พูดถึงเขาใหญ่ทุกคนคงต้องรู้จักดี เอาจริงว่าหลายๆครั้งที่ไปเขาใหญ่สุดท้ายก็ต้องจบลงที่ไร่องุ่น ปาลิโอ้ ไม่ก็เบอร์เกอร์ฟาร์มโชคชัย และข้าวโพดไร่สุวรรณทุกที (ถึงจะอร่อยก็ตาม 55555) จนเราห่างหายจากเขาใหญ่ไปพักใหญ่ๆเพราะไม่รู้จะไปไหนดี จนทริปล่าสุดแก๊ง Go!Graph ได้ชวนเราไปสำรวจเขาใหญ่อีกซักทีว่าตอนนี้มีไรเจ๋งๆมั่ง และนี่คือสิ่งที่เราค้นพบจากการไปเขาใหญ่ทริปล่าสุดด ไปดูกันจ่ะ



YELLOW SUBMARINE : ร้านกาแฟที่เราบอกเลยว่า เท่และฮอตที่สุดในเขาใหญ่ตอนนี้ นึกภาพก้อน solid สีดำ โผล่ขึ้นมากลางป่าโปร่งในเขาใหญ่ ได้ข่าวว่าพี่เจ้าของเป็นสถาปนิกที่ทำเอง ออกแบบเองด้วยไม่น่าหล่ะ เท่ได้ถึงขนาดนี้



สเปซข้างในก็เท่ไม่แพ้กัน บอกเลยว่าเสาร์อาทิตย์ร้านนี้คนจะเยอะมากกกก แนะนำให้มาก่อนเที่ยงจะดีกว่า 555555



สำหรับเรากาแฟที่นี่ไม่ได้เด็ดหวือหวา หรือโชว์ brewing process ขนาดนั้น แต่เรื่องโลเคชั่น สเปซ และหน้าตาตึกนี่ เต็มสิบ ยอมใจ พูดเลย ไม่เชื่อมาดูรูปกัน เราถ่ายมาเพียบ





เอาเป็นว่าที่นี่เท่มากกก ไปค่ะ!



B+L café & Gril : อีกร้านนึงที่ค้นพบและคาดว่าเดี๋ยวจะฮอตแน่นอน เพราะร้านนี้ตอนกลางวันเป็นคาเฟ่ ส่วนตอนกลางคืนเป็นแบบปิ้งบาร์บีคิว ข้างในมีทั้งโซนอินดอร์และเอ้าต์ดอร์ ช่วงเอ้าต์ดอร์ในวันอากาศดีน่าจะชิลมากก



ข้างในเป็นแบบนี้ คิ้วท์กว่าข้างนอกอี๊กกกก สายฟรุ้งฟริ้งหน่อยน่าจะยิ่งอินน 55555





ที่นี่แบ่งด้านข้างทำเป็นโครงเล็กๆโปร่งๆแบบนี้ เราชอบมุมนี้น้ะ



the birder’s lodge : จาก B+L อันนี้คือเป็นโซนของที่พักเจ้าของเดียวกับคาเฟ่นี่แหละ ที่นี่เราค้นพบโดยบังเอิญ แถวชอบที่พักที่หน้าตาเหมือนอยู่ในป่าสนชื้นๆ แถวอเมริกาเหนือ /ภาพตัดมาเจอดินแดงแดดเปรี้ยง เราว่าพักที่นี่ฤดูฝนอาจน่ารักมาก



ที่นี่ฝรั่งมากก เหมือนพวกเคบินในป่าเมืองนอก ตอนเรามาเค้าพึ่งเปิดได้แพ้พเดียว อาจยังไม่เรียบร้อยนัก แต่มั่นใจว่าด้วยลุคแบบนี้เดี๋ยวฮิตชัวร์ 5555555




Hotel de artist : ที่นี่ทำให้เรารู้ว่าเขาใหญ่นี่มีคนมาอยู่ตั้งแต่สมัยพอพอกับที่หัวหินเริ่มฮิตในหมู่ราชวงศ์สมัยก่อนนั่นแหละ เพราะ hotel de artist มีตึกนักของโรงแรมที่ถูกปรับปรุงขึ้นมาจากบ้านเก่าในสมัยก่อน ที่ยังคงรูปแบบบ้านตากอากาศของเจ้านายในยุคเก่าไว้เหมือนเดิมเด้ะ นี่คือความเซอไพร์ซที่มีตึกเก่าสวยๆแบบนี้มาโผล่อยูากลางเขาแบบนี้



ที่นี่ไม่ใหญ่มาก ข้างในหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู เราว่าสระว่ายน้ำที่นี่ฟีลเดียวกับศาลาอยุธยา ห้องที่ติดสระน้ำว่าดีแล้ว เด่วเราจะไปดูอีกโซนที่เป็นพูลวิลล่า



โซนนี้เห็นครั้งแรกคือแบบชอบมากกกก (ลากเสียง) ซึ่งตรงนี้พี่ผู้ดูแลบอกว่ามี 8 ห้องเท่านั้น อยากได้ต้องรีบน้ะ!





บอกเลยว่าที่นี่เป็นอีกที่ในเขาใหญ่ที่น่าหลบมาใช้ชีวิตนิ่งๆ ช้าๆ เย็นๆ อยู่กับความไทยๆ แบบไม่ต้องประดิษฐ์อะไรมากเลย เราชอบ



The Thames Khaoyai : ใครชอบอะไรฟิลเหมือนไปเมืองนอกต้องไม่พลาด เพราะที่นี่ลุคดี ดีเทลดีจริงๆ แล้วเข้าไปข้างในคือฝรั่งมากๆ ประดิษฐ์ๆนิดนึง



ความพีคของที่นี่นอกจากจะสวยงามตามสไตล์อังกฤษแล้ว ยังมี Afternoon Tea ที่บอกเลยว่าเด็ดสุดในเขาใหญ่ เพราะร้านชาที่นี่คือ TWG นั่นแหละ TWG เดียวกับที่เรากินกันในกรุงเทพนี่แหละะ แต่มีชาบางตัวที่หาไม่ได้ที่ TWG กรุงเทพด้วยน้ะ เพราะเป็นสเปเชียลเบลนด์ให้กับที่ the thames เท่านั้น





เวลาเสริฟเค้าจะ ฝลัด ชาให้เราดูแบบนี้ ดีเทลมาก เพราะคุณพี่เค้าจะทำการ อุ่นกาชา ฝลัดชาจนได้ที่ แล้วมาเสิรฟเราด้วยความควอลิตี้สุดด



อันนี้ชอบมาก ใครไปขอให้ลองชาชื่อ Pink Flamingo ชาที่เปลี่ยนสีได้ เพราะตอนแรกมันเป็นชาสีม่วงตุ่นๆ พอเราหย่อนเลม่อนลงไป มันก็กลายเป็นสีชมพูสดใสแบบนี้



ขนมที่นี่ก็อร่อย ทั้งสโคนกับแยม คัสตาร์ด และคลอทเทดครีมโฮมเมด อีกอันคือมิวเฟย (รึเปล่า น่าจะใช่ 5555) ล้ะก็มีเป็นเซตแบบนี้ด้วยน้ะะะ เอาเป็นว่าใครอินชาและอาฟเตอร์นูนที ขอให้มาลองง





The Thames Khaoyai Farmer Market : ที่ดีอีกอย่างของ the thames คือด้านหน้าเวลาเย็นๆค่ำๆ เค้าจะจัดฟาร์มเมอร์มาร์เก็ต ที่ชาวสวนและคนทำของโฮมเมดทั้งหลายมากออกร้านขายของกัน มีผักออแกนิค น้ำสลัด แล้วก็เอ้าต์ดอร์บาร์เล็กๆในแฮงค์เอ้าต์ด้วย เกร๋ๆ









SWEET & GREEN ORGANIC FARM : ฟาร์มออแกนิคขนาดเล็กที่ซ่อนตัวอยู่ในแถบนี้ ที่นี่ปลูกผักอย่างจริงจังชนิดที่ว่าเราซื้อได้แค่ข้างหน้า ห้ามเข้าไปวิ่งเล็กในเรือนกระจก เพราะเค้าควบคุมอุณหภูมิไว้



ด้านหน้าทำเป็นร้านให้เราเล็กๆ ไว้เลือกซื้อผักออแกนิค ข้าวโพดหวาน ฟักทอง เมล่อน แยมทำเอง น้ำสลัด และอื่นๆที่ผลัดเปลี่ยนไปตามฤดู ใครชอบทำอาหาร เลือกซื้อวัตถุดิบเอ็นจอยแน่ๆ




ฟักทองฮาโลวีน (เค้าเรียกแบบนี้จริงๆน้ะ) ที่พี่ในฟาร์มบอกว่า เอาไปทำซุปจะอร่อยมาก อยากกินเลอ



รอบๆฟาร์มเค้าก็ทดลองปลูกผักผลไม้สวนครัวเล็กๆน้อยๆด้วยน้ะ นี่คือทะเขือเทศที่บังเอิญน้องๆโตตอนเราไปเจอพอดี ยังกะในลิตเติ้ลฟอร์เรสสส แถมปลูกโรสแมรี่ด้วยน้ะ ตื่นเต้น เราพยายามปลูกแต่ไม่สำเร็จ ตรงแถวที่ปลูกนี่กลิ่นโรสแมรี่คลุ้งมาในอากาศเย็นๆ ชอบมาก (วีคที่เราไปคือวีคที่กรุงเทพอากาศหน๊าวหนาวนี่แหละ)





DEAN & DELUCA @ ARKARD : สำหรับใครที่ติดความกรุงเทพ 555555 ต่อให้เรามาเขาใหญ่ เราก็ยังมีความกรุงเทพตามมาจย้าาาา เพราะเซลล์ออฟฟิตของคอนโดอากาศมีกาแฟควอลิตี้ของดีนมาให้เรากินแบบที่รู้รสชาติแน่ๆไม่ต้องลุ้น แต่ไม่ใช่แค่เพราะเป็นดีนหรอกน้ะ เพราะโลเคชั่นแถวนี้ก็สวยงาม การนั่งจิบกาแฟดีนอุ่นๆ เอ้าท์ดอร์กลางเขาใหญ่ ในช่วงอากาศแบบนี้บอกเลยว่าชิลล







คอนโดที่นี่กำลังขึ้นเลย ไม่รู้ดีหรือไม่ดี แอบรู้สึกว่ามันเมืองไปนิดนึง



นี่เป็นกล้องที่เราใช้ในทริปนี้ เจ๋งยังไงไปดูกันท้ายรีวิวว



จบแล้วสำหรับทริปนี้ ขอขอบคุณ Go!Graph ที่ชวนน้องมาเที่ยวด้วยกันน หวังว่าเราน่าจะช่วยเพิ่มที่ที่น่าสนใหม่ๆในเขาใหญ่ให้ทุกคนได้บ้างโน้ะะะ แถวเขาใหญ่อยู่ใกล้กรุวเทพแค่นี้ ไปชิลแบบเช้าเย็นกลับ หรือจะแค่เสาอาทิตย์ก็ยังไหว ยิ่งอากาศดี ไม่ต้องใช้วันหยุดแบบนี้ รออะไร ลุยเลยย





SPACIAL PART : ฮาย สำหรับทริปนี้ กล้องที่เราใช้คือน้องคนนี้นีแหละ Canon G5X มาดูกันว่าน้องเค้าเจ๋งไง ตัวนี้เป็นกล้องคอมแพคประเภทตัวเดียวอยู่ไม่ต้องเปลี่ยนเลนส์ หรือพกเลนส์มากๆให้ยุ่ง เราชอบใช้เวลาไปเที่ยวชิลๆ ไม่ต้องแบกอะไรมาก หน้าตาก็ดี แถมไม่หนักด้วยน้ะ



แล้วที่ชอบสุดคือ G5X เค้ากดโฟกัสจากจอได้เลยยยย แนะนำมากๆสำหรับมนุษย์สายตาสั้น(แบบเรา) ที่จะไปหมุนเลนส์ก็ไม่ค่อยแม่นเท่าไหร่ เลยเอนจอยกับการกดโฟกัสที่จอมาก 555555555



มีหลายคนที่ชอบมาให้แนะนำกล้องให้ บอกเลยว่าน้องคนนี้ก็เป็นอีกตัวเลือกนึงที่ดีน้ะ เราเชียร์ :- )
ปล. ขอบคุณ Canon Thailand มา ณ ที่นี้ที่ส่งน้องมาให้เราได้ลองเอาไปใช้ในทริปนี้น้ะค๊า ขอบคุณมากเลย ฮรี่