ปั่นรถได้ 50 โลแล้วนะ (รวมทุกวัน) ได้ประสบการณ์หลายอย่างเลย
คือปกติแล้วเป็นคนที่ออกกำลังกายน้อยมาก ล่าสุดคือเตะบอล อบต.สมัย 10 ปีก่อนมั้ง และมีห้วงนึงที่ไปซื้อเสือภูเขามาขี่ ซื้อมาตั้งกะมันไม่ฮิต ขี่ไปได้ 24 กิโล(ตามไมล์ติดรถ) จากนั้นก็จอดและขายทิ้งไปในที่สุด
จริงๆแล้วเรื่องออกกำลังกาย มันเริ่มมาตั้งแต่สามสี่เดือนก่อนแล้ว คือวิ่งออกกำลังกายที่ถนนหลังบ้าน เริ่มวิ่งหลังเลิกงาน มาถึงบ้านก้อหกโมงกว่า วิ่งหกโมงครึ่ง ทุ่มนึงก็มืดตึ๊บระยะทางไปกลับ 1.6 กม. เหนื่อยเป็นหมาหอบ คือมันปวดเข่า เอว สะโพก บั้นเด้า กระทบกันไปหมด พอเจ็บก็เบื่อก็ขี้เกียจ
พักหลังมานี่ เห็นพวกเพื่อนๆ พี่ๆ ในเฟสหันมาปั่นรถกันเยอะ จริงๆแล้ว ไม่เห็นตอนเค้าปั่นหรอก มาเห็นตอนเขาถ่ายเซลฟี่กับรถ เห้ย!!!

หล่อว่ะ รถก็สวย พิงหลักกิโลถ่ายก็หล่อแล้ว เอาวะ ในใจคิด กูเอาบ้าง ผลพลอยได้จากการถ่ายเซลฟี่อาจได้เรื่องออกกำลังกายบ้างแหละ
ก็เปิดเวป THAIMTB มาเดือนกว่า จนรู้

หมดแล้ว ยี่ห้งยี่ห้อ ราคา เสปก ไปร้านจักรยานมาสามครั้ง สุดท้ายก็แห้วกลับมาด้วยสองเหตุผล คือ ตัง์ไม่พอ กับไม่มีที่ชอบ
จนกระทั่งอาทิตก่อน ขับรถไปธุระกทม. แล้วไม่รู้อะไรดลใจให้เปิด Crome ในมือถือ แล้วไอ้หน้าเวปร้านจักรยานนี้

ขึ้นมาเพราะเป็นหน้าที่เปิดดูล่าสุด และร้านมันทำโปรโมชั่นรถยี่ห้อนึงอยู่
บังเอิญที่สองคือ

อยู่ใกล้ไง ผมอยู่แถวเกษตร ร้านอยู่ลาดปลาเค้า เอาวะ ไปดูเล่นๆ
เดินเข้าร้านไปแบบโง่ๆ คนขายสองคนยิ้มให้ ไม่พูดอะไรเลยสักคำ ปล่อยให้เราเดินเล่นไปเรื่อยๆ ดูไปดูมา กะว่าจะเดินกลับ น้องผู้หญิงหันมาบอกว่า พี่คะ ชั้นสองมีอีกนะคะ เชิญเลยค่ะ ครับ...กลับหลังหันเดินขึ้นกะไดตามเค้าไป
บนชั้นสอง รถ

เพียบเลย น้องทั้งสองก็เดินมาบอกว่า พี่สนใจคันไหนครับ พอผมบอกงบประมาณและความต้องการไป น้องผู้ชายก็เข็นรถออกมาให้ผมลอง ก่อนอื่นเลย ให้ลองคร่อมรถเสือหมอบคันนึง
แล้วยิงคำถามว่า "ติดไข่ไหมพี่ "

มม.. ถามตรงไปไหม น้องผู้หญิงอีกคน

ก็

ก้มลงไปมองอีก คือ กลัวกูโกหกมั้ง
"นิดหน่อยครับ" ผมตอบ ทีนี้

ถามต่อเลย "ติดแบบแตะๆ หรือเบียดไข่ครับพี่ " คืออยากรู้ขนาดนั้นเอามือมาคลำเลยมั้ย ห่ามมม....
สุดท้ายน้องก็บอกว่า 48 ครับ ไซด์พี่ และไอ้รถไซด์นี้ในงบของผม

หาของยากอ่ะ น้องเข็นมาสองสามคันให้เลือก ลองคร่อม ลองก้ม ปวดหลังแปร้ปปป.. จนน้องมันถาม พี่ปวดหลังเหรอครับ
และให้เราออกมายืนตรง ก้มตัวเอามือแตะปลายขา ผลคือ ก้มไม่ลง ลงไม่สุด น้องเลยบอก "พี่ยังขี่หมอบไม่ได้หรอกครับ พาลจะแย่ไปใหญ่ถ้าฝืน และก็เดินไปเข็นไอ้รถคันที่ผมใช้อยู่นี่มาให้ "หมอบแฮนด์ตรง"
อย่างพี่เต็มที่ก็ต้องแบบนี้ครับ "ครับ เอาครับ" ผมก็รูดปรึ๊ดดดด ยกขึ้นรถกลับบ้านมาแบบงงๆ พร้อมกางเกงตูดหนาๆ 1 ตัว
ได้รถมาวันศุกร์ ก็ขี่เรื่อยๆ ตามแต่เวลาจะอำนวย วันแรกออกจากบ้านตีห้าสิบห้า ขี่โน่นเลย อ้อมถนนเส้นหลังวัด สภาพแวดล้อมมืดตึ๊บ ไร้รถ ไร้คนสัญจร มีแต่เสียงปั่นดังแจ๊กๆๆ ของรถเรา ขี่ไปกลับ 15 กิโล กลับมาถึงหน้าวัด

ยังไม่สว่างเลย
หมา

ก็กวดจัง นี่

คือปัญหาใหญ่เลย
คือ ไม่รู้จะเอาไงกับหมาเวลามันกวด 1. กูปั่นหนี วัดกันเลย ถ้าทันกูเจ็บ แต่ถ้ากูไวก็รอด กับ 2. ยกขาหลบหมา แต่ทีนี้รถ

ก็หยุดอีก เพราะไม่ได้เอาตีนปั่น โดนหมารุมอีก สุดท้ายคือ ปั่นด้วยขาข้างเดียว อีกข้างยกหนีหมา ถ้าใครมาเห็นจะรู้ว่ามันน่าสมเพศเวทนามากจริงๆ
แต่รู้เลยว่า การปั่นจักรยานนี่มันเป็นการออกกำลังกายที่ใช่อ่ะ มันซอร์ฟกำลังขา ไม่ปวดเข่า สามารถประนีประนอมกับมันได้ ถ้ารู้จักการปรับเกียร์ รู้กำลังตัวเอง เอาง่ายๆ คือ ปั่นจักรยาน

ฟรีล้อได้ไง เหนื่อยก็ก็ปล่อยฟรีไป ไม่เหมือนวิ่ง หยุดคือหยุด
ตอนนี้ปัญหาอย่างนึงที่กำลังจะหาทางแก้ คือ "การจัดระเบียบอวัยวะ" ก็ไอ้กางเกงเป้าเจลนี่แหละ จุดประสงค์คือใส่เพื่อไม่ให้เจ็บก้น รองตูดไว้นิ่มๆ

แต่...ลองนึกภาพองศาการก้ม พอเราก้มตัวงอ แรงกดมันมาแล้ว คอมาอก อกมาพุง พุงมาช้างน้อย นั่นเลย ช้างน้อยและลูกทั้งสอง มันถูกบดกับเบาะตามองศาการก้ม เวลาทางเรียบๆ ก็พอทำเนา แต่ตอนเจอทางหลุม ทางขรุขระนี่สิ ตะเตือนไต อย่างแรง ผมลองมาหลายวิธีแล้ว วิธีนึงคือ ย้ายงวง จัดช้างยกงวงซะ ให้มันไม่โดนเบาะโดยตรง ก็ดีขึ้น
แต่..แล้วถ้าวันไหนกรูแวะเซเว่นแล้ว

ลืมปรับงวงลง คนอื่นเค้าจะมองยังไงวะ อายเขาตายห่า.....ก็ถ้าใครมีวิธีที่ดีกว่านี้ รบกวนถ่ายรูปวิธีของท่านแชร์มาให้ดูทีนะฮะ
ทุกวันนี้ที่ตั้งใจคือ ปั่นให้ได้อย่างน้อยวันละ 1 รอบเวลา มีเวลา 30-45 นาที/วัน เท่านั้น พยายามปรับตัวให้ขี่ได้นานขึ้น ไวขึ้น ได้ระยะมากขึ้นเรื่อยๆ ขี่อยู่แถวบ้านนี่แหละ โอกาสหน้าจะมาเล่าให้ฟังต่อว่า ได้ประสบการณ์อะไรเพิ่มขึ้นอีก แล้วแจกัน..
กับเสือหมอบครั้งแรก และกายออกกำลังกายทีร้างลามานาน
คือปกติแล้วเป็นคนที่ออกกำลังกายน้อยมาก ล่าสุดคือเตะบอล อบต.สมัย 10 ปีก่อนมั้ง และมีห้วงนึงที่ไปซื้อเสือภูเขามาขี่ ซื้อมาตั้งกะมันไม่ฮิต ขี่ไปได้ 24 กิโล(ตามไมล์ติดรถ) จากนั้นก็จอดและขายทิ้งไปในที่สุด
จริงๆแล้วเรื่องออกกำลังกาย มันเริ่มมาตั้งแต่สามสี่เดือนก่อนแล้ว คือวิ่งออกกำลังกายที่ถนนหลังบ้าน เริ่มวิ่งหลังเลิกงาน มาถึงบ้านก้อหกโมงกว่า วิ่งหกโมงครึ่ง ทุ่มนึงก็มืดตึ๊บระยะทางไปกลับ 1.6 กม. เหนื่อยเป็นหมาหอบ คือมันปวดเข่า เอว สะโพก บั้นเด้า กระทบกันไปหมด พอเจ็บก็เบื่อก็ขี้เกียจ
พักหลังมานี่ เห็นพวกเพื่อนๆ พี่ๆ ในเฟสหันมาปั่นรถกันเยอะ จริงๆแล้ว ไม่เห็นตอนเค้าปั่นหรอก มาเห็นตอนเขาถ่ายเซลฟี่กับรถ เห้ย!!!
ก็เปิดเวป THAIMTB มาเดือนกว่า จนรู้
จนกระทั่งอาทิตก่อน ขับรถไปธุระกทม. แล้วไม่รู้อะไรดลใจให้เปิด Crome ในมือถือ แล้วไอ้หน้าเวปร้านจักรยานนี้
บังเอิญที่สองคือ
เดินเข้าร้านไปแบบโง่ๆ คนขายสองคนยิ้มให้ ไม่พูดอะไรเลยสักคำ ปล่อยให้เราเดินเล่นไปเรื่อยๆ ดูไปดูมา กะว่าจะเดินกลับ น้องผู้หญิงหันมาบอกว่า พี่คะ ชั้นสองมีอีกนะคะ เชิญเลยค่ะ ครับ...กลับหลังหันเดินขึ้นกะไดตามเค้าไป
บนชั้นสอง รถ
แล้วยิงคำถามว่า "ติดไข่ไหมพี่ "
"นิดหน่อยครับ" ผมตอบ ทีนี้
สุดท้ายน้องก็บอกว่า 48 ครับ ไซด์พี่ และไอ้รถไซด์นี้ในงบของผม
และให้เราออกมายืนตรง ก้มตัวเอามือแตะปลายขา ผลคือ ก้มไม่ลง ลงไม่สุด น้องเลยบอก "พี่ยังขี่หมอบไม่ได้หรอกครับ พาลจะแย่ไปใหญ่ถ้าฝืน และก็เดินไปเข็นไอ้รถคันที่ผมใช้อยู่นี่มาให้ "หมอบแฮนด์ตรง"
อย่างพี่เต็มที่ก็ต้องแบบนี้ครับ "ครับ เอาครับ" ผมก็รูดปรึ๊ดดดด ยกขึ้นรถกลับบ้านมาแบบงงๆ พร้อมกางเกงตูดหนาๆ 1 ตัว
ได้รถมาวันศุกร์ ก็ขี่เรื่อยๆ ตามแต่เวลาจะอำนวย วันแรกออกจากบ้านตีห้าสิบห้า ขี่โน่นเลย อ้อมถนนเส้นหลังวัด สภาพแวดล้อมมืดตึ๊บ ไร้รถ ไร้คนสัญจร มีแต่เสียงปั่นดังแจ๊กๆๆ ของรถเรา ขี่ไปกลับ 15 กิโล กลับมาถึงหน้าวัด
หมา
คือ ไม่รู้จะเอาไงกับหมาเวลามันกวด 1. กูปั่นหนี วัดกันเลย ถ้าทันกูเจ็บ แต่ถ้ากูไวก็รอด กับ 2. ยกขาหลบหมา แต่ทีนี้รถ
แต่รู้เลยว่า การปั่นจักรยานนี่มันเป็นการออกกำลังกายที่ใช่อ่ะ มันซอร์ฟกำลังขา ไม่ปวดเข่า สามารถประนีประนอมกับมันได้ ถ้ารู้จักการปรับเกียร์ รู้กำลังตัวเอง เอาง่ายๆ คือ ปั่นจักรยาน
ตอนนี้ปัญหาอย่างนึงที่กำลังจะหาทางแก้ คือ "การจัดระเบียบอวัยวะ" ก็ไอ้กางเกงเป้าเจลนี่แหละ จุดประสงค์คือใส่เพื่อไม่ให้เจ็บก้น รองตูดไว้นิ่มๆ
แต่..แล้วถ้าวันไหนกรูแวะเซเว่นแล้ว
ทุกวันนี้ที่ตั้งใจคือ ปั่นให้ได้อย่างน้อยวันละ 1 รอบเวลา มีเวลา 30-45 นาที/วัน เท่านั้น พยายามปรับตัวให้ขี่ได้นานขึ้น ไวขึ้น ได้ระยะมากขึ้นเรื่อยๆ ขี่อยู่แถวบ้านนี่แหละ โอกาสหน้าจะมาเล่าให้ฟังต่อว่า ได้ประสบการณ์อะไรเพิ่มขึ้นอีก แล้วแจกัน..