บทความจักรยานทรงตัว จักรยานขาไถ หรือ Balance Bike

จักรยานฝึกการทรงตัว หรือ จักรยานขาไถ หรือ Balance Bike ก็คือจักรยานที่ไม่มีบันไดปั่นนั่นเอง หลายๆคนอาจสงสัยว่าเป็นจักรยานอะไร แต่ก็มีหลายคนที่รู้จักแล้ว ซึ่งในฝั่งยุโรป อเมริกา แม้แต่ จีน ญี่ปุ่น ใต้หวัน ฮ่องกง ฯลฯ เค้านิยมกันมานานแล้ว แต่ของไทยเราพึ่งจะรู้จักกันเมื่อไม่นานนี้เอง

ปล.บทความนี้เราได้เสนอเขียนให้กับเว็ป TheAsianParent Thailand มาแล้วหากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย

ลิ้งค์บทความเพียงบางส่วนที่  TheAsianParent Thailand ได้ลงไว้ที่เว็บไซต์ และแฟนเพจ
http://goo.gl/PRdXAr
https://www.facebook.com/theAsianparentTH/posts/1149787238366074?fref=nf

http://goo.gl/ZlJrbo
https://www.facebook.com/theAsianparentTH/posts/1140925562585575?fref=nf



ประวัติและความเป็นมาของจักรยาน BALANCE BIKE

จักรยาน BALANCE BIKE จักรยานทรงตัว หรือ จักรยานขาไถ มีต้นกำเนิดอยู่ที่ประเทศเยอรมัน คิดค้นขึ้นโดยนักประดิษฐ์ชาวเยอรมันคนหนึ่ง ชื่อว่า KARL DRAIS (คาร์ล ดราย) เกิดวันที่ 29 เมษายน 1785 จบการศึกษาจากสถาปัตยกรรมการเกษตร และฟิสิกส์ที่ไฮเดลเบิร์กมหาวิทยาลัย


เมื่อประมาณปี ค.ศ.1817-1820 KARL DRAIS ได้ออกแบบคิดค้นจักรยาน BALANCE BIKE ขึ้นมาโดยมีความตั้งใจคิดให้เกิดประโยชน์กับผู้สูงอายุที่ปั่นจักรยานไม่เป็นได้มีโอกาสได้ลองขี่จักรยาน โดยวัสดุที่ใช้เป็นไม้เกือบทั้งคัน แม้กระทั่งล้อทั้ง 2 ข้างก็ทำจากไม้ ไม่มียางนอก ไม่มียางใน ไม่มีซี่ลวดจนมีผู้พบเห็นแล้วนำมาดัดแปลงให้มีขนาดเล็กลงเพื่อใช้กับเด็กๆ ในปัจจุบันจักรยานคันแรกที่เป็นต้นแบบของจักรยานทุกคันในวันนี้ อยู่ที่พิพิธภัณฑ์ไฮเดลเบิร์ก ประเทศเยอรมัน


KARL DRAIS  เขียนแบบจักรยาน Balance Bike เมื่อปี ค.ศ. 1817


ต้นแบบของจักรยานคันแรกอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ไฮเดลเบิร์ก ประเทศเยอรมัน ปี ค.ศ. 1820  


ภาพบรรยากาศการทดลองเล่น Balance Bike ของผู้สูงอายุ



BALANCE BIKE คืออะไร

ปัจจุบัน BALANCE BIKE ได้รับความนิยมจากต่างประเทศมากมาย ทั้งอเมริกา ยุโรป เอเชีย รวมทั้งประเทศไทย ที่ได้นำจักรยาน BALANCE BIKE เมื่อประมาณ 3-4 ปี ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน ได้มี บริษัท ที่นำเข้าจักรยาน BALANCE BIKE เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยหลายแบรนด์ จักรยานส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศจีนกว่า 90% ส่วนจักรยานที่นำเข้ามาจากยุโรปและอเมริกา จะมีราคาค่าตัวที่สูงกว่ามากๆ


จักรยาน BALANCE BIKE  เป็นจักรยานฝึกการทรงตัว จักรยานประเภทนี้ไม่มีบันไดปั่น ธรรมชาติของเด็กๆ อายุระหว่าง 1.6-5 ขวบ จะใช้ขาไถจักรยานก่อนที่จะใช้ขาปั่นจักรยาน ฉะนั้นจักรยาน BALANCE BIKE จะมาแทนจักรยาน 3 ล้อและจักรยานที่มี ล้อพ่วงข้างที่เราคุ้นเคยกันมานาน และช่วงวัยที่เหมาะสมและ สามารถเล่นจักรยานทรงตัวได้ คือ เล่นได้ตั้งแต่เด็กเริ่มเดินได้ ถึง 6 ขวบ

การที่ จักรยานทรงตัว ไม่มีบันไดปั่นนั้น ออกแบบมาเพื่อสร้างความมั่นใจให้เด็ก ปราศจากความกลัว โดยให้เด็กใช้สองเท้าทั้งสองข้างยันพื้น และก้าวเดินไปข้างหน้าพร้อมจักรยานด้วยตนเอง ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้เด็กสามารถฝึกการทรงตัวได้อย่างถูกวิธีตั้งแต่แรกเริ่ม อีกทั้งยังช่วยเสริมทักษะ ด้านกีฬา ความคิด การมองเห็น การแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้า ศาสตร์สัมพันธ์ุของตา มือ-เท้า และ ซ้าย ขวา บน ล่าง การพัฒนาของกล้ามเนื้อ ฉนั้นจักรยานทรงตัว จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการเริ่มต้นของเด็ก ก่อนที่จะไปถึงการปั่นจักรยาน



มารู้จักกับจักรยานทรงตัว ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ

การเลือกซื้อจักรยาน BALANCE BIKE หลายๆ ท่านให้ความสำคัญในการตัดสินใจในหลายๆ  เหตุผลที่ต่างกัน เช่นราคาของจักรยาน วัสดุที่ใช้ และอะไหล่ต่างๆ ในท้องตลาดตอนนี้ได้มีจักรยาน BALANCE BIKE ออกมาจำหน่ายในหลายๆ ยี่ห้อ หลายๆ แบรนด์ ราคามีตั้งแต่ หลักร้อย จนถึงหลักหลายๆ พันบาท ไปจนถึงเกือบหมื่นบาท ซึ่งความแตกต่าง ของราคาขึ้นอยู่กับตัวแปรหลายๆอย่าง ดังนี้

1. คุณภาพของสินค้า และ วัสดุที่แตกต่าง
1.1. เฟรม ของจักรยาน  BALANCE BIKE ปัจจุบันทำมาจากวัสดุ หลักๆ อยู่ 4 ประเภทดังนี้


1.1.1. อลูมิเนียม อลูมิเนียมมีทั้งหมด 4 เกรดที่นิยมนำมาทำเฟรมจักรยานอลูมิเนียมแต่ละเกรดจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันและคุณภาพกับราคาแตกต่างกันด้วย มีผู้ปกครองหลายท่าน เข้าใจผิดคิดว่ารถที่ทำจาก อลูมิเนียม จะเบาแล้วดี ความจริงคือรถที่ทำจาก อลูมิเนียม ไม่ใช่ว่าจะไม่ดี แต่ที่ไม่ดีคือ เรื่องของน้ำหนัก รถที่ดีควรมีน้ำหนักไม่น้อยกว่า 2.5 กิโลกรัม เพราะถ้าน้ำหนักเบามากเกินไปจะทำให้เด็กเสียการทรงตัวในขณะเล่น เช่นตอนเลี้ยวในขณะที่รถกำลังวิ่งอยู่จะทำให้ล้มได้ง่าย เพราะน้ำหนักที่เบาเกินไปจนเสียสมดุล


1.1.2. เหล็ก ที่นิยมใช้ทำจักรยานก็มีหลายชนิด ที่นิยมใช้ทำจักรยานจะมี 2 ชนิด ซึ่งราคาจะแตกต่างกันมาก  นั่นก็คือเหล็กโคโมลี่ (CHROMOLY) ที่มีราคาสูงกว่า เหล็กไฮเท็นสตีล (HI-TEN STEEL)


1.1.3. ไม้ จะมีอยู่หลายชนิด และ มีรูปทรงแตกต่างกันไปหลายรูปแบบ กับความยากง่ายของตัวจักรยานชนิดนี้จะเป็นตัวแปร ในเรื่องของราคาจักรยานด้วยเช่นกัน


1.1.4. พลาสติก จะมีรูปแบบความหลากหลายขึ้นอยู่กับการออกแบบของดีไซเนอร์ ซึ่งรถประเภทนี้จะมีน้ำหนักเบา และความแข็งแรงน้อยกว่าชนิดอื่น


1.2. ชุดถ้วยคอ ในปัจจุบันนั้นมีมากมายหลายแบบ
- บู๊ทถ้วยคอพลาสติกแบบบาง จะไม่มีลูกปืน และ อายุการใช้งานน้อย
- บู๊ทถ้วยคอพลาสติกอย่างหนา แข็งแรงทนทาน คอจะแน่นกว่า ไม่มีลูกปืน และมีน้ำหนักเบา
- บู๊ทถ้วยคอแบบมีลูกปืน มีลักษณะแข็งแรง สวยงาม น้ำหนักมากกว่า และ ราคาแพงกว่า


1.3. ตัวปลดล็อค
- ตัวปลดล็อคแบบใช้ประแจ จะยุ่งยากในการปรับแต่ง เพราะต้องใช้เครื่องมือทุกครั้ง
- ตัวปลดล็อคแบบควิก สะดวกสบายในการปรับแต่ง สามารถใช้มือปลดได้ทันที


1.4. เบาะ
- รูปทรงของเบาะต้องเหมาะสมกับร่างกายของเด็ก เพราะเบาะเป็นจุดกดทับจุดเดียวสำหรับเด็ก ฉนั้นเวลานั่งแล้วต้องรู้สึกสบาย เพราะจะทำให้เด็กเล่นได้นานขึ้น


1.5. วงล้อ และดุมล้อ
- ล้อลูกปืนธรรมดา จะมีขนาดลูกปืนที่เล็ก และ ความแข็งแรงจะน้อยที่สุด แต่มีราคาต่ำ
- ล้อพลาสติก ดุมแบริ่ง ล้อชนิดนี้จะแข็งแรง เหมาะทีสุดกับการเริ่มต้นของเด็ก และมีราคาปลานกลาง
- ล้อซี่ลวด ดุมแบริ่ง จะเป็นล้อที่มาแทนล้อพลาสติก สำหรับการเล่นที่เก่งขึ้น รอบการหมุนของล้อจะดีกว่า ลดการต้านแรงเสียด และราคาค่อนข้างสูง

* อะไหล่ทุกชิ้นที่ยกตัวอย่างขึ้นมาเปรียบเทียบนี้ เป็นเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันความแตกต่างของวัสดุ และอะไหล่ทุกชิ้นมีความหลากหลายมากกว่านี้

2. บริการหลังการขายที่แตกต่าง
นอกจากจะได้สินค้าที่มีคุณภาพสมกับราคาสินค้าแล้ว บริการหลังการขายจึงมีส่วนสำคัญกับลูกค้าเป็นอย่างยิ่ง เช่น การรับประกันสินค้า อะไหล่ต่างๆ ที่ต้องมีไว้รองรับ การแนะนำวิธีการเล่น การจัดกิจกรรม สำหรับเด็กๆ ได้มีส่วนร่วม การเปิดโอกาสที่ให้เด็กๆ ได้แสดงออกในความสามารถ แนะนำและฝึกสอนในการเล่นเพิ่มเติมจากการเล่นแบบมาตรฐาน  ร่วมส่งเสริมและผลักดันให้เป็นกีฬาสำหรับเด็กๆ เปิดโอกาสให้เด็กๆ ที่เล่น BALANCE BIKE ได้มีส่วนร่วมในทุกๆกิจกรรม



คลิปของน้องเปา 4 ขวบ ตัวอย่างการฝึกโดยมีผู้เชี่ยวชาญสอนโดย คุณปรีชา สรรค์วัฒนา (พี่เป้อ)