ยอมรับว่าสืบเนื่องมาจากการแสดงความเห็นของผมในกระทู้ก่อนหน้านี้ (
หลวงพ่ออลงกต "รับ" มากกว่า ให้) เลยอยากจะให้ความรู้เกี่ยวกับอานิสงส์ของการทำบุญ (หมายถึงเฉพาะการทำทานหรือบริจาคเงินให้พระพุทธศาสนาเท่านั้น)
และถ้าการกระทำทั้งหมดของหมอบี เกิดจากเจตนาที่บริสุทธิ์ เกิดจากความหวังดี ก็ถือว่าเป็นความรู้ให้กับหมอบีไปด้วย
การทำทานหรือบริจาคเงินให้กับพระภิกษุ ไม่ต้องพูดถึงพระทุศีลหรือไม่ทุศีล เพราะต่อให้ท่านเป็นพระอรหันต์แล้วก็ตาม หรือแม้แต่พระพุทธเจ้าเองก็ตาม อานิสงส์น้อยกว่าการทำบุญให้กับวัด (ที่เรียกว่า สังฆทาน)
นั่นหมายความว่า ผู้ศรัทธาที่ตั้งใจบริจาคเงินให้กับวัดพระบาทน้ำพุ แต่ถูกเปลี่ยนมาเป็นบริจาคให้กับหลวงพ่ออลงกตเพียงรูปเดียว อานิสงส์ก็ลดลงไปอย่างน้อย 100 เท่า (คิดตัวเลขตามพระสูตร และสมมุติว่าหลวงพ่อเป็นพระอรหันต์แล้วด้วย ถ้ายังก็หาร 100 ไปเรื่อยๆ)
แต่ถ้าเป็นการทำบุญกับวัด หรือทำสังฆทาน อานิสงส์มากกว่าการทำทานกับพระพุทธเจ้า 100 เท่า
ที่สำคัญ เนื่องจากการทำสังฆทาน หมายถึงมีพระภิกษุตั้งแต่ 4 รูป (หรือจะมีตัวแทนก็ได้) ซึ่งในนั้นจะมีพระทุศลปะปนอยู่ในนั้น ก็ไม่มีผล ยังได้อานิสงส์เท่ากัน จึงไม่ต้องกังวลใดๆ
หลายคนเห็นพระดังๆ พระที่มีชื่อเสียง พระที่มียศตำแหน่งสูงๆ ได้เปรียญธรรมสูงๆ ก็คิดว่าทำบุญกับท่านแล้วจะได้อานิสงส์มาก แต่ที่จริงแล้ว น้อยกว่าคนที่ไปทำสังฆทานกับวัดเล็กๆ
(แต่ถึงจะเป็นวัดเล็กวัดใหญ่ ควรดูเจ้าอาวาสให้ดีๆ ด้วย)
อย่างไรก็ตาม คนที่ตั้งใจทำบุญให้กับวัดพระบาทน้ำพุที่ผ่านไปแล้ว ผมเชื่อว่าทุกคนเข้าใจว่าได้ทำบุญกับวัด อานิสงส์ได้เกิดขึ้นแล้ว ได้บุญไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เพิ่งมารู้ภายหลังว่าเงินนำไปให้กับพระส่วนตัว ก็เป็นกรรมของเขาเอง ไม่เกี่ยวกับเรา
อีกทั้งยังมีการทำบุญที่ได้อานิสงส์มากกว่า ไม่ต้องใช้เงินด้วย ซึ่งคนที่ชอบทำทาน ทำบุญกับวัด ผมเชื่อว่าทำบุญอื่นๆ มากมายร่วมด้วยอยู่แล้ว
สุดท้าย การทำบุญกับวัดยังคงเป็นสิ่งจำเป็น เป็นหน้าที่ของพุทธบริษัท เพียงแต่ควรเลือกวัดที่ดีๆ ให้คิดว่าเป็นการสนับสนุนพระที่ดี เพื่อสร้างพระที่ดีๆ เพิ่มขึ้น
บางที ต่อไปลูกหลานเราก็จะได้ไปบวชที่วัดนั้น
สุดท้าย ขอฝากคำพูดของหลวงพ่อปราโมทย์ เพราะผมรู้ว่าหลายคนเห็นข่าวพระแล้วรู้สึกห่อเหี่ยว ไม่สบายใจ อาจจะสบายใจขึ้น
เกี่ยวกับอานิสงส์ของการทำบุญกับพระภิกษุหรือกับวัด
และถ้าการกระทำทั้งหมดของหมอบี เกิดจากเจตนาที่บริสุทธิ์ เกิดจากความหวังดี ก็ถือว่าเป็นความรู้ให้กับหมอบีไปด้วย
การทำทานหรือบริจาคเงินให้กับพระภิกษุ ไม่ต้องพูดถึงพระทุศีลหรือไม่ทุศีล เพราะต่อให้ท่านเป็นพระอรหันต์แล้วก็ตาม หรือแม้แต่พระพุทธเจ้าเองก็ตาม อานิสงส์น้อยกว่าการทำบุญให้กับวัด (ที่เรียกว่า สังฆทาน)
นั่นหมายความว่า ผู้ศรัทธาที่ตั้งใจบริจาคเงินให้กับวัดพระบาทน้ำพุ แต่ถูกเปลี่ยนมาเป็นบริจาคให้กับหลวงพ่ออลงกตเพียงรูปเดียว อานิสงส์ก็ลดลงไปอย่างน้อย 100 เท่า (คิดตัวเลขตามพระสูตร และสมมุติว่าหลวงพ่อเป็นพระอรหันต์แล้วด้วย ถ้ายังก็หาร 100 ไปเรื่อยๆ)
แต่ถ้าเป็นการทำบุญกับวัด หรือทำสังฆทาน อานิสงส์มากกว่าการทำทานกับพระพุทธเจ้า 100 เท่า
ที่สำคัญ เนื่องจากการทำสังฆทาน หมายถึงมีพระภิกษุตั้งแต่ 4 รูป (หรือจะมีตัวแทนก็ได้) ซึ่งในนั้นจะมีพระทุศลปะปนอยู่ในนั้น ก็ไม่มีผล ยังได้อานิสงส์เท่ากัน จึงไม่ต้องกังวลใดๆ
หลายคนเห็นพระดังๆ พระที่มีชื่อเสียง พระที่มียศตำแหน่งสูงๆ ได้เปรียญธรรมสูงๆ ก็คิดว่าทำบุญกับท่านแล้วจะได้อานิสงส์มาก แต่ที่จริงแล้ว น้อยกว่าคนที่ไปทำสังฆทานกับวัดเล็กๆ
(แต่ถึงจะเป็นวัดเล็กวัดใหญ่ ควรดูเจ้าอาวาสให้ดีๆ ด้วย)
อย่างไรก็ตาม คนที่ตั้งใจทำบุญให้กับวัดพระบาทน้ำพุที่ผ่านไปแล้ว ผมเชื่อว่าทุกคนเข้าใจว่าได้ทำบุญกับวัด อานิสงส์ได้เกิดขึ้นแล้ว ได้บุญไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เพิ่งมารู้ภายหลังว่าเงินนำไปให้กับพระส่วนตัว ก็เป็นกรรมของเขาเอง ไม่เกี่ยวกับเรา
อีกทั้งยังมีการทำบุญที่ได้อานิสงส์มากกว่า ไม่ต้องใช้เงินด้วย ซึ่งคนที่ชอบทำทาน ทำบุญกับวัด ผมเชื่อว่าทำบุญอื่นๆ มากมายร่วมด้วยอยู่แล้ว
สุดท้าย การทำบุญกับวัดยังคงเป็นสิ่งจำเป็น เป็นหน้าที่ของพุทธบริษัท เพียงแต่ควรเลือกวัดที่ดีๆ ให้คิดว่าเป็นการสนับสนุนพระที่ดี เพื่อสร้างพระที่ดีๆ เพิ่มขึ้น
บางที ต่อไปลูกหลานเราก็จะได้ไปบวชที่วัดนั้น
สุดท้าย ขอฝากคำพูดของหลวงพ่อปราโมทย์ เพราะผมรู้ว่าหลายคนเห็นข่าวพระแล้วรู้สึกห่อเหี่ยว ไม่สบายใจ อาจจะสบายใจขึ้น