สืบเนื่องจากกระทู้
http://pantip.com/topic/34876403 ทำให้ผมเกิดความสนใจว่าวิธีแบบ DCA หรือ Dollar-Cost Averaging นั้นที่ผ่านมาให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจหรือไม่ อย่างไร จึงลองนำมาทดสอบกับหุ้นใน SET100 ย้อนหลังโดยใช้ข้อมูลตั้งแต่ปี 2005 ถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นระยะเวลาประมาณ 11 ปี มีทั้งขาขึ้น ขาลง และไซต์เวย์ น่าจะช่วยให้เห็นอะไรได้บ้าง แต่ก็ไม่ใช่ข้อสรุปของทุกอย่าง โดยมีเงื่อนไขในการทดสอบคือ
- ใช้รายชื่อจากหุ้นทุกตัวใน SET100 เริ่มทดสอบตั้งแต่ปี 2005 ถึงปัจจุบัน หากตัวไหนเข้าตลาดมาทีหลังก็เริ่มซื้อตามเวลาที่เข้าตลาด
- เข้าซื้อหุ้นทุกตัวในทุกสิ้นเดือน ตัวละ 2000 บาท
- การทดสอบรวมค่าคอมมิชชั่น 0.25%
ผลการทดสอบ
- ผลตอบแทนเฉลี่ยของพอร์ตโฟลิโอต่อปีประมาณ 8.81% (ผลตอบแทน SET100 Buy& Hold 15.43% ส่วนดัชนี SET index Buy& Hold 6.23%)
- ค่า Max. system % drawdown อยู่ที่ -24.27% (ของ SET -55.71%)
ทั้งนี้ตัวแปรที่ตัดออกไป เช่น เรื่องสภาพคล่อง slippage จำนวนหุ้นขั้นต่ำในการซื้อขาย เงินปันผล การเพิ่มทุนต่างๆ ช่วงเวลาและกลุ่มข้อมูลในการทดสอบ หรือแม้แต่ความถูกต้องของข้อมูล EOD ที่นำมาทดสอบ อาจทำให้ผลตอบแทนมีค่าต่างออกไป
ข้อสังเกตุ
ในหุ้นที่มีการเติบโตส่วนมาก การ Buy& Hold กลับให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า DCA แต่ก็มีหุ้นบางตัวเมื่อ DCA ให้ผลออกมามีประสิทธิภาพมากกว่าซื้อแล้วถือ หุ้นดังกล่าวราคาจะมีลักษณะสวิง แต่เป็นลักษณะที่สวิงขึ้นมากกว่าลง ทำให้เก็บหุ้นได้ราคาเฉลี่ยต่ำกว่า นอกจากนี้ DCA น่าจะเหมาะกับผู้ที่มีทุนไม่มาก ค่อยๆ ทยอยเก็บหุ้นที่ตัวเองชอบ แต่การจะได้ผลตอบแทนที่ดีได้นั้นคงหนีไม่พ้นต้องย้อนกลับมาพิจารณาถึงประเด็นเรื่องการเลือกหุ้นเหมือนเดิม
ผลการทดสอบ DCA หุ้นใน SET100 ย้อนหลังตั้งแต่ 2005-2016
- ใช้รายชื่อจากหุ้นทุกตัวใน SET100 เริ่มทดสอบตั้งแต่ปี 2005 ถึงปัจจุบัน หากตัวไหนเข้าตลาดมาทีหลังก็เริ่มซื้อตามเวลาที่เข้าตลาด
- เข้าซื้อหุ้นทุกตัวในทุกสิ้นเดือน ตัวละ 2000 บาท
- การทดสอบรวมค่าคอมมิชชั่น 0.25%
ผลการทดสอบ
- ผลตอบแทนเฉลี่ยของพอร์ตโฟลิโอต่อปีประมาณ 8.81% (ผลตอบแทน SET100 Buy& Hold 15.43% ส่วนดัชนี SET index Buy& Hold 6.23%)
- ค่า Max. system % drawdown อยู่ที่ -24.27% (ของ SET -55.71%)
ทั้งนี้ตัวแปรที่ตัดออกไป เช่น เรื่องสภาพคล่อง slippage จำนวนหุ้นขั้นต่ำในการซื้อขาย เงินปันผล การเพิ่มทุนต่างๆ ช่วงเวลาและกลุ่มข้อมูลในการทดสอบ หรือแม้แต่ความถูกต้องของข้อมูล EOD ที่นำมาทดสอบ อาจทำให้ผลตอบแทนมีค่าต่างออกไป
ข้อสังเกตุ
ในหุ้นที่มีการเติบโตส่วนมาก การ Buy& Hold กลับให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า DCA แต่ก็มีหุ้นบางตัวเมื่อ DCA ให้ผลออกมามีประสิทธิภาพมากกว่าซื้อแล้วถือ หุ้นดังกล่าวราคาจะมีลักษณะสวิง แต่เป็นลักษณะที่สวิงขึ้นมากกว่าลง ทำให้เก็บหุ้นได้ราคาเฉลี่ยต่ำกว่า นอกจากนี้ DCA น่าจะเหมาะกับผู้ที่มีทุนไม่มาก ค่อยๆ ทยอยเก็บหุ้นที่ตัวเองชอบ แต่การจะได้ผลตอบแทนที่ดีได้นั้นคงหนีไม่พ้นต้องย้อนกลับมาพิจารณาถึงประเด็นเรื่องการเลือกหุ้นเหมือนเดิม