ในขณะที่ทุกสายตา ให้ความสนใจในวันที่ 21 มีนาคม ซึ่ง
เป็นวันสุดท้ายในการเข้ามาชำระ ค่าใบอนุญาติงวดแรก
พร้อมแบงค์การันตี....ของ Jas ...ซึ่งตอนนี้ปัญหาของ Jas
มันไม่ได้อยู่แค่ที่ว่า Jas จะหาแบงค์การันตี ทันมั้ย???...
แต่ปัญหาหลักๆ ของ Jas ก้อคือ " อนาคต " ต่างหาก ครับ
Jas สามารถประมูลใบอนุญาติได้พร้อม True
ด้วยความคาดหวังตอนนั้น ที่คลื่น 900 มีลูกค้าของ AIS
ติดมาด้วย 12 ล้านราย... ซึ่งตอนนั้นทั้ง 2 เจ้าต้องคาดหวัง
กับลูกค้า 12 ล้านรายนี้ พอสมควร.....เพราะไม่คิดว่า AIS
จะโยกย้ายลูกค้าได้ทันทั้ง 12 ล้านรายในเวลาแค่ 90 วัน..
true ซึ่งมีความพร้อมทุกด้าน ทั้งโครงข่าย
ทั้งทีมงานของตัวเอง ทั้งไปลากพนักงานเซเว่นมาร่วมกันทำ
แคมเปญ แย่งชิงลูกค้า 900 มาสุดชีวิต ยิงสปอตออกสื่อตัวเอง
แทบทุกนาที...ยังไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่า แย่งชิงลูกค้า 900
มาได้สำเร็จ....แถมยังเจอ การจับมือกันของ 2 ค่ายยักษ์
Ais เอาลูกค้า 3G ที่ยังใช้คลื่น 900 จำนวนเกือบทั้งหมด 7
ล้านราย ไปฝากไว้กับ Dtac...เหลือไว้แต่ ลูกค้า 2 G
ที่มีการใช้งานน้อยสุด ประมาณหลัก 100 บาท ต่อเดือน
ที่ยังไม่ย้ายคลื่นมา แต่ในขณะที่ Ais ก้อถึงเส้นตาย ซิมดับ
แล้ว ทาง True ที่ชำระค่าใบอนุญาติ และยื่นแบงค์การันตี
ไปแล้ว...ถึงแม้จะเร่งแค่ไหนก้อตาม ก้อยัง " ไม่พร้อม" เปิด
ให้บริการตอนนี้เลย แถมยังยื่นข้อเสนอให้ AIS มาใช้
คลื่น 900 อีก 3 เดือน เพื่อซื้อเวลา เพื่อให้ลูกค้า AIS
ยังคาราคาซังแบบนี้ รอตัวเองพร้อมที่สุด แล้วค่อยรวบทีเดียว
ดีกว่าปล่อยให้ Ais ซิมดับ แล้วตัวเองก้อยังไม่พร้อม
ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ลูกค้าที่เคว้งคว้าง
ก้อต้องติดต่อไปยัง เจ้าของผู้ให้บริการเบอร์ นั่นก้อคือ Ais
ยิ่งจะทำให้โอกาสในการ กวาดลูกค้า Ais เข้ามาอยู่กับตัวเอง
ริบหรี่เจ้าไปใหญ่...
กลับมาที่ Jas ในขณะที่ True ทำทุกวิถีทาง ที่จะกวาดลูกค้า
12 ล้านรายที่ติดมากับคลื่น 900 แล้ว ไม่สำเร็จ เหลือเพียงแค่
400,000 ราย ที่ยังค้างอยู่...Jas ที่ตอนนี้ แม้แต่ แบงค์การันตี
ยังไม่สามารถบอกทางสาธารณชนได้ว่า " จะได้ " หรือไม่
ก้อต้องตั้งหลัก แล้วมองอนาคตตัวเอง โดยดู true เป็นหลัก
true ทำถึงขนาดนี้แล้ว ยังไม่พร้อมให้บริการ แล้ว Jas
ที่ตอนนี้ "เสา" ซะต้น " ซิมโทรศัพท์" ซะซิม ยังไม่มีเลย
จะพร้อมให้บริการตอนไหน...นับตั้งแต่วันที่ true หรือ Jas
ยื่นแบงค์การันตรี วันไหน วันนั้น ก้อเริ่มสตาร์ท ค่าใช้จ่าย
ดอกเบี้ยมหาศาลที่ " คิดดอก " ทุกวัน แต่...วันไหนล่ะ
ที่ true กับ Jas จะเริ่มหาผลประโยชน์จากคลื่น 900 นี้ได้...
แล้วมองต่อไป...สมมติ Jas สามาถยื่นแบงค์การันตรีได้
Jas จะเอาเงินที่ไหนมาลงทุนสร้างเครือข่ายอีกนับหมื่นล้าน
และที่สำคัญที่สุด....
เงื่อนไขใบอนุญาตินี้...พอครบปีที่ 4 นับจากได้ใบอนุญาติ ทั้ง
True และ Jas ต้องชำระยอดเต็ม คือ เกือบๆ 50,000 ล้านบาท
แต่ในขณะที่ 3 ปี นับจากนี้ไป...อาจจะมีประมูลคลื่นโทรศัพท์
อีก...สมมติถ้าประมูลครั้งต่อไป เกิดขึ้นจริงใน 3 ปี สองค่ายนี้
ที่มีภาระสูงมาก จะสามารถเข้าไปสู้ราคากับ Ais
ที่มีเงินสดเยอะสุด หรือ Dtac
ที่ไม่มีภาระอะไรเลยได้หรือไม่???
แล้วถ้าเกิด 2 ค่ายนั้น ประมูลคลื่นในรอบต่อไป ได้ในราคาที่
ใกล้เคียงกับคลื่น 2100 คือ 40,000 ล้าน...หรือ ต่ำกว่านั้น
ทั้ง true และ jas จะตอบคำถามผู้ถือหุ้นได้มั้ย
ว่าตัวเองตัดสินใจผิดพลาดกับการประมูลคลื่นราคาแพงที่สุด
เท่าที่โลกนี้ เคยมีการประมูลมาหรือเปล่า....
เราเคยสั่งของกันมั้ยครับ...ในขณะที่เราอาจจะซื้อ และวางมัดจำค่าของ ร้านแรกไปแล้ว
ด้วยราคาที่แพงมาก....แล้วเพื่อนเราบอกแพงไป ไม่สมควรซื้อ
แล้วเรากลับพบว่า ถ้าเรารอ และค่อยๆหาไปอีกหน่อย มันก้อจะมีร้านที่ขาย
ของเหมือนกัน แต่ราคาถูกกว่าเยอะเลย...
ถ้าเลือกได้...เราคงจะเลือกไม่เอาร้านแรก แล้วกลับมาซื้อของ
อีกร้านที่ราคาถูกกว่า...
ตอนนี้ true อยู่ในสภาวะที่คืนอะไรไม่ได้แล้ว
เพราะจ่ายไปหมดแล้วครับ...
ส่วน Jas ตอนนี้ยังน่าจะทัน ยอมให้ริบค่าประกันไป และให้
jasbb ติดblacklist ไป รอประมูลใหม่ ...ตั้งบริษัทใหม่
ไปประมูล ก้อน่าจะสามารถเริ่มต้นเข้าสู่ธุรกิจไร้สาย
ได้ด้วยความราบรื่นกว่า ตอนนี้นะครับ...
" รวยช้า ดีกว่า เจ๊งเร็ว" นะครับ
4 G...True & Jas
เป็นวันสุดท้ายในการเข้ามาชำระ ค่าใบอนุญาติงวดแรก
พร้อมแบงค์การันตี....ของ Jas ...ซึ่งตอนนี้ปัญหาของ Jas
มันไม่ได้อยู่แค่ที่ว่า Jas จะหาแบงค์การันตี ทันมั้ย???...
แต่ปัญหาหลักๆ ของ Jas ก้อคือ " อนาคต " ต่างหาก ครับ
Jas สามารถประมูลใบอนุญาติได้พร้อม True
ด้วยความคาดหวังตอนนั้น ที่คลื่น 900 มีลูกค้าของ AIS
ติดมาด้วย 12 ล้านราย... ซึ่งตอนนั้นทั้ง 2 เจ้าต้องคาดหวัง
กับลูกค้า 12 ล้านรายนี้ พอสมควร.....เพราะไม่คิดว่า AIS
จะโยกย้ายลูกค้าได้ทันทั้ง 12 ล้านรายในเวลาแค่ 90 วัน..
true ซึ่งมีความพร้อมทุกด้าน ทั้งโครงข่าย
ทั้งทีมงานของตัวเอง ทั้งไปลากพนักงานเซเว่นมาร่วมกันทำ
แคมเปญ แย่งชิงลูกค้า 900 มาสุดชีวิต ยิงสปอตออกสื่อตัวเอง
แทบทุกนาที...ยังไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่า แย่งชิงลูกค้า 900
มาได้สำเร็จ....แถมยังเจอ การจับมือกันของ 2 ค่ายยักษ์
Ais เอาลูกค้า 3G ที่ยังใช้คลื่น 900 จำนวนเกือบทั้งหมด 7
ล้านราย ไปฝากไว้กับ Dtac...เหลือไว้แต่ ลูกค้า 2 G
ที่มีการใช้งานน้อยสุด ประมาณหลัก 100 บาท ต่อเดือน
ที่ยังไม่ย้ายคลื่นมา แต่ในขณะที่ Ais ก้อถึงเส้นตาย ซิมดับ
แล้ว ทาง True ที่ชำระค่าใบอนุญาติ และยื่นแบงค์การันตี
ไปแล้ว...ถึงแม้จะเร่งแค่ไหนก้อตาม ก้อยัง " ไม่พร้อม" เปิด
ให้บริการตอนนี้เลย แถมยังยื่นข้อเสนอให้ AIS มาใช้
คลื่น 900 อีก 3 เดือน เพื่อซื้อเวลา เพื่อให้ลูกค้า AIS
ยังคาราคาซังแบบนี้ รอตัวเองพร้อมที่สุด แล้วค่อยรวบทีเดียว
ดีกว่าปล่อยให้ Ais ซิมดับ แล้วตัวเองก้อยังไม่พร้อม
ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ลูกค้าที่เคว้งคว้าง
ก้อต้องติดต่อไปยัง เจ้าของผู้ให้บริการเบอร์ นั่นก้อคือ Ais
ยิ่งจะทำให้โอกาสในการ กวาดลูกค้า Ais เข้ามาอยู่กับตัวเอง
ริบหรี่เจ้าไปใหญ่...
กลับมาที่ Jas ในขณะที่ True ทำทุกวิถีทาง ที่จะกวาดลูกค้า
12 ล้านรายที่ติดมากับคลื่น 900 แล้ว ไม่สำเร็จ เหลือเพียงแค่
400,000 ราย ที่ยังค้างอยู่...Jas ที่ตอนนี้ แม้แต่ แบงค์การันตี
ยังไม่สามารถบอกทางสาธารณชนได้ว่า " จะได้ " หรือไม่
ก้อต้องตั้งหลัก แล้วมองอนาคตตัวเอง โดยดู true เป็นหลัก
true ทำถึงขนาดนี้แล้ว ยังไม่พร้อมให้บริการ แล้ว Jas
ที่ตอนนี้ "เสา" ซะต้น " ซิมโทรศัพท์" ซะซิม ยังไม่มีเลย
จะพร้อมให้บริการตอนไหน...นับตั้งแต่วันที่ true หรือ Jas
ยื่นแบงค์การันตรี วันไหน วันนั้น ก้อเริ่มสตาร์ท ค่าใช้จ่าย
ดอกเบี้ยมหาศาลที่ " คิดดอก " ทุกวัน แต่...วันไหนล่ะ
ที่ true กับ Jas จะเริ่มหาผลประโยชน์จากคลื่น 900 นี้ได้...
แล้วมองต่อไป...สมมติ Jas สามาถยื่นแบงค์การันตรีได้
Jas จะเอาเงินที่ไหนมาลงทุนสร้างเครือข่ายอีกนับหมื่นล้าน
และที่สำคัญที่สุด....
เงื่อนไขใบอนุญาตินี้...พอครบปีที่ 4 นับจากได้ใบอนุญาติ ทั้ง
True และ Jas ต้องชำระยอดเต็ม คือ เกือบๆ 50,000 ล้านบาท
แต่ในขณะที่ 3 ปี นับจากนี้ไป...อาจจะมีประมูลคลื่นโทรศัพท์
อีก...สมมติถ้าประมูลครั้งต่อไป เกิดขึ้นจริงใน 3 ปี สองค่ายนี้
ที่มีภาระสูงมาก จะสามารถเข้าไปสู้ราคากับ Ais
ที่มีเงินสดเยอะสุด หรือ Dtac
ที่ไม่มีภาระอะไรเลยได้หรือไม่???
แล้วถ้าเกิด 2 ค่ายนั้น ประมูลคลื่นในรอบต่อไป ได้ในราคาที่
ใกล้เคียงกับคลื่น 2100 คือ 40,000 ล้าน...หรือ ต่ำกว่านั้น
ทั้ง true และ jas จะตอบคำถามผู้ถือหุ้นได้มั้ย
ว่าตัวเองตัดสินใจผิดพลาดกับการประมูลคลื่นราคาแพงที่สุด
เท่าที่โลกนี้ เคยมีการประมูลมาหรือเปล่า....
เราเคยสั่งของกันมั้ยครับ...ในขณะที่เราอาจจะซื้อ และวางมัดจำค่าของ ร้านแรกไปแล้ว
ด้วยราคาที่แพงมาก....แล้วเพื่อนเราบอกแพงไป ไม่สมควรซื้อ
แล้วเรากลับพบว่า ถ้าเรารอ และค่อยๆหาไปอีกหน่อย มันก้อจะมีร้านที่ขาย
ของเหมือนกัน แต่ราคาถูกกว่าเยอะเลย...
ถ้าเลือกได้...เราคงจะเลือกไม่เอาร้านแรก แล้วกลับมาซื้อของ
อีกร้านที่ราคาถูกกว่า...
ตอนนี้ true อยู่ในสภาวะที่คืนอะไรไม่ได้แล้ว
เพราะจ่ายไปหมดแล้วครับ...
ส่วน Jas ตอนนี้ยังน่าจะทัน ยอมให้ริบค่าประกันไป และให้
jasbb ติดblacklist ไป รอประมูลใหม่ ...ตั้งบริษัทใหม่
ไปประมูล ก้อน่าจะสามารถเริ่มต้นเข้าสู่ธุรกิจไร้สาย
ได้ด้วยความราบรื่นกว่า ตอนนี้นะครับ...
" รวยช้า ดีกว่า เจ๊งเร็ว" นะครับ