แชร์ประสบการณ์การขอเครม อะไหล่รถยนต์ (กระจกมองข้างฟับไฟฟ้า , แบตเตอรี่ และ ไฟหรี่)

ก่อนเข้าเรื่อง สิ่งที่ผมเขียนอาจจะไม่ถูกใจหลายๆคน แต่ถือเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อเป็นความรู้ไว้ครับ
ถ้าใครรู้สึกว่าไม่ดีก็ผ่านได้เลยครับไม่ว่ากันครับ

เกริ่นนำีกนิด[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เข้าเรื่องครับ ผมได้ซื้อรถครั้งแรกเมื่อราวๆ 3 ปีก่อนกับโครงการรถคันแรก
ตอนที่ไปจองรถตอนนั้นเซลล์ก็ได้เสนอของแถมผมอย่างมากมาย ของแถมหลักๆที่ผมฟังปุ้บต้องสะดุดใจคือ

1. เซ็นเซอร์ถอยหลัง
2. ไฟเลี้ยวกระจกมองข้าง

ผมถามเซลล์คือสองสิ่งนี้เป็นการติดเพิ่มเข้ามาใช่หรือไม่ใช่
และถ้าติดแล้วยังอยู่ในประกันของศูนย์หรือเปล่า

เซลล์รับคำถามผมและหายไปพักนึงและมาพร้อมอีกครั้งกับพนักงานฝ่ายประเมินความเสียหายเพื่อทำการเคมชิ้นส่วนให้ลูกค้า
พนักงานเครมแจ้งว่า สิ่งที่ผมถามนั้นคำตอบคือ “ไม่รับประกัน” เพราะ “ไม่ใช่อุปกรณ์มาตรฐานโรงงาน”

การที่ลูกค้าของติด (นั่น... โบ้ยกรูเลย) ถือว่าเป็นความสมัครใจของลูกค้าเองในการดัดแปลงแก้ไขระบบไฟฟ้า
ดังนั้นถ้ามีความเสียหายในระบบไฟฟ้า ทางบริษัทจะปฏิเสธความรับผิดชอบทันที
อะ... โอเคร... ผมเข้าใจประเด็นนี้

ผมถามต่อว่าคำว่า “ระบบไฟฟ้า” มันกว้างแค่ไหน เพราะอย่าลืมว่ารถยนต์สมัยนี้ล้วนมี “กล่องควบคุม” ซึ่งต้องใช้ “ไฟฟ้า”
พนักงานเครมตอบว่า ก็ต้องมาดูว่า “เสียเพราะอะไร” ถ้าเสียเพราะอุปกรณ์ที่ “ไม่ใช่มาตรฐานโรงงาน” ลูกค้าก็ต้องรับผิดชอบเอง

ผมนั่งฟังแล้วแบบ โอโห... มันกว้างใหญ่ไพศาลมากเลยนะ คือพูดง่ายๆว่า ถ้ามืงไม่อยากซ่อมมืงก็โบ้ยก็ได้ว่างั้นเถอะ 5555+

ผมถามพนักงานเครมครั้งสุดท้ายว่าถ้าผมปฏิบัติตามคู่มือทุกประการ ผมก็จะไม่มีปัญหาเรื่องเครมใช่หรือไม่ใช่
พนักงานเครมก็ตอบว่า ใช่

ผมนั่งอ่านคู่มืออยู่ 30 นาที เจอข้อที่แปลกๆก็ถามพนักงาน เช่น คู่มือแนะนำให้ใช้ล้อขนาด 15 หรือ 16 นิ้ว ถ้าผมเปลี่ยนเป็น 17 รถผมจะหลุดประกันมั้ย
พนักงานเครมตอบว่า “ก็ต้องดูว่าสาเหตุนั้นเกิดจากล้อหรือไม่”
ผมฟังก็สรุปได้ว่าหลุดประกันนั่นแหละ 555+

ผมอ่านจบผมก็โอเคคับ ตัดสินใจซื้อทันที ไม่เอาของแถมอะไรเลยคับ เอาแต่บัตรเติมน้ำมันอย่างเดียวนี่แหละ 555+

สรุปโดยบริบทรวมก็คือ ผมซื้อสินค้าภายใต้สัญญาพร้อมการรับประกัน
เขาขายสินค้าภายใต้สัญญาพร้อมประกัน ถ้าผมไม่ทำอะไรนอกเหนือสัญญา ประกันย่อมเป็นประกัน

ทีนี้ถึงเวลาเครมแล้วครับ
ผมค่อนข้างโชคดีคือ  เริ่มจาก

1. กระจกพับไฟฟ้าพับได้บ้างไม่ได้บ้าง พับ 10 ครั้ง ไม่ติด 2 ครั้ง
2. หลอดไฟหรี่ขาด
3. แบตเตอรี่เสื่อม สตาทติดยาก

รถผมอายุได้ 2 ปีครึ่ง ยังอยู่ใน 3 ปีหรือ 2แสน กม. ผมก็เข้ามาเครมโดยยังเจอพนักงานเครมคนเดิม

พนักงานเคมแจ้งกับผมว่า เครมไม่ได้เลยเพราะ
1. กระจกพับไฟฟ้าเป็นมอเตอร์ไฟฟ้า พังตามอายุการใช้งาน
2. หลอดไฟขาด เพราะอายุการใช้งาน
3. แบตเตอรี่เสื่อมเพราะอายุการใช้งาน

ผมก็ตอบไปว่า “ครับบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ”
ผมยอมรับสิ่งที่คุณพูดได้นะและเดินหันหลังกลับทันที “แต่” คุณช่วยชี้ให้ผมดูหน่อยว่าไอ้ 3 ข้อที่คุณพูดมาเนี่ย
อยู่ตรงไหนของคู่มือรับประกันช่วยเปิดดูให้ผมหน่อย ซึ่งผมเข้าใจมาตลอดว่าถ้ารถผมมีประกันตามที่เราได้ “สัญญา” กัน
ดังนั้น เป็น “หน้าที่” ของบริษัทคุณ ที่ต้องทำตามให้ตรงตามสัญญาที่ “รับประกัน”
หรือ มีกระดาษสัญญาอื่นใดที่มีลายมือผม “ยอมรับ” นั้นๆ

ต่อมาพนักงานเครมหายไปราว 10 นาทีก็ออกมาพร้อมให้ผมคุยกับพนักงานของศูนย์ใหญ่ ซึ่งพนักงานศูนย์ใหญ่ยังพูดเหมือนเดิมว่า “ไม่รับประกัน”
ซึ่งผมก็ยืนยันคำเดิมว่าไอ้ที่ว่าไม่รับประกันมันอยู่ข้อไหน พนักงานศูนย์ก็หาไม่ได้

ผมก็แกล้งหยอกไปว่า "ผมมีหน้าที่ซื้อรถและนำรถไปใช้ คุณมีหน้าที่รับประกัน 3 ปี คุณก็ต้อง ออกแบบให้ผลิตภัณฑ์ของคุณสามารถใช้งานตามที่ได้รับประกัน ส่วนนี้คือหน้าที่คุณไม่ใช่หน้าที่ผม และผมเดินมาขนาดนี้แล้ว คิดว่าผมจะกลับตัวเปล่าหรอ อย่าน้อยก็ต้อมีขึ้นศาลกันบ้างแหละ"

พนักงานศูนย์ใหญ่ก็วางสายไป และผ่านไปอีกราวๆ 10 นาที พนักงานเครมก็แจ้งว่า ทั้งหมดที่ผมต้องการทางศูนย์จะเปลี่ยนให้ทั้งหมด
ทางผมนี่ดีใจมาก น้ำตาไหลพราก ในที่สุดก็ได้เปลี่ยนซักที
โดยทางศูนย์จะเปลี่ยนเฉพาะแบตเตอรีให้ก่อน ส่วนหลอดไฟหรี่และกระจกพับจะเบิกจากศูนย์ใหญ่อีกที

สรุปว่า เครมได้ทั้งหมดครับ ผมยึดว่าคู่มือว่าไว้ "อย่างไร"
ใครรับผิดชอบส่วนไหน ก็ต้องทำส่วนนั้น ผมรับผิดชอบในส่วนของผมแล้ว คุณก็ต้องรับผิดชอบในส่วนของคุณเท่านั้นครับ

และผมยังยืนยันว่า สิทธิ์ของเราย่อมเป็นสิทธิ์ของเรา ใครไม่เห้นด้วยกับผมและยินดีสละสิทธิ์ ถือเป็นเรื่องส่วนบุคคลครับ
ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่