อัพเดตเรื่องสัมพเวสีที่เป็นคนงานต่างด้าวตามเอาชีวิต

สวัสดีค่ะทุกๆคน วันนี้ตามหัวข้อกระทู้เลยนะคะ เราก็อยากอัพเดตเรื่องนี้ให้ฟังกัน
พอดีวันนี้เราว่าก็เลยมีเวลาพิมพ์มาให้อ่านกันเนื่องจากมันค่อนข้างยาวหน่อยนะคะ
จริงๆเรื่องนี้เราตั้งใจจะโทรไปเล่าที่รายการ The Shock
แต่ทำใจเท่าไหร่ก็ไม่กล้าเล่าเพราะสถานที่เจอก็คือบ้านเราเองเรากลัวว่าถ้าพูดถึงเค้า
เค้าจะกลับมาอีกเราเลยตัดสินใจไม่เรา มาเขียนเล่าแบบนี้ดีกว่าอีกอย่างเรายังต้องอยู่ที่นั่นอีก
กลัวว่าถ้าไปสะกิดมากๆจะพาหลอนซะเปล่าๆ ==;

ก่อนอื่นเราต้องขอขอบคุณก่อนนะคะ จากกระทู้ก่อนที่เราเคยตั้งคือกระทู้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราต้องขอขอบคุณทุกๆคอมเม้นมากๆเลยนะคะที่พยายามจะช่วยให้เราพ้นทุกข์
โดยเฉพาะ ดร. มนัส โกมลฑา ที่มีคำแนะนำดีๆให้นะคะ

ตอนนี้เราพ้นทุกข์ทุกอย่างแล้วไม่มีอะไรรบกวนเราได้แล้วเพราะเราตัดสินใจลางานไป บวชชีพราหมณ์  เนกขัมมะบารมีที่วัดสังฆทานเป็นเวลา 3 วัน 2 คืน เพราะเหตุการณ์ในตอนนั้นคือเราไม่ไหวจริงๆ ถ้าใครไม่เจอกับตัวจะไม่มีวันเข้าใจเราได้เลยว่ามันทุกข์และทรมานขนาดไหน และสิ่งที่ทำให้เราตัดสินใจลางานไปบวชก็คือ เราจำได้ดีว่าเป็นเย็นวันเสาร์ เรากำลังเคลิ้มจะหลับ ตอนประมาณ 4 โมงเย็นในท่านอนหงาย อาการมันคล้ายคนโดนผีอำจะฝันก็ไม่เชิงเพราะเรามั่นใจว่าเรารู้สึกตัวดีมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนเพียงแต่เราลืมตาและขยับตัวไม่ได้เลย ขณะนั้นเรารู้สึกว่ามีมือใครสักคนค่อยๆสอดเข้ามาที่หลังของเราฝ่ามือค่อยโอบอยู่เอวของเรา ขาเขาก่ายพาดทับเขาของเรามาข้างนึง ส่วนอีกมือก็วางไว้บนท้องของเรา พอจะนึกออกใช่ไหมคะ ตอนนั้นเราตกใจสุดขีด!! แต่ทำอะไรมากไปกว่านอนนิ่งๆไม่ได้เลยสักพักเราก็รู้สึกถึงลมหายใจเย็นๆอยู่บริเวณที่หูของเราตอนนั้นเรารู้และจินตนาการภาพออกเลยว่าใบหน้าของเค้าต้องอยู่ตรงซอกคอเราแน่ๆ เราพยายามขยับตัวแต่มันทำไม่ได้เลยได้แต่กรีดร้องในใจ พยายามบอกตัวเองให้มีสติ สวดมนต์บทที่พอจะจำได้ แผ่เมตตาก็แล้วลมหายใจเย็นๆนั้นมันก็ยังเป่าที่หูเราอยู่ดี เราเริ่มจะทนไม่ไหว เลยนึกถึงพ่อแม่ เราจำได้ว่าเราตะโกนเรียกแม่อยู่ในใจ เราตะโกนอยู่ในใจว่า “แม่!!! แม่ช่วยด้วย!!” สิ้นคำในใจของเรา ก็มีเสียงคนๆนั้นตอบมาว่า “แม่หรอ...แม่ไม่อยู่ชาวยไม่ได้หรอก!!” เท่านั้นแหละค่ะท่านผู้อ่านเราสติแตกกระเจิง กรีดร้องในใจจนเสียงมันออกมาได้เราสะบัดสุดแรงเกิดดิ้นรนจนหลุดออกจากภวังค์นั้นได้ เราเปิดประตูห้องนอนออกมานั่งหอบอยู่ที่โซฟาห้องนั่งเล่น คือคอนโดที่เราอยู่ห้องไม่ใหญ่มากนะค่ะก็เหมือนคอนโดทั่วไปเปิดประตูจากห้องนอนออกมาก็เจอห้องนั่งเล่นเลย หลังจากที่นั่งหอบและพยายามเรียกสติตัวเอง เราก็เดินไปเปิดไฟทุกดวงในบ้านแล้วใช่โทรศัพท์บ้านโทรไปเล่าให้แม่ฟัง แม่เราก็บอกให้เราตั้งสติรอแม่สักพักเพราะแม่ใกล้จะถึงบ้านแล้ว พอแม่มาถึงเราก็เก็บของไปนอนบ้านน้าเลยคือคืนนั้นไม่กล้านอนที่ห้องแล้ว นั่นแหละค่ะพอถึงบ้านน้าทุกคนในครอบครัวก็ลงความเห็นว่าควรไปบวช เราก็จัดวันเวลา ลางาน แล้วก็ไปเลยค่ะ และก่อนที่เราจะไปบวชวันนึง ก็มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นอีกเหมือนกันนะคะ คือ คืนก่อนที่เราจะไปบวช แม่เราบอกว่า กลางดึกแล้วแม่เราสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากฝันร้าย แต่เมื่อลืมตาขึ้นมา ในห้องไม่ได้มืดสนิทอะไรเพราะมีแสงไฟจากนอกคอนโดส่องเข้ามา แม่เราเล่าว่าแม่เห็นผู้ชายตัวใหญ่คนหนึ่งยืนจ้องเราที่นอนหลับตาเขม็งเลย พอเค้าเห็นว่าแม่เราตื่นและกำลังมองมาที่เค้า เค้าจองตากับแม่เราแล้วหันตัวเดินทะลุออกนอกหน้าต่างไปเลย แม่เราบอกว่าช็อกมากเกือบสติแตกแม่เราบอกว่าลุกขึ้นมานั่งและรีบเปิดไฟแล้วสวดมนต์แผ่เมตตาให้เค้าทันที พอตอนเช้าก่อนที่เราจะออกไปวัดเพื่อบวช เราก็เลยพูดลอยๆว่า “ถ้าคุณยังอยู่ หรือถ้าคุณมองอยู่ วันนี้หนูจะไปบวชให้คุณนะคะหนูขอให้คุณตามหนูมานะคะหนูอยากให้คุณไปที่วัดกับหนูไปบวชด้วยกันผลบุญจะได้ช่วยเสริมส่งให้คุณไปสู่สุขติพ้นทุกข์ได้เร็วขึ้นนะคะ” พอพูดจบเราก็เดินทางไปที่วัดสังฆทานทันที ก่อนจะเข้าประตูวัดเราก็หยุดยกมือไหว้ตั้งจิตอธิฐานว่า “เจ้าที่เจ้าทางสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องคุ้มครองวัดสังฆทานแห่งนี้ลูกขออนุญาติให้วิญญาณสัมภเวสีที่ติดตามลูกมาผ่านเข้าไปในวัดเพื่อสร้างบุญสร้างกุศลให้เค้าพ้นจากความทุกข์ความทรมานด้วยเถิดค่ะ” คือเราก็ไม่รู้นะคะว่าต้องทำพิธีอะไรยังไงตอนนั้นมันกระทันหันเลยต้องเอาสะดวกตัวเองด้วยทำเท่าที่เราจะทำได้ ระหว่างบวชก็ไม่มีอะไรนะคะสงบมากๆจิตใจผ่องใสสบาย บวชเสร็จก็ไม่เจออะไรเลย ไม่ฝัน ไม่ระแวง อาจจะเพราะเราได้ที่พึ่งทางใจแล้วด้วยมั้งค่ะเลยทำให้ทุกๆอย่างค่อยๆดีขึ้น ตอนนั้นบ้านก็เป็นบ้านมากขึ้น มีความสุขมากขึ้นค่ะ
แหะๆ ยาวนิดนึงนะค่ะ แต่อยากจะแชร์ให้ฟังจริงๆ เผื่อใครกำลังประสบปัญหาแบบเราจะได้รู้ว่าควรจะทำไงต่อไปดี

ยังไงเราขอขอบคุณผู้อ่านทุกๆท่านมากนะคะที่สละเวลามาอ่าน ส่วนใครที่ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรนะคะอ่านเอาบันเทิงก็พอโน๊ะ ไปละค่ะ สวัสดีค๊าาาาาา ^_^

อ้อ!!! มีอีกนิดนึงค่ะ

อันนี้เป็นภาพบรรยากาศตอนที่เราไป บวชชีพราหมณ์เนกขัมมะบารมีที่วัดสังฆทานนะคะ
ก็นุ่งขาวห่มขาว ถือศีลเหมือนแม่ชี ทานข้าว 1 มื้อ ถ้าหิวก็ทานได้แค่ น้ำปาณะอย่างเดียว
ใครสนใจก็ลองหาข้อมูลดูนะคะ ทางวัดจัดเตรียมพร้อมทุกอย่างเลย มีชุดให้เช่า มีที่นอนสำรองให้
สะดวกมากๆเลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


เราชอบตอนเดินจงกลมมากที่สุดแล้วเราไม่คิดเลยว่าคนใจร้อนอย่างเราจะสามารถเดินแบบสำรวม 2 ชม. เต็มๆได้
เดินจงกลมจะเดิน 2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 2 ชั่วโมง ฟังดูเหมือนนาน แต่ไม่เลยค่ะ จิตใจคุณจะปล่อยไปแบบสบายๆ
แล้วเวลาจะไม่เป็นปัญหาสำหรับคุณเลย ลองดูซิค่ะแล้วจะติดใจ อิอิ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่