แชร์ประสบการณ์กับแท็กซี่บ้านเรา...

กระทู้สนทนา
สวัสดีคะ ไม่คิดว่า จะเริ่มกระทู้แรก ด้วยกระทู้นี้ หากเราพิมพ์ไม่ถูกต้องก็ต้องขออภัยไว้ด้วยนะค่ะ

เมื่อ 2 วันก่อนได้อ่านกระทู้หนึ่งเกี่ยวกับแท็กซี่ไทยก็แอบเคืองแทนค่ะ พอกินข้าวเย็นเสร็จแล้วก็เจอข่าวว่า "มีแนวโน้มว่าจะปรับขึ้นราคาแท็กซี่ขึ้นอีก 5%" เราก็เลยอยากแชร์ประสบการณ์ที่เราเจอบ้าง เผื่อจะมีใครเล็งเห็นถึงความปลอดภัยและการบริการของแท็กซี่บ้านเรามากขึ้น

คือ.... วันนั้นเรานัดเจอลูกค้าที่โรงแรมใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ เพราะลูกค้าเราต้องบินกลับประเทศตัวเองตอนบ่ายโมง บ้านเราอยู่แถวหนองแขมค่ะ เราตื่นตี 5 เพื่อจะได้ไปทันนัดลูกค้าตอน 8 โมงเช้า เราออกมาเรียกแท็กซี่หน้าหมู่บ้าน ในใจก็คิดนะว่า "แท็กซึ่คันไหนจะโชคดีน่ะ.. " แล้วเราก็โบยเรียกแท็กซี่ เป็นลุงใจดีมากและคุยเก่งมากค่ะ เราพอจำประมาณคร่าวๆได้
เรา : ไปสนามบินสุวรรณภูมิค่ะ
ลุงขับแท็กซี่ : หนูเป็นลูกค้าคนแรกของวันนี้เลย วันนี้ลุงโชคดีจริงๆ ได้ลูกค้าคนแรกแถมไปไกลด้วย แถมวันนี้ลุงออกรถแท็กซี่ใหม่ตอน 9 โมง โชคดีจริงๆ
เรา : อ่อค่ะ หนูเองก็คิดอยู่น่ะว่า แท็กซี่คันไหนจะโชคดี

เรากับลุงขับแท็กซี่ก็คุยกันตลอดทางเลยค่ะ เพราะเรากลัวจะไปไม่ทัน แต่ลุงบอกว่ายังไงก็ทัน แล้วเราก็ไปถึงประมาณ 7.30 น. หลังจากนั้นเราก็คุยธุระกับลูกค้าเสร็จ เราก็บอกทางเจ้าหน้าที่โรงแรมช่วยเรียกรถแท็กซี่ไปหนองแขมให้ค่ะ ทางโรงแรมก็จัดการให้เป็นอย่างดีค่ะ จุดเริ่มเรื่องและครั้งแรกที่เจอแท็กซี่แย่ๆ (บอกตรงๆค่ะ เสียใจมาก เพราะไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง) พอแท็กซี่มาถึง ทางโรงแรมก็แจ้งเราพร้อมช่วยเราหิ้วของไปส่งที่แท็กซี่ค่ะ ขออนุญาตแทนชื่อคนขับว่า "พี่ยักษ์" แทนนะค่ะ

พี่ยักษ์ : ไปไหนครับ
เรา : ไปหนองแขมค่ะ
(แล้วก็ขับรถออกจากโรงแรมค่ะ)
พี่ยักษ์ : หนองแขมช่วงไหนครับ
เรา : แถวพุทธมณฑลสาย 3 ค่ะ
พี่ยักษ์ : จะให้ไปทางไหนครับ
เรา : หนูเองก็ไม่รู้เส้นทางค่ะ คือพี่ขึ้นทางโทลเวย์ที่จะไปทางพระราม 2 มันจะตรงไปแถวๆนั้นอ่ะค่ะ แล้วเดี๋ยวหนูจะบอกอีกทีได้ไหมค่ะ เพราะไม่ค่อยมาแถวนี้เลยอ่ะ ส่วนใหญ่จะมีคนพามาค่ะ
พี่ยักษ์ : คือ ทำไมคุณไม่นั่ง airport link เข้าเมืองไปแทนอ่ะ มันง่ายกว่าเยอะเลย (น้ำเสียงเริ่มเปลี่ยน)
เรา : หนูเองก็ไม่เคยไป airport link ค่ะ คือ... พี่ไปไม่ถูกหรือเปล่าค่ะ ถ้าพี่ไปไม่ถูก เอาอย่างงี้ไหม พี่กลับไปส่งหนูที่สนามบินก็ได้ค่ะ เดี๋ยวหนูเรียกคันใหม่ก็ได้ พี่จะได้ไม่เสียเวลาด้วย เพราะหนูเองก็ไม่คุ้นเส้นทางนี้ด้วยค่ะ
พี่ยักษ์ : มันเลยมาแล้ว (น้ำเสียงเริ่มเหวี่ยง = =") แล้วต้องไปต่อคิวใหม่อีก ผมเสียสิทธิ์มาแล้ว

แล้วทุกอย่างก็เงียบไปสักครู่ การสนทนาตั้งแต่ตรงนี้ พี่ยักษ์เริ่มเหวี่ยงเรา แล้วเราเองก็เริ่มไม่พอใจเหมือนกัน

พี่ยักษ์ : แล้วน้องมาทำไรแถวนี้ (เออ มันเกียวไรกับพี่อ่ะ คิดในใจ)
เรา : อ่อ มาเจอลูกค้าค่ะ (เราก็แชทไลน์กับพี่ที่ออฟฟิต และบอกพี่เค้าว่าเจอแท็กซี่ไม่โอเคเลยอ่ะ เซง)
พี่ยักษ์ : แล้วไปทำอะไรที่หนองแขม
เรา : กลับบ้านค่ะ
พียักษ์ : แล้วต้องไปทางบางแคหรือเปล่า
เรา : อ่อ ไม่ผ่านค่ะ ทางหนูจะไปทางนครปฐมอ่ะค่ะ ไม่ต้องผ่านทางบางแค ตรงนั้นรถมันติด
พี่ยักษ์ : โห่ ถ้าไปตรงบางแค ผมบอกตรงๆ ผมไม่อยากไม่ไป เอางี้ไหม ผมไปส่งคุณตรง airport link สถานีมักกะสัน แล้วคุณก็ต่อรถไปเอง แล้วผมจะได้วิ่งไปทางสาธรต่อ
เรา : พี่จะให้หนูเข้าเมืองไปทำไมอ่ะ รถมันติดแล้วจะให้หนูที่อยู่นอกเมืองเข้าตัวเมือง แล้วนั่งรถจากตัวเมืองไปนอกเมือง เผื่ออะไรอ่ะ??
พี่ยักษ์ : งั้นเอางี้ เดี๋ยวผมไปส่งคุณที่ทางลงโทลเวย์แล้วคุณเรียกแท็กซี่อีกคันไปหนองแขม เดี๋ยวผมจ่ายค่ามิเตอร์ 35 บาทให้คุณเอง

ตอนนี้เราโมโหแล้วค่ะ เราเสียงเราเองก็เริ่มแข็งขึ้น ซึ่งตอนนี้รถแท็กซี่วิ่งอยู่เส้นใน ทางที่จะวิ่งไปโทลเวย์ (เราก็ยังจำไม่ได้ว่ามันเรียกว่าถนนอะไร) ซึ่งมันเป็นเลนในให้วิ่งตรงอย่างเดียว ซึ่งไม่มีทางออกค่ะ

เรา : คือเอางี้ดีกว่า ถ้าไม่อยากไป พี่จอดตรงนี้ก็ได้ค่ะ หนูลงตรงนี้ก็ได้ เดี๋ยวหนูโบยรถคันอื่นแทนก็ได้ (ตอนนั้นโมโหมากอ่ะ ไม่ได้คิดว่ามันคงไม่มีใครจอด แต่เราไม่อยากอยู่บนแท็กซี่คันนี้แล้วอ่ะ)
พี่ยักษ์ : น้อง ม่าย...ช่าย ว่าพี่ไม่อยากไป (เสียงพี่ยักษ์เริ่มเบาลง) พี่เป็นแท็กซี่สนามบิน พี่เองก็ขับอยู่ตรงนี้กับโรงแรมมานานแล้ว เอางี้ล่ะกัน ถือว่าพี่ วันนี้ดวงซวยเองล่ะกัน เราจบตรงนี้นะ โดยปกติพี่รับแต่คนต่างชาติไม่ต้องมากดมิเตอร์ แต่นี้พอรับคนไทยพี่ก็ต้องกดมิเตอร์ แล้วก็ได้เงินตามมิเตอร์
เรา : อ้าว.... พี่หาว่า หนูเป็นตัวซวยหรอค่ะ (เมื่อเช้าลุงขับแท็กซี่ ยังบอกว่าเราเป็นคนนำโชคมากให้เขาแต่เช้าแลย แถมตอนเราลงจากแท็กซี ลุงยังขอบคุณเราอยู่เลย ทำไมตกบ่าย ตรูเป็นตัวซวยแล้วว่ะเนี่ย = =") คือ.... ตั้งแต่แรกถ้าพี่ไม่ไป ทำไมไม่บอกโรงแรมไปล่ะว่าไม่ไป จะได้ไม่ต้องมาเป็นแบบนี้
พี่ยักษ์ : พี่ปฏิเสธไม่ได้นิครับ พี่ต้องรับหมด ไม่งั้นพี่ก็เจอ black list
เรา : อ้าว... แล้วนี่หนูผิดหรอค่ะ ที่ให้โรงแรมเรียกแท็กซี่แล้วดันมาเจอพี่
พี่ยักษ์ : ไม่ ไม่ น้องไม่ผิด ผมไปส่ง จบน่ะ

ตอนนั้น เราคิดตลอดเลยว่า " จะเอาไงต่อ จะลงตรงไหนว่ะ ให้นั่งรถไปกะคนแบบนี้เป็นชั่วโมง ไม่เอาด้วยหรอก จะลงตรงไหนได้บ้าง " จังหวะนั้นจำได้ว่ามันมีห้างอีเกียอยู่ ก็เลย

เรา : พี่ค่ะ มันผ่านอีเกียไหมค่ะ
พี่ยักษ์ : ผ่าน
เรา : งั้นพี่ส่งหนูที่อีเกียแทนล่ะกันค่ะ (ในใจ "ลงอีเกียก็ได้ฟร๊ะ")

หลังจากลงแท็กซี่ ก็โทรหาพี่ที่ออฟฟิตเลย เพราะพี่ที่ออฟฟิตทั้งโทรหาและแชทมาตลอดทางเลย เป็นห่วงเรากันมากเลย เพราะเขากลัวเราโดนทำร้าย แถมเราไม่คุ้นทางแถวนั้นด้วย หลังจากโทรหาพี่ที่ออฟฟิตแล้ว ด้วยความโมโห เราก็เลยโทรหาโรงแรมเพื่อบอกทางเจ้าหน้าที่ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งตอนแรกเราก็ไม่อยากเอาเลขทะเบียนให้ เพราะไม่อยากให้พี่ยักษ์เสียแหล่งทำมาหากิน แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า มันเกิดเรื่องแบบนี้บ่อยมาก ดีแล้วที่น้องโทรมาบอก พี่จะได้ไม่ให้เขามารับงานกับโรงแรมอีก เพราะมันไม่ใช่แค่น้องที่โดนทิ้งกลางทางหรือโดนปฎิเสธแบบไม่ไปหลังจากออกจากโรงแรมไปแล้ว

-------------------------------------------------------------

จากเรื่องที่เล่า นี่เป็นแค่ประสบการณ์ส่วนตัวของเราเอง ยังมีของเพื่อนเราและคนต่างชาติที่มาเที่ยวประเทศไทย แล้วเราเขาไปช่วยบอกทางและแนะนำแท็กซี่ให้ แต่คนต่างชาติบอกปฏิเสธ ไม่อยากขึ้นแท็กซี่ เพราะเขาไม่ยอมกดตามมิเตอร์ จะเหมาอย่างเดียวเลย เขาเลยเลือกที่จะเดินหรือนั่งรถเมล์มากกว่า ดังนั้น เราก็ได้แต่หวังว่า "จะมีหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง เล็งเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นตรงนี้เช่นกัน" การเพิ่มเงินมากขึ้น ก็ควรเพิ่มการบริการทีดีขึ้นตามด้วย ไม่ใช่ปฎิเสธผู้โดยสาร ทิ้งผู้โดยสารกลาง ไม่ยอมกดมิเตอร์ อยู่แบบนี้

ปล. เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 3 เดือนที่แล้วนะคะ เราเองจดเลขทะเบียนไว้ แต่เราก็ลบมันทิ้งไปแล้ว เพราะไม่คิดว่าจะเอาเรื่องนี้มาแชร์อ่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่