยือนแอนด์ฟิล ของ"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล
9 เม.ย 2016 เปิดบ้านรับการมาเยือน ของ''ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
30 เม.ย 2016 จะออกไปเยือนสแตมป์ฟอร์ดบริด ของ เชลซี
ดูแล้วสเปอร์ส มีนัดที่เจอทีมใหญ่คล้ายๆกับ เลสเตอร์ ซิตี้ แต่มีเพิ่มมาคือ นัดถัดไป จะออกไปเยือน แอนด์ฟิล ลิเวอร์พูล ที่ฟอร์มตอนนี้ก็ผีเข้าผีออกอยู่เหมือนกัน ฉะนั้นแล้วถ้า สเปอร์ส สามารถเก็บจาก 3 นัด บิ๊กแมตซ์ นี้ได้อย่างน้อย 6 แต้ม ก็อาจจะมีสิทธิ์แซงเข้าวินเหมือนกัน
และสุดท้ายมาดูทีม"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อลกันบ้าง (30 นัด /55 คะแนน) อีก 8 นัดที่เหลือ เจอใครบ้าง
บิ๊กแมตซ์
7 พ.ค 2016 จะต้องออกไปเยือน เอติฮัด สเตเดี้ยม ของ"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ดูแล้ว อาร์เซน่อล งานอาจจะง่ายกว่าจ่าฝูงและรองจ่าฝูง เพราะเหลือเจอทีมใหญ่ แค่ทีมเดียว อีกอย่าง ทั้งสามทีมนี้ ไม่มีบอลถ้วยทั้งในและเทศ ให้เตะอีกแล้ว เพราะฉะนั้นต่างคนก็ต่างมุ่นมั่นในแชมป์ลีกกันทั้งหมด และดูจากโปรแกรมที่เหลือแล้ว ทีมลุ้นแชมป์ ไม่เหลือนัดที่จะต้องตัดแต้มกันเองอีก เพราะฉะนั้นแล้วผมว่าขึ้นอยู่กับฟอร์มการเล่นของทีมตัวเองแล้วแหละว่า ทีมไหนจะรักษามาตราฐานการเล่นไว้ตลอดรอดฝัง
และที่สำคัญก็คือ นักเตะคีย์แมน ของแต่ละทีม ถ้ามีใครเจ็บขึ้นมาในนัดที่เหลือ ผมว่ามีสะดุดกันแน่นอน
เรามาดู นักเตะคีย์แมน ของแต่ละทีมกัน

ริยาด มาห์เรซ-เจมี่ วาร์ดี้ (เลสเตอร์ ซิตี้)
แน่นอนว่า ฤดูกาลนี้นอกจากเพื่อนร่วมทีมและโค้ชอย่าง เรนิเอรี่ แล้ว นักเตะ 2 คนนี้ ก็เป็นคีย์แมนสำคัญที่ต่างก็พากันยิงเป็นกอบเป็นกำ ทำให้ เลสเตอร์ ผงาดรั้งจ่าฝูงอย่างเหนียวแน่นได้จนวันนี้

คริสเตียน อิเรคเซน-เฮอร์ริ เคน (ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส)
2 คีย์แมนหลัก ที่พา สเปอร์ส รักษาฟอร์มการเล่นคงเส้นคงวามาตลอด ต่างจากฤดูกาลก่อนๆ และด้วยการยิงประตูเยอะที่สุดในพรีเมียร์ลีกในตอนนี้ของ เคน กับจอมแอสซิส อย่าง อิเรคเซน

อเล็กซิส ซานเชซ-เมซิส โอซิล (อาร์เซน่อล)
ฤดูกาลที่ผ่านๆมา ถ้าเมื่อไหร่ที่ 2 คนนี้ เจ็บหรือหายไปเมื่อไหร่ ฟอร์มการเล่นของทีมโดยรวมก็จะดิ่งลงเหวทุกที แต่ดูเหมือนว่าฤดูกาลนี้ 2 คนนี้จะเจ็บน้อยมา + กับฟอร์มการเล่นที่ไม่เอาไหนของแชมป์เก่าเชลซี และสองทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ ทำให้อาร์เซน่อลก็ยังคงมีโอกาสแซงเข้าวินได้เหมือนกัน
แต่ยังไงก็แล้วแต่ ใครจะได้แชมป์ ก็ต้องติมตามกันต่อไปครับ ส่วนตัวผม (เด็กผี) คิดอยากให้ทีมของคนไทย เลสเตอร์ ซิตี้ ได้นะครับ ปล.ผมเชื่อว่าคนไทยหลายคนก็คิดเหมือนผม ฮ่าๆๆ
ไหนๆแมนยูก็ไม่ได้แล้วหนิ จะได้ไปยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกหรือป่าว ก็ยังไม่รู้เลย ก็อยากให้ทีมหน้าใหม่ๆได้บ้าง อีกอย่างปีนี้เลสเตอร์มาดีจริงๆ หรือสุดแล้วแต่ เลสเตอร์เกิดสะดุดขาตัวเองขึ้นมา ผมก็อยากให้ สเปอร์ส ได้แทนนะ (ไม่อยากให้ลุงอาเชนเวนเกอร์ได้ถือถ้วยพรีเมียร์อีก) 555 เดี๋ยวมันจะเจ็บจี๊ดดดดดข้างไหน สุดท้ายใครจะได้ถ้วยแชมป์ลีกนี้ไป ก็ต้องติดตามกันต่อไปครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ดูยังไงก็เลสเตอร์ได้ เชื่อผมสิ
ขอขอบคุณ รูปภาพ จาก Goal.com ผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ 22/03/2559
พรีเมียร์ลีกโค้งสุดท้าย ทีมไหนจะแซงเข้าวิน
ส่วนทีมรองจ่าฝูง ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ส ที่นัดนี้ได้เล่นในบ้านตัวเอง ที่ไวต์ฮาร์ตเลน รับการมาเยือนของทีมน้องใหม่ที่ฟอร์มช่วงหลังไม่ธรรมดาอย่าง บอร์นมัธ แต่ก็ยากที่จะรับมือ เพราะนัดนี้ เจ้าพายุ เฮอร์ริเคน ซัดคนเดียวสองประตูตั้งแต่ครึ่งแรก และ คริสเตียน อิเรคเซน อีกหนึ่งประตู ให้สเปอร์สชนะ 3-0 เก็บสามแต้มได้ไม่ยากนัก
ขณะเดียวกัน ทีมที่กำลังตามมาห่างๆ อย่างปืนใหญ่อาร์เซน่อล ก็ถือว่าฟอร์มสุดยอดเหมือนกัน กับการที่สามารถบุกไปเก็บชัย 0-2 ได้ถึงถิ่น กูดิสันปาร์ค ของท็อฟฟี่สีน้ำเงิน ' เอฟเวอร์ตัน จากการยิงของ มหาเทพเวลซิอุส และเจ้าหนูไอโวบี้ ทำให้อาร์เซน่อลก็ยังรักษาช่องว่างไว้เท่าเดิม
เรามาดูตารางคะแนนครึ่งบนล่าสุดกัน 22/03/2559
จะเห็นได้ว่า เลสเตอร์ซิตี้ ยังทิ้งห่างทีมอันดับสองอย่างสเปอร์ส อยู่ 5 คะแนนด้วยกัน และยังทิ้งห่างอาร์เซน่อลอยู่ถึง 11 คะแนน แต่อาร์เซน่อลแข่งน้อยกว่า 1 นัด (แข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด ไม่ใช่ว่าจะดีนะครับ เพราะไม่อาจรู้ได้ว่าหนึ่งนัดนี้จะ ชนะ เสมอ หรือว่าแพ้)
ทีนี้เรามาดูว่าโปรแกรมที่เหลือของ 3 ทีมหัวตาราง จะเจอใครกันบ้าง มีเกมที่จะชนทีมใหญ่ๆมั้ย
เริ่มจาก ทีมจิ้กจอกสยาม 'เลสเตอร์ ซิตี้ (31 นัด / 66 คะแนน)
บิ๊กแมตซ์
30 เม.ย 2016 จะออกไปเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่โอลแทร็ฟฟอร์ด
15 พ.ค 2016 จะออกไปเยือน เชลซี ที่สแตมป์ฟอร์ดบริด
ดูแล้วถ้าลูกทีมของรานิเอรี่ ยังคงรักษามาตราฐานการเล่น และผู้เล่นตัวหลักๆไม่พากันเจ็บซะก่อน ก็มีสิทธิ์ลุ้นแชมป์กันยาวๆละครับ
ต่อมา มาดูทีมรองจ่าฝูงอย่าง"ไก่เดือยทอง"ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ส(31 นัด / 61 คะแนน)
บิ๊กแมตซ์
2 เม.ย 2016 จะออกไปเยือนแอนด์ฟิล ของ"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล
9 เม.ย 2016 เปิดบ้านรับการมาเยือน ของ''ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
30 เม.ย 2016 จะออกไปเยือนสแตมป์ฟอร์ดบริด ของ เชลซี
ดูแล้วสเปอร์ส มีนัดที่เจอทีมใหญ่คล้ายๆกับ เลสเตอร์ ซิตี้ แต่มีเพิ่มมาคือ นัดถัดไป จะออกไปเยือน แอนด์ฟิล ลิเวอร์พูล ที่ฟอร์มตอนนี้ก็ผีเข้าผีออกอยู่เหมือนกัน ฉะนั้นแล้วถ้า สเปอร์ส สามารถเก็บจาก 3 นัด บิ๊กแมตซ์ นี้ได้อย่างน้อย 6 แต้ม ก็อาจจะมีสิทธิ์แซงเข้าวินเหมือนกัน
และสุดท้ายมาดูทีม"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อลกันบ้าง (30 นัด /55 คะแนน) อีก 8 นัดที่เหลือ เจอใครบ้าง
บิ๊กแมตซ์
7 พ.ค 2016 จะต้องออกไปเยือน เอติฮัด สเตเดี้ยม ของ"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ดูแล้ว อาร์เซน่อล งานอาจจะง่ายกว่าจ่าฝูงและรองจ่าฝูง เพราะเหลือเจอทีมใหญ่ แค่ทีมเดียว อีกอย่าง ทั้งสามทีมนี้ ไม่มีบอลถ้วยทั้งในและเทศ ให้เตะอีกแล้ว เพราะฉะนั้นต่างคนก็ต่างมุ่นมั่นในแชมป์ลีกกันทั้งหมด และดูจากโปรแกรมที่เหลือแล้ว ทีมลุ้นแชมป์ ไม่เหลือนัดที่จะต้องตัดแต้มกันเองอีก เพราะฉะนั้นแล้วผมว่าขึ้นอยู่กับฟอร์มการเล่นของทีมตัวเองแล้วแหละว่า ทีมไหนจะรักษามาตราฐานการเล่นไว้ตลอดรอดฝัง
และที่สำคัญก็คือ นักเตะคีย์แมน ของแต่ละทีม ถ้ามีใครเจ็บขึ้นมาในนัดที่เหลือ ผมว่ามีสะดุดกันแน่นอน
เรามาดู นักเตะคีย์แมน ของแต่ละทีมกัน
ริยาด มาห์เรซ-เจมี่ วาร์ดี้ (เลสเตอร์ ซิตี้)
แน่นอนว่า ฤดูกาลนี้นอกจากเพื่อนร่วมทีมและโค้ชอย่าง เรนิเอรี่ แล้ว นักเตะ 2 คนนี้ ก็เป็นคีย์แมนสำคัญที่ต่างก็พากันยิงเป็นกอบเป็นกำ ทำให้ เลสเตอร์ ผงาดรั้งจ่าฝูงอย่างเหนียวแน่นได้จนวันนี้
คริสเตียน อิเรคเซน-เฮอร์ริ เคน (ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส)
2 คีย์แมนหลัก ที่พา สเปอร์ส รักษาฟอร์มการเล่นคงเส้นคงวามาตลอด ต่างจากฤดูกาลก่อนๆ และด้วยการยิงประตูเยอะที่สุดในพรีเมียร์ลีกในตอนนี้ของ เคน กับจอมแอสซิส อย่าง อิเรคเซน
อเล็กซิส ซานเชซ-เมซิส โอซิล (อาร์เซน่อล)
ฤดูกาลที่ผ่านๆมา ถ้าเมื่อไหร่ที่ 2 คนนี้ เจ็บหรือหายไปเมื่อไหร่ ฟอร์มการเล่นของทีมโดยรวมก็จะดิ่งลงเหวทุกที แต่ดูเหมือนว่าฤดูกาลนี้ 2 คนนี้จะเจ็บน้อยมา + กับฟอร์มการเล่นที่ไม่เอาไหนของแชมป์เก่าเชลซี และสองทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ ทำให้อาร์เซน่อลก็ยังคงมีโอกาสแซงเข้าวินได้เหมือนกัน
แต่ยังไงก็แล้วแต่ ใครจะได้แชมป์ ก็ต้องติมตามกันต่อไปครับ ส่วนตัวผม (เด็กผี) คิดอยากให้ทีมของคนไทย เลสเตอร์ ซิตี้ ได้นะครับ ปล.ผมเชื่อว่าคนไทยหลายคนก็คิดเหมือนผม ฮ่าๆๆ
ไหนๆแมนยูก็ไม่ได้แล้วหนิ จะได้ไปยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกหรือป่าว ก็ยังไม่รู้เลย ก็อยากให้ทีมหน้าใหม่ๆได้บ้าง อีกอย่างปีนี้เลสเตอร์มาดีจริงๆ หรือสุดแล้วแต่ เลสเตอร์เกิดสะดุดขาตัวเองขึ้นมา ผมก็อยากให้ สเปอร์ส ได้แทนนะ (ไม่อยากให้ลุงอาเชนเวนเกอร์ได้ถือถ้วยพรีเมียร์อีก) 555 เดี๋ยวมันจะเจ็บจี๊ดดดดดข้างไหน สุดท้ายใครจะได้ถ้วยแชมป์ลีกนี้ไป ก็ต้องติดตามกันต่อไปครับ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอขอบคุณ รูปภาพ จาก Goal.com ผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ 22/03/2559