เพราะอะไร ถึงต้องแบ่งเงินออม ออกเป็นส่วนๆ

เพราะอะไร ถึงต้องแบ่งเงินออม ออกเป็นส่วนๆ

การจะมีเงินเหลือได้ นั้นก็ต้องมีรายได้ ที่มากกว่าค่าใช้จ่าย หรือ ถ้ารายได้ไม่มาก ก็ต้องไปลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ลงให้เยอะที่สุด เพื่อให้มีเงินเหลือ พอจะเก็บออมนั่นเอง แต่คนส่วนใหญ่มักจะทำไม่ได้ เพราะมักจะไปใช้เงินซื้อ ความสุขต่างๆภายนอกซะจนไม่มีเงินเหลืออะไรไว้เลย เนื่องจากเครียดจากเรื่องต่างๆในชีวิต ไม่ว่าจะกินอาหารบนห้าง ดูหนัง ร้องเพลง แล้วหากไม่มีเงินเหลือเก็บ เกิดมีปัญหาเดือดร้อนขึ้นมาทีนี้หล่ะลำบากเลย เพราะจะไปขอความช่วยเหลือใครคงจะไม่ได้ เพราะเขาก็ไม่มีเช่นกัน

ส่วนเหตุผลที่จะต้องแบ่งเงินออม ออกเป็นส่วนๆนั้น ก็เพื่อให้บริหาร เงินออม ได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้นนั่นเอง

ซึ่งตามหลักโดยทั่วไป จะต้องแบ่งเงินออก ออมเป็น 4 ส่วน ดังนี้

1."เงินออม เผื่อฉุกเฉิน" ซึ่งจะต้อง เก็บไว้ก่อนเลยเป็นส่วนแรก แล้วก็ควรจะเก็บไว้ ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้ แล้วส่วนนี้ ก็เป็นส่วนที่ห้ามใช้ หากไม่มีความจำเป็นจริงๆ ห้ามถอนออกมาโดยเด็ดขาด เพราะไม่งั้น เวลาเกิดปัญหา วิกฤตจริงๆ จะเดือดร้อนอย่างมาก โดยเฉพาะการเจ็บ่ป่วยหนัก

2."เงินออม ที่เอาไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน " ส่วนนี้ก็คือ เงินที่เราเหลือไว้ เพื่อไว้กินใช้ ในชีวิตประจำวันนั้นเอง ซึ่งถ้าจะให้ดี ควรจะเหลือไว้ให้พอกินใช้จ่าย แบบไม่ฟุ่มเฟื่อยมาก นานๆทีอาจจะกินบนห้าง หรือ ร้านอาหารดีๆสักทีก็ได้ แต่ไม่ใช่กินซะทุกมื้อทุกวัน แบบนี้ต่อให้มีรายได้เป็นแสนต่อเดือน มันก็ไม่เหลือ

3."เงินออม ที่เอาไว้ลงทุน" ตรงนีต้องยอมรับแระว่า เงินฝากออมทรัพย์นั้น ให้ดอกเบี้ยน้อยมากๆ จึงจะต้องหาทางไปลงทุนอย่างอื่น ที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า แล้วก็ควรจะชนะเงินเฟ้อด้วย เพราะไม่งั้นยิ่งออม ก็เหมือนไม่ได้ออม ซึ่งการเอาเงินไปลงทุนนั้น มันก็มีความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินต้นไปเช่นกัน อย่างการซื้อหลักทรัพย์ มันก็ไม่ได้แปลว่า ถือยาวนานแล้วจะได้กำไรเสมอ

4."เงินออมไว้ซื้อสิ่งที่อยากได้" เงินส่วนนี้อาจจะเก็บน้อยหน่อย แล้วก็ควรจะซื้อของที่ มันดีจริงๆเท่านั้น

แล้วที่สำคัญ ควรจะหมั่นศึกษา หาความรู้ อยู่เรื่อยๆ เพื่อที่จะได้ หาช่องทางในการเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น เพื่อจะได้มีคุณภาพชีวิตทีดีกว่าเดิม

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่