โรม ปูด ‘นาย บ.’ เอี่ยวทุจริตเรือดำน้ำ ข้องใจยอมแก้สัญญาใช้เครื่องยนต์จีน ยันทร.ต้องการเรือฟริเกตมากกว่า
https://www.matichon.co.th/politics/news_5313880
.

.
‘โรม’ ปูด พลเรือนอักษรย่อ ‘บ.’ เอี่ยวเบื้องหลังทุจริตจัดซื้อ ‘เรือดำน้ำ’ ข้องใจทำไมต้องรับเครื่องยนต์จีน ทั้งที่บริษัทจัดหาบอกใช้เครื่องยนต์เยอรมัน เผยกองทัพเรือต้องการฟริเกตมากกว่า ลั่น ‘ปชน.’ หนุนซื้ออาวุธป้องกันประเทศอย่างมียุทธศาสตร์ ไม่ใช่ซื้ออะไรก็ได้
.
เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 8 สิงหาคม ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐกิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีการจัดเซื้อเรือดำน้ำล่าสุดว่า เรื่องเรือดำน้ำเป็นมหากาพย์ เข้าใจว่าในสถานการณ์ที่มีวิกฤตของประเทศแบบนี้เรามีความจำเป็นที่ต้องมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ หากเกิดการขัดกันทางอาวุธเราจำเป็นจะต้องมีอย่างเพียงพอในการปกป้องประเทศและปกป้องคนไทย เราไม่ได้ต้องการที่จะรุกรานชาติอื่น ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากกรอบนี้ ความสำคัญอันดับแรกมาจากยุทธศาสตร์ แต่เมื่อพูดกถึงยุทธศาสตร์ก็ต้องพูดกันตรงไปตรงมาว่าคนที่อยู่ในกองทัพเรืออาจไม่แฮปปี้ก็ได้
.
“ขอเรียนตามตรงว่าจากการที่ผมพูดคุยกับบุคลากรในกองทัพเรือ รวมถึงการเคยไปพูดคุยกับกองทัพเรือ ผมคิดว่าสิ่งหนึ่งที่กองทัพเรือขาดแคลนจริงๆ และน่ากังวลคือเรือฟริเกต เท่าที่ผมทราบมีการอนุมัติประมาณ 1 ลำ จากเดิมที่ขอ 2 ลำ ซึ่งจริงๆ แล้วกองทัพเรืออาจจะต้องการมากกว่านั้น ดังนั้น ในเรื่องเรือฟริเกตมีความสำคัญในการรักษาอำนาจอธิปไตยโดยเฉพาะในน่านน้ำไทย แต่ปัญหาคือเมื่อเราไปโฟกัสเรือดำน้ำ ก็ต้องถามไปว่าตอบสนองยุทธศาสตร์หรือไม่ ผมทราบดีว่าองค์ความรู้เรื่องเรือดำน้ำมีความสำคัญ แต่ต้องพิจารณาจัดลำดับความสำคัญให้ดี” นายรังสิมันต์กล่าว
.
นายรังสิมันต์กล่าวอีกว่า เมื่อมีการทำสัญญาจัดซื้อเรือดำน้ำในขณะนี้สัญญาควรเป็นสัญญา เราตกลงกับจีนว่าจะซื้อเรือดำน้ำและเครื่องยนต์เยอรมนี แต่เท่าที่ทราบในการตกลงที่จะจ่ายเงินเป็นงวดๆ โดยหลักการทางบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการทำเรือดำน้ำ เคยบอกกับประเทศไทยว่าเขาสามารถจัดซื้อเครื่องยนต์จากเยอรมันได้แน่นอน แต่ถึงเวลาเมื่อประเทศไทยจ่ายเงินไปแล้ว ปรากฏว่าไม่สามารถจัดหาเครื่องยตน์จากกเยอรมันได้ แต่ประเทศไทยก็ยังตกลงยอมรับกันอีก แสดงให้เห็นว่าการที่ฝ่ายจีนผิดสัญญา ฝ่ายไทยเป็นผู้ถูกละเมิด แต่ฝ่ายไทยกลับต้องจำยอมใช้เครื่องยนต์ตัวอื่นที่แม้กระทั่งจีนยังไม่เคยใช้ จึงเป็นเรื่องที่น่ากังวลทั้งความปลอดภัย ศักยภาพ และคุณภาพที่จะเกิดขึ้น การที่เราต้องไปจำยอมแบบนี้ ยอมให้มีการแแก้ไขสัญญาซึ่งเราเสียเปรียบ สำหรับตนไม่สามารถเข้าใจได้เลย
.
“ที่ผ่านมาเราต้องยอมรับว่าเรือดำน้ำจีนมีข้อครหาในเรื่องของการทุจริตมาโดยตลอด ผมเป็นห่วงจริงๆ ว่าเหตุผลที่เราไม่สามารถยกเลิกสัญญาได้เบื้อหลังของมันอาจเป็นเรื่องคอร์รัปชั่น และผมทราบว่ามี นายคนหนึ่ง ตัวย่อ บ. ซึ่งเป็นพลเรือน ที่เป็นคีย์แมนสำคัญ อาจจะมีเรื่องเกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชั่น ดังนั้น เหตุผลที่เรายอมรับเรือดำน้ำจีนที่มีเครื่องยนต์จีนอาจไม่ใช่เหตุผลด้านยุทธศาตร์ความมั่นคงของชาติ แต่อาจเป็นเหตุผลความมั่นคงของใครบางคนที่จ่าย กิน รับทรัพย์กันไปหมดแล้ว จึงทำให้เรายกเลิกสัญญาไม่ได้
.
การจัดซื้ออาวุธของประเทศไทยไม่ควรจะมีประเด็นเรื่องคอร์รัปชั่น เพราะการคอร์รัปชั่นจะทำให้การจัดซื้ออาวุธผิดพลาด ทำให้กองทัพอ่อนแอ ซึ่งพรรคประชาชนเห็นด้วยกับการซื้ออาวุธอย่างมียุทธศาสตร์ ไม่ใช่ซื้ออะไรก็ได้และคอร์รัปชั่นอย่างไรก็ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราไม่มีทางยอมรับให้เกิดขึ้นได้” นายรังสิมันต์กล่าว
.
.
โรม มองเวที GBC ห่วง ‘กัมพูชา’ จะรักษาข้อตกลงแค่ไหน ชี้เหตุปะทะไม่ได้มาจาก MOU
https://www.matichon.co.th/politics/news_5313928
.
โรม มองเวที GBC ห่วง ‘กัมพูชา’ จะรักษาข้อตกลงแค่ไหน แนะไทยต้องรักษาความชอบธรรมในเวทีระหว่างประเทศ ยันหากจะยกเลิก MOU 43-44 ต้องมีกลไกอื่นที่ดีกว่าก่อน และควรถกในสภาฯร่วมกัน ชี้เหตุปะทะไม่ได้มาจาก MOU แต่เพราะความสัมพันธ์ระหว่างรัฐต่อรัฐ ท้วงปมเบิกงบล่าช้า รัฐบาลไม่ควรโทษไปมา แต่ควรบอกว่าจะเยียวยาเมื่อไหร่
.
เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 8 สิงหาคม ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐกิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ระหว่างไทย-กัมพูชา ที่มามาเลเซีย ว่า การรักษาข้อตกลงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ซึ่งต่างฝ่ายไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน แต่สิ่งที่ต้องคำนึงต่อไปคือการเจรจาจากครั้งนี้ยังไม่จบ เพราะจะต้องมีการพูดคุยกันต่อในเวทีอื่น ๆ สิ่งที่ท้าทายคือทำอย่างไรให้การเจรจามีผลอย่างยั่งยืนระหว่างไทย-กัมพูชาะจะต้องมีการพูดคุยกันต่อในเวทีอื่น ๆ สิ่งที่ท้าทายคือทำอย่างไรให้การเจรจามีผลอย่างยั่งยืนระหว่างไทย-กัมพูชา
.
“ส่วนตัวมองว่าผลการเจรจาที่ออกมาเป็นผลลัพธ์ที่คาดหมายเอาไว้อยู่แล้ว และผลเป็นที่น่าพอใจ แต่ที่กังวลมากกว่านั้นคือสุดท้ายทางกัมพูชาจะสามารถรักษาข้อตกลงได้มากน้อยเพียงใด หากพิจารณาเหตุการณ์ที่ผ่านมา ไม่สามารถมองอย่างไว้วางใจได้ จึงเสนอแนะให้ไทยรักษาความชอบธรรมในเวทีระหว่างประเทศ เพราะสุดท้ายการขัดกันทางอาวุธเมื่อเริ่มต้น และอยู่ชั่วคราวหลังจากยิงกันไปแล้ว สิ่งสำคัญที่ไม่สามารถเพิกเฉยได้ คือการรักษาความชอบธรรม ประเทศไทยจะต้องรักษาความชอบธรรมในเวทีระหว่างประเทศอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆให้ได้ หากรักษาได้ในระยะยาว จะสร้างผลลัพธ์ที่ดีต่อประเทศไทยมากกว่า” นายรังสิมันต์กล่าว
.
นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า ส่วนกรณี MOU2543 และ MOU2544 ในเรื่องการยกเลิกว่าหากใครต้องการยกเลิกทางกัมพูชาต้องการด้วยหรือไม่ หรือหากมีการยกเลิกจะมีอะไรมาแทนที่และได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าได้อย่างไร ในสถานการณ์ที่ไทย-และกัมพูชาคุยกันไม่ได้ ทำให้ต้องไปเจรจากันที่ประเทศมาเลเซีย จะมีเครื่องมืออะไรมาเป็นกลไกทำให้เกิดการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะในประเด็นแผนที่ 1:200,000 สิ่งที่จะมาแทนที่ MOU2543 ในขณะนี้ยังไม่มี จึงคิดว่าความเร่งด่วน ในการยกเลิก MOU2543 ยังไม่ได้มีในตอนนี้ ซึ่งกรอบในการเจรจาในลักษณะนี้มีมานานแล้ว และยังไม่มีปัญหา อาจจะแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ค่อนข้างช้า เพราะความชัดเจนในเรื่องเส้นเขตแดน และปัญหาที่ทำให้เกิดการปะทะกันในพื้นที่ชายแดนไม่ได้เกิดจาก MOU2543 แต่เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล ที่ตกต่ำลงแล้วทำให้นำเรื่องเส้นเขตแดนมาสร้างเงื่อนไข เพื่อเรียกร้องบางสิ่งบางอย่าง แต่ต้องไปหาคำตอบว่าคืออะไร
.
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ส่วนMOU2544 บางส่วนมีปัญหาจริงๆ แต่หากจะยกเลิกในสถานการณ์ตอนนี้ คำถามคือในเวทีนานาชาติจะมองการยกเลิกอย่างไร และท่าทีของกัมพูชา หากไม่ยอมยกเลิก ไทยจะหาทางออกอย่างไร เป็นโจทย์ที่ต้องคิด เข้าใจว่าจะมีการหารือเรื่องนี้ในสภาผู้แทนราษฎรหลังจากที่มีการยื่นญัตติของ ส.ส. และเห็นว่าหากมีการสร้างกลไกในการศึกษาเกี่ยวกับผลได้ผลเสีย MOU43 MOU44 ตนสนับสนุน แต่จะให้ตัดสินใจในทันทีเรื่องของการยกเลิก ในสถานการณ์นี้อาจจะเป็นการตัดสินใจที่เร่งด่วนเกินไป ต้องหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะ MOU44 อาจจะมีปัญหาบางประการเกิดขึ้น
.
นายรังสิมันต์ ยังกล่าวถึงปัญหากรณีการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งล่าสุดทาง ศบ.ทก.ตั้ง น.ส.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี มาทำหน้าที่โฆษก ศบ.ทก.ว่า ประเทศไทยจะชนะในปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นได้มีกรณีเดียว คือการยอมรับจากนานาชาติ ซึ่งวันแรกที่มีการยิงกันทุกฝ่ายต่างรู้ดีว่าจะยุติด้วยการเจรจา ซึ่งคือโลกแห่งความเป็นจริง และต้องยอมรับให้ได้ และความชอบธรรมเป็นเรื่องที่สำคัญ ยอมรับว่ารัฐบาลจะตั้งบุคคลมาทำหน้าที่สื่อสารเป็นเรื่องที่น่าเสียดายว่าดูเหมือนจะช้าไป ไม่ใช่เพียงใครเป็นผู้สื่อสาร แต่องค์ประกอบข้อมูลให้เท่าทันกันมีความจำเป็นต้องทำให้เกิดความชัดเจน
.
“กรณีตาควายเป็นการสร้างความคาดหวังที่ผิดให้กับชาวไทย รวมไปถึงสถานที่ช่องอานม้า เชื่อว่าสามารถพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาได้ ความถูกต้องของข้อมูลเป็นเรื่องที่สำคัญ และการสื่อสารที่รวดเร็วเป็นเรื่องสำคัญ และการพาการทูตลงไปดูพื้นที่ควรทำได้เร็วกว่านี้” นายรังสิมันต์กล่าว
.
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่ทางกัมพูชาไม่ยอมรับข้อเสนอเกี่ยวกับการจัดการกับทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดนและการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นเศรษฐกิจที่สำคัญของกัมพูชา ซึ่งนักวิชาการบางคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีถึง 30% และจากข้อมูลหน่วยงานระหว่างประเทศระบุว่าอาจจะถึง 40% หรือมากกว่านั้น แต่เสียดายรัฐบาลไม่ได้หยิบยกเรื่องนี้มาขยายผลให้มากกว่านี้ และใช้กรณีแสวงหาพันธมิตรในการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนการวางกับระเบิดในพื้นที่ผิดอนุสัญญาออตตาวา ก็ยังมีการขยายผลน้อย เข้าใจบรรยากาศในการเจรจาแต่ละปัญหาที่จะต้องนำไปแก้น่าเสียดายที่ยังไม่เห็น ทั้งนี้ขอความชื่นชมบทบาทการทำหน้าที่ของ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม แต่ขอตั้งคำถามกระทรวงการต่างประเทศทำอะไร และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.มหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ควรมีบทบาทมากกว่านี้หรือไม่ ไม่ใช่บทบาทของกองทัพ แต่เป็นบทบาทของรัฐบาลที่ต้องแก้ไขปัญหา ก่อนจะทักท้วงเรื่องของปัญหาการเบิกงบประมาณเยียวยาในพื้นที่ ปล่อยให้ปัญหาเกิดขึ้น ทั้งที่รู้อยู่แล้วและเตรียมการอยู่แล้ว ไม่ควรโทษกันไปมา โดยเฉพาะการโทษจากฝั่งรัฐบาล
.
“มันเป็นการแสดงถึงวุฒิภาวะว่ารัฐบาลไม่มีวุฒิภาวะในการรับมือกับปัญหา และก็ใช้วิธีการโทษกันไปมา หากจะดีกว่ารับไปว่าจะแก้ไขบอกเวลากับประชาชนว่าจะได้รับการเยียวยาเมื่อไหร่ ผมคิดว่าการสร้างความชัดเจนในข้อมูลตรงนี้ จะทำให้การจัดการกับความคาดหวังของประชาชนมีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายรังสิมันต์กล่าว
.
.
ธุรกิจเกาะช้างไม่เชื่อมั่นไทย-กัมพูชาหยุดยิง ชี้ 2 รบ.ไร้เสถียรภาพ โอดยอดจองหาย 90% แรงงานขาด วอนรัฐช่วยด่วน
https://www.matichon.co.th/region/news_5314290
.
ธุรกิจเกาะช้างไม่เชื่อมั่นไทย-กัมพูชาหยุดยิง ชี้ 2 รบ.ไร้เสถียรภาพ โอดยอดจองหาย 90% แรงงานขาด วอนรัฐช่วยด่วน หวั่นลากยาวถึงไฮซีซั่น
.
จากกรณีที่ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องร่วมกันหยุดยิง กันในเวทีประชุมGBC ที่มาเลเซีย เมื่อวานนี้ (7 สิงหาคม 68) พบ่า ผู้ประกอบการในอำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด ยังคงไม่เชื่อมั่นในสถานการณ์ ขณะที่ความสงบที่ผ่านมาส่งผลให้ขาดแคลนแรงงานชาวกัมพูชาและนักท่องเที่ยวหาย 90% หากสถานการณ์ยังไม่ปกติลากยาวถึงไฮซีซั่นจะส่งกระทบต่อเศรษฐกิจระยะยาว
JJNY : โรมปูด‘นาย บ.’เอี่ยวทุจริตเรือดำน้ำ│โรมชี้เหตุปะทะไม่ได้มาจาก MOU│ธุรกิจเกาะช้างไม่เชื่อมั่น│อินโดแห่ติดธงโจรสลัด
https://www.matichon.co.th/politics/news_5313880
.
.
.
โรม มองเวที GBC ห่วง ‘กัมพูชา’ จะรักษาข้อตกลงแค่ไหน ชี้เหตุปะทะไม่ได้มาจาก MOU
https://www.matichon.co.th/politics/news_5313928
.
.
ธุรกิจเกาะช้างไม่เชื่อมั่นไทย-กัมพูชาหยุดยิง ชี้ 2 รบ.ไร้เสถียรภาพ โอดยอดจองหาย 90% แรงงานขาด วอนรัฐช่วยด่วน
https://www.matichon.co.th/region/news_5314290
.