เมล่อนผู้กล้าแกร่ง กับอดีตโปรแกรมเมอร์ผู้ปวดเมื่อย

เล่าประสบการณ์ตามฤดูกาลต่างๆของชีวิตโปรแกรมเมอร์ที่ผันชีวิตมาเป็นชาวสวนอีกมุมนึง เผื่อใครอยากทำสวนไม่ว่าสวนอะไร เมื่อเพื่อนร่วมงานของเรากลายเป็นสิ่งแวดล้อมรอบตัว แล้วเพื่อนร่วมสิ่งแวดล้อมเนี่ยแหละหนาาาา ที่สุดเลย ตอนนี้ขอเสนอ ชีวิตฤดูแล้ง...

ชาวสวน อยู่แบบปลอดสาร หากจะโดน โรคพืชโรคแมลงหนักบ้าง เบาบ้าง คงต้องเตรียมตัวเตรียมใจ

เตรียมตัวรับมือกับโรคและแมลงด้วยการป้องกันอย่างสม่ำเสมอ และคงต้องเตรียมใจด้วยเพราะบางครั้งโรคและแมลงก็มาแบบ Strong เช่นกัน

รอบนี้เราโดนเพลี้ยไฟเล่นงานหนัก เรียกว่าหนักหนา หนักสาหัส เพราะต้องพ่นทั้งชีวภัณฑ์ และ สมุนไพรต่างๆวันละหลายสิบลิตร หนักหลังแทบหักกันเลยทีเดียว


ถามว่าเจอเพลี้ยไฟแล้วเป็นไงล่ะ... เป็นเยอะเลยล่ะ ต้นไม่โต ใบหงิก ใบด่างจากไวรัสที่มากับเพลี้ย พอโดนไวรัส ใบก็เป็นแผลเสียหาย บางทีไวรัสก็ลงที่ผล ผลด่าง ผลไม่โต ลายไม่ออก ความอร่อยลดลง


ฉะนั้นแล้ว ทุกสูตรไล่เพลี้ยไฟจากแหล่งต่างๆไม่ว่าจะอินเตอร์เน็ต หรือปรึกษากรมวิชาการเกษตร(โชคดีว่ามีงานเกษตรแถวบ้านพอดี๊..)  เราหามาทดลอง และจบฤดูกาลคงต้องทำบุญอุทิศผลบุญกันยกใหญ่

เริ่มตั้งแต่
- ใช้ชีวภัณฑ์ บิเวอเรีย (เชื้อราที่จะไปทำให้แมลงปากดูดต่างๆป่วยและค่อยๆตายลง)
- โล่ตื้น หรือ หางไหล (สารโรติโนนเป็นสารพิษในการกำจัดแมลง )
- กาแฟ ,ยาฉุน (ทำให้ระบบกล้ามเนื้ออ่อนล้า    กลายเป็นเพลี้ยที่ไม่ยอมกระโดด     หยุดการเคลื่อนไหว     ระบบอวัยวะต่างๆไม่ทำงาน    กินไม่ได้   หายใจไม่สะดวก   อาหารไม่ย่อย   นอนไม่หลับ  และ   ตายลงในที่สุด)
- น้ำส้มควันไม้
- สะเดา (กลิ่นไล่แมลง สารจากสะเดาทำให้เบื่ออาหาร   ตายเพราะความหิว   ลดการผสมพันธุ์   วางไข่น้อยลง  ไข่ฟักเป็นตัวอ่อนที่พิการ   บางตัวเป็นหมันและตัวอ่อนไม่ลอกคราบ)
และล่าสุดกำลังปรุงน้ำหมักไล่เพี้ยจาก พริก ปูนขาว และหัวข่าแก่ (เดี๋ยวครบ7วันจะมารานงานผลการใช้น้ำหมัก)

ถามว่า ที่ใช้มาทั้งหมด  เอาอยู่มั๊ย??? ตอบได้เลยว่า ยังไม่อยู่ TT แต่ก็ลดลง จากโดนกระหน่ำซ้ำเติม หลายโรงเรือน  ตอนนี้  เหลือที่ยังแหวกดูยอดแล้วยังเจอปาร์ตี้เพลี้ยอยู่อีก1โรง อีกโรงเพิ่งจะหายเพลี้ยไม่เจอ  และอีกโรง ผลโตใบแก่แล้ว เพลี้ยคงเลิกสนใจ ถึงยังไม่หมดไปจากสวนเลยซะทีเดียว  แค่ลดลง เราก็ดีใจ

นอกจากหนักจากการพ่นแล้ว เรายังเจองานหนักอีกอย่าง ถือเป็นการ "เด็ดสุดยอด" ใช่แล้ว เด็ด สุด ยอด เลย เด็ดมันทุดยอดที่เด็ดได้ ยอดแขนง ยอดอ่อน ใบอ่อน (ยกเว้นยอดของต้น จนกว่าต้นจะโตพอ) หรือแม้กระทั่ง ลูกอ่อนที่ผสมเกษรแล้วยังไม่ได้คัดผล เราก็เร่งรีบคัดผลกันอย่างว่องไว เพื่องดอาหารของเพลี้ย เอาให้ผอมตายกันไปเลย

เด็ดยังไม่พอ "หยั่งงี้มันต้องถอน" ก็มี เพราะหากพินิจพิเคราะห์ความน่าจะเป็น(คณิตศาตร์สมัยมัธยมได้ใช้ละ555)แล้ว พี่เมล่อนแกหมดสิทธิ์ไปต่อ เราก็จำเป็นต้อง ถอนนนน โอ้ว 1ต้น  มีเมล่อนแค่ 1 ลูก ถอน 1 ต้น ทิ้งเมล่อนไป 1 ลูก ตอนนี้ถอนไปไม่ต่ำกว่า 100 ต้นนนนน คณิตศาตร์ก้องกังวาลในหัวอีกครั้งถึงรายจ่ายปลายเดือนที่ตามมา หลังจากรายได้หายไป... สลบแปล๊บ)

จากชีวิตสโลว์... มาเจอพี่เพลี้ยเข้า อยากถามจริง ใครคิดว่าชีวิตโปรแกรมเมอร์ผันตัวมาเป็นเกษตรกรแบบปลอดสาร มันช่างงงงง เรียบ ช้า เบาบาง ยิ้มกว้าง ตาหยี เชิญมาเที่ยวสวนและเป็นพนักงานฝึกหัดก่อนคิดลาออกจากงานประจำ (555 ขำขันน่ะ) เอาจริงๆก็  เช้าตรวจสวนตื่นแต่ตี5 6โมงแล้วแต่พระอาทิตย์จะอำนวย บ่ายเย็นๆเข้าแปลงตรวจไปพ่นไป ถ้าเจอโรคพืชโรคแมลงก็วุ่นกว่าเดิมหน่อย และเริ่มมีงานเพิ่มหลังจากตรวจแปลงคือหาเอกสาร งานวิจัยอ่านกันให้วุ่น กำจัดโรคนั้น แมลงนี้ ทำไง วงจรชีวิตแมลงตัวนี้ เชื้อราตัวนั้น จะอยู่นานแค่ไหน เมื่อไหรถึงตายเมื่อ (ถ้าจบสายเกษตรอาจจะมีพื้นฐานเยอะกว่านี้ งานอ่านเอกสารเหล่านี้  อาจตะไม่ต้องเกิดน่ะ ) และตามด้วยการหมักสมุนไพรสูตรต่างๆเพื่อรักษา เพื่อกำจัด สิ่งไม่พึงประสงค์ต่างๆ

เอาจริงๆ อีกครั้ง มันก็ท้าทาย สนุกปนความเหนื่อย และมีความสุขกับปลายทางที่แม้บางครั้ง จะต้องรื้อทั้งโรงทิ้งไปทำปุ๋ย แต่ตอบตัวเองได้เต็มปากว่าอย่างน้อยเราได้พยายามอย่างดีที่สุดแล้วและเราปลอดภัย ครอบครัวคนรักปลอดภัย คนกินปลอดภัย

แต่... บางปลายทางเราก็รอดนะ ถึงรอดไม่ครบ 100% เราก็ยังมีผู้กล้าแกร่งอยู่จนพ้นเงื้อมมื้อพี่เพลี้ยไฟ มาต่อรอคิวให้ท่านผู้ชมได้เตรียมลิ้มลอง

ปลายเดือนนี้มารอดูกัน เมล่อนผู้กล้าแกร่ง
จากชาวสวนผู้ปวดเมื่อย และปวดใจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่