ทำไมคนส่วนใหญ่ ถึงไม่ชอบใช้ชีวิตสมรรถะ
สังคมทุกวันนี้ มักจะวัดคุณค่าของคนจากสิ่งภายนอก คือ ขอให้ร่ำรวย มีทรัพย์สินตางๆมากมาย ก็จะดูเป็นคนน่านับถือ น่าคบหา แล้วก็ด้วยที่คนส่วนใหญ่ มีค่านิยมแบบนี้ มันก็เลยทำให้หลายคน ติดอยู่กับการแสวงหาสิ่งต่างๆมากมาย เพื่อให้ตนเองนั้น ดูเป็นคนมีค่ามากขึ้น แล้วก็เพื่อจะได้รับการยอมรับจากสังคม
มันก็เลยทำให้คนมีความทะเยอะทะยาน ติดในการแข่งขับ ชิงดีชิงเด่น เพื่อที่จะกอลโกบสิ่งต่างๆ มาให้ตนเองมากขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นสิ่งเหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆ เช่น
1.พ่อแม่หลายคน ที่ไม่ได้มีฐานะ แต่พอได้คุยกับ ลูกคนที่เรียนนานาชาติ หรือ ต่างประเทศก็เกิดอาการเสียหน้า เลยกลับไปด่า ลูกแท้ๆตัวเอง ผลก็เลยทำให้ แทนที่จะเรียนได้ดีตามศักยภาพ กลับกลายเป็นว่า ยิ่งแย่ลงกว่าเดิม เพราะพ่อแม่ เอาแต่ไปเปรียบเทียบกับลุกคนอื่น ทั้งที่ระบบการศึกษาไทย อาจจะสู้ต่างประเทศไม่ได้ก็จริง แต่มันก็ไม่ได้แย่ถึงขนาด เรียนไปทำไมไม่รู้
2.หลายคน ดิ้นรน ที่จะมีรถใหม่สักคัน เพื่อเอามาไว้ สร้างจุดยืน ในสังคม แต่ก็ต้องเครียดและกังวล เกี่ยวกับ การผ่อนชำระ และก็ต้องเครียดกับค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น ถึงจะบอกว่า มีรถสะดวกไปเที่ยวไหนก็ได้ แต่ทุกๆครั้งที่ไป ก็หมดทีเป็นหลายพันนะ
3.หลายคนต้องเป็นทุกข์ เพราะเห็นคนอื่น มีคอนโด มีบ้านใหม่ไปแล้ว แต่ตนเองยังไม่มี ซึ่งความจริงนั้น เหตุผลที่คนบางกลุ่ม สามารถมีอสังหา ใหม่ๆได้ก่อนใคร ส่วนนึงก็เพราะที่บ้านมีฐานะอยู่แล้ว ผลก็เลยทำให้คนอีกหลายคน ที่มีที่อยู่หลับนอน ปกติ ซึ่งมันก็ยังใช้ได้ แต่อาจจะแคบและเก่าบ้าง กลับรู้สึกไม่พอใจกับชีวิต เป็นทุกข์ และ รู้สึกตนเองด้อยค่าขึ้นมา เพราะไม่มีปัญญามีแบบเขาได้ ทั้งที่จริง ภาพลวงตาที่เห็นนั้น หลายๆคนก็เครียด ที่จะต้องเสียเงินก้อนใหญ่ทุกๆเดือน แล้วก็ยังไม่ได้สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของ จนกกว่าจะผ่อนชำระค่างวดหมด ซึ่งก็กินเวลาถึง 30 ปี
4.บางคนปกติ ก็มีชีวิตสุขสบายใจอยู่แล้ว แต่ก็้ต้องมาทุกข์ เวลาที่เห็นคนอัพ ภาพ ตอนที่ตนเองไปเที่ยวต่างประเทศ แล้วเขาก็มาพูดข่มๆ ไม่คิดจะไปบ้างหรอ มันก็เลยทำให้เขาไม่พอใจกับชีวิตปกติขึ้นมา พยายามดิ้นรน ถีบตัวเอง หาทางไปต่างประเทศซักครั้ง ผลสุดท้ายก็ไปได้แค่ ชะโงกทัวร์ แล้วก็ต้องมานั่งเสียดายเงินทองที่หายไปมากมาย เพราะอารมณ์ชั่ววูบ ไม่มีสติ พอใจสิ่งที่ตนเองมี
5.คนที่เป็นพนักงานออฟฟิต ก็มักจะหลงติดกับ ลาภ ยศ ตำแหน่ง เงินโบนัส ผลก็เลยทำให้ตัวเอง ต้องติดอยู่กับองค์ เพราะหวังว่า จะได้เงินเดือนมากขึ้น และ เขาจะจ้างตลอด ผลก็เลยทำให้สังคมออฟฟิต มีแต่หน้ากาก ใครมีผลประโยชน์ก็จะคุยดีด้วย แล้วก็ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ตนเองอยู่สูงที่สุด แต่ก็เป็นได้แค่พนักงานเท่านั้น ไม่ได้ใหญ่กว่าเจ้าของ แล้วพออายุมาก ก็ถูกเขาบีบออก แล้วก็ออกไปแบบไม่รุ้จะทำยังไงกับชีวิตต่อไปดีด เนื่องจาก วันๆเอาแต่คิดจะทำยอด เพื่อหวังจะได้โบนัส
6.ในเรื่องความรักก็เช่นกัน คนมักจะมองกันที่หน้าตา หล่อ สวย รวย ตอนแรกๆพอใจอะไรก็ดีหมด แต่พอความพอใจหมดลง ความจริงต่างๆก็ปรากฎ จึงไม่แปลกใจหรอก ที่จะเห็น คน มักจะทอดทิ้งกันตอนยามยาก มีปัญหา นัน่ก็เพราะที่เขามารัก คุยด้วยตอนแรกนั้น เขามาเพราะเขาหวังผลประโยชน์จากอีกฝ่าย แต่พออีกฝ่ายไม่มีให้แล้วเขาก็ไปไง แล้วคนส่วนมากก็คิดไปเองว่า ความรัก ก็คือ การไปกินข้าว ดูหนัง เที่ยว ซึ่งมันไม่ใช่
7.พวกที่ติดในกายเนื้อ ผลก็คือ มันก็ชอบเที่ยวไปเรื่อย แม้จะเสียเงิน หรือ เสี่ยงติดโรคก็ตาม พูดมากมันก็ย้อนทำไงอ่ะ เงินผม
แล้วชีวิตสมรรถะ มันคือ อะไรแน่หล่ะ ชีวิตทีว่า ก็คือ การกินใช้ เท่าที่จำเป็น เรียบง่าย แน่นอน มันก็ไม่ได้หมายถึงว่ารวย นอนสบาย กินดี แต่มันหมายถึงการที่รู้จักพอใจ ในชีวิต นั่นเอง อย่าลืมนะว่า ดิ้นรนมากมาย สุดท้ายก็เอาอะไรไปไม่ได้สักอย่าง บางคนไม่เคยทำความเข้าใจเรื่องนี้เลย แม้กระทั่งตอนใกล้จะตายแล้ว
ทำไมคนส่วนใหญ่ ถึงไม่ชอบใช้ชีวิตสมรรถะ
สังคมทุกวันนี้ มักจะวัดคุณค่าของคนจากสิ่งภายนอก คือ ขอให้ร่ำรวย มีทรัพย์สินตางๆมากมาย ก็จะดูเป็นคนน่านับถือ น่าคบหา แล้วก็ด้วยที่คนส่วนใหญ่ มีค่านิยมแบบนี้ มันก็เลยทำให้หลายคน ติดอยู่กับการแสวงหาสิ่งต่างๆมากมาย เพื่อให้ตนเองนั้น ดูเป็นคนมีค่ามากขึ้น แล้วก็เพื่อจะได้รับการยอมรับจากสังคม
มันก็เลยทำให้คนมีความทะเยอะทะยาน ติดในการแข่งขับ ชิงดีชิงเด่น เพื่อที่จะกอลโกบสิ่งต่างๆ มาให้ตนเองมากขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นสิ่งเหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆ เช่น
1.พ่อแม่หลายคน ที่ไม่ได้มีฐานะ แต่พอได้คุยกับ ลูกคนที่เรียนนานาชาติ หรือ ต่างประเทศก็เกิดอาการเสียหน้า เลยกลับไปด่า ลูกแท้ๆตัวเอง ผลก็เลยทำให้ แทนที่จะเรียนได้ดีตามศักยภาพ กลับกลายเป็นว่า ยิ่งแย่ลงกว่าเดิม เพราะพ่อแม่ เอาแต่ไปเปรียบเทียบกับลุกคนอื่น ทั้งที่ระบบการศึกษาไทย อาจจะสู้ต่างประเทศไม่ได้ก็จริง แต่มันก็ไม่ได้แย่ถึงขนาด เรียนไปทำไมไม่รู้
2.หลายคน ดิ้นรน ที่จะมีรถใหม่สักคัน เพื่อเอามาไว้ สร้างจุดยืน ในสังคม แต่ก็ต้องเครียดและกังวล เกี่ยวกับ การผ่อนชำระ และก็ต้องเครียดกับค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น ถึงจะบอกว่า มีรถสะดวกไปเที่ยวไหนก็ได้ แต่ทุกๆครั้งที่ไป ก็หมดทีเป็นหลายพันนะ
3.หลายคนต้องเป็นทุกข์ เพราะเห็นคนอื่น มีคอนโด มีบ้านใหม่ไปแล้ว แต่ตนเองยังไม่มี ซึ่งความจริงนั้น เหตุผลที่คนบางกลุ่ม สามารถมีอสังหา ใหม่ๆได้ก่อนใคร ส่วนนึงก็เพราะที่บ้านมีฐานะอยู่แล้ว ผลก็เลยทำให้คนอีกหลายคน ที่มีที่อยู่หลับนอน ปกติ ซึ่งมันก็ยังใช้ได้ แต่อาจจะแคบและเก่าบ้าง กลับรู้สึกไม่พอใจกับชีวิต เป็นทุกข์ และ รู้สึกตนเองด้อยค่าขึ้นมา เพราะไม่มีปัญญามีแบบเขาได้ ทั้งที่จริง ภาพลวงตาที่เห็นนั้น หลายๆคนก็เครียด ที่จะต้องเสียเงินก้อนใหญ่ทุกๆเดือน แล้วก็ยังไม่ได้สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของ จนกกว่าจะผ่อนชำระค่างวดหมด ซึ่งก็กินเวลาถึง 30 ปี
4.บางคนปกติ ก็มีชีวิตสุขสบายใจอยู่แล้ว แต่ก็้ต้องมาทุกข์ เวลาที่เห็นคนอัพ ภาพ ตอนที่ตนเองไปเที่ยวต่างประเทศ แล้วเขาก็มาพูดข่มๆ ไม่คิดจะไปบ้างหรอ มันก็เลยทำให้เขาไม่พอใจกับชีวิตปกติขึ้นมา พยายามดิ้นรน ถีบตัวเอง หาทางไปต่างประเทศซักครั้ง ผลสุดท้ายก็ไปได้แค่ ชะโงกทัวร์ แล้วก็ต้องมานั่งเสียดายเงินทองที่หายไปมากมาย เพราะอารมณ์ชั่ววูบ ไม่มีสติ พอใจสิ่งที่ตนเองมี
5.คนที่เป็นพนักงานออฟฟิต ก็มักจะหลงติดกับ ลาภ ยศ ตำแหน่ง เงินโบนัส ผลก็เลยทำให้ตัวเอง ต้องติดอยู่กับองค์ เพราะหวังว่า จะได้เงินเดือนมากขึ้น และ เขาจะจ้างตลอด ผลก็เลยทำให้สังคมออฟฟิต มีแต่หน้ากาก ใครมีผลประโยชน์ก็จะคุยดีด้วย แล้วก็ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ตนเองอยู่สูงที่สุด แต่ก็เป็นได้แค่พนักงานเท่านั้น ไม่ได้ใหญ่กว่าเจ้าของ แล้วพออายุมาก ก็ถูกเขาบีบออก แล้วก็ออกไปแบบไม่รุ้จะทำยังไงกับชีวิตต่อไปดีด เนื่องจาก วันๆเอาแต่คิดจะทำยอด เพื่อหวังจะได้โบนัส
6.ในเรื่องความรักก็เช่นกัน คนมักจะมองกันที่หน้าตา หล่อ สวย รวย ตอนแรกๆพอใจอะไรก็ดีหมด แต่พอความพอใจหมดลง ความจริงต่างๆก็ปรากฎ จึงไม่แปลกใจหรอก ที่จะเห็น คน มักจะทอดทิ้งกันตอนยามยาก มีปัญหา นัน่ก็เพราะที่เขามารัก คุยด้วยตอนแรกนั้น เขามาเพราะเขาหวังผลประโยชน์จากอีกฝ่าย แต่พออีกฝ่ายไม่มีให้แล้วเขาก็ไปไง แล้วคนส่วนมากก็คิดไปเองว่า ความรัก ก็คือ การไปกินข้าว ดูหนัง เที่ยว ซึ่งมันไม่ใช่
7.พวกที่ติดในกายเนื้อ ผลก็คือ มันก็ชอบเที่ยวไปเรื่อย แม้จะเสียเงิน หรือ เสี่ยงติดโรคก็ตาม พูดมากมันก็ย้อนทำไงอ่ะ เงินผม
แล้วชีวิตสมรรถะ มันคือ อะไรแน่หล่ะ ชีวิตทีว่า ก็คือ การกินใช้ เท่าที่จำเป็น เรียบง่าย แน่นอน มันก็ไม่ได้หมายถึงว่ารวย นอนสบาย กินดี แต่มันหมายถึงการที่รู้จักพอใจ ในชีวิต นั่นเอง อย่าลืมนะว่า ดิ้นรนมากมาย สุดท้ายก็เอาอะไรไปไม่ได้สักอย่าง บางคนไม่เคยทำความเข้าใจเรื่องนี้เลย แม้กระทั่งตอนใกล้จะตายแล้ว