เป็นการแชร์ประสบการณ์โดนผู้ชายหลอกครั้งแรกในชีวิตเราคือเจ็บมาก
หลอกได้แนบเนียนจนเราไม่สงสัยใดๆเลย
เรื่องของเราคือเราได้รู้จักผู้ชายคนนี้ผ่านแอ็ปหาคู่ เป็นคนมุสลิม ทำงานดีเป็นล่ามอารบิกพูดภาษาอาหรับได้อยู่โรงพยาบาลตาชื่อดังย่านอโศก แรกๆที่เราคุยกันก็คุยกันในแบบเพื่อนคุย นัดเจอกันกินกาแฟกันปกติที่ว่าง และเขาก็ไม่ได้บอกว่าเขาเป็นมุสลิมในตอนแรก เรามารู้ทีหลังจากที่เริ่มที่จะคบกันแล้ว
ตอนคุยก็มีการถามเรื่องส่วนตัวของกันและกันบ้าง เขาบอกเขาโสดไม่มีใคร บวกกับคุยกันถูกคอและเราก็โสดเลยขยับสถานะเป็นคนคุย แต่มันเหตุการณ์ที่ทำให้เรารู้สึกว่าเขาเป็นคนมุสลิมแน่(ซึ่งจำไม่ได้ละ) เราเลยถามเขาตรงๆ เลยว่าเป็นมุสลิมหรือเปล่าเขาก็ตกใจที่เราดูออก แต่เขาก็ยอมรับว่าใช่ เราก็บอกว่าทำไมไม่บอกแต่แรก เราจะได้ระวังเรื่องอาหารให้ คำตอบที่ได้คือเขากลัวเราไม่คุยต่อเลยไม่กล้าบอก เราก็ยังโลกสวยว่าไม่เห็นเป็นไรเลย ทุกศาสนาสอนให้คนเป็นดี (ด้วยความที่ชอบเขาไปแล้ว รับได้ทุกเรื่องอะนะ😅 ) และก็เริ่มคบกันปกติ กินข้าวเที่ยวคาเฟ่ พากันทำในสิ่งที่คนคบกันทำ จนคบกันได้ประมาณ5-6เดือน อยู่เฉยๆเขามาบอกเราว่า เขามีเรื่องหนึ่งที่ถ้าเธอรู้เธออาจจะเสียใจนะ เลยถามว่าเรื่องอะไร? เขาบอกเขาเคยแต่งงานมาแล้ว1ครั้งแต่ตอนนี้แยกกันอยู่ ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์หรือมีอะไรเลยในฐานะสามีภรรยา เขาก็อยู่บ้านเขา เราก็อยู่บ้านเรา แต่ที่ไม่สามารถทำเรื่องหย่าได้เพราะพ่อได้เราไม่อยากให้หย่า
ถามว่ารู้แบบนี้เชื่อมั้ย? ไม่เลยค่ะ เราก็คิดว่าเราก็ไม่โง่อะ ฉลาดพอตัว หลังจากวันนั้นเราเริ่มเช็คเขาผ่านเฟสบุ๊ค ผ่านไลน์ มีการคุยกันบ้างแต่ก็คุยในเรื่องผิวเผินแบบที่เขาบอกเราจริงๆ เขาก็ทำตัวปกติ โทรหาวีดีโอคอล อยู่ในห้องที่บ้าน ที่ทำงาน โทรวีดีโอคอลตลอด และมารับมาส่งไม่เคยหายไปเลยจนเราเชื่อสนิทใจว่าเป็นเรื่องจริง จนเขามาขอให้เราเข้าอิสลามเพื่อจะได้แต่งานนกันให้ถูกต้องตามศาสนา เราปฏิเสธเพราะเรายังตะหงิดๆกับเรื่องการแต่งงานครั้งแรกของเขาอยู่ แต่ก็คบกันปกติต่อไปจนปีกว่าๆเกือบจะปีครึ่ง เขาบอกว่าเขาต้องพาคนไข้ที่เป็นชาวอาหรับไปเที่ยวบ้านที่อยุธยา แต่จะยืมรถภรรยาในนามมาใช้และให้เขาขับให้หน่อย เราก็โอเครไม่ติดใจอะไรเพราะเรื่องทำมาหากินมันสำคัญ แต่พอถึงวันต้องไปเขาก็เแต่พาคนตอบบ้างไม่ตอบบ้าง จนเราสงสัยเลยทักหา ตอบกลับว่าพาลูกค้ามากินข้าว เดี๋ยวกลับ ส่วนคนนั้นกลับไปแล้ว และก็หายไปถึงเช้า ทักมาบอกว่าถึงมี่ทำงานแล้วบลาๆ ปกติมาก แต่เราอะเอ๊ะๆละ เลยถามแบบคาดคั้นปนขู่ จนยอมรับว่าพาภรรยาไปนอนมีเพศสัมพันธ์กัน เรายอมรับว่าโกรธมาก แต่ก็พยายามถามว่าทำไมอะไรยังไง แต่เขาไม่ตอบเราเลยขอเบอร์ภรรยาเขาเพื่ออยากรู้ความเป็นจริง ตอนแรกก็ไม่ให้พอขู่ว่างั้นเดี๋ยวไปถามถึงที่ เลยให้มา พอเราโทรไปคุยกับภรรยาเขาสิ่งที่ได้ฟังคืออึ้งมาก ขาชาแขนชาไปหมด เขาเล่ให้ฟังงว่าเขาไม่เคยเลิกกันกับสามีเลย ไม่เคยห่างกันแม้แต่วันเดียว เราถึงกับร้องเห้ยเลยยยย เพราะระยะเวลาเกือบ2ปีเขาปกติมาก บ้านเขาเราก็ไป พ่อแม่เขาเราก็เจอ แต่เขาบอกพ่อแม่เขาว่าเราเป็นเพื่อน โดยให้เหตุผลว่า อยากใหเรารับอิลสลามก่อนค่อยบอก เพราะหลักศาสนา บลาๆที่เขาจะอ้าง เราก็โอเคร ตอนไปบ้านเขาก็ไม่ได้เจอภรรยาเขาไง เป็นตามบอกเป๊ะ 😭 แต่พอได้คุยกับภรรยาเขาจริงๆสิ่งที่เขาพูดมาทั้งหมดโกหกหมดไม่มีเรื่องไหนจริงเลย เราเสียใจมาก ว่าทำไมต้องหลอกกันได้เยอะขนาดนี้ หลอกทั้งเราทั้งภรรยา สุดมาก เราเลยตัดสินใจเลิกบอกเลิก แต่ตอนนี้เขายังมาขอโอกาสบอกเลิกกับเราไม่ได้ และไม่สามารถเลิกกับเราได้เหมือนกัน คืออยู่ในสถานะที่เจ็บสุดๆ (เดี๋ยวมาเล่าต่อนะ)
ประสบการณ์โดนผู้ชายมุสลิมหลอกมา2ปี หลอกครั้งเดียวเป็นร้อยเรื่อง😭
หลอกได้แนบเนียนจนเราไม่สงสัยใดๆเลย
เรื่องของเราคือเราได้รู้จักผู้ชายคนนี้ผ่านแอ็ปหาคู่ เป็นคนมุสลิม ทำงานดีเป็นล่ามอารบิกพูดภาษาอาหรับได้อยู่โรงพยาบาลตาชื่อดังย่านอโศก แรกๆที่เราคุยกันก็คุยกันในแบบเพื่อนคุย นัดเจอกันกินกาแฟกันปกติที่ว่าง และเขาก็ไม่ได้บอกว่าเขาเป็นมุสลิมในตอนแรก เรามารู้ทีหลังจากที่เริ่มที่จะคบกันแล้ว
ตอนคุยก็มีการถามเรื่องส่วนตัวของกันและกันบ้าง เขาบอกเขาโสดไม่มีใคร บวกกับคุยกันถูกคอและเราก็โสดเลยขยับสถานะเป็นคนคุย แต่มันเหตุการณ์ที่ทำให้เรารู้สึกว่าเขาเป็นคนมุสลิมแน่(ซึ่งจำไม่ได้ละ) เราเลยถามเขาตรงๆ เลยว่าเป็นมุสลิมหรือเปล่าเขาก็ตกใจที่เราดูออก แต่เขาก็ยอมรับว่าใช่ เราก็บอกว่าทำไมไม่บอกแต่แรก เราจะได้ระวังเรื่องอาหารให้ คำตอบที่ได้คือเขากลัวเราไม่คุยต่อเลยไม่กล้าบอก เราก็ยังโลกสวยว่าไม่เห็นเป็นไรเลย ทุกศาสนาสอนให้คนเป็นดี (ด้วยความที่ชอบเขาไปแล้ว รับได้ทุกเรื่องอะนะ😅 ) และก็เริ่มคบกันปกติ กินข้าวเที่ยวคาเฟ่ พากันทำในสิ่งที่คนคบกันทำ จนคบกันได้ประมาณ5-6เดือน อยู่เฉยๆเขามาบอกเราว่า เขามีเรื่องหนึ่งที่ถ้าเธอรู้เธออาจจะเสียใจนะ เลยถามว่าเรื่องอะไร? เขาบอกเขาเคยแต่งงานมาแล้ว1ครั้งแต่ตอนนี้แยกกันอยู่ ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์หรือมีอะไรเลยในฐานะสามีภรรยา เขาก็อยู่บ้านเขา เราก็อยู่บ้านเรา แต่ที่ไม่สามารถทำเรื่องหย่าได้เพราะพ่อได้เราไม่อยากให้หย่า
ถามว่ารู้แบบนี้เชื่อมั้ย? ไม่เลยค่ะ เราก็คิดว่าเราก็ไม่โง่อะ ฉลาดพอตัว หลังจากวันนั้นเราเริ่มเช็คเขาผ่านเฟสบุ๊ค ผ่านไลน์ มีการคุยกันบ้างแต่ก็คุยในเรื่องผิวเผินแบบที่เขาบอกเราจริงๆ เขาก็ทำตัวปกติ โทรหาวีดีโอคอล อยู่ในห้องที่บ้าน ที่ทำงาน โทรวีดีโอคอลตลอด และมารับมาส่งไม่เคยหายไปเลยจนเราเชื่อสนิทใจว่าเป็นเรื่องจริง จนเขามาขอให้เราเข้าอิสลามเพื่อจะได้แต่งานนกันให้ถูกต้องตามศาสนา เราปฏิเสธเพราะเรายังตะหงิดๆกับเรื่องการแต่งงานครั้งแรกของเขาอยู่ แต่ก็คบกันปกติต่อไปจนปีกว่าๆเกือบจะปีครึ่ง เขาบอกว่าเขาต้องพาคนไข้ที่เป็นชาวอาหรับไปเที่ยวบ้านที่อยุธยา แต่จะยืมรถภรรยาในนามมาใช้และให้เขาขับให้หน่อย เราก็โอเครไม่ติดใจอะไรเพราะเรื่องทำมาหากินมันสำคัญ แต่พอถึงวันต้องไปเขาก็เแต่พาคนตอบบ้างไม่ตอบบ้าง จนเราสงสัยเลยทักหา ตอบกลับว่าพาลูกค้ามากินข้าว เดี๋ยวกลับ ส่วนคนนั้นกลับไปแล้ว และก็หายไปถึงเช้า ทักมาบอกว่าถึงมี่ทำงานแล้วบลาๆ ปกติมาก แต่เราอะเอ๊ะๆละ เลยถามแบบคาดคั้นปนขู่ จนยอมรับว่าพาภรรยาไปนอนมีเพศสัมพันธ์กัน เรายอมรับว่าโกรธมาก แต่ก็พยายามถามว่าทำไมอะไรยังไง แต่เขาไม่ตอบเราเลยขอเบอร์ภรรยาเขาเพื่ออยากรู้ความเป็นจริง ตอนแรกก็ไม่ให้พอขู่ว่างั้นเดี๋ยวไปถามถึงที่ เลยให้มา พอเราโทรไปคุยกับภรรยาเขาสิ่งที่ได้ฟังคืออึ้งมาก ขาชาแขนชาไปหมด เขาเล่ให้ฟังงว่าเขาไม่เคยเลิกกันกับสามีเลย ไม่เคยห่างกันแม้แต่วันเดียว เราถึงกับร้องเห้ยเลยยยย เพราะระยะเวลาเกือบ2ปีเขาปกติมาก บ้านเขาเราก็ไป พ่อแม่เขาเราก็เจอ แต่เขาบอกพ่อแม่เขาว่าเราเป็นเพื่อน โดยให้เหตุผลว่า อยากใหเรารับอิลสลามก่อนค่อยบอก เพราะหลักศาสนา บลาๆที่เขาจะอ้าง เราก็โอเคร ตอนไปบ้านเขาก็ไม่ได้เจอภรรยาเขาไง เป็นตามบอกเป๊ะ 😭 แต่พอได้คุยกับภรรยาเขาจริงๆสิ่งที่เขาพูดมาทั้งหมดโกหกหมดไม่มีเรื่องไหนจริงเลย เราเสียใจมาก ว่าทำไมต้องหลอกกันได้เยอะขนาดนี้ หลอกทั้งเราทั้งภรรยา สุดมาก เราเลยตัดสินใจเลิกบอกเลิก แต่ตอนนี้เขายังมาขอโอกาสบอกเลิกกับเราไม่ได้ และไม่สามารถเลิกกับเราได้เหมือนกัน คืออยู่ในสถานะที่เจ็บสุดๆ (เดี๋ยวมาเล่าต่อนะ)