ตำรวจ เตรียมจัดระเบียบ การกระทำผิดบนโลกออนไลน์ - โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท
ตำรวจ เตือนผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ให้โพสต์ก่อนคิด พร้อมแนะนำให้ใช้ด้วยความระมัดระวัง และเป็นประโยชน์ต่อสังคม
พันตำรวจเอก โอฬาร สุขเกษม ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. กล่าวในรายการเดินหน้าประเทศไทย ตอน “โพสต์ต้องคิด คลิก เสี่ยงคุก” ถึง สถานการณ์การใช้งานคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน ว่า มีกรณีความผิดเกี่ยวกับการใช้งานส่วนใหญ่มาจากการไม่ได้ใช้วิจารณญาณ หรือศึกษากฎหมายเกี่ยวกับการใช้งานอย่างจริงจัง จึงทำให้เกิดความผิดต่างๆ ซึ่งการทำความผิดถือเป็นเจตนาการทำความผิดตามกฏหมาย รวมถึงการเผยแพร่ต่อในข้อความที่เป็นข้อมูลอันเป็นเท็จผ่านสื่อทุกประเภท รวมทั้งสื่อออนไลน์ มีความผิดทางกฎหมายเช่นกัน โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ขณะที่การกดถูกใจ ซึ่งแสดงถึงความชอบ เห็นด้วย ในข้อมูลที่เป็นเท็จนั้น ถือว่าเข้าข่ายความผิดทางกฏหมายเช่นเดียวกัน ซึ่งจำเป็นต้องนำสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อสืบสวนสอบสวน อย่างไรก็ตาม ทุกกรณีต้องมีหลักฐานการกระทำความผิด จะไม่มีการจับกุมโดยไม่มีหลักฐานอย่างแน่นอน ขณะที่ข้ออ้างว่า การรู้เท่าไม่ถึงการณ์ นั้น ไม่สามารถใช้เป็นข้ออ้างได้ ซึ่งเป็นเรื่องของบุคคลที่จะต้องเรียนรู้และทราบในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฏหมายต่างๆ จึงจำเป็นจะต้องมีวิจารณญาณในการใช้งาน ตระหนักรู้ว่าเป็นข้อมูลจริงหรือไม่จริงอยู่เสมอก่อนที่จะดำเนินการใดๆเกี่ยวกับข้อมูลนั้นๆ
สำหรับ 10 พฤติกรรมที่ประชาชนมักจะทำผิดเสี่ยงต่อการถูกลงโทษทางกฎหมายมีดังนี้
1. อัพโหลดรูปลามกอนาจารโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท จำคุก 5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. ตั้งตัวเป็นเจ้ากรมข่าวลือโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท จำคุก 5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
3.ใช้ความสามารถในทางที่ผิดตัดต่อไม่ว่าจะภาพนิ่งหรือวิดีโอแล้วนำมาเผยแพร่ทำให้เกิดความเสียหายโทษปรับไม่เกิน 60,000 บาท จำคุก 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
4. แอบเซฟขโมยข้อมูลของบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของตนเองถ้าหากพบจะดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์รวมทั้งความผิดตามกฎหมายลิขสิทธิ์และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
5. ใส่ร้ายป้ายสีบุคคลอื่นโดยการใช้เทคโนโลยีโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท จำคุก 5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
6. ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลการแอบเอา ไอดี หรือพาสเวิร์ดผู้อื่นไปใช้โทษทั้งจำทั้งปรับ
7. การแก้ไขหรือลบไฟล์งานของบุคคลอื่นทำให้เกิดความเสียหายโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท จำคุก 5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
8. การส่งอีเมลลูกโซ่โทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท
9. การตั้งสำนักข่าวเป็นของตัวเอง อาทิ ในไลน์ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ เป็นขอกดแชร์ไว้ก่อนโดยไม่มีการเช็กข้อเท็จจริง
10. การโพสต์ข้อความใด ๆ ที่เป็นการหมิ่นเบื้องสูงหรือทำเว็บไซต์หมิ่นสถาบันมีผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรถือเป็นความผิดร้ายแรงทั้งกฎหมายอาญาและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์โทษจำคุกสูงสุด 15 ปี
ทั้งนี้ สำหรับการใช้การสื่อสารผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ อยู่ภายใต้กฎข้อบังคับตามกฎหมายเช่นกัน หากพบมีการทำความผิดในการใช้คอมพิวเตอร์ การเผยแพร่ข้อมูลทางสื่อออนไลน์ สื่อสังคมต่างๆ สามารถแจ้งข้อมูล หรือติดต่อ รวมถึงศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ www.tcsd.in.th
http://thainews.prd.go.th/website_th/news/news_detail/TNPOL5903120010003 
ตำรวจ เตรียมจัดระเบียบ การกระทำผิดบนโลกออนไลน์ - โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท
ตำรวจ เตือนผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ให้โพสต์ก่อนคิด พร้อมแนะนำให้ใช้ด้วยความระมัดระวัง และเป็นประโยชน์ต่อสังคม
พันตำรวจเอก โอฬาร สุขเกษม ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. กล่าวในรายการเดินหน้าประเทศไทย ตอน “โพสต์ต้องคิด คลิก เสี่ยงคุก” ถึง สถานการณ์การใช้งานคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน ว่า มีกรณีความผิดเกี่ยวกับการใช้งานส่วนใหญ่มาจากการไม่ได้ใช้วิจารณญาณ หรือศึกษากฎหมายเกี่ยวกับการใช้งานอย่างจริงจัง จึงทำให้เกิดความผิดต่างๆ ซึ่งการทำความผิดถือเป็นเจตนาการทำความผิดตามกฏหมาย รวมถึงการเผยแพร่ต่อในข้อความที่เป็นข้อมูลอันเป็นเท็จผ่านสื่อทุกประเภท รวมทั้งสื่อออนไลน์ มีความผิดทางกฎหมายเช่นกัน โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ขณะที่การกดถูกใจ ซึ่งแสดงถึงความชอบ เห็นด้วย ในข้อมูลที่เป็นเท็จนั้น ถือว่าเข้าข่ายความผิดทางกฏหมายเช่นเดียวกัน ซึ่งจำเป็นต้องนำสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อสืบสวนสอบสวน อย่างไรก็ตาม ทุกกรณีต้องมีหลักฐานการกระทำความผิด จะไม่มีการจับกุมโดยไม่มีหลักฐานอย่างแน่นอน ขณะที่ข้ออ้างว่า การรู้เท่าไม่ถึงการณ์ นั้น ไม่สามารถใช้เป็นข้ออ้างได้ ซึ่งเป็นเรื่องของบุคคลที่จะต้องเรียนรู้และทราบในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฏหมายต่างๆ จึงจำเป็นจะต้องมีวิจารณญาณในการใช้งาน ตระหนักรู้ว่าเป็นข้อมูลจริงหรือไม่จริงอยู่เสมอก่อนที่จะดำเนินการใดๆเกี่ยวกับข้อมูลนั้นๆ
สำหรับ 10 พฤติกรรมที่ประชาชนมักจะทำผิดเสี่ยงต่อการถูกลงโทษทางกฎหมายมีดังนี้
1. อัพโหลดรูปลามกอนาจารโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท จำคุก 5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. ตั้งตัวเป็นเจ้ากรมข่าวลือโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท จำคุก 5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
3.ใช้ความสามารถในทางที่ผิดตัดต่อไม่ว่าจะภาพนิ่งหรือวิดีโอแล้วนำมาเผยแพร่ทำให้เกิดความเสียหายโทษปรับไม่เกิน 60,000 บาท จำคุก 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
4. แอบเซฟขโมยข้อมูลของบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของตนเองถ้าหากพบจะดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์รวมทั้งความผิดตามกฎหมายลิขสิทธิ์และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
5. ใส่ร้ายป้ายสีบุคคลอื่นโดยการใช้เทคโนโลยีโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท จำคุก 5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
6. ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลการแอบเอา ไอดี หรือพาสเวิร์ดผู้อื่นไปใช้โทษทั้งจำทั้งปรับ
7. การแก้ไขหรือลบไฟล์งานของบุคคลอื่นทำให้เกิดความเสียหายโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท จำคุก 5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
8. การส่งอีเมลลูกโซ่โทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท
9. การตั้งสำนักข่าวเป็นของตัวเอง อาทิ ในไลน์ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ เป็นขอกดแชร์ไว้ก่อนโดยไม่มีการเช็กข้อเท็จจริง
10. การโพสต์ข้อความใด ๆ ที่เป็นการหมิ่นเบื้องสูงหรือทำเว็บไซต์หมิ่นสถาบันมีผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรถือเป็นความผิดร้ายแรงทั้งกฎหมายอาญาและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์โทษจำคุกสูงสุด 15 ปี
ทั้งนี้ สำหรับการใช้การสื่อสารผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ อยู่ภายใต้กฎข้อบังคับตามกฎหมายเช่นกัน หากพบมีการทำความผิดในการใช้คอมพิวเตอร์ การเผยแพร่ข้อมูลทางสื่อออนไลน์ สื่อสังคมต่างๆ สามารถแจ้งข้อมูล หรือติดต่อ รวมถึงศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ www.tcsd.in.th
http://thainews.prd.go.th/website_th/news/news_detail/TNPOL5903120010003