สวัสดีค่าคนชอบเที่ยวหัวใจเฟี้ยวฟ้าวทุกท่านนนน
ปกติเป็นคนที่ออกเที่ยวทุกเดือน แต่เที่ยวแบบถูกๆ เพราะ money มีน้อย จนเมื่อวันก่อนบุญพาวาสนาส่งให้ได้ไปร่วม Ultimate Summer Vacation at SALA Phuket ทริปพิเศษของ Camry the Ultimate Experience เป็นครั้งแรกที่เราได้สัมผัสอะไรที่ Exclusive กับเค้าบ้าง เลยอยากรีวิวให้รับรู้ว่าความหรูมันเป็นแบบนี้นี่เอง
เพื่อนๆ คะ บอกเลยว่าทริปนี้เรือยอร์ชหรูระดับโลกก็มา โรงแรมพูลวิลลาก็มา ปาร์ตี้สุด exclusive กับนักร้องจาก the voice ก็มา (พริตตี้สวยๆ ก็มา ไม่เกี่ยว!) เรียกว่าจนๆ กระเป๋าแบนแบบเราแทบทำเกียรติประวัติชีวิตติดข้างฝากันเลยทีเดียวว่าครั้งหนึ่งเคยมีอะไรแบบนี้ในชีวิตด้วยยยย
จะดีงามพระรามเก้าขนาดไหน ไปชมกัลลลลเลยยยย
ก่อนวันเดินทาง...ทีมงาน Camry โทรมาถามที่อยู่ เราก็งงมากว่าเค้าจะเอาที่อยู่ไปทำอะไร ปรากฏว่าเค้าส่ง Camry Airport Limousine มารับชั้นจ้า!!! ทีมงานบอกว่านี่เป็นเอกสิทธิ์ที่ลูกค้าที่ซื้อรถ Camry ใหม่จะได้รับ ที่ผ่านมาดิชั้นนั้นก็ได้นั่งรถเมล์รถไฟฟ้ามาโดยตลอด เรียกว่าทำตัวไม่ถูกเลย มันไม่คิดว่าเค้าจะมีอะไรพิเศษๆ ให้เราตั้งแต่เริ่มออกเดินทางแบบนี้
วันเดินทาง...พี่คนขับรถท่าทางใจดีมารับตั้งแต่ตีห้า รีบลากกระเป๋าออกมาหน้าบ้าน กำลังจะยกกระเป๋าขึ้นรถด้วยความเคยชินตามประสาสาวถึก พี่เค้ารีบยกมือห้าม...ยกกระเป๋าให้เราแบบเจ้าหญิง งานนี้เลยต้องแอ๊บก้าวขึ้นรถสวยๆ นั่งหลังตรงแบบเจ้าหญิงสักหน่อย นานๆ ที (ฮ่าๆๆ)
ถึงสุวรรณภูมิ เพิ่งได้รู้ว่างานนี้ไปกับการบินไทยซะด้วย ไม่ใช่เล่นๆ (พี่ที่ให้ไปแทนนี่ก็ไม่บอกอะไรกันบ้างเลย!)
เครื่องแตะพื้น...ทางทีมงานพาเราเข้าที่พัก ณ โรงแรมศาลา ภูเก็ต ที่เพิ่งได้ Certificate of Excellence 2015 ระดับ WINNER จาก Trip advisor มาหมาดๆ โรงแรมนี้ตั้งอยู่บนหาดไม้ขาว ที่หาดทรายขาวจริง เงียบสงบจริง เป็นส่วนตัวจริงๆ...ซึ่งทาง Camry มอบห้องพูลวิลลาให้เราและลูกค้าทุกท่านที่มาร่วม...คู่ละห้อง!!! กรี๊ดดดดดดดดดดด
หลังจากพนักงานต้อนรับเราด้วย welcome drink น้ำขิงกับพวงมาลัยกล้วยไม้สวยๆ ก็ส่งเราเข้าห้องพักอันเวอร์วัง มีสระน้ำส่วนตัว มีพื้นที่ให้เกลือกกลิ้งไปได้ทั่ว เมื่อทั้งหมดนี้เป็นของเราก็เอาเลยค่ะ นอนอาบแดดข้างนอก นอนแช่อิ่มในห้อง ลงสระ แช่อ่าง ปาร์ตี้ในน้ำ บนบก ทำให้หมด! มัน ULTIMATE จริงๆ!
หลังจากฟินกับห้องนอน เรามารวมตัวกันก่อนออกเดินทาง ผู้บริหารใจดีของโตโยต้ามากล่าวต้อนรับอย่างเป็นกันเอง ก่อนทีมงาน (ที่ดูแลเราประดุจญาติมิตรชิดใกล้) จะแนะนำรถโตโยต้า คัมรี ไฮบริด ให้รู้จัก เพราะวันนี้จะมี TEST DRIVE คือมอบรถให้เราลองขับเลยทั้งวันคู่ละคัน...เรียกว่าชั้นจะได้ TEST LIFE สัมผัสรสชาติชีวิตใหม่ๆ ที่มีรถขับกับเค้าบ้าง (เพราะตอนนี้ยังเก็บเงินซื้อรถอยู่ ฮ่าๆๆ)
โชคชะตาสุ่มให้เราได้ขึ้นรถไปกับคุณเจ๊คนสวย ซึ่งเจ๊ขับ ส่วนเรานั่งสวยๆ ไป เออ...มันนุ่มและอากาศสดชื่นดีนะ เพราะมีระบบกรองอากาศแบบ Nano-e ที่ถนอมผิว ส่วนเจ๊บอกว่าพวงมาลัยมันเบา ไม่เหมือนรถรุ่นเก่าของเจ๊
ทีมงานแนะนำว่าจุดเด่นของคัมรีรุ่นนี้คือระบบ SAFETY ที่มีระบบ Blind spot monitor ไว้เตือนรถที่เข้ามาในมุมอับ ระบบ Lane Departure Alert ไว้ส่งสัญญาณเตือนตอนรถเบี่ยงออกนอกเลน และระบบ Dynamic Radar Cruise control ไว้ควบคุมความเร็วให้คงที่แบบไดนามิก
เรากับเจ๊เลยลองมันทั้งสามระบบเลยค่ะ ขับออกนอกเลน ขับเข้ามุมอับ ขับไม่เบรก (เพราะทริปนี้มีรถคุณตำรวจคอยดูแลตลอดทริป เลยทำได้ ฮ่าๆๆ) รู้สึกว่าเป็นรถที่เหมาะกับผู้หญิงดีนะ (โดยเฉพาะผู้หญิงเสียสติแบบเราสองคน ฮ่าๆๆ)
เริ่มทริปสุดพิเศษด้วยการกิน (ตามหลักกองทัพต้องเดินด้วยท้อง) เที่ยงนี้เจอกันที่ร้านตู้กับข้าว ร้านอาหารไทยสไตล์พื้นเมืองภูเก็ต (เป็นร้านรับแขกร้านหนึ่งของเมืองก็ว่าได้)
อาหารมาแว้วววววววววววววววววว
อาหารมื้อนี่ก็สุขเกษมเปรมปรีดิ์ แกงปูใบชะพลู ผัดผักเหมียงวุ้นเส้นกุ้งเสียบ น้ำพริกกุ้งสด กุ้งผัดซอสมะขาม สะตอผัดกุ้งกะปิ ปลากะพงทอดขมิ้น และหมูฮ้อง ณ จุดๆนี้ ขอยืนยันว่าอร่อยรสใต้แท้ๆ (โดยเฉพาะหมูฮ้องกับแกงปู แม่จ๋าน้ำตาไหล)
อิ่มท้องกันแล้ว ได้เวลาชื่นชมความงามของสถาปัตยกรรมเมืองภูเก็ตให้อิ่มใจในย่านตึกแถวโบราณ ที่แรกของเราคือโรงแรมออนออน โรงแรมแห่งแรกของ จ. ภูเก็ต เพราะแต่ก่อนที่ภูเก็ตเป็นศูนย์การค้าที่รุ่งเรืองเฟื่องฟู พ่อค้าชาวจีนหรือนักเดินเรือชาวยุโรปเลยจะมาพักที่นี่กัน
บรรยากาศข้างในคลาสสิคมาก ทุกอย่างมันเก่าแก่มีเรื่องราวไปหมดตั้งแต่ฝาผนังยันของประดับ จริงๆ แค่ลองจินตนาการว่าคนสมัยก่อนเค้าอยู่กันอย่างไรในพื้นที่เดียวกับเราตอนนี้...มันก็ magic มากแล้ว นี่ถ้าไม่ได้มาทริปกับทีม Ultimate Experience ก็คงนึกถึงภูเก็ตแต่ในภาพของชายหาดขาวๆกับน้ำทะเลใสๆ ทริปนี้มันถึงถิ่นจริงๆค่ะ
งานนี้เราได้อาจารย์กิตติธัช ไมตรีจิต เยาวชนชุมชนเมืองเก่าจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นคนท้องถิ่นของภูเก็ตแต่กำเนิดมาถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นมาของเมือง อาจารย์มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเล่าให้ฟังเยอะมากกก ตั้งแต่ชื่อโรงแรม ออน ออน ที่มาจาก ‘อัน-อัน’ ในภาษาจีน หมายถึง การมอบความสุขให้แก่นักเดินทางทุกคน
ไฮไลท์ของโรงแรม The memory at ON ON Hotel คือห้องที่ลิโอนาโด้ ดิคาปริโอ้ หรือพี่โอ้ผู้ชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงชายยอดเยี่ยมมาหมาดๆ เคยมาพักตอนถ่ายหนังเรื่องเดอะบีช...ติ่งดิคาร์ปริโอ้อย่างดิชั้นคุมสติไม่อยู่แล้วค่ะ...ใจสั่น มือสั่นนนนนน
คือขอสติแตกนิดนึงนะคะคุณผู้อ่าน มันดีใจไม่ไหวแล้ว...นี่รูปพี่แกข้างหัวเตียง ขอซูมให้เห็นชัดๆ กรี๊ดดดดดด คือมันฟินมากแกกก ชั้นได้มายืนอยู่ห้องเดียวกับเค้าแล้วววว แค่คิดว่าพี่เค้าเคยมานอนในห้องนี้ ชีวิตติ่งถือว่าตายตาหลับแล้วค่ะ กรี๊ดดดดดดดดดดด
อีกห้องที่อยากแนะนำคือห้องช่างตัดเย็บ ซึ่งอยู่ในโซนห้องพักช่างฝีมือ มีช่างสำรวจ ช่างภาพพู่กัน แต่ห้องนี้พิเศษเพราะเป็นห้องต้นแบบของกุลสตรีที่ดี ต้องตัดเย็บเป็น ต้องดูแลสามี เพิ่งมโนผู้ชายมาหมาดๆ ก็ต้องเข้าห้องแบบนี้
นี่คือฝีมือกุลตรีสมัยก่อน (เห็นแล้วอยากวิ่งไปซื้อจักรเย็บผ้า)
ต่อมา...ทีมงาน Camry พาเรามูฟขบวนมาเยี่ยมชมบ้านหลังแรกของจังหวัดภูเก็ต...คือบ้านชินประชา บ้านเก่าแก่สไตล์ชิโนโปรตุกีสอายุกว่า 100 ปี โดยมีคุณแดง สะใภ้ของทายาทรุ่นที่สี่มาคอยต้อนรับเราด้วยตัวเองเลย
บ้านหลังนี้ เรียกว่าทุกมุมมีเรื่องเล่า ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ที่ประดับด้วยมุกแท้จากต่างประเทศ ซึ่งบ่งบอกถึงฐานะของเจ้าของบ้าน (ว่ารวยมากๆ ฮ่าๆๆ) เตียงนอนโบราณอายุนับ 100 ปี ลายกระเบื้องพื้นแบบโบราณจากต่างประเทศ แม้แต่การแต่งกายของคุณแดงยังมีเรื่องเล่า เพราะบ้านชินประชาแห่งนี้เขาอนุรักษ์การแต่งกายของคนภูเก็ตสมัยก่อนที่เรียกว่า “การแต่งกายแบบบาบ๋า ย่าหยา”

เสพงานสถาปัตยกรรมจนอิ่มใจ เรามานั่งจิบชายามบ่าย ที่ The BaBa เดอะ เมมโมรี แอท ออนออนเป็นชาบ่าบ๋าสไตล์ภูเก็ตแท้ๆ ส่วนเมนูเด็ดคือตูโบ้ เป็นขนมบวดรวมมิตร (ต้นตารับ) ประกอบด้วยเผือก มันม่วง มันเทศ ฟักทอง ถั่วแดง และแป้งแก้ว หอมๆ มันๆ
ชาบ่าบ๋า ชงให้ดูกันตรงนั้นเลย วิธีการชงคือจะรินน้ำแรกทิ้ง (ด้วยการล้างแก้ว) และใช้น้ำชาน้ำสอง ซึ่งหอมดีนะ
ตกเย็นกลับมานั่งชมพระอาทิตย์ตก ในรูปกาลังจะตกน้ำแล้ววว แต่ถ่ายตอนที่พระอาทิตย์ตกน้ำไม่ทันเพราะฟินจนลืมยกกล้องถ่ายรูป วันนี้ต้องรีบเข้านอนเพื่อชาร์จพลังเตรียมพบไฮไลท์ของทริปในวันพรุ่งนี้!
[SR] เที่ยวหรูครั้งแรกในชีวิตกับ Ultimate Summer Vacation at SALA Phuket บอกเลยว่าชีวิต...ดี๊ ดี!
ปกติเป็นคนที่ออกเที่ยวทุกเดือน แต่เที่ยวแบบถูกๆ เพราะ money มีน้อย จนเมื่อวันก่อนบุญพาวาสนาส่งให้ได้ไปร่วม Ultimate Summer Vacation at SALA Phuket ทริปพิเศษของ Camry the Ultimate Experience เป็นครั้งแรกที่เราได้สัมผัสอะไรที่ Exclusive กับเค้าบ้าง เลยอยากรีวิวให้รับรู้ว่าความหรูมันเป็นแบบนี้นี่เอง
เพื่อนๆ คะ บอกเลยว่าทริปนี้เรือยอร์ชหรูระดับโลกก็มา โรงแรมพูลวิลลาก็มา ปาร์ตี้สุด exclusive กับนักร้องจาก the voice ก็มา (พริตตี้สวยๆ ก็มา ไม่เกี่ยว!) เรียกว่าจนๆ กระเป๋าแบนแบบเราแทบทำเกียรติประวัติชีวิตติดข้างฝากันเลยทีเดียวว่าครั้งหนึ่งเคยมีอะไรแบบนี้ในชีวิตด้วยยยย
จะดีงามพระรามเก้าขนาดไหน ไปชมกัลลลลเลยยยย
ก่อนวันเดินทาง...ทีมงาน Camry โทรมาถามที่อยู่ เราก็งงมากว่าเค้าจะเอาที่อยู่ไปทำอะไร ปรากฏว่าเค้าส่ง Camry Airport Limousine มารับชั้นจ้า!!! ทีมงานบอกว่านี่เป็นเอกสิทธิ์ที่ลูกค้าที่ซื้อรถ Camry ใหม่จะได้รับ ที่ผ่านมาดิชั้นนั้นก็ได้นั่งรถเมล์รถไฟฟ้ามาโดยตลอด เรียกว่าทำตัวไม่ถูกเลย มันไม่คิดว่าเค้าจะมีอะไรพิเศษๆ ให้เราตั้งแต่เริ่มออกเดินทางแบบนี้
วันเดินทาง...พี่คนขับรถท่าทางใจดีมารับตั้งแต่ตีห้า รีบลากกระเป๋าออกมาหน้าบ้าน กำลังจะยกกระเป๋าขึ้นรถด้วยความเคยชินตามประสาสาวถึก พี่เค้ารีบยกมือห้าม...ยกกระเป๋าให้เราแบบเจ้าหญิง งานนี้เลยต้องแอ๊บก้าวขึ้นรถสวยๆ นั่งหลังตรงแบบเจ้าหญิงสักหน่อย นานๆ ที (ฮ่าๆๆ)
ถึงสุวรรณภูมิ เพิ่งได้รู้ว่างานนี้ไปกับการบินไทยซะด้วย ไม่ใช่เล่นๆ (พี่ที่ให้ไปแทนนี่ก็ไม่บอกอะไรกันบ้างเลย!)
เครื่องแตะพื้น...ทางทีมงานพาเราเข้าที่พัก ณ โรงแรมศาลา ภูเก็ต ที่เพิ่งได้ Certificate of Excellence 2015 ระดับ WINNER จาก Trip advisor มาหมาดๆ โรงแรมนี้ตั้งอยู่บนหาดไม้ขาว ที่หาดทรายขาวจริง เงียบสงบจริง เป็นส่วนตัวจริงๆ...ซึ่งทาง Camry มอบห้องพูลวิลลาให้เราและลูกค้าทุกท่านที่มาร่วม...คู่ละห้อง!!! กรี๊ดดดดดดดดดดด
หลังจากพนักงานต้อนรับเราด้วย welcome drink น้ำขิงกับพวงมาลัยกล้วยไม้สวยๆ ก็ส่งเราเข้าห้องพักอันเวอร์วัง มีสระน้ำส่วนตัว มีพื้นที่ให้เกลือกกลิ้งไปได้ทั่ว เมื่อทั้งหมดนี้เป็นของเราก็เอาเลยค่ะ นอนอาบแดดข้างนอก นอนแช่อิ่มในห้อง ลงสระ แช่อ่าง ปาร์ตี้ในน้ำ บนบก ทำให้หมด! มัน ULTIMATE จริงๆ!
หลังจากฟินกับห้องนอน เรามารวมตัวกันก่อนออกเดินทาง ผู้บริหารใจดีของโตโยต้ามากล่าวต้อนรับอย่างเป็นกันเอง ก่อนทีมงาน (ที่ดูแลเราประดุจญาติมิตรชิดใกล้) จะแนะนำรถโตโยต้า คัมรี ไฮบริด ให้รู้จัก เพราะวันนี้จะมี TEST DRIVE คือมอบรถให้เราลองขับเลยทั้งวันคู่ละคัน...เรียกว่าชั้นจะได้ TEST LIFE สัมผัสรสชาติชีวิตใหม่ๆ ที่มีรถขับกับเค้าบ้าง (เพราะตอนนี้ยังเก็บเงินซื้อรถอยู่ ฮ่าๆๆ)
โชคชะตาสุ่มให้เราได้ขึ้นรถไปกับคุณเจ๊คนสวย ซึ่งเจ๊ขับ ส่วนเรานั่งสวยๆ ไป เออ...มันนุ่มและอากาศสดชื่นดีนะ เพราะมีระบบกรองอากาศแบบ Nano-e ที่ถนอมผิว ส่วนเจ๊บอกว่าพวงมาลัยมันเบา ไม่เหมือนรถรุ่นเก่าของเจ๊
ทีมงานแนะนำว่าจุดเด่นของคัมรีรุ่นนี้คือระบบ SAFETY ที่มีระบบ Blind spot monitor ไว้เตือนรถที่เข้ามาในมุมอับ ระบบ Lane Departure Alert ไว้ส่งสัญญาณเตือนตอนรถเบี่ยงออกนอกเลน และระบบ Dynamic Radar Cruise control ไว้ควบคุมความเร็วให้คงที่แบบไดนามิก
เรากับเจ๊เลยลองมันทั้งสามระบบเลยค่ะ ขับออกนอกเลน ขับเข้ามุมอับ ขับไม่เบรก (เพราะทริปนี้มีรถคุณตำรวจคอยดูแลตลอดทริป เลยทำได้ ฮ่าๆๆ) รู้สึกว่าเป็นรถที่เหมาะกับผู้หญิงดีนะ (โดยเฉพาะผู้หญิงเสียสติแบบเราสองคน ฮ่าๆๆ)
เริ่มทริปสุดพิเศษด้วยการกิน (ตามหลักกองทัพต้องเดินด้วยท้อง) เที่ยงนี้เจอกันที่ร้านตู้กับข้าว ร้านอาหารไทยสไตล์พื้นเมืองภูเก็ต (เป็นร้านรับแขกร้านหนึ่งของเมืองก็ว่าได้)
อาหารมาแว้วววววววววววววววววว
อาหารมื้อนี่ก็สุขเกษมเปรมปรีดิ์ แกงปูใบชะพลู ผัดผักเหมียงวุ้นเส้นกุ้งเสียบ น้ำพริกกุ้งสด กุ้งผัดซอสมะขาม สะตอผัดกุ้งกะปิ ปลากะพงทอดขมิ้น และหมูฮ้อง ณ จุดๆนี้ ขอยืนยันว่าอร่อยรสใต้แท้ๆ (โดยเฉพาะหมูฮ้องกับแกงปู แม่จ๋าน้ำตาไหล)
อิ่มท้องกันแล้ว ได้เวลาชื่นชมความงามของสถาปัตยกรรมเมืองภูเก็ตให้อิ่มใจในย่านตึกแถวโบราณ ที่แรกของเราคือโรงแรมออนออน โรงแรมแห่งแรกของ จ. ภูเก็ต เพราะแต่ก่อนที่ภูเก็ตเป็นศูนย์การค้าที่รุ่งเรืองเฟื่องฟู พ่อค้าชาวจีนหรือนักเดินเรือชาวยุโรปเลยจะมาพักที่นี่กัน
บรรยากาศข้างในคลาสสิคมาก ทุกอย่างมันเก่าแก่มีเรื่องราวไปหมดตั้งแต่ฝาผนังยันของประดับ จริงๆ แค่ลองจินตนาการว่าคนสมัยก่อนเค้าอยู่กันอย่างไรในพื้นที่เดียวกับเราตอนนี้...มันก็ magic มากแล้ว นี่ถ้าไม่ได้มาทริปกับทีม Ultimate Experience ก็คงนึกถึงภูเก็ตแต่ในภาพของชายหาดขาวๆกับน้ำทะเลใสๆ ทริปนี้มันถึงถิ่นจริงๆค่ะ
งานนี้เราได้อาจารย์กิตติธัช ไมตรีจิต เยาวชนชุมชนเมืองเก่าจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นคนท้องถิ่นของภูเก็ตแต่กำเนิดมาถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นมาของเมือง อาจารย์มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเล่าให้ฟังเยอะมากกก ตั้งแต่ชื่อโรงแรม ออน ออน ที่มาจาก ‘อัน-อัน’ ในภาษาจีน หมายถึง การมอบความสุขให้แก่นักเดินทางทุกคน
ไฮไลท์ของโรงแรม The memory at ON ON Hotel คือห้องที่ลิโอนาโด้ ดิคาปริโอ้ หรือพี่โอ้ผู้ชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงชายยอดเยี่ยมมาหมาดๆ เคยมาพักตอนถ่ายหนังเรื่องเดอะบีช...ติ่งดิคาร์ปริโอ้อย่างดิชั้นคุมสติไม่อยู่แล้วค่ะ...ใจสั่น มือสั่นนนนนน
คือขอสติแตกนิดนึงนะคะคุณผู้อ่าน มันดีใจไม่ไหวแล้ว...นี่รูปพี่แกข้างหัวเตียง ขอซูมให้เห็นชัดๆ กรี๊ดดดดดด คือมันฟินมากแกกก ชั้นได้มายืนอยู่ห้องเดียวกับเค้าแล้วววว แค่คิดว่าพี่เค้าเคยมานอนในห้องนี้ ชีวิตติ่งถือว่าตายตาหลับแล้วค่ะ กรี๊ดดดดดดดดดดด
อีกห้องที่อยากแนะนำคือห้องช่างตัดเย็บ ซึ่งอยู่ในโซนห้องพักช่างฝีมือ มีช่างสำรวจ ช่างภาพพู่กัน แต่ห้องนี้พิเศษเพราะเป็นห้องต้นแบบของกุลสตรีที่ดี ต้องตัดเย็บเป็น ต้องดูแลสามี เพิ่งมโนผู้ชายมาหมาดๆ ก็ต้องเข้าห้องแบบนี้
นี่คือฝีมือกุลตรีสมัยก่อน (เห็นแล้วอยากวิ่งไปซื้อจักรเย็บผ้า)
ต่อมา...ทีมงาน Camry พาเรามูฟขบวนมาเยี่ยมชมบ้านหลังแรกของจังหวัดภูเก็ต...คือบ้านชินประชา บ้านเก่าแก่สไตล์ชิโนโปรตุกีสอายุกว่า 100 ปี โดยมีคุณแดง สะใภ้ของทายาทรุ่นที่สี่มาคอยต้อนรับเราด้วยตัวเองเลย
บ้านหลังนี้ เรียกว่าทุกมุมมีเรื่องเล่า ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ที่ประดับด้วยมุกแท้จากต่างประเทศ ซึ่งบ่งบอกถึงฐานะของเจ้าของบ้าน (ว่ารวยมากๆ ฮ่าๆๆ) เตียงนอนโบราณอายุนับ 100 ปี ลายกระเบื้องพื้นแบบโบราณจากต่างประเทศ แม้แต่การแต่งกายของคุณแดงยังมีเรื่องเล่า เพราะบ้านชินประชาแห่งนี้เขาอนุรักษ์การแต่งกายของคนภูเก็ตสมัยก่อนที่เรียกว่า “การแต่งกายแบบบาบ๋า ย่าหยา”
เสพงานสถาปัตยกรรมจนอิ่มใจ เรามานั่งจิบชายามบ่าย ที่ The BaBa เดอะ เมมโมรี แอท ออนออนเป็นชาบ่าบ๋าสไตล์ภูเก็ตแท้ๆ ส่วนเมนูเด็ดคือตูโบ้ เป็นขนมบวดรวมมิตร (ต้นตารับ) ประกอบด้วยเผือก มันม่วง มันเทศ ฟักทอง ถั่วแดง และแป้งแก้ว หอมๆ มันๆ
ชาบ่าบ๋า ชงให้ดูกันตรงนั้นเลย วิธีการชงคือจะรินน้ำแรกทิ้ง (ด้วยการล้างแก้ว) และใช้น้ำชาน้ำสอง ซึ่งหอมดีนะ
ตกเย็นกลับมานั่งชมพระอาทิตย์ตก ในรูปกาลังจะตกน้ำแล้ววว แต่ถ่ายตอนที่พระอาทิตย์ตกน้ำไม่ทันเพราะฟินจนลืมยกกล้องถ่ายรูป วันนี้ต้องรีบเข้านอนเพื่อชาร์จพลังเตรียมพบไฮไลท์ของทริปในวันพรุ่งนี้!