ภูเขาแม่ม เล่นเราแล้วไง.
คำพูดที่ชวนให้หลงคิดไปว่าตัวเองเป็นซันนี่จากหนังเรื่องดังของ GTH “ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ” แต่ในความเป็นจริงนอกจากจะไม่มีใหม่ ดาวิกา หรือวี วิโอเลตมาให้กำลังใจอยู่ข้างๆแล้ว ในหนังตอนที่พี่ซันนี่แกทำงานหนักจนวูบหัวน็อคพื้นเกือบตาย นางก็ยังฟื้นกลับมาได้แบบคูลๆ แต่ชีวิตจริงของเรา ณ นาทีนี้จะได้ลงไปจากภูเขาลูกนี้อย่างปลอดภัยรึเปล่ายังไม่รู้เลย
ไม่ต้องไปพูดถึงความเท่ความคูลนั้น สลัดทิ้งไปตั้งแต่2ชั่วโมงแรกที่เริ่มเดินละจ้า!!
แกรนด์ พาราดิสโซ่, ตีนห้ามเจ็บ ตัวห้ามชา ขาห้ามหยุดเดิน
ความคิดเรื่องการเอาตัวเข้าไปลำบากนี่เป็นสิ่งที่เราถนัดมาก จะไปเที่ยวไหนต้องคอยเสาะหาภูเขาไปเดินเทรล
หาทำเลไปเทรคกิ้ง ช่วงว่างๆก็ต้องดิ้นรนหาทริปไปเดินไปค้างในป่าเขาให้ได้ หลายๆครั้งก็จะได้ฟินไปกับธรรมชาติที่สวยงามอลังการ
แม้จะต้องแลกมาด้วยความลำบากและอาการปวดเมื่อยไปอีกหลายวันก็ตาม
แต่บางครั้งไอ้ความแรดอยากอยู่ท่ามกลางธรรมชาติมันก็ล้นทะลุมิเตอร์จนทำเอาเกือบตายมาแล้วจริมๆ
ช่วงหน้าร้อนปี2014 เรากับเพื่อนๆได้จัดทริปไปแบคแพคยุโรปกัน 2 อาทิตย์ และด้วยความที่ใฝ่ฝันอยากขึ้นภูเขาหิมะมานาน ก็ลงมือเสิร์ชกูเกิ้ลรัวๆ จนได้เจอกับทริปที่ตอบโจทย์เราได้พอดีคือ ใช้เวลาไม่มาก อยู่ใกล้ๆเมืองชาโมเน่,ฝรั่งเศษ และเลเวลความยากไม่มากเกินไปนัก คุณสมบัติเป๊ะทุกประการก็สมัครเลยจ้า
ทริปของเรากับกระเป๋าฟิตเนสเฟิส
เป็นทริปปีนยอดเขาหิมะ(ส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์)ชื่อว่า แกรนด์ พาราดิสโซ่ อยู่แถวชายแดนระหว่างประเทศอิตาลีกับฝรั่งเศษ ยอดเขานี้สูงกว่า 4000 เมตร และตามแพลนที่เค้าวางมาให้ เราจะใช้เวลาแค่สองวันในการป่ายปีนฝ่าหิมะขึ้นไป โดยไปกันเป็นกลุ่มเล็กๆนำทางโดยไกด์สาว(?)ผู้เชี่ยวชาญ ปัญหาคือพอเราเอาไอเดียแสนเลิศนี้ไปเสนอเพื่อนๆ ทุกคนเซย์บายหมดส่ายหน้าหนีแถมด่าว่า (มุง)จะหาเรื่องลำบากไปถึงไหน พวกกูจะไปยุโรปแบบสวยๆกันโว้ย!!
เจอเพื่อนพูดแบบนี้เราก็ไม่รอช้า รีบเปลี่ยนเป้าหมายทันที เพื่อนไม่เอางั้นลองหลอกพี่สาวดีกว่า นางเรียนอยู่ที่สวิซแถมเป็น
คนบ้าเที่ยวมากกกกกก คงนั่งรถไฟมาหาเราได้ไม่ยาก ก็กล่อมนางทุกวัน วันละ 2มื้อหลังอาหารเช้าเย็นๆ
จนนางรำคาญเสียงออดอ้อนและตกหลุมพรางที่เราวางไว้ ยอมไปปีนภูเขากับเราในที่สุด อุฮิๆๆ นี่พลาดละบอกเลย(อันนี้คิดในใจนะ)
Gran Paradiso อยู่ใกล้กับทั้งฝรั่งเศษแล้วก็สวิสเลย
เราจัดแจงจองทริปปีนเขาเรียบร้อย ผู้ร่วมลำบากก็มีแล้วเหลืออย่างเดียวที่ต้องจัดการคือการเตรียมตัว โดยเราแยกพวกอุปกรณ์และเสื้อผ้าที่ต้องใช้สำหรับไปปีนเขาไว้ต่างหาก เวลาหยิบใช้ของส่วนอื่นๆจะได้ไม่รกและสับสน
พวกของที่จำเป็นมากๆเช่นเสื้อกันหนาวและกางเกงแบบกันลม-กันหนาว-กันน้ำ หรือหมวกและถุงเท้าถุงมือ สมควรอย่างยิ่งที่จะลงทุนหาของดีๆมาใช้
คิดซะว่าหลังจากนี้อาจจะมีโอกาสได้ไปเที่ยวแนวๆนี้อีก ซื้อดีๆทีเดียวไปเลยอย่ามัวงก ไม่งั้นจะเป็นแบบเรา!! ยังดีที่เรามีรองเท้าสำหรับเดินเขาระยะไกล กับกางเกงกันหนาวที่โอเคอยู่แล้ว เหลือแค่เสื้อกับถุงมือ ด้วยความงก ไม่อยากให้งบของทริปมาบานปลายที่อุปกรณ์ปีนเขา จึงตัดสินใจลงทุนไปกับของคู่บ้านคู่เมืองอย่างของก้อปเกรดAโลด!!
เราเลือกที่จะไปมาบุญครองค่ะ เดินอยู่ไม่นานก็สอยเสื้อกันหนาวแบบไตรไคลเมทยี่ห้อดังกับสรรพคุณอีกล้านแปดที่โอเว่อร์มากมาย ประมาณว่าต่อให้อุกกาบาตน้ำแข็งพุ่งชนโลก ถ้าใส่เสื้อตัวนี้ไว้กูก็ยังรอดอ่ะ แถมได้มาในราคาไม่ถึงสองพันอีก ฮูเร่~เมืองไทยนี่ของมันถูกจริมๆ , เหลืออีกอย่างคือ ถุงมือ ซึ่งเค้าก็ระบุมาในเมลนะว่าควรจะกันหนาวได้แบบดีเยี่ยมเพราะอากาศข้างบนติดลบแน่นอน
เสื้อไม่ดี เห็นหิมะแค่นี้ก็สั่นละจ้า
บอกตรงๆแค่ค่าตั๋วเครื่องบิน รถไฟ ที่นอน บวกค่าไกด์ปีนเขาอีกเนี่ย คือหมดตูดละค่ะ ให้เสียตังเพิ่มอีกซักสิบบาทก็ไม่อยากเสีย
เอางี้ละกัน เห็นคุณพี่ที่บ้านเคยซื้อถุงมือดำน้ำมา นางบอกว่ามันสามารถช่วยปรับอุณหภูมิได้ดี เพราะใต้ทะเลก็หนาวเหมือนกัน
เลยตัดสิจใจเอาอันนี้แหละ น่าจะพอถูไถๆ พอคิดได้ก็แฮปปี้ละที่เงินไม่กระเด็นออกจากเป๋า
เหลือสิ่งสุดท้ายที่ต้องเตรียมตัวก็คือความฟิตของร่างกาย เดินขึ้นภูเขาสูงเกือบ4000เมตรภายในสองวัน มันคงไม่ขี้แน่ๆ
แถมก่อนหน้าที่จะไปปีนภูเขาก็เป็นทริปแบคแพคที่เน้นสองเท้าเดินรัวๆ และด้วยความจนต้องกินอยู่นอนหลับแบบประหยัดอีก
ต้องแข็งแรงไว้ก่อน
เพื่อนกะภูเขา ทริปนี้เดินเยอะมากๆ กลับมานี่ขาล่ำเฉย
ปล. การไปปีนเขาครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของทริปแบคแพคยุโรปปี2014 อีกทีนึง ซึ่งมีผู้ร่วมทริปทั้งหมด 4คน ตกลงใจสะพายเป้ที่หนักมากกกกกก เดินตีนพองท่องไป 3ประเทศคือ อิตาลี สวิสเซอร์แลนด์และจบที่ฝรั่งเศษ เมืองสุดท้าย ก่อนนั่งรถไฟแบบตู้นอนไปปารีสคือเมืองชาโมเน่ อันเป็นที่สถิตย์ของยอดเขามอง บลังค์อันโด่งดัง แถมเป็นเมืองหลวงแห่งการปีนภูเขาและเล่นกีฬาฤดูหนาว ซึ่งก็เป็นที่มาที่ทำให้เราอยากปีนเขา แต่เนื่องจากมอง บลังค์เป็นยอดที่ปีนยากและค่อนข้างอันตราย คืออันตรายจริงจังแบบมีคนตายกันทุกๆปี เราเลยลองหาภูเขาอื่นใกล้ๆเมืองนี้ และไปลงตัวที่แกรนด์ พาราดิสโซ่ ซึ่งอยู่ในอิตาลีแต่ติดกับชายแดนของชาโมเน่นั่นเอง
[CR] Gran Paradiso, ตีนห้ามเจ็บ ตัวห้ามชา ขาห้ามหยุดเดิน
ภูเขาแม่ม เล่นเราแล้วไง.
คำพูดที่ชวนให้หลงคิดไปว่าตัวเองเป็นซันนี่จากหนังเรื่องดังของ GTH “ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ” แต่ในความเป็นจริงนอกจากจะไม่มีใหม่ ดาวิกา หรือวี วิโอเลตมาให้กำลังใจอยู่ข้างๆแล้ว ในหนังตอนที่พี่ซันนี่แกทำงานหนักจนวูบหัวน็อคพื้นเกือบตาย นางก็ยังฟื้นกลับมาได้แบบคูลๆ แต่ชีวิตจริงของเรา ณ นาทีนี้จะได้ลงไปจากภูเขาลูกนี้อย่างปลอดภัยรึเปล่ายังไม่รู้เลย
ไม่ต้องไปพูดถึงความเท่ความคูลนั้น สลัดทิ้งไปตั้งแต่2ชั่วโมงแรกที่เริ่มเดินละจ้า!!
แกรนด์ พาราดิสโซ่, ตีนห้ามเจ็บ ตัวห้ามชา ขาห้ามหยุดเดิน
ความคิดเรื่องการเอาตัวเข้าไปลำบากนี่เป็นสิ่งที่เราถนัดมาก จะไปเที่ยวไหนต้องคอยเสาะหาภูเขาไปเดินเทรล
หาทำเลไปเทรคกิ้ง ช่วงว่างๆก็ต้องดิ้นรนหาทริปไปเดินไปค้างในป่าเขาให้ได้ หลายๆครั้งก็จะได้ฟินไปกับธรรมชาติที่สวยงามอลังการ
แม้จะต้องแลกมาด้วยความลำบากและอาการปวดเมื่อยไปอีกหลายวันก็ตาม
แต่บางครั้งไอ้ความแรดอยากอยู่ท่ามกลางธรรมชาติมันก็ล้นทะลุมิเตอร์จนทำเอาเกือบตายมาแล้วจริมๆ
ช่วงหน้าร้อนปี2014 เรากับเพื่อนๆได้จัดทริปไปแบคแพคยุโรปกัน 2 อาทิตย์ และด้วยความที่ใฝ่ฝันอยากขึ้นภูเขาหิมะมานาน ก็ลงมือเสิร์ชกูเกิ้ลรัวๆ จนได้เจอกับทริปที่ตอบโจทย์เราได้พอดีคือ ใช้เวลาไม่มาก อยู่ใกล้ๆเมืองชาโมเน่,ฝรั่งเศษ และเลเวลความยากไม่มากเกินไปนัก คุณสมบัติเป๊ะทุกประการก็สมัครเลยจ้า
เป็นทริปปีนยอดเขาหิมะ(ส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์)ชื่อว่า แกรนด์ พาราดิสโซ่ อยู่แถวชายแดนระหว่างประเทศอิตาลีกับฝรั่งเศษ ยอดเขานี้สูงกว่า 4000 เมตร และตามแพลนที่เค้าวางมาให้ เราจะใช้เวลาแค่สองวันในการป่ายปีนฝ่าหิมะขึ้นไป โดยไปกันเป็นกลุ่มเล็กๆนำทางโดยไกด์สาว(?)ผู้เชี่ยวชาญ ปัญหาคือพอเราเอาไอเดียแสนเลิศนี้ไปเสนอเพื่อนๆ ทุกคนเซย์บายหมดส่ายหน้าหนีแถมด่าว่า (มุง)จะหาเรื่องลำบากไปถึงไหน พวกกูจะไปยุโรปแบบสวยๆกันโว้ย!!
เจอเพื่อนพูดแบบนี้เราก็ไม่รอช้า รีบเปลี่ยนเป้าหมายทันที เพื่อนไม่เอางั้นลองหลอกพี่สาวดีกว่า นางเรียนอยู่ที่สวิซแถมเป็น
คนบ้าเที่ยวมากกกกกก คงนั่งรถไฟมาหาเราได้ไม่ยาก ก็กล่อมนางทุกวัน วันละ 2มื้อหลังอาหารเช้าเย็นๆ
จนนางรำคาญเสียงออดอ้อนและตกหลุมพรางที่เราวางไว้ ยอมไปปีนภูเขากับเราในที่สุด อุฮิๆๆ นี่พลาดละบอกเลย(อันนี้คิดในใจนะ)
เราจัดแจงจองทริปปีนเขาเรียบร้อย ผู้ร่วมลำบากก็มีแล้วเหลืออย่างเดียวที่ต้องจัดการคือการเตรียมตัว โดยเราแยกพวกอุปกรณ์และเสื้อผ้าที่ต้องใช้สำหรับไปปีนเขาไว้ต่างหาก เวลาหยิบใช้ของส่วนอื่นๆจะได้ไม่รกและสับสน พวกของที่จำเป็นมากๆเช่นเสื้อกันหนาวและกางเกงแบบกันลม-กันหนาว-กันน้ำ หรือหมวกและถุงเท้าถุงมือ สมควรอย่างยิ่งที่จะลงทุนหาของดีๆมาใช้
คิดซะว่าหลังจากนี้อาจจะมีโอกาสได้ไปเที่ยวแนวๆนี้อีก ซื้อดีๆทีเดียวไปเลยอย่ามัวงก ไม่งั้นจะเป็นแบบเรา!! ยังดีที่เรามีรองเท้าสำหรับเดินเขาระยะไกล กับกางเกงกันหนาวที่โอเคอยู่แล้ว เหลือแค่เสื้อกับถุงมือ ด้วยความงก ไม่อยากให้งบของทริปมาบานปลายที่อุปกรณ์ปีนเขา จึงตัดสินใจลงทุนไปกับของคู่บ้านคู่เมืองอย่างของก้อปเกรดAโลด!!
เราเลือกที่จะไปมาบุญครองค่ะ เดินอยู่ไม่นานก็สอยเสื้อกันหนาวแบบไตรไคลเมทยี่ห้อดังกับสรรพคุณอีกล้านแปดที่โอเว่อร์มากมาย ประมาณว่าต่อให้อุกกาบาตน้ำแข็งพุ่งชนโลก ถ้าใส่เสื้อตัวนี้ไว้กูก็ยังรอดอ่ะ แถมได้มาในราคาไม่ถึงสองพันอีก ฮูเร่~เมืองไทยนี่ของมันถูกจริมๆ , เหลืออีกอย่างคือ ถุงมือ ซึ่งเค้าก็ระบุมาในเมลนะว่าควรจะกันหนาวได้แบบดีเยี่ยมเพราะอากาศข้างบนติดลบแน่นอน
บอกตรงๆแค่ค่าตั๋วเครื่องบิน รถไฟ ที่นอน บวกค่าไกด์ปีนเขาอีกเนี่ย คือหมดตูดละค่ะ ให้เสียตังเพิ่มอีกซักสิบบาทก็ไม่อยากเสีย
เอางี้ละกัน เห็นคุณพี่ที่บ้านเคยซื้อถุงมือดำน้ำมา นางบอกว่ามันสามารถช่วยปรับอุณหภูมิได้ดี เพราะใต้ทะเลก็หนาวเหมือนกัน
เลยตัดสิจใจเอาอันนี้แหละ น่าจะพอถูไถๆ พอคิดได้ก็แฮปปี้ละที่เงินไม่กระเด็นออกจากเป๋า
เหลือสิ่งสุดท้ายที่ต้องเตรียมตัวก็คือความฟิตของร่างกาย เดินขึ้นภูเขาสูงเกือบ4000เมตรภายในสองวัน มันคงไม่ขี้แน่ๆ
แถมก่อนหน้าที่จะไปปีนภูเขาก็เป็นทริปแบคแพคที่เน้นสองเท้าเดินรัวๆ และด้วยความจนต้องกินอยู่นอนหลับแบบประหยัดอีก
ต้องแข็งแรงไว้ก่อน
ปล. การไปปีนเขาครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของทริปแบคแพคยุโรปปี2014 อีกทีนึง ซึ่งมีผู้ร่วมทริปทั้งหมด 4คน ตกลงใจสะพายเป้ที่หนักมากกกกกก เดินตีนพองท่องไป 3ประเทศคือ อิตาลี สวิสเซอร์แลนด์และจบที่ฝรั่งเศษ เมืองสุดท้าย ก่อนนั่งรถไฟแบบตู้นอนไปปารีสคือเมืองชาโมเน่ อันเป็นที่สถิตย์ของยอดเขามอง บลังค์อันโด่งดัง แถมเป็นเมืองหลวงแห่งการปีนภูเขาและเล่นกีฬาฤดูหนาว ซึ่งก็เป็นที่มาที่ทำให้เราอยากปีนเขา แต่เนื่องจากมอง บลังค์เป็นยอดที่ปีนยากและค่อนข้างอันตราย คืออันตรายจริงจังแบบมีคนตายกันทุกๆปี เราเลยลองหาภูเขาอื่นใกล้ๆเมืองนี้ และไปลงตัวที่แกรนด์ พาราดิสโซ่ ซึ่งอยู่ในอิตาลีแต่ติดกับชายแดนของชาโมเน่นั่นเอง