[CR] เที่ยวเกาะเซจูหน้าหนาวกันต่อเลยค่ะ

นี่ก็เป็นวันที่สองแล้ว สำหรับทัวร์เกาะเซจูในราคาสุดช็อค 9,900.- (ไป 9-12/2/59) จากที่รีวิววันแรกกันไปแล้ว ก็มาต่อกันเลยค่ะ
ไกด์โทรมาปลุกตอนตี 5 (ก็ประมาณ ตี 3 เมืองไทย) กำลังนอนสบายเลยอ่าาา (แต่จะบอกว่าใครกลัวหนาวจนไม่กล้าอาบน้ำเนี่ย!!! ไม่ต้องห่วงค่ะน้ำอุ่นที่โรงแรมอุ่นจิงไรจิง อาบเสร็จแล้วไม่ยักกะหนาวเหมือนตอนไปเที่ยวเหนือนะ) แต่งตัวเสร็จก็ลงไปกินข้าวด้านล่างของโรงแรม อาหารเช้าของเกาหลีก็จะเป็นเข้าต้ม+ผักดอง+กิมจิ ฯลฯ (เราพกไข่เค็ม+หมูยองมาด้วย) กินเสร็จแล้วก็เตรียมเสื้อกันหนาวแล้วขึ้นรถบัสกันเลย

ที่แรก .......ยอดเขาอิลจูบง (อุณภูมิประมาณ 11 องศา แต่บวกลมด้วยแล้วหนาวมากๆๆๆ)




ต้องขึ้นบันไดไปทั้งหมด 910 ขั้น ใครใคร่ไป..ใครไม่ใคร่อยู่ อิอิ เพราะข้างล่างมีร้านขายของอยู่หลายร้านค่ะ แต่เราไม่ทันได้เดินหรอกนะ เพราะกว่าจะลงมาก็หมดเวลาแระ


อากาศหนาว+ลมแรงมากๆๆๆๆๆ แต่ดูจากสภาพที่พวกเราไต่บันไดขึ้นไปเนี่ยหอบแฮ๊กๆๆๆ ก็แทบจะถอดเสื้อกันหนาวทิ้งกันเลยทีเดียว
เบียดขึ้นไปกับทัวร์จีน โอ้วแม่จ้าว!!! ช่างอึกทึกครึกโครมอะไรเยี่ยงนี้






จากนั้นก็พาไปศูนย์โสมแดง คือไปฟังเค้าบรรยายสรรพคุณของโสมแดง (โดยคนไทย) ไม่ซื้อไม่ว่า..ขอแค่เข้ามาฟัง ก็ฟังซะหน่อย (ข้างในเค้าไม่ให้ถ่ายรูปอ่ะนะ)


ต่อกันที่พิพิทธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเซีย Aqua Planet  ข้างในสวยมากค่ะ .....แต่ระวัง!!!!! เวลาออกมาแล้วเลี้ยวผิดนะคะ มีคนหลงหลายคนเลยค่ะ ผู้ช่วยไกด์ต้องเข้าไปตามกันเลยทีเดียว




ข้างนอกลมแรงมว๊ากกก (เมื่ออาทิตย์ก่อนมีพายุหิมะถล่มเกาะเซจู บริเวณนี้จึงถูกปกคลุมไปด้วยหิมะแหล่ะ) เรามามันก็ละลายหายไปแระ



เสร็จแล้วก็พาไปดูการแสดงม้า Pony แต่เราไม่ได้ถ่ายรูปข้างในเลย มัวแต่ดูการแสดงจนลืมเลยอ่ะ (ที่นี่กลิ่นฉุนจนทำให้เราเป็นหวัดกระทันหันขึ้นมาเลย ดีนะได้วิตามินซีของเกาหลีไป 1 ขวด เช้ามาค่อยยังชั่ว อร่อยมากค่ะ)


ไปไร่ส้ม (เค้าเด็ดลงมาใส่ตระกร้าให้เราแล้วนะสามารถหยิบได้คนละ 4-5 ลูกเลย ..ส่วนที่ติดอยู่ที่ต้นเค้าจะเก็บไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูป อย่าไปเด็ดของเค้าเชียว) ส้มหวานมากๆๆๆ




ไปต่อกันที่หมู่บ้านซองอึบ (เรื่องแดจังกึม) จะมีแฮเนียว (ผู้หญิงที่ดำน้ำหาของทะเลในเกาะเซจู) ยามว่างเค้าจะรับเป็นอาสาสมัครมาบรรยาวิธีชีวิตของชาวบ้านที่นี่ค่ะ เรียกเสียงฮามาก (คนที่ใส่เสื้อสีส้มขวามือค่ะ)




ก็มีสินค้ามานำเสนอจากภูมิปัญญาชาวบ้านอ่ะค่ะ อุดหนุนกันไปคนละแพ็คสองแพ็ค



ที่สุดท้ายของวันนี้ก็คือ จูซังจอลลี่ (หนาวมากกกก หูกับมือชากันเลยทีเดียว)




ก่อนขึ้นรถบัส ก็แวะชิมร้านข้างทางซะหน่อย



เรียบร้อยแล้วก็ขึ้นรถไปกินมื้อเย็นค่ะ แต่วันนี้ไกด์ไม่พาแวะเซเว่นอ่ะ ดีนะที่ร้านอาหารเค้ามีเครื่องดื่ม ฯลฯ ขาย ค่อยยังชั่ว (ส่วนหน้าร้านอาหารก็มีหนุ่มเกาหลีมาขายสตอเบอร์รี่ หว๊านหวาน พูดไทยชัดเชียวอุตส่าห์ส่งภาษาอังกฤษแทบแย่)
ส่วนเรื่องอาหารก็เหมือนเดิม ไม่อั้น 3 มื้อ แต่วันนี้จะมีพิเศษก็คือ บุฟเฟ่ชาบู+ขาปูยักษ์ (แต่ของจริงไม่ยักษ์นะคะ แบบขาลีบๆอ่ะค่ะ 5555 อย่าไปซีเรียสค่ะ ของกินอย่างอื่นเยอะแยะค่ะ)


***จบไปอีก 1 วัน (โปรแกรมทัวร์ตามตารางที่เค้าได้แจ้งไว้อาจมีเปลี่ยนแปลงได้นะคะ ขึ้นอยู่กับเวลาและความเหมาะสมของสภาพอากาศในวันนั้นด้วยอ่ะค่ะ)

วันที่สาม.......
เสียงโทรศัพท์ปลุกตอน 6 โมง ได้เวลาแระ เฮ้อ!!! วันนี้ก็วันสุดท้ายแล้สินะ ไม่อยากกลับเมืองไทยเลย ที่นี่อากาศดีมากๆๆๆ เศร้า T_T
(แต่วันนี้ไกต์บอกว่าฝนจะตกทั้งวัน แต่ดีตรงที่ว่าโปรแกรมของวันนี้จะอยู่ในร่มทั้งหมด) กินข้าวเช้าเสร็จก็เตรียมกระเป๋าขึ้นรถกันพร้อมเพรียงตอน 8 โมงเช้า



กีซังนีม (คนขับรถบัส)


ลมแรงแค่ไหนคงไม่ต้องบอก (ดูจากทรงผม 555)


ที่แรกของวันที่สาม ศูนย์เครื่องสำอางค์ ส่วนใหญ่คนจะซื้อแผ่นมาร์คหน้าเพราะมีหลายแบบมากราคาไม่แพง


Shop เสร็จก็ออกมาเดินเล่นหน้าร้านก่อนค่ะ รอกีซังนีมขับรถมารับ



ฝนตกปรอยๆๆ ลมแรงเป็นระลอก


จากนั้นก็ไปศูนย์โสมฟังเจ้าหน้าที่คนไทยบรรยายบลาๆๆๆ ไม่ซื้อไม่เป็นไร ลงมาด้านล่างจะเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ต (ร้านละลายเงินวอน) มีของฝากต่างๆๆ เยอะแยะมากมาย (เหมือนอยู่เมืองไทยยังไงยังงั้น คนขายก็เป็นคนไทยทั้งน๊านนนนเลย) ซื้อเสร็จเค้าก็จะมีบริการแพ็คใส่ลังให้ด้วยนะคะ เขียนชื่อ+เบอร์โทร และเลขรถบัสไว้ยิ่งดี เพื่อตกหล่นใครเห็นเค้าจะได้ช่วยกันคืนเจ้าของค่ะ


ฝนเริ่มตกหนักแระ+ลมแรง แต่....เราไม่แคร์ค่ะ



ไปต่อกันที่ห้าง Duty Free แต่ถ้าใครไม่อยากเดินเล่นในห้าง ออกมาด้านนอกมีร้านอีกหลายร้านค่ะ แต่พวกเราเลือกที่จะเข้าร้านกาแฟค่ะ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง อิอิอิ


เสร็จแล้วก็มารวมตัวกันที่ห้างชั้นล่างเเพื่อที่จะไป Shop กันต่อที่ตลาดเลยค่ะ (จำชื่อตลาดไม่ได้แระ)


จะมีสินค้าประเภท ครื่องสำอางค์ต่างๆ, เสื้อผ้า, รองเท้า, ขนม ฯลฯ ส่วนราคานั้นก็ถูกกว่าที่ขายใน net ประมาณ 400-500 บาทค่ะ ไกด์บอกว่าถ้าเป็นพวกเสื้อผ้าและรองเท้าก็ต่อราคาได้ แต่ถ้าเป็นเครื่องสำอางค์อย่าไปต่อเลย เพราะราคาถูกแล้ว (บางร้านคนขายก็เป็นคนไทยค่ะ)
แต่เสียดายตรงที่แวะวันสุดท้าย จะซื้อก็ไม่รู้จะได้ใส่อีกเมื่อไหร่ เซร็ง!!!! เลยได้แต่ขนมค่ะ


กรี๊ดดดดด เจอหนุ่มหล่อด้วย


ช็อปได้แต่อย่าเพลินล่ะ เพราะต้องไปขึ้นรถตอน 6 โมง เพื่อจะไปสนามบิน โดยไกด์จะบอกพิกัดแบบละเอียดรับรองไม่หลง แต่ถ้าใครมาช้า แหะ แหะ นั่ง Taxi ตามไปเองนะจ๊ะ ไม่รอด้วยอ่ะ เพราะจะต้องไปเตรียมตัวก่อน ไม่งั้นจะไม่ทันทัวร์จีน (ซึ่งมีจำนวน 4,000 กว่าคน) โอ๊วววว





มาถึงสนามบินแล้วจัดของแล้วรอคิวโหลดกระเป๋า เป็นไปตามคาด!!!! หลังจากที่ทัวร์ไทยมาได้ซักพัก ก็เกิดปรากฏการณ์ทัวร์จีนถล่มสนามบิน ความโกลาหลก็เกิดขึ้น พวกเราต้องนั่งเป็นกลุ่มล้อมไว้ไม่ให้พวกราชวงษ์ชิงมาสลายกลุ่มเราได้ แต่ก็ประหลาดใจเหลือเกิน พี่แกผ่ากลางข้ามหัวพวกที่นั่งเป็นกำแพงรักษาเมืองไว้อย่างสิ้นเชิง!!! ไม่เหยียบหัวก็บุญแล้ว เฮ้ออออ แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ฮาๆดีค่ะ





*** อยากจะบอกว่าไม่ว่าจะเที่ยวที่ไหนหรือจะกินอาหารแบบไหน คงไม่มีอะไรดีเลิศถูกใจไปซะหมด ขอแค่เราเปิดใจกว้างๆๆ...แล้วเราก็จะสนุกและมีความสุขกับมันค่ะ ........และที่แน่ๆ ปีหน้าฟ้าใหม่เจอกันที่โซลนะคะ ฮุ ฮุ ฮุ ***
ชื่อสินค้า:   เที่ยวเกาะเซจู
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่