แนะนำจร้าสำหรับใครที่ไม่รู้จะไปไหน ในเวลาแค่หนึ่งวัน แบบเบื่อห้างอยากลุยกลางแดด นี้เลย...ทริปของเราครั้งนี้มีเวลาแค่หนึ่งวันคะ ก็เลยเลือกสถานที่ในกรุงเทพฯ ใกล้ๆ ชิวๆ ใครก็รู้จัก เอาเป็นรอบกรุง ริมแม่น้ำเจ้าพระยาละกัน เตรียมตัวกันเลยยยยยยย ~
ออกเดินทาง 9 โมง แหบเดินทางด้วยรถเมล์คะ อยากจะชิว แต่...ด้วยสภาพรังสีของแดดแล้ว ขอนั่งรถเป็นแอร์คะ กลัวจะเป็นลมคอพับไปก่อน นั่งรถเมล์จนสุดสายคะ รถติดมากกกกก ทัวร์เยอะไปไหนก่อน หิวก็หิวเก็บท้องรอกินซูชิที่วังหลังตั้งแต่เช้า (ผ่านไป 1ชม.)
ถึงแว้ววววววว “สนามหลวง” นี้หรือกรุงเทพฯ คุณ~ คะ นึกว่าอยู่จีน ฉี่เฉียงๆ พูดพ้นเสียงดังกันไปมา ...แม่เจ้า!!!
หลังจากเดินหนี รีบเดินตรงไปที่ท่าเรือ “ท่าช้าง” เพื่อที่จะข้ามฝั่งไป ...วังหลัง...
พอถึง “ท่าวังหลัง” ต้องแวะนี้เลย ..ชาชัก.. ไม่หวานมาก หอม มัน อร่อยคะ กินคู่กะโรตีร้อนๆ แป้งเหนียวหนึบ อร่อยฟินไปอีก!!!!
จากนั้นก็เลี้ยวเข้าซอย เดินไปนิดเดียวคะ ก็เห็นร้านเป้าหมายของเราแล้ว นั้นคือ......“อรทัยซุชิวังหลัง” พอนั่งแค่นั้นละคะ เจ้านี้เข้าประทับเลย สั่งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ **อร่อยที่ปาก เบาที่กระเป๋า 55555
เมนูหลากหลายมาก...แล้วแต่จะเลือกเข้าปาก!!!
รอประมาณครึ่งชม.คะ อาหารถึงมา ( เวลาแล้วแต่วันมามาก!! คนนะ!! ) วันนี้โชคดีได้นั่งห้องแอร์ โต๊ะคนไม่เยอะเท่าไร หลั่งไหลกันมาเรื่อยๆ~
แกงกะหรี่ไม่เผ็กมาก ใส่พริกญี่ปุ่นสะหน่อยกำลังดีเลยคะ ส่วนเนื้อหมูแข็งไปหน่อย
อิ่มแล้วก็นอนพักได้ 5555 ไปเที่ยวต่อสิคะคุนนนน เราไปต่อกันที่พิพิธภัณฑ์ศิริราช เสียค่าเข้า 80 บาท ได้ชม 2 ที่คะ ที่แรกตึกซีอุย ที่สองตึกเด็กดอง ( ขออภัยจำชื่อตึกเต็มๆไม่ได้ เรียกจนติดปาก ) ....แต่ถ้าเราเสีย 100 บาท สามารถชมได้สามที่คะ อีกที่จะเป็นหอประวัติศาสตร์รถไฟโบราณ
แหบเลือก 80 บาทคะ ***** โทรศัพท์เข้าไปได้ แต่ !!!! ห้ามถ่ายรูปนะคะ *****
อยู่ในพิพิธภัณฑ์ไม่นานคะ เพราะดูแล้วเป็นคนชอบจินตคะ สงสารเด็กที่ถูกดองไว้ คิดไปบร่าๆ~ เริ่มรู้สึกเวียนหัว อยากอ้วก ( อาจมีพลังงานบางอย่างก็เป็นได้ ) 555555...ไปดีกว่า
ข้ามฝั่งกันเลย....กลับไปที่สนามหลวงคะ ไหนๆมากันแล้ว ไหว้พระกันหน่อย
“วัดพระแก้ว” พอเข้าวัดเท่านั้นแหละ ความรู้สึกคือ....กรูอย่ที่ไหนกันนี่คุนนนนนผู่อ่านคะ......อีกแล้ว เหลาๆ มาๆ ฉี่เฉี่ยงๆ เถ๋าๆ อะไรก็ไม่รู้ เสียงดังโวยวายไปหมด กลิ่นก็เจ้าแม่ตะไบเล็บเหม็นมากกกกกกก~
ไหว้พระเสร็จ แหบนี่ถึงกะรีบออกจากตรงนั้นเลยคะ ด่วน!! เริ่ม!!
*****แจ้งก่อนว่า รูปในวัดค่อนข้างน้อยนะคะ เพราะเนื่องจาก อาป้าแกกางร่ม ใส่หมวก ถือไม้สูงถ่ายรูปเดินไปทั่ว เสียงดังมาก ป้ายเขียนว่าห้ามถ่าย อาป้าแกก็หยิบมาถ่าย เป็นงะ!! เจออาลุงไทยยิงเลเซอร์ใส่ รีบออกแทบไม่ทัน***** ( เหม็นตีนใคร ??? รักแร้ใคร ??? ) ...จบการสนทนา... ฟิ้ววววววววว~
หลังจากลี้ภัยออกมาจากวัดได้...เดินไปที่ท่าน้ำ “ มหาราช ” เพื่อที่จะขึ้นเรือไป เอเชียทีค
ซื้อตั๋วเสร็จ ระหว่างยืนรอเรือ ก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ (เอาบรรยากาศริมแม่น้ำมาฝาก)
ถึงแล้วคะ "เอเชียทีค" ได้แต่เดินเล่นคะ 5555 เพราะไม่รู้จะกิน จะซื้ออะไร ... เดินจนตะวันตกดิน (เอาบรรยากาศริมแม่น้ำมาฝาก)
จากนั้นก็กลับบ้านคะ ฟิ้ววววววว
ค่ารถเมล์ 2 คน 34 บาท คนละ 17 บาท
ค่าอาหารซูชิ 2 คน 450 บาท คนละ 225 บาท
ค่าเรือข้างฝั่ง 2 คน 12 บาท คนละ 6 บาท
ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ 2 คน 160 บาท คนละ 80 บาท
ค่าเรือจากมหาราช-เอเชียทีค 2 คน 80 บาท คนละ 40 บาท
**เรือขากลับ เอเชียทีค-สาทร ฟรี**
...***สรุปยอดค่าใช้จ่ายนะคะ คนละ 368 บาท***...
ฝากเพจด้วยนะคะ เพจเล็กๆ เข้าไปที่.......
https://www.facebook.com/toeyhabb/?ref=bookmarks
" One Day Trip " ทริปสั้น...เที่ยวตามใจ...ได้ใจความ
แนะนำจร้าสำหรับใครที่ไม่รู้จะไปไหน ในเวลาแค่หนึ่งวัน แบบเบื่อห้างอยากลุยกลางแดด นี้เลย...ทริปของเราครั้งนี้มีเวลาแค่หนึ่งวันคะ ก็เลยเลือกสถานที่ในกรุงเทพฯ ใกล้ๆ ชิวๆ ใครก็รู้จัก เอาเป็นรอบกรุง ริมแม่น้ำเจ้าพระยาละกัน เตรียมตัวกันเลยยยยยยย ~
ออกเดินทาง 9 โมง แหบเดินทางด้วยรถเมล์คะ อยากจะชิว แต่...ด้วยสภาพรังสีของแดดแล้ว ขอนั่งรถเป็นแอร์คะ กลัวจะเป็นลมคอพับไปก่อน นั่งรถเมล์จนสุดสายคะ รถติดมากกกกก ทัวร์เยอะไปไหนก่อน หิวก็หิวเก็บท้องรอกินซูชิที่วังหลังตั้งแต่เช้า (ผ่านไป 1ชม.)
ถึงแว้ววววววว “สนามหลวง” นี้หรือกรุงเทพฯ คุณ~ คะ นึกว่าอยู่จีน ฉี่เฉียงๆ พูดพ้นเสียงดังกันไปมา ...แม่เจ้า!!!
หลังจากเดินหนี รีบเดินตรงไปที่ท่าเรือ “ท่าช้าง” เพื่อที่จะข้ามฝั่งไป ...วังหลัง...
พอถึง “ท่าวังหลัง” ต้องแวะนี้เลย ..ชาชัก.. ไม่หวานมาก หอม มัน อร่อยคะ กินคู่กะโรตีร้อนๆ แป้งเหนียวหนึบ อร่อยฟินไปอีก!!!!
จากนั้นก็เลี้ยวเข้าซอย เดินไปนิดเดียวคะ ก็เห็นร้านเป้าหมายของเราแล้ว นั้นคือ......“อรทัยซุชิวังหลัง” พอนั่งแค่นั้นละคะ เจ้านี้เข้าประทับเลย สั่งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ **อร่อยที่ปาก เบาที่กระเป๋า 55555
เมนูหลากหลายมาก...แล้วแต่จะเลือกเข้าปาก!!!
รอประมาณครึ่งชม.คะ อาหารถึงมา ( เวลาแล้วแต่วันมามาก!! คนนะ!! ) วันนี้โชคดีได้นั่งห้องแอร์ โต๊ะคนไม่เยอะเท่าไร หลั่งไหลกันมาเรื่อยๆ~
แกงกะหรี่ไม่เผ็กมาก ใส่พริกญี่ปุ่นสะหน่อยกำลังดีเลยคะ ส่วนเนื้อหมูแข็งไปหน่อย
อิ่มแล้วก็นอนพักได้ 5555 ไปเที่ยวต่อสิคะคุนนนน เราไปต่อกันที่พิพิธภัณฑ์ศิริราช เสียค่าเข้า 80 บาท ได้ชม 2 ที่คะ ที่แรกตึกซีอุย ที่สองตึกเด็กดอง ( ขออภัยจำชื่อตึกเต็มๆไม่ได้ เรียกจนติดปาก ) ....แต่ถ้าเราเสีย 100 บาท สามารถชมได้สามที่คะ อีกที่จะเป็นหอประวัติศาสตร์รถไฟโบราณ
แหบเลือก 80 บาทคะ ***** โทรศัพท์เข้าไปได้ แต่ !!!! ห้ามถ่ายรูปนะคะ *****
อยู่ในพิพิธภัณฑ์ไม่นานคะ เพราะดูแล้วเป็นคนชอบจินตคะ สงสารเด็กที่ถูกดองไว้ คิดไปบร่าๆ~ เริ่มรู้สึกเวียนหัว อยากอ้วก ( อาจมีพลังงานบางอย่างก็เป็นได้ ) 555555...ไปดีกว่า
ข้ามฝั่งกันเลย....กลับไปที่สนามหลวงคะ ไหนๆมากันแล้ว ไหว้พระกันหน่อย
“วัดพระแก้ว” พอเข้าวัดเท่านั้นแหละ ความรู้สึกคือ....กรูอย่ที่ไหนกันนี่คุนนนนนผู่อ่านคะ......อีกแล้ว เหลาๆ มาๆ ฉี่เฉี่ยงๆ เถ๋าๆ อะไรก็ไม่รู้ เสียงดังโวยวายไปหมด กลิ่นก็เจ้าแม่ตะไบเล็บเหม็นมากกกกกกก~
ไหว้พระเสร็จ แหบนี่ถึงกะรีบออกจากตรงนั้นเลยคะ ด่วน!! เริ่ม!!
*****แจ้งก่อนว่า รูปในวัดค่อนข้างน้อยนะคะ เพราะเนื่องจาก อาป้าแกกางร่ม ใส่หมวก ถือไม้สูงถ่ายรูปเดินไปทั่ว เสียงดังมาก ป้ายเขียนว่าห้ามถ่าย อาป้าแกก็หยิบมาถ่าย เป็นงะ!! เจออาลุงไทยยิงเลเซอร์ใส่ รีบออกแทบไม่ทัน***** ( เหม็นตีนใคร ??? รักแร้ใคร ??? ) ...จบการสนทนา... ฟิ้ววววววววว~
หลังจากลี้ภัยออกมาจากวัดได้...เดินไปที่ท่าน้ำ “ มหาราช ” เพื่อที่จะขึ้นเรือไป เอเชียทีค
ซื้อตั๋วเสร็จ ระหว่างยืนรอเรือ ก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ (เอาบรรยากาศริมแม่น้ำมาฝาก)
ถึงแล้วคะ "เอเชียทีค" ได้แต่เดินเล่นคะ 5555 เพราะไม่รู้จะกิน จะซื้ออะไร ... เดินจนตะวันตกดิน (เอาบรรยากาศริมแม่น้ำมาฝาก)
จากนั้นก็กลับบ้านคะ ฟิ้ววววววว
ค่ารถเมล์ 2 คน 34 บาท คนละ 17 บาท
ค่าอาหารซูชิ 2 คน 450 บาท คนละ 225 บาท
ค่าเรือข้างฝั่ง 2 คน 12 บาท คนละ 6 บาท
ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ 2 คน 160 บาท คนละ 80 บาท
ค่าเรือจากมหาราช-เอเชียทีค 2 คน 80 บาท คนละ 40 บาท
**เรือขากลับ เอเชียทีค-สาทร ฟรี**
...***สรุปยอดค่าใช้จ่ายนะคะ คนละ 368 บาท***...
ฝากเพจด้วยนะคะ เพจเล็กๆ เข้าไปที่....... https://www.facebook.com/toeyhabb/?ref=bookmarks