ตกหลุมรักเกาะช้างเข้าแล้ว ทำไงดี ? ใครอยากไปก็ตามมา
ต้องบอกก่อนว่าเป็นกระทู้แรกที่เขียน อาจจะยังเขียนไม่เก่งอะไรนะคะ แต่ตั้งใจอยากแชร์ความประทับใจ แบ่งบันช่วงเวลาแห่งความสุขกับทุกๆคน เผื่อใครที่กำลังมีแพลนไปเที่ยวรับลมทะเลแบบชิลๆ ไม่ชอบแย่งกันเที่ยว ไม่ชอบความวุ่นวาย บรรยากาศดีๆ
เกาะช้างเป็นอีก 1 ตัวเลือกที่อยากให้ทุกคนมาสัมพัสประสบการณ์ด้วยกัน
ทริปนี้เราเดินทางกันไปแบบที่ไม่มีใครเคยมาเกาะช้างเลย การเที่ยวเลยเป็นไปอย่างไม่มีแพลนอะไรมาก ไปเรื่อยๆ เที่ยวเรื่อยๆ ไปไหนก็ถ่ายรูปเก็บไว้ ไม่มีใครถ่ายให้ก็สลับถ่ายกันเอง เจอไรก็โน๊ตไว้
การเดินทาง
ต่อที่ 1 : ขึ้นรถที่ท่ารถตู้ข้างเซนจูรี่ ซอยข้างร้านเบอเกอรี่ ซุ้มที่ไป จ.ตราดจะอยู่ในสุด ค่าตั่วรถจะอยู่ที่ราคา 320 บาท/คน รถออกทุก ชม. รถหมด 1 ทุ่มนะจ้ะ ระยะเวลาการเดินทาง 4 ชม. ถึงท่ารถที่ จ. ตราด
ต่อที่ 2 : ท่ารถที่จ. ตราด ต่อรถสองแถวไปท่าเทียบเรือ ในส่วนนี้จะคิดค่ารถสองแถว + ค่าเรือข้ามไปเกาะช้างไปกลับรวม 150 บาท/คน เดินทางประมาณ 45 นาที ก็จะถึงท่าเทียบเรือ
ต่อที่ 3 : รอเรือที่ท่าเทียบเรือเพื่อข้ามฝากไปยังท่าเรือเฟอร์รี่ เกาะช้าง 30 นาทีก็ถึงพอดี
ต่อที่ 4 : จากท่าเรือเฟอร์นี่เกาะช้าง ก็จะเป็นด่านสุดท้ายที่จะเข้าแหล่งท่องเที่ยวจ้า ค่ารถสองแถว 50 บาท/คน เดินทาง 30 นาทีก็ถึง แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโรงแรมที่เข้าพักด้วยจ้าว่าลึกแค่ไหน
บรรยากาศรอบเกาะโดยทั่วไป
ค่อนข้างเจริญและมีสิ่งเอื้ออำนวยเยอะค่ะ เหมือนเป็นตำบลย่อยๆบนจังหวัดได้เลย มีแมคโคร โลตัส เซเว่น แหล่งบรรเทิง ร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน และที่ชอบสุดคือร้านหมูกระทะในราคา 199 บาท ก็มี บร๊ะเจ้า! ถูกกว่าที่ กทม. อีกค่ะคุณขา ที่สำคัญอาหารโดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น ส้มตำ ของกินเล่น ราคาพอๆกับ กทม. เลย คือชอบตรงนี้ ไม่ได้ชาร์ทเวอร์วังอะไร ส่วนอาหารทะเลก็ราคาปกติคะ ใกล้ทะเลก็จริงแต่ว่าก็ไม่ได้ถูกอะไรมาก ราคาสมเหตุสมผล
Day 1
- หลังจากเชคอินที่โรมเเรม ปลาโลมารีสอร์ทแล้ว ก็เสาะหารถมอเตอร์ไซต์ไปขับแว๊นซ์ชิลๆกันบนเกาะ เพราะที่นี่เค้ามีบริการเช่ามอเตอร์ไซต์ด้วยแหละ 200 บาท/ คัน /วัน เค้าจะเติมน้ำมันให้เต็มถัง แต่ตอนมาคืนรถต้องเติมคืนให้เต็มถังเหมือนเดิมแค่นี้เอง
- เอาล่ะ ไปแว๊นซ์ขับเลาะไปตามเส้นทางของเกาะกันต่อเลย แต่คือจะบอกว่า ถ้าใครมานี่ เอาเสื้อคลุมกันมาด้วยนะจ้ะ เพราะเกาะกว้าง เกาะใหญ่ สมกับชื่อเขานั่นแหละค่า เดี่ยวจะดำก่อนไปลงทะเลกันสะก่อน
- พอขับไปเรื่อยๆบนเกาะจะมีสถานที่ท่องเที่ยวอีก ไม่ว่าจะเป็นจุดชมวิวไก่แจ้ และน้ำตกคลองพลู น้ำตกคลองนนทรี น้ำตกธารมะยม แต่ทั้งหมดที่กล่าวมาคือ แห๊วค่า ไปไม่ทันเลย เพราะเค้าจะปิดให้เข้าไปชมตอนประมาณ 5 โมงเย็น ใครมาไม่ทันเหมือนเราก็หาเวลามาอีกทีวันอื่นก็ได้จ้า
- นึกขึ้นได้ว่า พรุ่งนี้เราควรจะต้องไปดำน้ำทริป 4 เกาะกันดีกว่า ไหนๆก็มาแล้ว ไปดูปลา ดำน้ำ ชูปีดูดีป๊า ลั๊ลลากันดีกว่า ถามราคาที่โรมแรงนางสุทธิราคาให้ที่ 800 บาท/คน เลยมีอาการต่อต้านในใจว่ามันน่าจะมีถูกกว่านี้ได้ จึงตัดสินใจเพิ่งอากู๋เลย เสริชๆๆสุดท้ายมาเจอที่ "ศรัทธาทัวร์" ราคานางน่ารักมาก 600 บาท/คน มีอาหารกลางวันให้ด้วย คือดี แถมตอนเช้านางจะเอารถสองแถวมารับที่โรมแรมด้วย จัดไปอย่าให้เสียค่ะคุณศรัทธาขา จองทันทีเลย
- พอฟ้าเริ่มมืด ความหิวก็เริ่มเข้าครอบงำ ระหว่างทางกลับไปโรงแรม จะมีตลาดตั้งขายของกินริมถนนยาวกว่า 500 เมตรเต็มไปหมด บรรดาลฝรั่งมังค่า คนไทย จะเข้ามาสิงสถิตกันย่านนี้เยอะมาก กลิ่นควัน และสีสันของอาหาร มันจะดึงคุณเข้าไปหามันโดยที่คุณไม่รู้ตัวเลย ( อันนี้ขอเตือนไว้ก่อน 5555 )
Day 2 :
- รถสองแถวจะมารับหน้าโรมแรมประมาณ 8 - 9 โมง สแตนบายรอหน้าโรมแรมกันอย่างดี๊ด๊า โบกกันแดดรอกันได้เลย วันนี้แหละวันเกรียม วันไหม้ของเรา อย่าไปกลัวคะ นั่งรถมาไกล ข้ามจังหวัด ข้ามเกาะ ข้ามทะเล นั่งสองแถวกันมากี่ต่อแล้ว ไม่ไปคือไม่คุ้มค่ะ ดำก็ดำค่ะ เรามาไกลเกินกว่าจะมานั่งดูชาวบ้านเล่นน้ำเฉยๆ ( ท่องเอาไว้ เพราะเราใช้ความคิดนี้เตือนตัวเอง 5555 )
- บรรยากาศบนรถสองแถวให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บนรถไฟเหาะ และอยู่โรงยิมไปพร้อมกัน คุณจะต้องฝึกกล้ามแขนของคุณไว้ให้พร้อม เพราะเส้นทางที่จะไปท่าน้ำ ดำน้ำ ค่อนข้างโหด มีโค้งที่เป็นรูปตัว s แถมลาดและชันอยู่เป็นระยะๆ ถ้าคุณคิดจะหลับเอาแรง คุณตัดความคิดนั้นออกไปเลยคะ ไม่มีวันเกิดขึ้นได้ 5555555
- พอไปถึงก็ขึ้นเรือพี่ศรัทธากันไปโล๊ด คนเต็มเรือเลย สนุกครึกคื้นดีนะ มีขนม อาหารขายบนเรือด้วย ตามทริปเพคเกตแล้ว นางจะพาไป ทั้งหมด 4 เกาะ แวะประมาณ 45 นาที
- พักเที่ยงนางมีอาหารกลางวันให้ มีข้าวและกับข้าวให้ 2-3 อย่าง รสชาติโอเค ไม่ใช่บุฟเฟ่หรูหราอลังการอะไร แต่ถึงนาทีนั้นทุกคนจะอร่อยกับอาหารมื้อนี้มาก เพราะมันเหนื่อยและหิว อะไรก็ได้ ยัดแหลก ไม่ว่ากันค่ะ
- ในส่วนของน้ำทะเลนั้น ไม่ต้องพูดถึงค่ะ งานดี มีความใสปนเขียวอมฟ้า มีน้องปลาแหวกว่ายน่ารักๆให้เห็นกันขัดๆเลย ใครพกกล้อง Gopro มาก็ยิ่งได้เปรียบเลยค่ะ เพราะภาพที่ได้คงสวยมาก
- พอตกเย็นพี่ศรัทธานางก็ใจดี เดินมาเสริฟบาบีคิวไก่ ข้าวโพด แตงโม สัปปะรส ตบท้ายให้ด้วย น่ารักมากอะ เรียกได้ว่าพี่ยก พี่ขนอะไรมา หยิบหมดค่ะ หิวมาก เพราะเล่นน้ำมาเหนื่อยๆ
- จบทริปเกาะ สูญเสียพลังงานกันไปเยอะแล้ว ก็ต้องออกหาของกินกันอีกเช่นกัน ด้วยความที่ไม่มีแพลน ไม่ได้อ่านรีวิวของใครมาเลย เพื่อนก็เลยใช้งานอากู๋ต่อเสริชหาร้านอาหารทะเลเด็ดๆ แล้วมุ่งหน้าไปที่ร้านหนองบัว ซีฟู๊ด รสชาติดีเลยทีเดียว เนื้อปลา เนื้อกุ้ง เนื้อปลาหมึก สดใหม่มาก เหมือนเพิ่งขึ้นมาจากฝั่งกันเลยทีเดียว ถ้าใครไปแนะนำไปให้กินกันที่นี่
- กินเสร็จ ก็ยังไม่ง่วงนะ พลังล้นเหลือ อยากไปนั่งชิวริมทะเลก็จัดไป เดินวนหาทำเลนั่งจิบเบียร์ เล่นกีต้าร้องเพลง ท้าลม ท้าคลื่นกันก็ชิลๆไปอีกแบบ หมดแรงอีกทีตอน 5 ทุ่ม คือเข้านอนเลย
Day 3 :
- หลังจากเชคเอ๊าก็มีความพยายามที่จะอยากตื่นเช้าเพื่อไปลุยตามแหล่งท่องเที่ยวภายในเกาะต่อ แต่พอดีตื่นสาย ( อันนี้อย่าเอาเป็นแบบอย่าง ) เลยไม่ได้ไปไหนต่อ นอกจากตะเวนถ่ายรูปอยู่ตามริมหาดทรายขาว ( ซึ่งมันก็สวยมากๆอยู่แล้ว ) ถ่ายไปถ่ายมา ก็เพลินไปจนถึงเที่ยงเลย
- เวลาออกหาอาหารจึงได้เริ่มต้นขึ้น ขับรถเเว๊นซ์ไปเรื่อยๆ ไปสะดุดตาเข้ากับร้านบะหมี่เกี๊ยวที่มีภาพโฆษณาที่ชวนเชื่อ ยั้วน้ำลายมาก หมูแดง และเป็ดย่าง สีแดงได้ใจ ไม่รีรอใดๆ ไม่ผึ่งอากุ๋ใดๆ เดินเข้าไปตามที่หัวใจเรียกร้องเลย ,, ไม่นานพนักงานก็มาเสริฟ เห้ย! คือน่ากินอะ หน้าตามันคล้ายกับในรูปเลย ไม่โฆษณาเกินจริงแต่อย่างใด นางน่ากินจริงๆ พอได้กินจริงๆก็รู้เลยว่า มันไม่ทำให้ผิดหวัง นางผสมซอสหมูแดงมาให้ฉ่ำเลย ติดใจมาก อยากให้ซ้อเจ้าของร้านแกแบกไปขายที่ กทม.มาก สัญญาว่าจะเป็นลูกค้าประจำให้เลย
- ช่วงสุดท้ายของเดินทางกลับ ก็ยังไม่ลืมเก็บภาพบรรยากาศบนเรือมาฝากกัน เผื่อเป็นการอำลาทริปดีๆอย่างนี้
สุดท้ายนี้ อยากฝากถึงทุกคนที่กำลังเหนื่อยๆ และอยากหาวันเวลาดีๆในการพักผ่อน จขกท. ชวนมาเที่ยวเกาะช้าง (แบบไม่ได้ค่าหน้าม้าใดๆ) เหนื่อยนักก็พักหน่อย ให้รางวัลชีวิตกันเนอะ เอาความรู้สึกแย่ๆไปทิ้งทะเลกันสัก 2-3 วันมันก็ดีกันไปอีกแบบ อย่างน้อยมันก็ทำให้เราไม่คิดถึงมันได้ชั่วขณะ มีอะไรให้ตื่นเต้น มีอะไรทำ และน่าจดจำอีกมากมาย และที่สำคัญ ทริปจะสนุกและมีความสุขไม่ได้ ถ้าเราไม่ได้ไปกับคนที่เรารัก ,,
หิ้วกล้องของคุณไว้ จับมือคนที่ใช่ แล้วลุยไปด้วยกันนะคะ

หิ้ ว ก ล้ อ ง - ห อ บ หั ว ใ จ - แ ล้ ว ไ ป เ ก า ะ ช้ า ง ( บันทึกการเดินทาง + รีวิวรูปเยอะ )
เกาะช้างเป็นอีก 1 ตัวเลือกที่อยากให้ทุกคนมาสัมพัสประสบการณ์ด้วยกัน
การเดินทาง
ต่อที่ 1 : ขึ้นรถที่ท่ารถตู้ข้างเซนจูรี่ ซอยข้างร้านเบอเกอรี่ ซุ้มที่ไป จ.ตราดจะอยู่ในสุด ค่าตั่วรถจะอยู่ที่ราคา 320 บาท/คน รถออกทุก ชม. รถหมด 1 ทุ่มนะจ้ะ ระยะเวลาการเดินทาง 4 ชม. ถึงท่ารถที่ จ. ตราด
ต่อที่ 2 : ท่ารถที่จ. ตราด ต่อรถสองแถวไปท่าเทียบเรือ ในส่วนนี้จะคิดค่ารถสองแถว + ค่าเรือข้ามไปเกาะช้างไปกลับรวม 150 บาท/คน เดินทางประมาณ 45 นาที ก็จะถึงท่าเทียบเรือ
ต่อที่ 3 : รอเรือที่ท่าเทียบเรือเพื่อข้ามฝากไปยังท่าเรือเฟอร์รี่ เกาะช้าง 30 นาทีก็ถึงพอดี
ต่อที่ 4 : จากท่าเรือเฟอร์นี่เกาะช้าง ก็จะเป็นด่านสุดท้ายที่จะเข้าแหล่งท่องเที่ยวจ้า ค่ารถสองแถว 50 บาท/คน เดินทาง 30 นาทีก็ถึง แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโรงแรมที่เข้าพักด้วยจ้าว่าลึกแค่ไหน
บรรยากาศรอบเกาะโดยทั่วไป
ค่อนข้างเจริญและมีสิ่งเอื้ออำนวยเยอะค่ะ เหมือนเป็นตำบลย่อยๆบนจังหวัดได้เลย มีแมคโคร โลตัส เซเว่น แหล่งบรรเทิง ร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน และที่ชอบสุดคือร้านหมูกระทะในราคา 199 บาท ก็มี บร๊ะเจ้า! ถูกกว่าที่ กทม. อีกค่ะคุณขา ที่สำคัญอาหารโดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น ส้มตำ ของกินเล่น ราคาพอๆกับ กทม. เลย คือชอบตรงนี้ ไม่ได้ชาร์ทเวอร์วังอะไร ส่วนอาหารทะเลก็ราคาปกติคะ ใกล้ทะเลก็จริงแต่ว่าก็ไม่ได้ถูกอะไรมาก ราคาสมเหตุสมผล
Day 1
- หลังจากเชคอินที่โรมเเรม ปลาโลมารีสอร์ทแล้ว ก็เสาะหารถมอเตอร์ไซต์ไปขับแว๊นซ์ชิลๆกันบนเกาะ เพราะที่นี่เค้ามีบริการเช่ามอเตอร์ไซต์ด้วยแหละ 200 บาท/ คัน /วัน เค้าจะเติมน้ำมันให้เต็มถัง แต่ตอนมาคืนรถต้องเติมคืนให้เต็มถังเหมือนเดิมแค่นี้เอง
- เอาล่ะ ไปแว๊นซ์ขับเลาะไปตามเส้นทางของเกาะกันต่อเลย แต่คือจะบอกว่า ถ้าใครมานี่ เอาเสื้อคลุมกันมาด้วยนะจ้ะ เพราะเกาะกว้าง เกาะใหญ่ สมกับชื่อเขานั่นแหละค่า เดี่ยวจะดำก่อนไปลงทะเลกันสะก่อน
- พอขับไปเรื่อยๆบนเกาะจะมีสถานที่ท่องเที่ยวอีก ไม่ว่าจะเป็นจุดชมวิวไก่แจ้ และน้ำตกคลองพลู น้ำตกคลองนนทรี น้ำตกธารมะยม แต่ทั้งหมดที่กล่าวมาคือ แห๊วค่า ไปไม่ทันเลย เพราะเค้าจะปิดให้เข้าไปชมตอนประมาณ 5 โมงเย็น ใครมาไม่ทันเหมือนเราก็หาเวลามาอีกทีวันอื่นก็ได้จ้า
- นึกขึ้นได้ว่า พรุ่งนี้เราควรจะต้องไปดำน้ำทริป 4 เกาะกันดีกว่า ไหนๆก็มาแล้ว ไปดูปลา ดำน้ำ ชูปีดูดีป๊า ลั๊ลลากันดีกว่า ถามราคาที่โรมแรงนางสุทธิราคาให้ที่ 800 บาท/คน เลยมีอาการต่อต้านในใจว่ามันน่าจะมีถูกกว่านี้ได้ จึงตัดสินใจเพิ่งอากู๋เลย เสริชๆๆสุดท้ายมาเจอที่ "ศรัทธาทัวร์" ราคานางน่ารักมาก 600 บาท/คน มีอาหารกลางวันให้ด้วย คือดี แถมตอนเช้านางจะเอารถสองแถวมารับที่โรมแรมด้วย จัดไปอย่าให้เสียค่ะคุณศรัทธาขา จองทันทีเลย
- พอฟ้าเริ่มมืด ความหิวก็เริ่มเข้าครอบงำ ระหว่างทางกลับไปโรงแรม จะมีตลาดตั้งขายของกินริมถนนยาวกว่า 500 เมตรเต็มไปหมด บรรดาลฝรั่งมังค่า คนไทย จะเข้ามาสิงสถิตกันย่านนี้เยอะมาก กลิ่นควัน และสีสันของอาหาร มันจะดึงคุณเข้าไปหามันโดยที่คุณไม่รู้ตัวเลย ( อันนี้ขอเตือนไว้ก่อน 5555 )
Day 2 :
- รถสองแถวจะมารับหน้าโรมแรมประมาณ 8 - 9 โมง สแตนบายรอหน้าโรมแรมกันอย่างดี๊ด๊า โบกกันแดดรอกันได้เลย วันนี้แหละวันเกรียม วันไหม้ของเรา อย่าไปกลัวคะ นั่งรถมาไกล ข้ามจังหวัด ข้ามเกาะ ข้ามทะเล นั่งสองแถวกันมากี่ต่อแล้ว ไม่ไปคือไม่คุ้มค่ะ ดำก็ดำค่ะ เรามาไกลเกินกว่าจะมานั่งดูชาวบ้านเล่นน้ำเฉยๆ ( ท่องเอาไว้ เพราะเราใช้ความคิดนี้เตือนตัวเอง 5555 )
- บรรยากาศบนรถสองแถวให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บนรถไฟเหาะ และอยู่โรงยิมไปพร้อมกัน คุณจะต้องฝึกกล้ามแขนของคุณไว้ให้พร้อม เพราะเส้นทางที่จะไปท่าน้ำ ดำน้ำ ค่อนข้างโหด มีโค้งที่เป็นรูปตัว s แถมลาดและชันอยู่เป็นระยะๆ ถ้าคุณคิดจะหลับเอาแรง คุณตัดความคิดนั้นออกไปเลยคะ ไม่มีวันเกิดขึ้นได้ 5555555
- พอไปถึงก็ขึ้นเรือพี่ศรัทธากันไปโล๊ด คนเต็มเรือเลย สนุกครึกคื้นดีนะ มีขนม อาหารขายบนเรือด้วย ตามทริปเพคเกตแล้ว นางจะพาไป ทั้งหมด 4 เกาะ แวะประมาณ 45 นาที
- พักเที่ยงนางมีอาหารกลางวันให้ มีข้าวและกับข้าวให้ 2-3 อย่าง รสชาติโอเค ไม่ใช่บุฟเฟ่หรูหราอลังการอะไร แต่ถึงนาทีนั้นทุกคนจะอร่อยกับอาหารมื้อนี้มาก เพราะมันเหนื่อยและหิว อะไรก็ได้ ยัดแหลก ไม่ว่ากันค่ะ
- ในส่วนของน้ำทะเลนั้น ไม่ต้องพูดถึงค่ะ งานดี มีความใสปนเขียวอมฟ้า มีน้องปลาแหวกว่ายน่ารักๆให้เห็นกันขัดๆเลย ใครพกกล้อง Gopro มาก็ยิ่งได้เปรียบเลยค่ะ เพราะภาพที่ได้คงสวยมาก
- พอตกเย็นพี่ศรัทธานางก็ใจดี เดินมาเสริฟบาบีคิวไก่ ข้าวโพด แตงโม สัปปะรส ตบท้ายให้ด้วย น่ารักมากอะ เรียกได้ว่าพี่ยก พี่ขนอะไรมา หยิบหมดค่ะ หิวมาก เพราะเล่นน้ำมาเหนื่อยๆ
- จบทริปเกาะ สูญเสียพลังงานกันไปเยอะแล้ว ก็ต้องออกหาของกินกันอีกเช่นกัน ด้วยความที่ไม่มีแพลน ไม่ได้อ่านรีวิวของใครมาเลย เพื่อนก็เลยใช้งานอากู๋ต่อเสริชหาร้านอาหารทะเลเด็ดๆ แล้วมุ่งหน้าไปที่ร้านหนองบัว ซีฟู๊ด รสชาติดีเลยทีเดียว เนื้อปลา เนื้อกุ้ง เนื้อปลาหมึก สดใหม่มาก เหมือนเพิ่งขึ้นมาจากฝั่งกันเลยทีเดียว ถ้าใครไปแนะนำไปให้กินกันที่นี่
- กินเสร็จ ก็ยังไม่ง่วงนะ พลังล้นเหลือ อยากไปนั่งชิวริมทะเลก็จัดไป เดินวนหาทำเลนั่งจิบเบียร์ เล่นกีต้าร้องเพลง ท้าลม ท้าคลื่นกันก็ชิลๆไปอีกแบบ หมดแรงอีกทีตอน 5 ทุ่ม คือเข้านอนเลย
Day 3 :
- หลังจากเชคเอ๊าก็มีความพยายามที่จะอยากตื่นเช้าเพื่อไปลุยตามแหล่งท่องเที่ยวภายในเกาะต่อ แต่พอดีตื่นสาย ( อันนี้อย่าเอาเป็นแบบอย่าง ) เลยไม่ได้ไปไหนต่อ นอกจากตะเวนถ่ายรูปอยู่ตามริมหาดทรายขาว ( ซึ่งมันก็สวยมากๆอยู่แล้ว ) ถ่ายไปถ่ายมา ก็เพลินไปจนถึงเที่ยงเลย
- เวลาออกหาอาหารจึงได้เริ่มต้นขึ้น ขับรถเเว๊นซ์ไปเรื่อยๆ ไปสะดุดตาเข้ากับร้านบะหมี่เกี๊ยวที่มีภาพโฆษณาที่ชวนเชื่อ ยั้วน้ำลายมาก หมูแดง และเป็ดย่าง สีแดงได้ใจ ไม่รีรอใดๆ ไม่ผึ่งอากุ๋ใดๆ เดินเข้าไปตามที่หัวใจเรียกร้องเลย ,, ไม่นานพนักงานก็มาเสริฟ เห้ย! คือน่ากินอะ หน้าตามันคล้ายกับในรูปเลย ไม่โฆษณาเกินจริงแต่อย่างใด นางน่ากินจริงๆ พอได้กินจริงๆก็รู้เลยว่า มันไม่ทำให้ผิดหวัง นางผสมซอสหมูแดงมาให้ฉ่ำเลย ติดใจมาก อยากให้ซ้อเจ้าของร้านแกแบกไปขายที่ กทม.มาก สัญญาว่าจะเป็นลูกค้าประจำให้เลย
- ช่วงสุดท้ายของเดินทางกลับ ก็ยังไม่ลืมเก็บภาพบรรยากาศบนเรือมาฝากกัน เผื่อเป็นการอำลาทริปดีๆอย่างนี้
สุดท้ายนี้ อยากฝากถึงทุกคนที่กำลังเหนื่อยๆ และอยากหาวันเวลาดีๆในการพักผ่อน จขกท. ชวนมาเที่ยวเกาะช้าง (แบบไม่ได้ค่าหน้าม้าใดๆ) เหนื่อยนักก็พักหน่อย ให้รางวัลชีวิตกันเนอะ เอาความรู้สึกแย่ๆไปทิ้งทะเลกันสัก 2-3 วันมันก็ดีกันไปอีกแบบ อย่างน้อยมันก็ทำให้เราไม่คิดถึงมันได้ชั่วขณะ มีอะไรให้ตื่นเต้น มีอะไรทำ และน่าจดจำอีกมากมาย และที่สำคัญ ทริปจะสนุกและมีความสุขไม่ได้ ถ้าเราไม่ได้ไปกับคนที่เรารัก ,,
https://www.facebook.com/nacks.alzheimer หรือชมภาพในอัลบัมเพิ่มเติม https://www.facebook.com/nacks.alzheimer/media_set?set=a.10205956862784034.1073741879.1333832522&type=3&pnref=story