"เพื่อนชอบใครกูต้องได้" มันเป็นการแก่งแย่งในสังคมวัยว้าวุ่น แบบว่าใครวัยรุ่นก็จะเจอเรื่องพวกนี้บ่อย เพื่อนที่คอยจ้องจะปาดหน้าเค้ก มีสเป็คเป็นคนเดียวกับที่เราชอบตลอด
สมัยมัธยมจ้ะ เจ๊มีเพื่อนแนวๆดาวห้อง ดาวโรงเรียน ที่มีคนมาจีบเยอะๆ วาเลนไทน์ได้กุหลาบบานเบอะ และเจอะหน้าตอนเปิดเทอมใหม่ทีไรก็ถอยแฟนใหม่มาทุกที เพื่อนพวกนี้จะเป็นคนกว้างขวาง เวลาเดินเข้าโรงอาหารแล้วยิ้มทักเกือบทุกโต๊ะ มีความควีนบีที่คบเพื่อนโก๊ะๆไว้เป็นนางสนองพระบาท
แล้วพอนางสนองพระบาทบอกฮองเฮาว่าชอบรุ่นพี่คนไหน เล็งพี่โต๊ะนั้น นางก็จะออกตัวทันควัน "พี่โต๊ะนั้นชั้นรู้จักนะ"
จากนั้นชะนีปาดก็ทำท่าจะไปเป็นแม่สื่อแม่ชักให้ แต่ทำอีท่าไหนไม่รู้ อยู่ๆรุ่นพี่คนที่นางไปคุยให้ ก็มามีใจชอบนางเฉย
ชะนีปาด… นางก็จะบับ อุ๊ย! งงจุง งงจัง ละไว้ในฐานเข้าใจนะว่าเขามาชอบฉันเอง ฉันคงสเน่ห์แรง ไม่ก็สวยกว่าเธอไงอีพวกหน้าปลิง หน้าทาก?!?
แล้วชะนีจอมปาด ก็ไปคบกะรุ่นพี่คนนั้นแค่ประมาณ 2 สัปดาห์เลิก ไวเหมือนคบจิบๆ คบพอเป็นกระษัย ให้หายอยาก แต่รุ่นพี่ที่โดนชะนีปาดจีบแล้วทิ้งคงเสียหน้ามากเลยพาลเกลียดเพื่อนชะนีปาดทั้งกลุ่ม เกลียดแบบไม่อยากมองหน้า พวกเราอีกเลยจนเรียนจบ
เพื่อนๆต่างไม่เข้าใจชะนีปาด ให้มันไปเป็นสะพานให้เพื่อน แต่มันดันไปทอดสะพานแทนเพื่อน แล้วก็ทุบทิ้ง งงใจนางจริง ลึกๆแล้วชะนีปาดต้องการอะไรแน่ แค่อยากเอาชนะ อยากพิสูจน์คุณค่าว่าตัวเองเหนือกว่าเพื่อน หรือว่าเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ ว่าคนที่เพื่อนชอบหรือเล็งไว้ จะต้องมามีใจให้นางเสมอ?
ล่วงวัยมัธยมเข้าสู่มหา'ลัย เจ๊ก็ได้เจอคนแบบเดียวกับชะนีปาดอีกจ้า แต่ขอเรียกว่าชะนีปาดเลเวล 2 นางมาคอนเส็ปเดิม เพิ่มเติมคือเทคนิคอันแพรวพราว
มีเพื่อนคนหนึ่งสมมุติชื่อบ่าง อีบ่างนี่แอบชอบชายหนุ่มหล่อประจำรุ่นสมมุติชื่อ F มาตั้งแต่วันรับน้อง
ชะนีปาดเลเวล 2 นางก็ออกตัวก่อนว่า "อี F ไม่ใช่เป็คชั้น ชั้นชอบเพื่อนอี F มากกว่า" อีบ่างก็ไว้ใจสิคะ ก็นึกว่าเล็งเป้าหมายไว้คนละคนกัน อนาคตหากสมหวัง อาจได้ไปเที่ยวด้วยกันแบบ double date
หลังจากปล่อยให้อีบ่างฝันหวาน ชะนีปาดก็เข้าหาอีF ในฐานะแม่สื่อให้เพื่อน เริ่มจากไปคุยไปส่งหนมให้บ่อยๆบอกว่าเพื่อนเราชอบเธอนะ แล้วค่อยๆไปคลุกคลีตีวงในกินเหล้ากะอี F ให้อี F ไปส่งที่หอ โทรหาอี F ก่อนนอนทุกคืน
ถามว่ามันคุยเรื่องอะไรกัน คุยเรื่องอีบ่างล้วนๆค่ะ!
"อีบ่างมันชอบแกมากเลยนะ มันบอกว่าแกหน้าเหมือนแฟนเก่ามันเลยอะ"
"แกชวนอีบ่างไปกินข้าวบ้างสิวะ อีบ่างมันจะได้ดีใจ"
"F แกโทรไปคุยเล่นกับอีบ่างมันอะยัง มันอยากคุยกะแกนะเว้ย"
พุทธโธ่พุทธถังกะลังม่อ อี F จะหาเวลาไปจีบอีบ่างได้ที่ไหน ก็ชะนีปาดล่อเวลาทั้งหมดของอี F ไปเป็นของหมด เรื่องมันก็ต้องจบแบบหนังรักวัยรุ่นแนวเพื่อนสนิท และโปรดจินตนาการถึงดนตรีหวานๆสะเทือนอารมณ์นิดๆระหว่างที่อ่านบทสนทนานี้
"เพื่อน กูรักว่ะ" เฮ้ย! ผิดเรื่อง "ปาด เราชอบแก"
"แล้วเพิ่งมาบอกอะไรตอนนี้วะ เฮ้ย! จะมาชอบกูได้ไง กูเป็นเพื่อนนะเว้ย"
"กูก็ไม่รู้ว่าอยู่ๆกูชอบได้ไง มันเหมือนอยู่ๆกูก็นึกถึงแต่เรื่อง อยากอยู่กะตลอดเวลาว่ะ"
"แต่กูทำร้ายอีบ่างไม่ได้ อีบ่างเป็นเพื่อนกู และอีบ่างมันชอบนะเว้ย"
"แต่กูไม่ได้ชอบอีบ่าง กูชอบ กูชอบอีปาดได้ยินไหม!!!! "
เออกูได้ยินแล้ว… นั่นคือเสียงที่อีบ่างตะโกนออกมา ก่อนจะเป็นบ้าสติแตกเพราะอกหัก บอกขอหายตัวไปสักพัก แต่ไม่กลับมาสอบปลายภาค สรุปซิ่วหนีพิษรักไปอยู่มหาวิทยาลัยอื่นเสียเฉย
ชะนีปาดกับอี F ก็ต้องเลยตามเลย มาคบกันตอนเปิดเทอมขึ้นปี 2 จ้า พอวาเลนไทน์ก็มีซีนหวานสารภาพน่ารักๆของชะนีปาดว่า
"แอบชอบ F มาตั้งแต่ที่เห็นวันแรกเหมือนกัน แต่ไม่กล้าบอกเพราะเห็นอีบ่างมันเล็งอยู่"
เพื่อนๆฟัง ก็ต่างสงสัยใจอีชะนีปาด จะทำอะไรๆให้มันยากไปทำไมเป็นเทอมๆวะ ถ้าชอบผู้ตั้งแต่แรก ก็ควรรีบแจกความจำนงค์ออกมา บอกเพื่อนไปเลยว่า "เออ! คนนี้ของกู กูจอง!"
แล้วถ้าเพื่อนชะนีไม่ยอม" ก็มาแข่งกันแบบ fair game สิวะ".... คิดจะแย่งผู้ชายกันแล้ว เราต้องแย่งอย่างมีศักดิ์ศรี ไม่ได้หมายถึงให้ตบตี แต่ให้จีบผู้อย่างมีจรรยาบรรณ ต่อให้คนไหนได้ไป สุดท้ายจบแล้วต้องไม่ทะเลาะ ยังเกาะเป็นเกิร์ลแกงค์เพื่อน สนิทเหมือนเดิมได้
เลิกเถอะ! การทำตัวเป็นนางเอกเสียสละ มันน้ำเน่าไปแล้วจ้ะ
ถ้าลึกๆแล้วเรายังละกิเลศไม่ได้ แรดไปเลยให้คนรู้ว่าเราร้าย สุดท้ายถึงอกหักก็แค่หน้าแตก แต่ไม่เอาชื่อเพื่อนไปแลกขาย เพื่อหาทางเข้าใกล้ผู้ชาย เหมือนพวกชะนีแม่สื่อแม่เสียบ อีชะนีหนำเลี๊ยบ อีลูกช่างปาด!
ไปสอบใบขับขี่เถอะค่ะ เพราะจะฟัดผู้ชายหล่อๆก็เหมือนแย่งเข้าซอย ต้องค่อยๆตบไฟเลี้ยวให้ผู้ร่วมถนนรู้ จะได้สอยมาสวยๆแบบไม่ต้องปาด!
#อีชะนีจอมปาด #อีชะนีชอบแย่งซีนเพื่อน #อีลูกช่างปาด #ชีวิตจริงนะเว้ยไม่ใช่หนังเรื่องเพื่อนสนิท #ชอบเขาก็เว้ากันตรงๆ #อีแม่สื่อแม่เสียบ #ชะนีมีเมนส์
เมื่อเราชอบใคร เพื่อนไปเป็นแม่สื่อให้ แล้วมันก็ได้กันเองค่ะ
สมัยมัธยมจ้ะ เจ๊มีเพื่อนแนวๆดาวห้อง ดาวโรงเรียน ที่มีคนมาจีบเยอะๆ วาเลนไทน์ได้กุหลาบบานเบอะ และเจอะหน้าตอนเปิดเทอมใหม่ทีไรก็ถอยแฟนใหม่มาทุกที เพื่อนพวกนี้จะเป็นคนกว้างขวาง เวลาเดินเข้าโรงอาหารแล้วยิ้มทักเกือบทุกโต๊ะ มีความควีนบีที่คบเพื่อนโก๊ะๆไว้เป็นนางสนองพระบาท
แล้วพอนางสนองพระบาทบอกฮองเฮาว่าชอบรุ่นพี่คนไหน เล็งพี่โต๊ะนั้น นางก็จะออกตัวทันควัน "พี่โต๊ะนั้นชั้นรู้จักนะ"
จากนั้นชะนีปาดก็ทำท่าจะไปเป็นแม่สื่อแม่ชักให้ แต่ทำอีท่าไหนไม่รู้ อยู่ๆรุ่นพี่คนที่นางไปคุยให้ ก็มามีใจชอบนางเฉย
ชะนีปาด… นางก็จะบับ อุ๊ย! งงจุง งงจัง ละไว้ในฐานเข้าใจนะว่าเขามาชอบฉันเอง ฉันคงสเน่ห์แรง ไม่ก็สวยกว่าเธอไงอีพวกหน้าปลิง หน้าทาก?!?
แล้วชะนีจอมปาด ก็ไปคบกะรุ่นพี่คนนั้นแค่ประมาณ 2 สัปดาห์เลิก ไวเหมือนคบจิบๆ คบพอเป็นกระษัย ให้หายอยาก แต่รุ่นพี่ที่โดนชะนีปาดจีบแล้วทิ้งคงเสียหน้ามากเลยพาลเกลียดเพื่อนชะนีปาดทั้งกลุ่ม เกลียดแบบไม่อยากมองหน้า พวกเราอีกเลยจนเรียนจบ
เพื่อนๆต่างไม่เข้าใจชะนีปาด ให้มันไปเป็นสะพานให้เพื่อน แต่มันดันไปทอดสะพานแทนเพื่อน แล้วก็ทุบทิ้ง งงใจนางจริง ลึกๆแล้วชะนีปาดต้องการอะไรแน่ แค่อยากเอาชนะ อยากพิสูจน์คุณค่าว่าตัวเองเหนือกว่าเพื่อน หรือว่าเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ ว่าคนที่เพื่อนชอบหรือเล็งไว้ จะต้องมามีใจให้นางเสมอ?
ล่วงวัยมัธยมเข้าสู่มหา'ลัย เจ๊ก็ได้เจอคนแบบเดียวกับชะนีปาดอีกจ้า แต่ขอเรียกว่าชะนีปาดเลเวล 2 นางมาคอนเส็ปเดิม เพิ่มเติมคือเทคนิคอันแพรวพราว
มีเพื่อนคนหนึ่งสมมุติชื่อบ่าง อีบ่างนี่แอบชอบชายหนุ่มหล่อประจำรุ่นสมมุติชื่อ F มาตั้งแต่วันรับน้อง
ชะนีปาดเลเวล 2 นางก็ออกตัวก่อนว่า "อี F ไม่ใช่เป็คชั้น ชั้นชอบเพื่อนอี F มากกว่า" อีบ่างก็ไว้ใจสิคะ ก็นึกว่าเล็งเป้าหมายไว้คนละคนกัน อนาคตหากสมหวัง อาจได้ไปเที่ยวด้วยกันแบบ double date
หลังจากปล่อยให้อีบ่างฝันหวาน ชะนีปาดก็เข้าหาอีF ในฐานะแม่สื่อให้เพื่อน เริ่มจากไปคุยไปส่งหนมให้บ่อยๆบอกว่าเพื่อนเราชอบเธอนะ แล้วค่อยๆไปคลุกคลีตีวงในกินเหล้ากะอี F ให้อี F ไปส่งที่หอ โทรหาอี F ก่อนนอนทุกคืน
ถามว่ามันคุยเรื่องอะไรกัน คุยเรื่องอีบ่างล้วนๆค่ะ!
"อีบ่างมันชอบแกมากเลยนะ มันบอกว่าแกหน้าเหมือนแฟนเก่ามันเลยอะ"
"แกชวนอีบ่างไปกินข้าวบ้างสิวะ อีบ่างมันจะได้ดีใจ"
"F แกโทรไปคุยเล่นกับอีบ่างมันอะยัง มันอยากคุยกะแกนะเว้ย"
พุทธโธ่พุทธถังกะลังม่อ อี F จะหาเวลาไปจีบอีบ่างได้ที่ไหน ก็ชะนีปาดล่อเวลาทั้งหมดของอี F ไปเป็นของหมด เรื่องมันก็ต้องจบแบบหนังรักวัยรุ่นแนวเพื่อนสนิท และโปรดจินตนาการถึงดนตรีหวานๆสะเทือนอารมณ์นิดๆระหว่างที่อ่านบทสนทนานี้
"เพื่อน กูรักว่ะ" เฮ้ย! ผิดเรื่อง "ปาด เราชอบแก"
"แล้วเพิ่งมาบอกอะไรตอนนี้วะ เฮ้ย! จะมาชอบกูได้ไง กูเป็นเพื่อนนะเว้ย"
"กูก็ไม่รู้ว่าอยู่ๆกูชอบได้ไง มันเหมือนอยู่ๆกูก็นึกถึงแต่เรื่อง อยากอยู่กะตลอดเวลาว่ะ"
"แต่กูทำร้ายอีบ่างไม่ได้ อีบ่างเป็นเพื่อนกู และอีบ่างมันชอบนะเว้ย"
"แต่กูไม่ได้ชอบอีบ่าง กูชอบ กูชอบอีปาดได้ยินไหม!!!! "
เออกูได้ยินแล้ว… นั่นคือเสียงที่อีบ่างตะโกนออกมา ก่อนจะเป็นบ้าสติแตกเพราะอกหัก บอกขอหายตัวไปสักพัก แต่ไม่กลับมาสอบปลายภาค สรุปซิ่วหนีพิษรักไปอยู่มหาวิทยาลัยอื่นเสียเฉย
ชะนีปาดกับอี F ก็ต้องเลยตามเลย มาคบกันตอนเปิดเทอมขึ้นปี 2 จ้า พอวาเลนไทน์ก็มีซีนหวานสารภาพน่ารักๆของชะนีปาดว่า
"แอบชอบ F มาตั้งแต่ที่เห็นวันแรกเหมือนกัน แต่ไม่กล้าบอกเพราะเห็นอีบ่างมันเล็งอยู่"
เพื่อนๆฟัง ก็ต่างสงสัยใจอีชะนีปาด จะทำอะไรๆให้มันยากไปทำไมเป็นเทอมๆวะ ถ้าชอบผู้ตั้งแต่แรก ก็ควรรีบแจกความจำนงค์ออกมา บอกเพื่อนไปเลยว่า "เออ! คนนี้ของกู กูจอง!"
แล้วถ้าเพื่อนชะนีไม่ยอม" ก็มาแข่งกันแบบ fair game สิวะ".... คิดจะแย่งผู้ชายกันแล้ว เราต้องแย่งอย่างมีศักดิ์ศรี ไม่ได้หมายถึงให้ตบตี แต่ให้จีบผู้อย่างมีจรรยาบรรณ ต่อให้คนไหนได้ไป สุดท้ายจบแล้วต้องไม่ทะเลาะ ยังเกาะเป็นเกิร์ลแกงค์เพื่อน สนิทเหมือนเดิมได้
เลิกเถอะ! การทำตัวเป็นนางเอกเสียสละ มันน้ำเน่าไปแล้วจ้ะ
ถ้าลึกๆแล้วเรายังละกิเลศไม่ได้ แรดไปเลยให้คนรู้ว่าเราร้าย สุดท้ายถึงอกหักก็แค่หน้าแตก แต่ไม่เอาชื่อเพื่อนไปแลกขาย เพื่อหาทางเข้าใกล้ผู้ชาย เหมือนพวกชะนีแม่สื่อแม่เสียบ อีชะนีหนำเลี๊ยบ อีลูกช่างปาด!
ไปสอบใบขับขี่เถอะค่ะ เพราะจะฟัดผู้ชายหล่อๆก็เหมือนแย่งเข้าซอย ต้องค่อยๆตบไฟเลี้ยวให้ผู้ร่วมถนนรู้ จะได้สอยมาสวยๆแบบไม่ต้องปาด!
#อีชะนีจอมปาด #อีชะนีชอบแย่งซีนเพื่อน #อีลูกช่างปาด #ชีวิตจริงนะเว้ยไม่ใช่หนังเรื่องเพื่อนสนิท #ชอบเขาก็เว้ากันตรงๆ #อีแม่สื่อแม่เสียบ #ชะนีมีเมนส์