🍫🍫🍫🍫🍫
.
หากกล่าวถึงประเทศผู้ผลิตช็อกโกแลต ผู้คนอาจนึกถึงประเทศฝั่งยุโรปที่ขึ้นชื่อเรื่องช็อกโกแลต เช่น สวิตเซอร์แลนด์ หรือเบลเยียม รวมถึงประเทศฝั่งแอฟริกาใต้ที่เป็นแหล่งเพาะปลูกโกโก้มากถึงร้อยละ 60 ของโลก อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้ ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ผลิตโกโก้ และเป็นศูนย์รวมของผู้ผลิตช็อกโกแลตคราฟท์ที่ดึงดูดความสนใจทั้งผู้บริโภคท้องถิ่นและผู้ประกอบการจากนานาชาติ ในครั้งนี้ ลงทุนศาสตร์ขอพาท่านผู้อ่านไปสำรวจเหตุผลที่ไทยกำลังก้าวเป็นผู้ผลิตโกโก้ที่น่าจับตามอง ดังต่อไปนี้
.
ก่อนหน้านี้ ประเทศไทยยังไม่เป็นผู้เล่นหลักด้านการผลิตโกโก้ มียอดผลผลิตเพียง 1,500-2,000 เมตริกตันในแต่ละปี เมื่อกล่าวถึงช็อกโกแลตกับวัฒนธรรมไทย คนไทยใช้ช็อกโกแลตเพื่อเป็นส่วนผสมของเครื่องดื่มเป็นหลัก เช่นผงโกโก้ชงกับนมข้น จนกระทั่งช่วงสิบปีที่ผ่านมา แบรนด์ช็อกโกแลตไทย เช่น Kad Kokoa, PARADAi, Pridi Cacao, Matchima Chocolate และ Kan Vela Chocolate เริ่มคิดค้นและเปลี่ยนแปลงการใช้ช็อกโกแลตให้มีความหลากหลาย นำเสนอช็อกโกแลตบาร์ ชาเปลือกโกโก้ แปรรูปโกโก้ในฐานะผลไม้ให้มีความน่าสนใจ และดึงเสน่ห์ในรสชาติของช็อกโกแลตที่เพาะปลูกในแต่ละพื้นที่จากฟาร์มใน 10 จังหวัด ครอบคลุมภูมิภาคของประเทศไทย และสนับสนุนผู้ผลิตโกโก้ท้องถิ่น
.
การผลิตโกโก้ในไทยประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เนื่องจากสภาพอากาศในไทยเอื้อต่อการผลิตโกโก้เป็นอย่างมาก โกโก้เติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้น ประเทศไทยที่มีแดดและมีฝนตกชุกจึงนับเป็นดินแดนที่เหมาะสมกับการปลูกโกโก้ให้งอกงาม ทั้งนี้ ประเทศไทยมีการพัฒนาโกโก้สายพันธุ์ลูกผสม ได้แก่ พันธุ์ลูกผสม ชุมพร 1 ที่ให้ผลผลิตเฉลี่ย 127.2 กิโลกรัมต่อไร่ เมล็ดมีเปอร์เซ็นต์ไขมันสูงร้อยละ 57.27 และพันธุ์ลูกผสม I.M.1 เหมาะสำหรับปลูกในเขตภาคกลาง ภาคเหนือและภาคอีสาน ให้ผลผลิตสูง เก็บเกี่ยวหลังจากปลูกได้ 3 ปี เมล็ดมีปริมาณไขมันสูงเฉลี่ยร้อยละ 52 นับเป็นโกโก้ที่มีคุณภาพสูง และได้รับการพัฒนามาให้ทนทานต่อโรค เหมาะกับการปลูกในประเทศไทย โกโก้จึงนับเป็นพืชเศรษฐกิจที่สามารถเติบโตในไทยได้อย่างดี
.
นอกจากที่กล่าวมานี้ นโยบายภาษีของภาครัฐที่มีต่อโกโก้นำเข้ายังเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการแต่ละรายเริ่มมองหาหนทางที่จะใช้โกโก้ที่ปลูกในไทย สวนโกโก้ในไทยตามท้องที่ต่าง ๆ เริ่มได้รับการค้นพบมากขึ้น และมีเครือข่ายระหว่างกัน กลายเป็นการรวมกลุ่มที่เข้มแข็ง และเริ่มมีการจัดเวิร์คช็อปให้ความรู้ จัดกิจกรรมรวบรวมผู้ผลิตคราฟท์ช็อกโกแลต เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคและผู้ประกอบการได้สำรวจร้านช็อกโกแลตอย่างสม่ำเสมอ
.
ตลาดโกโก้ในไทยใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และความต้องการโกโก้ในตลาดโลกก็ยิ่งมีแต่จะเพิ่มมากขึ้น ประเทศไทยที่มีความพร้อมในการผลิตโกโก้ และมีการรวมกลุ่มที่เข้มแข็ง สามารถก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตโกโก้ที่น่าจับตามองในระดับโลกได้ จากนี้ไป เราคงได้แต่คอยจับตาดูทิศทางการเติบโตของโกโก้ไทยในตลาดโลก และคอยสนับสนุนให้ผู้ผลิตคราฟท์ช็อกโกแลตของไทยเติบโตได้อย่างมั่นคงต่อไป
.
ลงทุนศาสตร์
CR
https://www.facebook.com/share/17cGkCcb7P/?mibextid=wwXIfr
📍สวรรค์ช็อกโกแลตอยู่ที่ไทย เหตุผลที่ไทยก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตโกโก้ที่น่าจับตามอง 🍫🍫🍫
.
หากกล่าวถึงประเทศผู้ผลิตช็อกโกแลต ผู้คนอาจนึกถึงประเทศฝั่งยุโรปที่ขึ้นชื่อเรื่องช็อกโกแลต เช่น สวิตเซอร์แลนด์ หรือเบลเยียม รวมถึงประเทศฝั่งแอฟริกาใต้ที่เป็นแหล่งเพาะปลูกโกโก้มากถึงร้อยละ 60 ของโลก อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้ ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ผลิตโกโก้ และเป็นศูนย์รวมของผู้ผลิตช็อกโกแลตคราฟท์ที่ดึงดูดความสนใจทั้งผู้บริโภคท้องถิ่นและผู้ประกอบการจากนานาชาติ ในครั้งนี้ ลงทุนศาสตร์ขอพาท่านผู้อ่านไปสำรวจเหตุผลที่ไทยกำลังก้าวเป็นผู้ผลิตโกโก้ที่น่าจับตามอง ดังต่อไปนี้
.
ก่อนหน้านี้ ประเทศไทยยังไม่เป็นผู้เล่นหลักด้านการผลิตโกโก้ มียอดผลผลิตเพียง 1,500-2,000 เมตริกตันในแต่ละปี เมื่อกล่าวถึงช็อกโกแลตกับวัฒนธรรมไทย คนไทยใช้ช็อกโกแลตเพื่อเป็นส่วนผสมของเครื่องดื่มเป็นหลัก เช่นผงโกโก้ชงกับนมข้น จนกระทั่งช่วงสิบปีที่ผ่านมา แบรนด์ช็อกโกแลตไทย เช่น Kad Kokoa, PARADAi, Pridi Cacao, Matchima Chocolate และ Kan Vela Chocolate เริ่มคิดค้นและเปลี่ยนแปลงการใช้ช็อกโกแลตให้มีความหลากหลาย นำเสนอช็อกโกแลตบาร์ ชาเปลือกโกโก้ แปรรูปโกโก้ในฐานะผลไม้ให้มีความน่าสนใจ และดึงเสน่ห์ในรสชาติของช็อกโกแลตที่เพาะปลูกในแต่ละพื้นที่จากฟาร์มใน 10 จังหวัด ครอบคลุมภูมิภาคของประเทศไทย และสนับสนุนผู้ผลิตโกโก้ท้องถิ่น
.
การผลิตโกโก้ในไทยประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เนื่องจากสภาพอากาศในไทยเอื้อต่อการผลิตโกโก้เป็นอย่างมาก โกโก้เติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้น ประเทศไทยที่มีแดดและมีฝนตกชุกจึงนับเป็นดินแดนที่เหมาะสมกับการปลูกโกโก้ให้งอกงาม ทั้งนี้ ประเทศไทยมีการพัฒนาโกโก้สายพันธุ์ลูกผสม ได้แก่ พันธุ์ลูกผสม ชุมพร 1 ที่ให้ผลผลิตเฉลี่ย 127.2 กิโลกรัมต่อไร่ เมล็ดมีเปอร์เซ็นต์ไขมันสูงร้อยละ 57.27 และพันธุ์ลูกผสม I.M.1 เหมาะสำหรับปลูกในเขตภาคกลาง ภาคเหนือและภาคอีสาน ให้ผลผลิตสูง เก็บเกี่ยวหลังจากปลูกได้ 3 ปี เมล็ดมีปริมาณไขมันสูงเฉลี่ยร้อยละ 52 นับเป็นโกโก้ที่มีคุณภาพสูง และได้รับการพัฒนามาให้ทนทานต่อโรค เหมาะกับการปลูกในประเทศไทย โกโก้จึงนับเป็นพืชเศรษฐกิจที่สามารถเติบโตในไทยได้อย่างดี
.
นอกจากที่กล่าวมานี้ นโยบายภาษีของภาครัฐที่มีต่อโกโก้นำเข้ายังเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการแต่ละรายเริ่มมองหาหนทางที่จะใช้โกโก้ที่ปลูกในไทย สวนโกโก้ในไทยตามท้องที่ต่าง ๆ เริ่มได้รับการค้นพบมากขึ้น และมีเครือข่ายระหว่างกัน กลายเป็นการรวมกลุ่มที่เข้มแข็ง และเริ่มมีการจัดเวิร์คช็อปให้ความรู้ จัดกิจกรรมรวบรวมผู้ผลิตคราฟท์ช็อกโกแลต เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคและผู้ประกอบการได้สำรวจร้านช็อกโกแลตอย่างสม่ำเสมอ
.
ตลาดโกโก้ในไทยใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และความต้องการโกโก้ในตลาดโลกก็ยิ่งมีแต่จะเพิ่มมากขึ้น ประเทศไทยที่มีความพร้อมในการผลิตโกโก้ และมีการรวมกลุ่มที่เข้มแข็ง สามารถก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตโกโก้ที่น่าจับตามองในระดับโลกได้ จากนี้ไป เราคงได้แต่คอยจับตาดูทิศทางการเติบโตของโกโก้ไทยในตลาดโลก และคอยสนับสนุนให้ผู้ผลิตคราฟท์ช็อกโกแลตของไทยเติบโตได้อย่างมั่นคงต่อไป
.
ลงทุนศาสตร์
CR https://www.facebook.com/share/17cGkCcb7P/?mibextid=wwXIfr