พระพุทธศาสนาในไต้หวัน ep.1



มา ๆ ๆๆ เชิญครับ ๆ มานั่งในดื่มชา สนทนากันหน่อยดีกว่า ผมมีคำถามจะถามสหายทุกท่าน ที่แวะมาเยี่ยม
เยียนผมในกระทู้แรกที่คงจะพอมีสาระบ้างนี้
  “ถ้าพูดถึงพระจีน ท่านนึกถึงอะไร”
ผมว่าจะต้องมีบางท่านคงจะนึกถึงหลวงจีนในหนังกำลังภายใน
“วันนี้ อาตมาขอละศีลปาณา !” พูดจบก็ตุ้บตั้บ ๆ กัน
หรือไม่บางท่านก็จะนึกถึงอีกคำนึงขึ้นมา
“ฉันข้าวเย็น!”  
แต่วันนี้ผมจะพาทุกท่านไปรู้จักพระจีนในอีกมุมหนึ่ง ที่บางท่านอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อน ผมจะพาท่านไป
ไต้หวัน ไปรู้จักกับพระจีน แบบมหายานในไต้หวันกันครับ



พระพุทธศาสนาในไต้หวัน เพิ่งมีประวัติศาสตร์มาเมื่อสมัยปลายราชวงศ์หมิง (ใครชอบอ่านนิยายดาบมังกรหยกของกิมย้ง ราชวงศ์หมิงก็เกิดจาก “จูหยวนจาง” เพื่อนที่ทรยศหักหลังเตียบ่กี้ แล้วสถาปนาตนเองขึ้นมา
ฮ่องเต้ ตั้งต้นราชวงศ์หมิง นั่นล่ะครับ)   เวลาประมาณเมื่อสี่ร้อยกว่าปีนี้ที่ผ่านมานี้เอง
เมื่อชาวจีนปลายราชวงศ์หมิง นำพระพุทธศาสนาเข้าไปในไต้หวันแล้ว ก็ได้สร้างวัดกันขึ้นมา โดยนักบวชสมัยนั้นก็เป็นปัญญาชน หรือพวกข้าราชการ จากจีนแผ่นดินใหญ่อพยพมา
    จุดศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาในไต้หวันสมัยนั้น อยู่ในเขตไถหนานปัจจุบัน


คนจีนที่อพยพมาก็สร้างวัดมากมายทีเดียว วัดที่ดัง ๆ ก็มีวัดฝ่าฮว๋า (法華寺) วัดไคหยวน (開元寺)เป็นต้นล่ะครับ

วัดฝ่าฮว๋า (法華寺)


วัดไคหยวน(開元寺)

แต่ในสมัยนั้นวัดของพระพุทธศาสนา กลับไม่มีจิตวิญญาณของความเป็นพระพุทธศาสนาอยู่ ได้แต่เน้นแนวคิดของเล่าจื๊อ และแนวคิดจากนักปรัชญาจีนที่ตนเคยเรียนรู้มา บางวัดก็มีแนวคิดทั้งขงจื๊อ พุทธ เต๋ารวมปนกันไปเลย
        ต่อมาพอถึงสมัยที่ญี่ปุ่นปกครองไต้หวัน (ปีค.ศ.1895-1945) ได้เกิด วัด 4 วัดที่มีชื่อเสียงสมัยนั้นจนมีฉายาว่า
“จตุรบรรพต” (四大名山)(อารมณ์คล้าย ๆ ห้ายอดฝีมือแห่งยุค ในมังกรหยกเลยแฮะ)

1.    เขตจีหลง มีวัดเยว่เหมยซานหลิงฉวน (月眉山靈泉寺)


2.    เขตไทเป มีวัดกวนอินซานหลิงอวิ๋น (觀音山凌雲寺)


3.    เขตเหมียวลี่ มีวัดต้าหูฝ่าอวิ่น (大湖法雲寺)


4.    เขตเกาสง มีวัดต้ากั่งซานเฉาเฟิง (大崗山超峰寺)

โดยวัดทั้งสี่วัดที่เกิดขึ้นในภายหลัง กลับมีชื่อเสียงกลบรัศมีวัดดั้งเดิมอย่างวัดฝ่าฮว๋า หรือวัดไคหยวนไปซะงั้น
เหตุผลก็เพราะเจ้าอาวาสวัดทั้งสี่ มีความคุ้นเคยสนิทชิดเชื้อกับทางรัฐบาลญี่ปุ่น ไปมาหาสู่กันตลอด
ก็ไม่น่าแปลกที่อำนาจการเมือง รวมพลังกับสื่อ จะสามารถผลักดันวัดทั้งสี่ให้มีชื่อเสียงขึ้นมาได้
    
สมัยนั้นก็มีเรื่องแปลก ๆ ดีเหมือนกันครับ อย่างบางนิกายเช่น นิกายหลงฮว๋า (龍華派)
ประกาศออกชัดเลยว่า พระสามารถแต่งเมียได้ แต่อาตมาก็ยังฉันเจนะ (แอบสับสนเล็กน้อย)
แต่ก็แน่นอนล่ะครับ เมื่อบุคลากรในพระพุทธศาสนาหย่อนมาก ๆ ถึงจุดนึง
ก็ย่อมมีผู้ที่อยากจะปฏิรูปพระพุทธศาสนาให้เข้ารูปเข้ารอยเหมือนเดิม
โดยเสนอแนวคิดที่เสนอให้ทั้งพระ ทั้งโยม กลับมาเคร่งครัดกันอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อความคิดนี้ขยายตัวมากเข้า ก็เกิดจุดเปลี่ยนแปลงของพระพุทธศาสนาในไต้หวันขึ้น
จตุรบรรพตรุ่นเก่า ได้ถูกแทนที่ โดยจตุรบรรพตรุ่นใหม่ (ทำไมผมนึกถึงมังกรหยกภาค 1 กับ 2 อีกแล้วนี่)  
จตุรบรรพตรุ่นใหม่ มีวัดอะไรบ้างน่ะเหรอครับ บางท่านอาจจะเคยผ่านหูมาบ้าง
1.    ฝอกวงซาน佛光山
2.    มูลนิธิพุทธฉือจี้慈濟
3.    จงไถ 中台山
4.    ฝากู่ซาน法鼓山

เนื่องจากวัดใหญ่ทั้งสี่แห่งนี้ มีที่ตั้งอยู่ตามเขตที่ต่างกัน จึงมีคนตั้งฉายาให้จตุรบรรพต ว่า  
“ฉือจี้ บูรพา(東慈濟)、ฝอกวง ทักษิณ(南佛光山)、
จงไถ มัชฌิม(中中台寺)、ฝากู่ อุดร(北法鼓山)”  
(เฮ่ย!!! นี่มัน.....มังกรหยกชัดๆ)

ส่วนเรื่องราวของวัดทั้งสี่ที่กล่าวมาจะเป็นอย่างไรนะ โปรดติดตามตอนต่อไป ถ้าผมยังมีเวลา และอารมณ์ครับ สำหรับกระทู้นี้ ขอนำเสนอแต่เพียงเท่านี้ ผมเก็บร้านล่ะครับ ส่งแขก~~~
แล้วพบกันใหม่ ไจ้เจี้ยน再見!

ติดตาม พระพุทธศาสนาในไต้หวัน ep.2 ได้ที่ http://pantip.com/topic/34908284
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่