ไม่เคยคิดว่าวันนึงจะต้องมาตั้งกระทู้ในพันทิพ เพราะเป็นคนที่ชอบอ่านกระทู้ซะมากกว่า แต่มาวันนี้จากหัวใจที่เจ็บ ที่เสียใจ น้ำตาไหลข้างในใจโดยที่ไม่สามารถบอกใครๆได้ ทำให้เราอยากหาระบาย หาคนช่วยรับฟัง เริ่มจากเราและสามีเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย แต่เราอยู่คนละจังหวัดกัน สมัยนั้นอินเทอร์เน็ตเพิ่งมเริ่มที่จะเข้ามาทำให้เรารู้จักโปรแกรม เพิส (pirch )ซึ่งคล้ายๆกับ MSN เราก็คุยเป็นเพื่อนกันเรื่อยมา...สมัยนั้นก็คงเรียกว่าแฟนนั่นแหละ เราใช้วิธีการเขียนจดหมายหากัน ใช้โทรศัพท์บ้านโทรคุยกันจนเสียเงินเป็นหมื่นๆในวัยแรกรุ่น คุยๆคบๆกันมาหลายปี ก็ห่างหายกันไปเพราะต่างคนต่างอยู่กันคนละจังหวัด แต่ความสัมพันธ์แบบเพื่อนก็ไม่ได้ตัดขาดไปซะทีเดียว เค้าอายุเท่าเราแต่เรียนก่อน 1 ปี พอเค้าเข้าเรียนมหาลัยเค้าเรียนในจังหวัดของเค้า ส่วนเราเข้ามาเรียนที่กรุงเทพ จนกระทั่งเราเรียนจบ ซึ่งในขณะที่เราเรียนเราไม่เคยคบใครแบบจริงจัง มันเหมือนกับว่าเรารอใครสักคน...เค้าเข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ ประจวบกับที่เรากำลังจะเรียนจบ เราก็เลยได้เจอได้คุยแล้วก็คบกันแบบจริงจัง (ประมาณ ปี 50)
จากที่เราเริ่มคบกันมันก็มีทั้งทุกข์ทั้งสุข เราเรียนจบเรากลับมาทำงานที่บ้าน เค้าก็กลับมาทำงานที่บ้านของเค้า ด้วยลักษณะนิสัยของเค้าเป็นคนอารมณ์ดี พูดจาน่ารัก ง่ายๆก็คือเจ้าชู้...เค้าทำงานในจังหวัดที่บ้านของเค้า เราทำงานที่บ้านของเราโดยสองจังหวัดนี้ห่างกันประมาณ 150 กิโล ช่วงแรกๆที่เราคบกันแน่นอนน้ำต้มผักยังหวานน้อยกว่าคู่ของเราซะอีก เราเจอกันเกือบทุกอาทิตย์ แต่มันก็มีเหตุการณ์ที่เป็นปัญหาส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องผู้หญิงที่เค้ามาแวะเวียนยุ่งเกี่ยวกันตลอด เราจับได้บ้างไม่ได้บ้าง...เราคบกันจนย่างเข้าปีที่ 5 (คิดดูว่าความอดทนของเราสูงขนาดไหน) ด้วยที่เราเป็นคนรักใครรักจริง เราเป็นคนซื่อสัตย์ต่อความรัก แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เราเลื่อนจากสถานะแค่แฟน เป็นสามีภรรยา เราจับได้ว่าเค้ามีผู้หญิงคนใหม่แบบไปอยู่กินด้วยกันจนแตกหักกันไปข้างนึงกันเลยทีเดียว เราไม่เคยรู้มาก่อนจริงๆ คงมีแค่ระแคะระคายบ้าง ด้วยความที่อยู่ไกลเพราะเค้าย้ายไปทำงานที่ กทม.อีกแล้ว เค้าพาผู้หญิงคนนี้ไปงานทำบุญที่บ้านของเค้า ซึ่งตอนนั้นเค้าก็ยังคบเราอยู่ แม่และญาติพี่น้องเค้าก็รับรู้ นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนแต่งงาน ประมาณ 5 เดือน พอเราแต่งงานความไม่ไว้ใจมันก็ยังมีอยู่ ด้วยนิสัยของเค้าที่เป็นคนเจ้าชู้ เราคิดอยู่ตลอดเวลา ว่าเราตัดสินใจถูกหรือผิดที่แต่งงานกับเค้า ...เพราะความระแวงมันไม่เคยหายไปจากใจเราเลย เราให้เค้าลาออกจากงานเพื่อมาทำงานอยู่ใกล้ๆกันกับเรา เค้าก็ยอมทำตามนะคะ แต่พ่อของเค้าอยากให้เค้ารับราชการตำรวจ เลยให้ลูกชายลาออกจากงานที่ทำอยู่ในจังหวัดบ้านของเราไปติวแล้วก็ทำงานใน กทม. พอผลสอบตำรวจออกมาเค้าสอบไม่ติด เราก็กลัวเค้าเคว้งเราเลยแนะนำให้เค้าเรียน ป.โท ภาคพิเศษ เพราะเรียนแค่ 3 เทอม ในช่วงระยะเวลาที่แต่งงานกันแล้ว 1 ปี เค้าบอกกับเราเสมอว่าเค้าอยากมีลูก เราก็โอเค...ไม่นานเราก็ท้อง ในขณะที่เค้าเรียน และเรากำลังท้อง บวกกับเราอยู่ด้วยกันคนละที่ ทำให้เราให้ความสำคัญดูแลลูกในท้องมาก แต่เค้าไม่ค่อยสนใจดูแลเราเท่าที่ควร เพราะเค้าก็จะอ้าง ทำงาน เรียน เราก็โอเคๆ เข้าใจ เราท้องได้ประมาณ 5 เดือน เราก็ไปเจอข้อความในไลน์ของสามีเรา ที่คุยกับเพื่อนรุ่นน้องที่เรียนด้วยกัน โดยเมมชื่อว่า “honey” เราก้รู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่แค่เพื่อนกันธรรมดา เราถามเค้าแน่นอนว่าเค้าต้องปฏิเสธ...ทุกคนปฏิเสธ แม้แต่เด็กคนนี้ก็ปฏิเสธ แถมยังบอกเราด้วยว่าหนูมีแฟนแล้ว คิดกับสามีเราแค่พี่ชาย...โอเคเราก็เคลีบยกันไป เพราะเพื่อนๆเค้าทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่มีอะไร.....
จากเหตุการณ์วันที่เราเคลียร์กันตั้งแต่เราท้อง 5 เดือน จนวันที่เราคลอดลูก จนวันที่สามีเราเสียชีวิต...เราไม่เคยคิดเลยว่ามันจะมีเรื่องนี้แบบนี้เกิดขึ้นกับเรา สามีเราสอบบรรจุรับราชการได้ในจังหวัดทางภาคเหนือ เราได้แต่พาลูกคุยวิดีโอคอลทุกวัน เที่ยง ก่อนนอน ทุกวัน ทุกวันจริงๆ ด้วยความที่เราต้องเลี้ยงลูก ต้องทำงาน ทำให้เราไม่เคยคิด ไม่เคยเลยจริงๆว่าเค้าจะมีใครอีกคนแบบเป็นตัวเป็นตน เราอาจจะมีเซนส์ของความเป็นเมียที่เราว่าสามีเราต้องมีคนคุยด้วย แต่เพียงแค่เราจับไม่ได้เพราะว่าไกลกัน เราคิดแค่ว่าอาจจะเป็นคนใหม่ ที่เป็นครั้งคราว เค้าเสียชีวิตอย่างกะทันหันด้วยอุบัติเหตุ ซึ่งก่อนที่เค้าเสียชีวิตไม่กี่นาทีเราก็ยังได้คุยกัน เค้าก็ยังได้เห็นหน้าลูก
เรามารู้เรื่องตอนนี้น้าของสามีเราไปเก็บของให้สามีเรา แล้วผู้ ญ คนนี้โทรมา เราขอโทรศัพท์ของสามีเรา แต่เค้าไม่ให้เรา แล้วน้าเค้าก็พูดขึ้นว่ายังให้โทรศัพท์ไม่ได้ เพราะมันมีข้อความที่จะเป็นปัญหา !!! เท่านั้นแหละเรานี่ใจสั่น น้ำตานี่ไหลปนกับความรู้สึกว่า อะไร ยังไง เราก็ยังงงๆว่า แล้วคนนั้นคือใคร ????? จวบเหมาะกับที่กลุ่มเพื่อน ป.โท เข้ามาเป็นเจ้าภาพสวดให้สามีเรา แล้วพูดกับเราว่า เราเข้มแข็งมาก...พอเราถามถึงน้องอีกคนทำไมไม่มา เพื่อนเค้าก็ตอบพร้อมกันว่า “ช่างเค้าเถอะ ปล่อยเค้าไปเถอะ” เรานี่เจ็บจี๊ดดดดดด สุดๆๆๆที่สุดในชีวิต เพราะเค้ารู้ว่าเราท้อง เราคลอด จนวันที่สามีเราเสีย ลูกเราอายุแค่ 1 ขวบ 4 เดือน ในใจนี่เราทั้งเสียใจ ทั้งแค้น ทำกับเราแบบนี้ได้ไง เราไม่กล้าบอกใคร ไม่กล้าบอกพ่อ แม่เรา เราคิดในตอนนั้นคือ สามีเราได้รับกรรมที่ทำไว้กับเราและลูกแล้ว เรารู้สึกทั้งเสียใจ ทั้งแค้นใจ บาดลึกในหัวใจ.......
วันรุ่งขึ้นเราถามเรื่องโทรศัพท์อีก น้าเค้าก็บอกว่าให้เอาไว้กับแม่ และน้าเค้าก็พูดว่าแม่เองก็รู้เรื่องมาตลอด....แล้วเราละ แล้วเราละ ทำไมเค้าทำกับเราแบบนี้....แม่สามีเราเค้าบอกว่าขอให้เราจบ ลูกเค้าตายไปแล้วให้มันกับลูกชายเค้า ทำไมเค้าไม่คิดถึงหัวใจเราบ้าง...โอเค เรา อโหสิกรรม ทั้งๆที่ใจเราแค้นมาก เราได้โน้ตบุคสามีเรา ในโน๊ตบุ๊คนี้มีหลักฐานของผู้หญิงคนนี้ทุกอย่าง ผู้หญิงคนนี้เป็นคนสวย ทำงานดี (ทอท.สุวรรณภูมิ ) แต่ทำไมถึงกล้าทำผิดผัวผิดลูกเมียคนอื่นแบบนี้ ไม่ใช่ว่าไม่รู้นะเค้ารู้เรื่องเรามาตลอดเคยไปนั่งกินข้าวด้วยกันกับเรา แสร้งว่าไปไหว้พระ แต่ผิดศีล..จนสามีเราตาย สามีเราทุ่มให้คนนี้มาก หลักฐานที่เป็นภาพถ่ายที่ผู้หญิงคนนี้ส่งให้สามีเรา อยู่ในโน๊ตบุ๊คทุกอย่าง ถ้าเราเอาผิดผู้หญิงคนนี้มันจะบาปเรามั้ย เรานึกถึงตอนที่ลูกเราป่วยแอดมิทโรงพยาบาล สามีเรายังไม่ลงมาดูเลย ลงมาถึงแค่ กทม.แต่ไม่มาหาลูก คือเราควรจะรู้สึกยังไงดี.....เราจะแค้น จะดีใจ หรือควรจะมีความรู้สึกยังไงดี
ควรจะรู้สึกยังไงที่รู้ว่าสามีนอกใจ...ในวันที่เค้าเสียชีวิต
จากที่เราเริ่มคบกันมันก็มีทั้งทุกข์ทั้งสุข เราเรียนจบเรากลับมาทำงานที่บ้าน เค้าก็กลับมาทำงานที่บ้านของเค้า ด้วยลักษณะนิสัยของเค้าเป็นคนอารมณ์ดี พูดจาน่ารัก ง่ายๆก็คือเจ้าชู้...เค้าทำงานในจังหวัดที่บ้านของเค้า เราทำงานที่บ้านของเราโดยสองจังหวัดนี้ห่างกันประมาณ 150 กิโล ช่วงแรกๆที่เราคบกันแน่นอนน้ำต้มผักยังหวานน้อยกว่าคู่ของเราซะอีก เราเจอกันเกือบทุกอาทิตย์ แต่มันก็มีเหตุการณ์ที่เป็นปัญหาส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องผู้หญิงที่เค้ามาแวะเวียนยุ่งเกี่ยวกันตลอด เราจับได้บ้างไม่ได้บ้าง...เราคบกันจนย่างเข้าปีที่ 5 (คิดดูว่าความอดทนของเราสูงขนาดไหน) ด้วยที่เราเป็นคนรักใครรักจริง เราเป็นคนซื่อสัตย์ต่อความรัก แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เราเลื่อนจากสถานะแค่แฟน เป็นสามีภรรยา เราจับได้ว่าเค้ามีผู้หญิงคนใหม่แบบไปอยู่กินด้วยกันจนแตกหักกันไปข้างนึงกันเลยทีเดียว เราไม่เคยรู้มาก่อนจริงๆ คงมีแค่ระแคะระคายบ้าง ด้วยความที่อยู่ไกลเพราะเค้าย้ายไปทำงานที่ กทม.อีกแล้ว เค้าพาผู้หญิงคนนี้ไปงานทำบุญที่บ้านของเค้า ซึ่งตอนนั้นเค้าก็ยังคบเราอยู่ แม่และญาติพี่น้องเค้าก็รับรู้ นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนแต่งงาน ประมาณ 5 เดือน พอเราแต่งงานความไม่ไว้ใจมันก็ยังมีอยู่ ด้วยนิสัยของเค้าที่เป็นคนเจ้าชู้ เราคิดอยู่ตลอดเวลา ว่าเราตัดสินใจถูกหรือผิดที่แต่งงานกับเค้า ...เพราะความระแวงมันไม่เคยหายไปจากใจเราเลย เราให้เค้าลาออกจากงานเพื่อมาทำงานอยู่ใกล้ๆกันกับเรา เค้าก็ยอมทำตามนะคะ แต่พ่อของเค้าอยากให้เค้ารับราชการตำรวจ เลยให้ลูกชายลาออกจากงานที่ทำอยู่ในจังหวัดบ้านของเราไปติวแล้วก็ทำงานใน กทม. พอผลสอบตำรวจออกมาเค้าสอบไม่ติด เราก็กลัวเค้าเคว้งเราเลยแนะนำให้เค้าเรียน ป.โท ภาคพิเศษ เพราะเรียนแค่ 3 เทอม ในช่วงระยะเวลาที่แต่งงานกันแล้ว 1 ปี เค้าบอกกับเราเสมอว่าเค้าอยากมีลูก เราก็โอเค...ไม่นานเราก็ท้อง ในขณะที่เค้าเรียน และเรากำลังท้อง บวกกับเราอยู่ด้วยกันคนละที่ ทำให้เราให้ความสำคัญดูแลลูกในท้องมาก แต่เค้าไม่ค่อยสนใจดูแลเราเท่าที่ควร เพราะเค้าก็จะอ้าง ทำงาน เรียน เราก็โอเคๆ เข้าใจ เราท้องได้ประมาณ 5 เดือน เราก็ไปเจอข้อความในไลน์ของสามีเรา ที่คุยกับเพื่อนรุ่นน้องที่เรียนด้วยกัน โดยเมมชื่อว่า “honey” เราก้รู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่แค่เพื่อนกันธรรมดา เราถามเค้าแน่นอนว่าเค้าต้องปฏิเสธ...ทุกคนปฏิเสธ แม้แต่เด็กคนนี้ก็ปฏิเสธ แถมยังบอกเราด้วยว่าหนูมีแฟนแล้ว คิดกับสามีเราแค่พี่ชาย...โอเคเราก็เคลีบยกันไป เพราะเพื่อนๆเค้าทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่มีอะไร.....
จากเหตุการณ์วันที่เราเคลียร์กันตั้งแต่เราท้อง 5 เดือน จนวันที่เราคลอดลูก จนวันที่สามีเราเสียชีวิต...เราไม่เคยคิดเลยว่ามันจะมีเรื่องนี้แบบนี้เกิดขึ้นกับเรา สามีเราสอบบรรจุรับราชการได้ในจังหวัดทางภาคเหนือ เราได้แต่พาลูกคุยวิดีโอคอลทุกวัน เที่ยง ก่อนนอน ทุกวัน ทุกวันจริงๆ ด้วยความที่เราต้องเลี้ยงลูก ต้องทำงาน ทำให้เราไม่เคยคิด ไม่เคยเลยจริงๆว่าเค้าจะมีใครอีกคนแบบเป็นตัวเป็นตน เราอาจจะมีเซนส์ของความเป็นเมียที่เราว่าสามีเราต้องมีคนคุยด้วย แต่เพียงแค่เราจับไม่ได้เพราะว่าไกลกัน เราคิดแค่ว่าอาจจะเป็นคนใหม่ ที่เป็นครั้งคราว เค้าเสียชีวิตอย่างกะทันหันด้วยอุบัติเหตุ ซึ่งก่อนที่เค้าเสียชีวิตไม่กี่นาทีเราก็ยังได้คุยกัน เค้าก็ยังได้เห็นหน้าลูก
เรามารู้เรื่องตอนนี้น้าของสามีเราไปเก็บของให้สามีเรา แล้วผู้ ญ คนนี้โทรมา เราขอโทรศัพท์ของสามีเรา แต่เค้าไม่ให้เรา แล้วน้าเค้าก็พูดขึ้นว่ายังให้โทรศัพท์ไม่ได้ เพราะมันมีข้อความที่จะเป็นปัญหา !!! เท่านั้นแหละเรานี่ใจสั่น น้ำตานี่ไหลปนกับความรู้สึกว่า อะไร ยังไง เราก็ยังงงๆว่า แล้วคนนั้นคือใคร ????? จวบเหมาะกับที่กลุ่มเพื่อน ป.โท เข้ามาเป็นเจ้าภาพสวดให้สามีเรา แล้วพูดกับเราว่า เราเข้มแข็งมาก...พอเราถามถึงน้องอีกคนทำไมไม่มา เพื่อนเค้าก็ตอบพร้อมกันว่า “ช่างเค้าเถอะ ปล่อยเค้าไปเถอะ” เรานี่เจ็บจี๊ดดดดดด สุดๆๆๆที่สุดในชีวิต เพราะเค้ารู้ว่าเราท้อง เราคลอด จนวันที่สามีเราเสีย ลูกเราอายุแค่ 1 ขวบ 4 เดือน ในใจนี่เราทั้งเสียใจ ทั้งแค้น ทำกับเราแบบนี้ได้ไง เราไม่กล้าบอกใคร ไม่กล้าบอกพ่อ แม่เรา เราคิดในตอนนั้นคือ สามีเราได้รับกรรมที่ทำไว้กับเราและลูกแล้ว เรารู้สึกทั้งเสียใจ ทั้งแค้นใจ บาดลึกในหัวใจ.......
วันรุ่งขึ้นเราถามเรื่องโทรศัพท์อีก น้าเค้าก็บอกว่าให้เอาไว้กับแม่ และน้าเค้าก็พูดว่าแม่เองก็รู้เรื่องมาตลอด....แล้วเราละ แล้วเราละ ทำไมเค้าทำกับเราแบบนี้....แม่สามีเราเค้าบอกว่าขอให้เราจบ ลูกเค้าตายไปแล้วให้มันกับลูกชายเค้า ทำไมเค้าไม่คิดถึงหัวใจเราบ้าง...โอเค เรา อโหสิกรรม ทั้งๆที่ใจเราแค้นมาก เราได้โน้ตบุคสามีเรา ในโน๊ตบุ๊คนี้มีหลักฐานของผู้หญิงคนนี้ทุกอย่าง ผู้หญิงคนนี้เป็นคนสวย ทำงานดี (ทอท.สุวรรณภูมิ ) แต่ทำไมถึงกล้าทำผิดผัวผิดลูกเมียคนอื่นแบบนี้ ไม่ใช่ว่าไม่รู้นะเค้ารู้เรื่องเรามาตลอดเคยไปนั่งกินข้าวด้วยกันกับเรา แสร้งว่าไปไหว้พระ แต่ผิดศีล..จนสามีเราตาย สามีเราทุ่มให้คนนี้มาก หลักฐานที่เป็นภาพถ่ายที่ผู้หญิงคนนี้ส่งให้สามีเรา อยู่ในโน๊ตบุ๊คทุกอย่าง ถ้าเราเอาผิดผู้หญิงคนนี้มันจะบาปเรามั้ย เรานึกถึงตอนที่ลูกเราป่วยแอดมิทโรงพยาบาล สามีเรายังไม่ลงมาดูเลย ลงมาถึงแค่ กทม.แต่ไม่มาหาลูก คือเราควรจะรู้สึกยังไงดี.....เราจะแค้น จะดีใจ หรือควรจะมีความรู้สึกยังไงดี