สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกค่ะ เขียนขึ้นเพื่อระบายนะคะ อาจจะไม่ถูกใจใคร อาจจะหาว่าไร้สาระ เพ้อเจ้อ ระยะเวลาแค่นั้นจะไปรู้สึกอะไรมากมาย ทำตัวเป็นเด็กวัยรุ่นรักใครง่ายๆ มันเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นและจบไปเร็วมากนะคะ และความรู้สึกที่เกิดขึ้นก็มากเหมือนกัน โดยที่อีป้าเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร คงเพราะรู้สึกว่ามันใช่มั้งคะ เริ่มเลยนะคะ
เราเล่นแอพพูดคุยแอพนึงค่ะ แล้วก็ได้พูดคุยกับผู้ชายคนนึงค่ะ นางก็ไม่ได้หล่ออะไรมากมายนะคะ คือเดินไปวัดด้วยกันได้ ไม่โดนหมาหอนใส่ ระหว่างทาง เราเองก็ไม่ได้หน้าตาดีมากมายนะคะ แค่พอจะพาไปวัดได้ไม่อายใครมากเหมือนกันค่ะ (กับแอพนี้เราก็มีคนแอดมาเรื่อยๆ แต่เราก็ไม่ได้คุยกับทุกคนที่แอดมาหรอกนะคะ ถ้าใครแอดมาแล้วพอคุยแล้วรู้สึกว่ามันคุยกันไม่รู้เรื่อง หรือส่อไปในทางลามก หรือก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวเราเร็วไปหรือมากไปเราก็จะไม่คุยค่ะ เห็นแบบนี้เราก็เลือกนะ 5555)
กลับมาที่เรื่อง ผช คนนี้กันค่ะ นางเป็นคนแอดเรามาค่ะ เราก็เข้าไปดูโปรไฟล์แล้วก็เออ... ดูจากรูปก็น่าจะโอเคนะ เราก็เลยรับแอดค่ะ ช่วงแรกเขาก็เข้ามาเล่นแอพนี้ไม่เล่นบ้าง เราก็ทักไปบ้าง รอเขามาตอบแล้วค่อยคุยใหม่ 2-3 วันหรือนานกว่านั้นถึงจะได้คุยกันที (เราก็ไม่เข้าใจตัวเองค่ะ ว่าทำไมจะต้องคอยดูว่านางออนไหม นางตอบไหม ทั้งที่คุยกันน้อยมาก ซึ่งเป็นปกติตามนิสัยเรา เราคงเลิกทักไปแล้ว) จนเวลาผ่านไป 2 เดือน วันนั้นเราเจอเขาออนอยู่พอดี จะรออะไรอยู่หละคะ เราก็รีบไปชวนเขาคุยค่ะ
และด้วยความเป็นชะนี้ป้าสมัยใหม่ เราไม่ค่อยกลัวกับการไปจีบ ผู้ชายเท่าไหร่ (ถ้าเราชอบนะคะ เราก็ไม่รู้ทำไมกับผู้ชายคนนี้เรารู้สึกว่าเราโอเค และอยากจะรู้จัก อยากคุยกับเขา) เราก็ชวนเขาคุยไปค่ะ จาก 4 ทุ่มกว่าจนกระทั้งจะ 5 ทุ่มและ เราก็อยากจะไปนอนแล้ว เลยบอกเขาไป
เรา: เราไปนอนก่อนนะ ว่าแต่จะได้คุยอีกเมื่อไหร่ (ชะนีป้าขออ่อยหน่อยนะคะ เผื่อมีโอกาสบ้าง 5555) ง่วงและ ตาจะปิด
ฝันดีนะคะ
เขา: ได้แหละมั้ง เอาเบอร์ป่ะละ 55
เรา: แหมมมมมม ไลน์ก็พอมั้ง
เขา: แซวเล่น
เรา: เอาเบอร์มานี่จะกลายเป็นเราจีบเธอป่ะ
เขา: (ให้ ID line มา)
เรา: จ้ะ
เขา : ขอบคุณนะที่คุยด้วย ฝันดีครับ ^^
เรา :ไม่เป็นไรค่ะ มันต้องขอบคุณขนาดนั้นเลยเหรอ
เขา: บอกแล้วไม่มีคนคุยด้วย
เรา: อะนะ ไปและ ตาจะปิด ฝันดีค่ะ
เขา: จ้า จุ๊ฟๆ
และแล้วชะนีป้าก็ได้ id line มาค่ะ แต่ถึงจะชอบขนาดไหน แต่ด้วยความง่วง อีป้าเลือกจะนอนค่ะ แล้วเราก็หลับไป รุ่งเช้าค่อยแอดไปค่ะ หลังจากนั้นกิจวัตรชองป้าก็คือ ตื่นเช้ามา จะส่งสติ๊กเกอร์ไป good morning ค่ะ นางก็จะตอบมา แต่ช่วงแรกก็ยังคุยกันน้อยค่ะ ไม่กี่ประโยค จนผ่านไปประมาณ ครึ่งเดือน ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไป....เรื่องมันเริ่มจากการที่วันนั้นเราก็ทักไปคุยกับเขาปกติ แล้วด้วยความที่เขาจะชอบไปนั่งทำงานในร้านกาแฟมากกว่าจะกลับไปนั่งทำที่ห้องพัก ป้าก็เลยได้คุยกะเขามากขึ้น (แค่ถามกันค่ะว่าทำไมไม่ทำที่ห้อง เขากว่าเขาเหงา และอยู่ห้องจะขี้เกียจ บลาๆๆๆ) และอีก 1 เหตุการณ์คือป้าไปหาหมอเพื่อตรวจสุขภาพ พอเขารู้ เขาก็คุยแบบห่วงใยถามไถ่กลับมา ป้าเลยได้คุยกันมากขึ้นค่ะ แล้วก็กลายเป็นคุยกันทุกวัน วันหละหลายๆๆๆๆๆเวลา หรือ 3เวลา หลังอาหาร บวกอีก 1 ตอนก่อนนอนค่ะ ผ่านไปสักพักนางก็ขอนัดเจอป้านะคะ แต่ว่างไม่ตรงกันสักที จนแยกย้ายกันไปในช่วงหยุดปีใหม่ (นางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด ส่วนเราใช้ชีวิตใน กทม รอจะไปเที่ยวลั้ลลาคนเดียวในช่วงปีใหม่) เรายังคงคุยกันทุกวัน วันละหลายๆเวลา เหมือนเดิมค่ะ จนมาถึงคืนข้ามปี นางอยู่บ้าน ส่วนเราไปดูหนังคนเดียวค่ะ เลิกออกมาประมาณ 4-5 ทุ่ม อย่างที่บอกว่าช่วงนี้คุยกันทุกวันค่ะ เขาจะคอยถามเราตลอดว่ากินข้าวยัง อยู่ไหน เราก็บอกเขาไปว่าเรามาดูหนัง จะกลับดึกๆ นอนก่อนเลย เขาว่าเขาจะรอจ้า แล้วเขาก็รอจริงๆจ้า แถมตอบถามว่าขึ้นแท็กซี่ยัง ให้จำเลขข้างประตูแท็กซี่ด้วย (ป้าก็โอเคเลยค่ะ บวกคะแนนให้ เพราะป้าแพ้คนใส่ใจค่ะ >_< )
แล้วพอถึงห้องก็คุยไลน์กันไป นางคือคนแรกที่บอก สวัสดีปีใหม่ในวันข้ามปีค๊าาา คุยกันไปอีกพักนึง นางก็ขอเบอร์โทรศัพท์ป้าค่ะ (รู้ใช่ไหมคะว่าป้าจะตอบว่ายังไง...ใช่ค่ะ อย่างที่คุณคิด.....เราตอบไปว่าได้ค่ะ) แล้วก็โทรคุยกันสักพักนึงค่ะ ป้าก็ต้องวางสาย เพราะเช้าวันที่ 1 มค ป้ามีแพลนจะตื่นแต่เช้า เพื่อจะนั่งรถไฟไปเที่ยวค่ะ (และตลอดทั้งทริปที่ไป ป้าก็คุยไลน์บ้าง โทรศัพท์บ้างกับเขาตลอดทั้งทริปค่ะ พฤติกรรมทั้งคู่เริ่มไม่เปลี่ยนจากคนที่ศึกษากันจริงจังเลยนะคะ แทบจะเหมือนคกันด้วยซ้ำ เพราะเราสองคนจะคอยบอกกันตลอด เวลาจะไปไหน 3 เวลา ก็จะถามกันตลอดว่ากินไรรึยัง ก่อนนอนก็จะคุยกันตลอด)
และจนทริปนี้ก็มีวันที่นางมาได้คะแนนรัวๆๆๆจากอีป้าอีกวันนึงนึงค่ะ คือ โทรคุยกันก่อนนอน แล้วอีป้าก็บอกนางว่าพรุ่งนี้จะตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ต้องตื่นตี 5.50 แล้วก็อ่อยไปว่า ให้นางโทรปลุกค่ะ เช้าวันต่อมานางไม่ได้โทรมาปลุกหรอกค่ะ เราตื่นเอง ก็ไปล้างหน้า แปรงฟัน เตรียมจะออกจากห้องพัก ก็ส่งไลน์ไป Good Moring นาง พร้อมแซวไปเล็กว่าๆตื่นสายนะไอ้ตูด(ไม่ได้โกรธหรือประชดอะไรนะคะ แค่แวเล่นจิงๆ เพราะรุ้ค่ะว่าจริงๆเขาไม่จำเป็นต้องโทรมาปลุกเราเลย เพราะมันเช้ามาก แต่การที่มีคนที่เรารู้สึกดีด้วยโทรมาปลุก มันทำให้เรามีความสุขจริงไหมคะ >_< ) หลังจากส่งข้อความไป แป๊บนึงโทรศัพท์เราก็ดังค่ะ นางโทรเข้ามา
เรา : (รับสาย) เราปลุกเธอเหรอ ขอโทษค่ะ
เขา : เปล่า เธอตื่นแล้วใช่ไหม
เรา : ตื่นแล้วค่ะ ล้างหน้าแปรงฟันแล้ว
เขา: กะแล้วว่าเธอต้องตื่นแล้ว แต่เราอยากโทรมาปลุก โทรมาฟังเสียงเฉยๆ
โอ๊ยยยยย....อีป้าเขิน ได้ยินแค่นี้ก็จะให้คะแนนนางเพิ่มรัวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
จนทริป 4 วัน 3 คืนนั้นจบไป และเมื่อกลับมา กทม ก็ถึงเวลาที่ป้าและนางจะเจอกันในโลกความจริง การพบเจอกันก็เหมือนคนทั่วไปค่ะ นางก็เป็นอย่างที่เห็นในรูปค่ะ ไม่ได้หล่อ แค่พอโอเคแต่สูง อย่างที่อีป้าชอบ เจอกันวันแรกนางมีของขวัญปีใหม่ และปฏิทินที่อีป้าบ่นอยากได้แบบที่มีช่องใหญ่ๆมาให้ด้วยค่ะ แต่อีป้าไปมือเปล่านะคะ ไม่มีอะไรไปให้นางเลย แอบรู้สึกผิดนิดนึง
การไปเจอกันครั้งแรก ไปกินข้าว และดูหนังค่ะ (เพราะความเข้าใจผิดของอีป้าเองว่า หนังเรื่องนี้จะออกจากโรงแล้ว แต่มันเป็นหนังที่เราอยากดูมาก นางก็ตามใจค่ะ ดูเป็นเพื่อน) หนังจบ ก็แยกย้ายกันกลับไป หลังจากนั้นเหมือนความรักผลิบานเต็มที่ค่ะ ช่วงนั้นอีป้าติดโทรศัพท์มากกกกกกกกก เราก็เจอกันและคุยกันบ่อยขึ้นค่ะ เราจะส่งรูปหากันทุกวัน (วันแรก อีป้าไปบอกนางว่าขอกำลังใจหน่อย แล้วให้นางส่งรูปนางมาให้ หลังจากนั้นทุกวัน ถ้าบอกว่าขอกำลังใจหน่อย ก็จะเป็นที่รู้กันค่ะ ว่าขอเห็นหน้าขออีกฝ่ายนึง ให้ส่งรูปให้หน่อย)
วันที่ 10 มค มีงานที่อีป้าต้องไปร่วมงานด้วย ก็เลยพานางไปด้วยค่ะ (ให้นางไปเป็นไม้กันหมาให้ นางก็รีบไปนะคะ วันนั้นนางตามใจ ไม่บ่นอะไรทั้งสิ้นค่ะ เพราะคืนก่อนหน้านั้นเพิ่งทำอีป้างอนค่ะ เพราะไปเมาแล้วกลับบ้าน ไม่บอกอีป้าค่ะ....คือต้องแถลงว่าอีป้าเป็นคนที่คุยและทำตัวกับคนที่ชอบ หรือศึกษากันอยู่ เหมือนเป็นแฟนนะคะ จะได้รู้กันไปเลยค่ะว่าถ้าคบกันเราจะเป็นแบบนี้ และเราเป็นคนที่จะไม่เคยห้ามเวลาแฟนจะไปไหนนะคะ ขอแค่ให้บอกว่าจะไปไหน แล้วถ้าไปถึงแล้ว หรือกลับถึงบ้านแล้ว บอกอีป้าด้วย ขอแค่นั้นค่ะ ) วันนี้อีป้าอยู่กับนางทั้งวันค่ะ ไปเดินเล่นกัน สนุกสนาน อีป้าก็แอบแต๊ะอั๋งนางบ้างเล็กๆน้อยๆ แต่ไม่ได้ทำให้นางเสียหายน๊าาค๊าา เชื่อไหมคะ ว่าเวลาแค่ไม่นาน แต่อีป้าและนางต่างก็พูดเหมือนกันว่า เหมือนเราสนิทและรู้จักกันมานานมาก มันเพราะอะไรนะ อีป้าก็ตอบไม่ได้ค่ะ แต่รู้สึกแบบนั้นจริงๆ
แล้วความรักก็ดำเนินไปเหมือนคู่อื่นๆค่ะ อีป้ากับนางไลน์คุยกัน โทรหากันทุกวัน บอกคิดถึงกันทุกวัน วันนึงไม่รู้กี่รอบ เจอกัน ไปกินข้าวกัน บอกตลอดเวลาถึงออฟฟิศ หรือกลับถึงบ้าน แต่จะไปไหนช่วงหลังเลิกทำงาน ต้องรอนางหน่อยนะคะ เพราะที่ทำงานกับที่พักนางอยู่คนละฟากเมืองของ กทม
นางตามใจและใส่ใจทุกอย่าง ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร นางจำได้หมด
“เธอชอบกินกุ้งนี่ ” (พร้อมกับตักกุ้งให้)
“กินแกงส้มกุ้ง ชะอมทอดไหม , หมูมะนาวไหม ,ส้มตำไหม” (ไปกินข้าวก็จะเลือกเมนูที่มีกุ้ง และมีรสจี๊ดจ๊าด เพราะรู้ว่าอีป้าชอบ)
“เธอไม่ชอบคนเยอะนี่ , เธอไม่ชอบคนเซ้าซี้, เธอไม่ชอบไปที่เดิมๆ ตรงนี้เธอเคยไปแล้ว ไป ไปที่อื่นดีกว่า” (นางจำทุกรายละเอียด บางอย่างไม่ได้บอกนางโดยตรงด้วยซ้ำ แต่เล่าให้ฟังว่าคุยกับคนนั้นแบบนี้ นางก็จำได้ค่ะ)
นางเป็นแบบนี้ตลอด นางจำได้ทุกรายละเอียดจริงๆค่ะ เดี๋ยวมาต่อนะคะ
จากไม่รู้จัก...กลายเป็นคุยกันทุกวัน...แล้วสุดท้ายก็หายไป...เพราะอะไรใครช่วยบอกทีค่ะ
เราเล่นแอพพูดคุยแอพนึงค่ะ แล้วก็ได้พูดคุยกับผู้ชายคนนึงค่ะ นางก็ไม่ได้หล่ออะไรมากมายนะคะ คือเดินไปวัดด้วยกันได้ ไม่โดนหมาหอนใส่ ระหว่างทาง เราเองก็ไม่ได้หน้าตาดีมากมายนะคะ แค่พอจะพาไปวัดได้ไม่อายใครมากเหมือนกันค่ะ (กับแอพนี้เราก็มีคนแอดมาเรื่อยๆ แต่เราก็ไม่ได้คุยกับทุกคนที่แอดมาหรอกนะคะ ถ้าใครแอดมาแล้วพอคุยแล้วรู้สึกว่ามันคุยกันไม่รู้เรื่อง หรือส่อไปในทางลามก หรือก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวเราเร็วไปหรือมากไปเราก็จะไม่คุยค่ะ เห็นแบบนี้เราก็เลือกนะ 5555)
กลับมาที่เรื่อง ผช คนนี้กันค่ะ นางเป็นคนแอดเรามาค่ะ เราก็เข้าไปดูโปรไฟล์แล้วก็เออ... ดูจากรูปก็น่าจะโอเคนะ เราก็เลยรับแอดค่ะ ช่วงแรกเขาก็เข้ามาเล่นแอพนี้ไม่เล่นบ้าง เราก็ทักไปบ้าง รอเขามาตอบแล้วค่อยคุยใหม่ 2-3 วันหรือนานกว่านั้นถึงจะได้คุยกันที (เราก็ไม่เข้าใจตัวเองค่ะ ว่าทำไมจะต้องคอยดูว่านางออนไหม นางตอบไหม ทั้งที่คุยกันน้อยมาก ซึ่งเป็นปกติตามนิสัยเรา เราคงเลิกทักไปแล้ว) จนเวลาผ่านไป 2 เดือน วันนั้นเราเจอเขาออนอยู่พอดี จะรออะไรอยู่หละคะ เราก็รีบไปชวนเขาคุยค่ะ
และด้วยความเป็นชะนี้ป้าสมัยใหม่ เราไม่ค่อยกลัวกับการไปจีบ ผู้ชายเท่าไหร่ (ถ้าเราชอบนะคะ เราก็ไม่รู้ทำไมกับผู้ชายคนนี้เรารู้สึกว่าเราโอเค และอยากจะรู้จัก อยากคุยกับเขา) เราก็ชวนเขาคุยไปค่ะ จาก 4 ทุ่มกว่าจนกระทั้งจะ 5 ทุ่มและ เราก็อยากจะไปนอนแล้ว เลยบอกเขาไป
เรา: เราไปนอนก่อนนะ ว่าแต่จะได้คุยอีกเมื่อไหร่ (ชะนีป้าขออ่อยหน่อยนะคะ เผื่อมีโอกาสบ้าง 5555) ง่วงและ ตาจะปิด
ฝันดีนะคะ
เขา: ได้แหละมั้ง เอาเบอร์ป่ะละ 55
เรา: แหมมมมมม ไลน์ก็พอมั้ง
เขา: แซวเล่น
เรา: เอาเบอร์มานี่จะกลายเป็นเราจีบเธอป่ะ
เขา: (ให้ ID line มา)
เรา: จ้ะ
เขา : ขอบคุณนะที่คุยด้วย ฝันดีครับ ^^
เรา :ไม่เป็นไรค่ะ มันต้องขอบคุณขนาดนั้นเลยเหรอ
เขา: บอกแล้วไม่มีคนคุยด้วย
เรา: อะนะ ไปและ ตาจะปิด ฝันดีค่ะ
เขา: จ้า จุ๊ฟๆ
และแล้วชะนีป้าก็ได้ id line มาค่ะ แต่ถึงจะชอบขนาดไหน แต่ด้วยความง่วง อีป้าเลือกจะนอนค่ะ แล้วเราก็หลับไป รุ่งเช้าค่อยแอดไปค่ะ หลังจากนั้นกิจวัตรชองป้าก็คือ ตื่นเช้ามา จะส่งสติ๊กเกอร์ไป good morning ค่ะ นางก็จะตอบมา แต่ช่วงแรกก็ยังคุยกันน้อยค่ะ ไม่กี่ประโยค จนผ่านไปประมาณ ครึ่งเดือน ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไป....เรื่องมันเริ่มจากการที่วันนั้นเราก็ทักไปคุยกับเขาปกติ แล้วด้วยความที่เขาจะชอบไปนั่งทำงานในร้านกาแฟมากกว่าจะกลับไปนั่งทำที่ห้องพัก ป้าก็เลยได้คุยกะเขามากขึ้น (แค่ถามกันค่ะว่าทำไมไม่ทำที่ห้อง เขากว่าเขาเหงา และอยู่ห้องจะขี้เกียจ บลาๆๆๆ) และอีก 1 เหตุการณ์คือป้าไปหาหมอเพื่อตรวจสุขภาพ พอเขารู้ เขาก็คุยแบบห่วงใยถามไถ่กลับมา ป้าเลยได้คุยกันมากขึ้นค่ะ แล้วก็กลายเป็นคุยกันทุกวัน วันหละหลายๆๆๆๆๆเวลา หรือ 3เวลา หลังอาหาร บวกอีก 1 ตอนก่อนนอนค่ะ ผ่านไปสักพักนางก็ขอนัดเจอป้านะคะ แต่ว่างไม่ตรงกันสักที จนแยกย้ายกันไปในช่วงหยุดปีใหม่ (นางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด ส่วนเราใช้ชีวิตใน กทม รอจะไปเที่ยวลั้ลลาคนเดียวในช่วงปีใหม่) เรายังคงคุยกันทุกวัน วันละหลายๆเวลา เหมือนเดิมค่ะ จนมาถึงคืนข้ามปี นางอยู่บ้าน ส่วนเราไปดูหนังคนเดียวค่ะ เลิกออกมาประมาณ 4-5 ทุ่ม อย่างที่บอกว่าช่วงนี้คุยกันทุกวันค่ะ เขาจะคอยถามเราตลอดว่ากินข้าวยัง อยู่ไหน เราก็บอกเขาไปว่าเรามาดูหนัง จะกลับดึกๆ นอนก่อนเลย เขาว่าเขาจะรอจ้า แล้วเขาก็รอจริงๆจ้า แถมตอบถามว่าขึ้นแท็กซี่ยัง ให้จำเลขข้างประตูแท็กซี่ด้วย (ป้าก็โอเคเลยค่ะ บวกคะแนนให้ เพราะป้าแพ้คนใส่ใจค่ะ >_< )
แล้วพอถึงห้องก็คุยไลน์กันไป นางคือคนแรกที่บอก สวัสดีปีใหม่ในวันข้ามปีค๊าาา คุยกันไปอีกพักนึง นางก็ขอเบอร์โทรศัพท์ป้าค่ะ (รู้ใช่ไหมคะว่าป้าจะตอบว่ายังไง...ใช่ค่ะ อย่างที่คุณคิด.....เราตอบไปว่าได้ค่ะ) แล้วก็โทรคุยกันสักพักนึงค่ะ ป้าก็ต้องวางสาย เพราะเช้าวันที่ 1 มค ป้ามีแพลนจะตื่นแต่เช้า เพื่อจะนั่งรถไฟไปเที่ยวค่ะ (และตลอดทั้งทริปที่ไป ป้าก็คุยไลน์บ้าง โทรศัพท์บ้างกับเขาตลอดทั้งทริปค่ะ พฤติกรรมทั้งคู่เริ่มไม่เปลี่ยนจากคนที่ศึกษากันจริงจังเลยนะคะ แทบจะเหมือนคกันด้วยซ้ำ เพราะเราสองคนจะคอยบอกกันตลอด เวลาจะไปไหน 3 เวลา ก็จะถามกันตลอดว่ากินไรรึยัง ก่อนนอนก็จะคุยกันตลอด)
และจนทริปนี้ก็มีวันที่นางมาได้คะแนนรัวๆๆๆจากอีป้าอีกวันนึงนึงค่ะ คือ โทรคุยกันก่อนนอน แล้วอีป้าก็บอกนางว่าพรุ่งนี้จะตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ต้องตื่นตี 5.50 แล้วก็อ่อยไปว่า ให้นางโทรปลุกค่ะ เช้าวันต่อมานางไม่ได้โทรมาปลุกหรอกค่ะ เราตื่นเอง ก็ไปล้างหน้า แปรงฟัน เตรียมจะออกจากห้องพัก ก็ส่งไลน์ไป Good Moring นาง พร้อมแซวไปเล็กว่าๆตื่นสายนะไอ้ตูด(ไม่ได้โกรธหรือประชดอะไรนะคะ แค่แวเล่นจิงๆ เพราะรุ้ค่ะว่าจริงๆเขาไม่จำเป็นต้องโทรมาปลุกเราเลย เพราะมันเช้ามาก แต่การที่มีคนที่เรารู้สึกดีด้วยโทรมาปลุก มันทำให้เรามีความสุขจริงไหมคะ >_< ) หลังจากส่งข้อความไป แป๊บนึงโทรศัพท์เราก็ดังค่ะ นางโทรเข้ามา
เรา : (รับสาย) เราปลุกเธอเหรอ ขอโทษค่ะ
เขา : เปล่า เธอตื่นแล้วใช่ไหม
เรา : ตื่นแล้วค่ะ ล้างหน้าแปรงฟันแล้ว
เขา: กะแล้วว่าเธอต้องตื่นแล้ว แต่เราอยากโทรมาปลุก โทรมาฟังเสียงเฉยๆ
โอ๊ยยยยย....อีป้าเขิน ได้ยินแค่นี้ก็จะให้คะแนนนางเพิ่มรัวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
จนทริป 4 วัน 3 คืนนั้นจบไป และเมื่อกลับมา กทม ก็ถึงเวลาที่ป้าและนางจะเจอกันในโลกความจริง การพบเจอกันก็เหมือนคนทั่วไปค่ะ นางก็เป็นอย่างที่เห็นในรูปค่ะ ไม่ได้หล่อ แค่พอโอเคแต่สูง อย่างที่อีป้าชอบ เจอกันวันแรกนางมีของขวัญปีใหม่ และปฏิทินที่อีป้าบ่นอยากได้แบบที่มีช่องใหญ่ๆมาให้ด้วยค่ะ แต่อีป้าไปมือเปล่านะคะ ไม่มีอะไรไปให้นางเลย แอบรู้สึกผิดนิดนึง
การไปเจอกันครั้งแรก ไปกินข้าว และดูหนังค่ะ (เพราะความเข้าใจผิดของอีป้าเองว่า หนังเรื่องนี้จะออกจากโรงแล้ว แต่มันเป็นหนังที่เราอยากดูมาก นางก็ตามใจค่ะ ดูเป็นเพื่อน) หนังจบ ก็แยกย้ายกันกลับไป หลังจากนั้นเหมือนความรักผลิบานเต็มที่ค่ะ ช่วงนั้นอีป้าติดโทรศัพท์มากกกกกกกกก เราก็เจอกันและคุยกันบ่อยขึ้นค่ะ เราจะส่งรูปหากันทุกวัน (วันแรก อีป้าไปบอกนางว่าขอกำลังใจหน่อย แล้วให้นางส่งรูปนางมาให้ หลังจากนั้นทุกวัน ถ้าบอกว่าขอกำลังใจหน่อย ก็จะเป็นที่รู้กันค่ะ ว่าขอเห็นหน้าขออีกฝ่ายนึง ให้ส่งรูปให้หน่อย)
วันที่ 10 มค มีงานที่อีป้าต้องไปร่วมงานด้วย ก็เลยพานางไปด้วยค่ะ (ให้นางไปเป็นไม้กันหมาให้ นางก็รีบไปนะคะ วันนั้นนางตามใจ ไม่บ่นอะไรทั้งสิ้นค่ะ เพราะคืนก่อนหน้านั้นเพิ่งทำอีป้างอนค่ะ เพราะไปเมาแล้วกลับบ้าน ไม่บอกอีป้าค่ะ....คือต้องแถลงว่าอีป้าเป็นคนที่คุยและทำตัวกับคนที่ชอบ หรือศึกษากันอยู่ เหมือนเป็นแฟนนะคะ จะได้รู้กันไปเลยค่ะว่าถ้าคบกันเราจะเป็นแบบนี้ และเราเป็นคนที่จะไม่เคยห้ามเวลาแฟนจะไปไหนนะคะ ขอแค่ให้บอกว่าจะไปไหน แล้วถ้าไปถึงแล้ว หรือกลับถึงบ้านแล้ว บอกอีป้าด้วย ขอแค่นั้นค่ะ ) วันนี้อีป้าอยู่กับนางทั้งวันค่ะ ไปเดินเล่นกัน สนุกสนาน อีป้าก็แอบแต๊ะอั๋งนางบ้างเล็กๆน้อยๆ แต่ไม่ได้ทำให้นางเสียหายน๊าาค๊าา เชื่อไหมคะ ว่าเวลาแค่ไม่นาน แต่อีป้าและนางต่างก็พูดเหมือนกันว่า เหมือนเราสนิทและรู้จักกันมานานมาก มันเพราะอะไรนะ อีป้าก็ตอบไม่ได้ค่ะ แต่รู้สึกแบบนั้นจริงๆ
แล้วความรักก็ดำเนินไปเหมือนคู่อื่นๆค่ะ อีป้ากับนางไลน์คุยกัน โทรหากันทุกวัน บอกคิดถึงกันทุกวัน วันนึงไม่รู้กี่รอบ เจอกัน ไปกินข้าวกัน บอกตลอดเวลาถึงออฟฟิศ หรือกลับถึงบ้าน แต่จะไปไหนช่วงหลังเลิกทำงาน ต้องรอนางหน่อยนะคะ เพราะที่ทำงานกับที่พักนางอยู่คนละฟากเมืองของ กทม
นางตามใจและใส่ใจทุกอย่าง ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร นางจำได้หมด
“เธอชอบกินกุ้งนี่ ” (พร้อมกับตักกุ้งให้)
“กินแกงส้มกุ้ง ชะอมทอดไหม , หมูมะนาวไหม ,ส้มตำไหม” (ไปกินข้าวก็จะเลือกเมนูที่มีกุ้ง และมีรสจี๊ดจ๊าด เพราะรู้ว่าอีป้าชอบ)
“เธอไม่ชอบคนเยอะนี่ , เธอไม่ชอบคนเซ้าซี้, เธอไม่ชอบไปที่เดิมๆ ตรงนี้เธอเคยไปแล้ว ไป ไปที่อื่นดีกว่า” (นางจำทุกรายละเอียด บางอย่างไม่ได้บอกนางโดยตรงด้วยซ้ำ แต่เล่าให้ฟังว่าคุยกับคนนั้นแบบนี้ นางก็จำได้ค่ะ)
นางเป็นแบบนี้ตลอด นางจำได้ทุกรายละเอียดจริงๆค่ะ เดี๋ยวมาต่อนะคะ