นายฟิลิป แบล็ควูด ผู้จัดการบาร์ชาวนิวซีแลนด์ในเมียนมาร์และชาวเมียนมาร์อีก 2 คน ถูกศาลเมียนมาร์ตัดสินจำคุก 2 ปี 6 เดือน ในข้อหาดูหมิ่นพุทธศาสนา จากการโพสรูปโฆษณาทางออนไลน์ เป็นรูปพระพุทธรูปสวมเฮดโฟน เพื่อเชิญชวนให้คนมาเที่ยวสถานบันเทิง
วอลล์สตรีต เจอร์นัลระบุว่า นายแบล็กวูดวัย 32 ปี, นายตุน ตูเหล่ง เจ้าของบาร์ "วี แกสโตร" และนายทัต โกโกวิน พนักงานในบาร์ ถูกพิพากษาจำคุกนาน 2 ปีฐานหมิ่นพุทธศาสนาและอีก 6 เดือนจากข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าหน้าที่รัฐ หลังรับทราบคำตัดสิน นายแบล็กวูดกล่าวกับผู้สื่อข่าวระหว่างถูกคุมตัวขึ้นรถตำรวจว่า จะยื่นอุทธรณ์
ทั้ง 3 คนถูกจับคุมในเดือนธันวาคมปีกลาย หลังโพสต์ภาพโฆษณาโปรโมทบาร์ และถูกนำตัวไปขังที่ "เรือนจำอินเส่ง" ซึ่งเป็นที่คุมขังนักโทษการเมืองจำนวนมากในยุคที่เผด็จการทหารเรืองอำนาจในเมียมนาร์ ส่วนภาพโฆษณาถูกลบและมีการโพสต์คำขออภัยต่อพุทธศาสนิกชน
การดำเนินคดีกับ 3 คนดังกล่าวมีขึ้นในช่วงเดียวกับที่มีกระแสชาตินิยมเชิงศาสนาแผ่กระจายไปทั่วเมียนมาร์ ซึ่งในบางพื้นที่นำไปสู่การกระทำรุนแรงต่อชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิม ทั้งนี้ ในเมียนมาร์มีผู้นับถือพุทธศาสนาราว 90% ของประชากรทั้งหมด การดูหมิ่นพุทธศาสนาถือเป็นเรื่องร้ายแรงมากในประเทศดังกล่าว
ภาพ และข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1426588577
หนุ่มนิวซีแลนด์ เจอคุก 2 ปีครึ่ง ข้อหา "หมิ่นศาสนาพุทธ" ในเมียนมาร์
วอลล์สตรีต เจอร์นัลระบุว่า นายแบล็กวูดวัย 32 ปี, นายตุน ตูเหล่ง เจ้าของบาร์ "วี แกสโตร" และนายทัต โกโกวิน พนักงานในบาร์ ถูกพิพากษาจำคุกนาน 2 ปีฐานหมิ่นพุทธศาสนาและอีก 6 เดือนจากข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าหน้าที่รัฐ หลังรับทราบคำตัดสิน นายแบล็กวูดกล่าวกับผู้สื่อข่าวระหว่างถูกคุมตัวขึ้นรถตำรวจว่า จะยื่นอุทธรณ์
ทั้ง 3 คนถูกจับคุมในเดือนธันวาคมปีกลาย หลังโพสต์ภาพโฆษณาโปรโมทบาร์ และถูกนำตัวไปขังที่ "เรือนจำอินเส่ง" ซึ่งเป็นที่คุมขังนักโทษการเมืองจำนวนมากในยุคที่เผด็จการทหารเรืองอำนาจในเมียมนาร์ ส่วนภาพโฆษณาถูกลบและมีการโพสต์คำขออภัยต่อพุทธศาสนิกชน
การดำเนินคดีกับ 3 คนดังกล่าวมีขึ้นในช่วงเดียวกับที่มีกระแสชาตินิยมเชิงศาสนาแผ่กระจายไปทั่วเมียนมาร์ ซึ่งในบางพื้นที่นำไปสู่การกระทำรุนแรงต่อชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิม ทั้งนี้ ในเมียนมาร์มีผู้นับถือพุทธศาสนาราว 90% ของประชากรทั้งหมด การดูหมิ่นพุทธศาสนาถือเป็นเรื่องร้ายแรงมากในประเทศดังกล่าว
ภาพ และข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1426588577