อ่านด้านบน ก่อนจะอ่านด้านล่างนะครับ
คือประเด็นนี้ มันเกิดจากมุมมอง และความคิดของเจ้าของกระทู้ ซึ่งได้พบเจอจากชีวิตประวันมากมาย โดยเฉพาะในวงเหล้า ที่ผมได้เจอมาทั้งจากเพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้อง มาระบายอารมณ์ที่โดนแฟนทิ้ง ซึ่งบางคน เลิกกันไป ฝ่ายหญิงไปเจอคนใหม่ที่ดีกว่าแล้วแต่งงานกันไป แต่สุดท้ายก็โดนอุปมาไปว่า "สุดท้ายก็ชอบคนรวย" และผู้ชายเหล่านั้นยังมองไม่ออกถึงความเป็นจริงทางสังคม จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขียนบทความนี้ขึ้นมา ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีเชิงอคติ เจ้าของกระทู้พยายามเขียนให้เกิดความเป็นกลางมากที่สุด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หากไปสะกิดต่อมโลกสวยของใคร หากผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมาณที่นี้ด้วยนะครับ
เริ่ม
ธรรมชาติสร้างมนุษย์ขึ้นมา 2 แบบ คือ ผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีสรีระ สมรรถภาพร่างกายที่แตกต่างกัน ผู้ชายถูกสร้างรูปแบบให้มาเป็นผู้นำและผู้หญิงถูกสร้างมาให้เดินเคียงคู่ด้วย ไม่ใช่เป็นเพียงผู้ตาม ในความเป็นจริงทางสังคมคุณรู้สึกบ้างไหมว่า ผู้ชายและผู้หญิงที่มีอายุเท่าๆกัน ผู้หญิงกลับมีมุมมองความคิดที่โตกว่าผู้ชายอย่างเรามากมาย โดยธรรมชาติผู้หญิงมีพัฒนาการทางร่างกายที่เร็วกว่าผู้ชาย โดยผู้ชายช่วงอายุ 25-30 ปี จะหล่อดูดีมาก ทั้งกล้ามเนื้อ หน้าตา มันสมบูรณ์สูงสุด และผู้หญิงจะสวยสะพรั่งตั้งแต่อายุ 17-23 ปี หลังจากนั่นเริ่มร่วงโรย พูดง่ายๆก็คือช่วงพีคที่สุดนั่นเอง แต่สมัยปัจจุบันนี้แทบจะใช้ไม่ได้กับตรรกกะที่ว่า แต่สิ่งที่เป็นความจริงที่สุดผู้หญิงหลังอายุ 30ปีเป็นต้นไป
มดลูกจะเริ่มฝ่อ จึงไม่แปลกที่พออายุใกล้เลขสามของ ผู้หญิงจึงคิดเรื่องที่จะแต่งงาน เพราะเหตุนี้แหละครับจึงเป็นสาเหตุที่ว่า “ทำไมผู้หญิงถึงชอบผู้ชายที่อายุมากกว่า”
หลายๆคนเคยประสบพบเจอปัญหานี้ ซึ่งประเด็นในหัวข้อนี้ เป็นประเด็นที่อยู่ในสังคมมาทุกยุคทุกสมัย ไม่ใช่เกิดขึ้นในสมัยนี้ แต่มันเกิดขึ้นตั้งแต่สังคมสมัยอดีต ตั้งแต่รุ่นทวดๆ ของเราแล้ว และเรื่องราวเหล่านี้มันก็ไม่ได้ไกลตัวเรามากนัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของตัวเรา เพื่อน หรือคนรอบๆตัวเรา ที่ต้องเลิกกับแฟนสาวด้วยเหตุผลที่ว่า “เด็กเกินไป” “ไม่มีความเป็นผู้นำหรือผู้ใหญ่” หรือ
แฟนสาวไปเจอผู้ชายคนใหม่ที่ดีกว่า
ฉะนั้นปัญหาเหล่านี้ ขอเจาะประเด็นไปที่ “แฟนสาวไปเจอผู้ชายคนใหม่ที่ดีกว่า” ซึ่งประเด็นนี้ มันตอบโจทย์ทุกอย่างของคำถามที่ว่า “ทำไมผู้หญิงถึงชอบผู้ชายที่อายุมากกว่า” ในกรณีนี้ มันอาจจะเกิดขึ้นกับใครหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ยังคบกันอยู่ หรือเลิกกันไปแล้ว ซึ่งหมายความว่า เป็นการนอกใจหรือไม่นอกใจก็แล้วแต่ (ในส่วนนี้เรื่องของการนอกใจผมก็ไม่ได้ว่าเฉพาะผู้หญิงนะครับ ผู้ชายมันก็ไม่ต่างกัน เรื่องการนอกใจมันก็เกิดขึ้นได้ทุกคน) การเลิกราของคู่รัก ในความเป็นจริงแล้วนั้น จะมีสักกี่คนที่มองตัวเองว่าผิด บ่อยครั้งที่ทุกคนได้ฟังเวลาเพื่อนของเราเลิกกับแฟน โดนแฟนทิ้ง เคยมีบางไหมที่จะเล่าความผิดของตนเองให้ฟัง ว่าผิดอย่างนู้นอย่างนี้ ซึ่งตัวผมเองก็แทบจะไม่ค่อยเจอเลยกับเรื่องที่เคยรับฟังทั้งหมด มีน้อยมากที่จะโทษตัวเอง
กรณีที่ “คนรักของเราไปเจอคนใหม่ที่ดีกว่า” กับ “การนอกใจ” ผมมองว่า 2 เหตุผลนี้มันต่างกันนะ การนอกใจ คือ การที่ตัวเองมีคนรักอยู่แล้วแต่ก็ไปมีคนอื่นอีกคนแต่ไม่ได้ทิ้งคนปัจจุบัน แต่การที่ไปเจอคนใหม่ มันคือการเลือกสิ่งที่ดีสำหรับชีวิตให้กับตนเอง โดยการทิ้งคนปัจจุบันไว้ ซึ่งมันเกิดได้ทั้งหญิงและชาย ถ้าเรารู้ตัวเองว่าเราดูแลคนรักของเราได้ไม่ดีแต่อีกคนดีกว่า มันก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีใช่ไหมที่คนรักได้เจอสิ่งที่ดีกว่าพร้อมกว่า ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็มักไม่เข้าใจกัน ยิ่งเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับผู้ชาย ก็มักเหมารวมว่า “ไปหาคนใหม่ก็เพราะว่ามันรวยกว่าล่ะหว้า” เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริงในสังคมไม่ใช่เฉพาะสังคมไทยแต่มันเป็นกันทั้งโลก มันเป็นสัจธรรม ยิ่งเป็นระบบทุนนิยมยิ่งแล้วใหญ่ จนมาเป็นวลีเด็ดที่ว่า
“ผู้หญิงชอบคนดี รักคนเลว แต่งงานกับคนรวย”
ในสมัยที่ผมยังเรียนอยู่มีคาบเรียนวิชาหนึ่ง อาจารย์พูดขึ้นมาประมาณว่า “ส่วนใหญ่ผู้หญิงคิดที่จะแต่งงานช่วงอายุ 27 – 30ปี ส่วนผู้ชายจะคิดแต่งานช่วง 30+” ก็พูดง่ายๆว่า ผู้หญิงคิดแต่งงานก่อนอายุ 30 นั้นแหละ คุณคิดดูว่า ณ ปัจจุบันช่วงเวลาเฉลี่ยที่ผู้หญิงต้องการจะแต่งงานผู้ชายอย่างเราๆทำอะไรกันอยู่ และการที่ผู้หญิงชอบผู้ชายที่อายุมากกว่า มันไม่ได้เป็นเพราะว่า ผู้ชายคนนั้นรวยอย่างเดียว แต่มันเป็นสิ่งที่อธิบายได้ยาก มันมีมากกว่าคำว่า “รวย” มันมีอะไรหลายๆอย่างที่มากกว่านั้น องค์ประกอบของคำว่าชีวิตคู่ของแต่ละคนมันมีไม่เหมือนกัน ความมั่นคง การดูแล ความเอาใจใส่ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ผู้ชายอย่างเราๆ มักจะมองไม่ออก ถ้าจะพูดให้ถูกต้องที่สุด คือ
“ความพร้อม” ผู้ชายอย่างเรามีความพร้อมแล้วหรือยัง ซึ่งยุคปัจจุบันมีน้อยมากที่ผู้ชายที่อยู่ช่วงอายุการเฉลี่ยการแต่งงานของผู้หญิงนั้นมีความพร้อม มันจึงเป็นสาเหตุที่ว่า “ทำไมผู้หญิงถึงชอบผู้ชายที่อายุมากกว่า” ก็เพราะองค์ประกอบต่อไปนี้
1. วุฒิภาวะ องค์ประกอบแรกที่ผู้ชายทุกคนควรมี
ผู้หญิงชอบผู้ชายที่สุขม ใจเย็น มีความเป็นผู้นำ และดูแลปกป้องเธอได้ ผู้ชายที่ผ่านโลกมาเยอะ จะมีประสบการณ์ชีวิตมากมาย มีมุมมองและใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ ด้วยสิ่งที่ผู้ชายเหล่านี้มี มันสามารถควบคุมเรื่องเล็กๆน้อยๆ ในชีวิตคู่ได้มากกว่าในช่วงที่เป็นวัยรุ่น ยิ่งด้วยผู้ชายที่ผ่านเรื่องผู้หญิงมาเยอะ มักมีมุมมองที่พิเศษกว่าคนอื่นๆ แต่กว่าที่ผู้ชายคนนั้นจะมีวุฒิภาวะให้ตรงกับอุดมคติของคุณผู้หญิง มันใช้เวลานานสักเท่าไหร่กัน ในข้อนี้ผมก็ตอบไมได้ แต่ถ้ามันถึง
จุดจุดหนึ่งที่ต้องปล่อยวางจากสิ่งที่เป็นมาในช่วงวัยรุ่น ผู้ชายที่คิดจะแต่งงานมีครอบครัว คุณเชื่อหรือไม่ ผู้ชายสามารถตัดสิ่งเหล่านั้นออกจากชีวิตได้จริง เขาจะมุ่งมั่นกับหญิงที่จะแต่งงานด้วย ยิ่งคู่รักที่เคยผ่านช่วงเวลา 7 ปีอาถรรพ์ ผมเชื่อว่าผู้หญิงเห็นความแตกต่างจากพฤติกรรมของฝ่ายชายได้เป็นอย่างดี ว่าตอนคบกันช่วงแรกๆกับตอนหลังๆมันแตกต่างกันอย่างไร
ผมได้รับฟังเรื่องราวของรุ่นน้องคนหนึ่งที่ทำงานกับผม เขาประสบปัญหากับคู่รัก ซึ่งคบกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ผู้ชายมีอายุช่วง 20 กลางๆ ส่วนผู้หญิงนั้น เรียนจบจากมหาวิทยาลัยได้ 1 ปี ก็คือผู้ชายมีอายุมากกว่า 3 ปี เขาทะเลาะกันเพราะเหตุที่ว่า
ฝ่ายหญิงเป็นคนถามฝ่ายชายว่า “เราก็คบกันมานานแล้วนะ ตอนนี้เขาก็ทำงานได้สักระยะหนึ่งแล้ว อยากถามเรื่องอนาคตของเราว่า จะทำยังไงต่อดี ชีวิตคู่ของเราจะทำอะไรต่อ”
แต่ฝ่ายชายกลับไม่มีคำตอบให้กับฝ่ายหญิง ซึ่ง 2ปีจะ 3ปีแล้วที่พวกเขาคบกันมา ฝ่ายชายยังใช้ชีวิตเหมือนกับสมัยที่ยังเรียนอยู่ 3ปีที่เขาจบมา ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันแม้แต่คำพูดที่ทำให้ฝ่ายหญิงเชื่อมั่น
แล้วฝ่ายชายก็ตอบกลับมาว่า “ทำไมถึงถามแบบนี้ ไม่เชื่อมั่นในตัวเราแล้วหรอ”
และหลังจากเหตุการณ์นั้น รุ่นน้องของผมก็ได้เลิกกับเขา แต่สิ่งที่ฝ่ายชายทิ้งท้ายไว้ด้วยประโยคที่ว่า
“ใช่สิสุดท้ายเธอก็ชอบคนรวย” ซึ่งประโยคแบบนี้ไม่น่าจะออกมาจากคำพูดของผู้ชาย
ด้วยเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้หญิงเมื่อถึงวัยทำงาน ได้เจอกับสังคมใหม่ โลกใบใหม่ ความคิดของเธอจะโตมากขึ้นกว่าผู้ชาย จะขยับเข้าใกล้ความเป็นจริงมากกว่าเท่าตัว นั้นคือธรรมชาติของผู้หญิง สิ่งที่บ่งบอกถึงวุฒิภาวะของผู้ชายนั้น ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แต่อย่างน้อยก็ควรจะมีคำพูดให้ผู้หญิงได้เชื่อมั่นว่า คนรักของเราจะดูแลเราได้ ซึ่งในส่วนนี้มันบ่งบอกถึงทัศนะคติ ความเป็นผู้นำ นั่นก็คือส่วนหนึ่งของ “วุฒิภาวะ” ที่ตอบโจทย์ของคุณผู้หญิงทั้งหลาย แต่กว่าจะถึงวุฒิภาวะที่ว่านั้น ส่วนใหญ่
ผู้ชายที่พึ่งเข้าสู่วัยทำงานใหม่ๆยังคงยึดติดกับชีวิตเหมือนสมัยที่ยังเรียนอยู่ มันคือความจริงในสังคม การเข้าสู่วุฒิภาวะที่ว่านั้น ผู้ชายแต่ละคนก็มีช่วงเวลาที่แตกต่าง บางคนอาจจะมีเร็ว บางคนอาจจะมีช้า จึงบอกได้ “ก็ต่อเมื่อถึงจุดจุดหนึ่งที่ต้องปล่อยวางจากสิ่งที่เป็นมาในช่วงวัยรุ่น” องค์ประกอบแรกนี้ผู้ชายแต่ละคนก็มีแตกต่างกันไป ก็อยู่ที่ว่าผู้หญิงจะพอใจในระดับไหน ดังนั้นด้วยวุฒิภาวะนี้ จึงจำเป็นต่อผู้หญิงที่เข้าสู่ช่วงชีวิตจริง
2. สถานะครอบครัว/ฐานะของฝ่ายชาย ความมั่นคง หน้าที่การงาน
เมื่อพูดถึงองค์ประกอบในหัวข้อนี้ มันคือสัจธรรมของชีวิต จะมีใครสักคนล่ะที่ต้องกัดก้อนเกลือกินไปด้วยกัน กว่าที่ผู้ชายจะมีการงาน ฐานะที่มั่นคง ณ เศรษฐกิจที่ย่ำแย่ เรียนจบมา เงินเดือนเริ่ม 15,000 บาท ค่าครองชีพมากว่าเท่าตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะก่อร่างสร้างตัว ถ้ายิ่งผู้ชายที่ต้องเริ่มสร้างสร้างตัวด้วยตนเอง กว่าพวกเขาจะมั่นคงได้ ก็อายุปาไปเท่าไหร่แล้ว ดังนั้นจึงขอแยกฐานะของฝ่ายชายเป็น 4 ฐานะ
2.1 ฐานนะรวยมาก
ผู้ชายที่อยู่ฐานะนี้มันง่ายมากที่ผู้หญิงจะให้ความสำคัญ ถ้าจะให้พูดแบบมักง่ายก็ประมาณว่า “ถึงแม้ไม่ต้องทำมาหากินอะไร ก็มีกินมีใช้ไปถึงลูกถึงหลาน” ไม่ต้องอธิบายอะไรมากตอบโจทย์ชีวิตคุณผู้หญิงอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าผู้ชายคนนั้นจะมีวุฒิภาวะพอหรือป่าว
2.2 ฐานะรวย
ในสมัยนี้ คำว่า “รวย” อย่างเดียวยังอยู่ยาก พูดง่ายๆก็ประมาณว่า “มีถึงแค่รุ่นลูก ถ้าไม่หาเพิ่ม รุ่นหลานก็อดตาย” แต่ในส่วนการทำให้ผู้หญิงเลือกยังเหมือนตามฐานะข้างต้น
2.3 ฐานะปานกลาง
ส่วนใหญ่ ก็ครอบครัวมนุษย์เงินเดือน ซึ่งในปัจจุบันก็เห็นได้ มีแค่พอตัวบ้านต้องมี รถต้องผ่อน ซึ่งผู้ชายในฐานะนี้ มันก็เริ่มจากการสร้างตัว แต่กว่าที่จะสร้างเนื้อสร้างตัวได้มันต้องใช้เวลาเท่าไหร่กัน
2.4 ฐานะยากจน
พูดยาก กัดก้อนเหลือกิน ตรงกันข้ามกับฐานะแรก
จากการที่กล่าวถึงฐานะของผู้ชายมา 2 ฐานะแรก มันไม่มีอะไรให้ต้องอธิบายมากเพราะมันขึ้นอยู่กับวุฒิภาวะของผู้ชายอยู่แล้ว แต่ขอมุ่งไปที่ฐานะปานกลาง นั่นก็เพราะว่าผู้ชายในฐานะนี้ มันมีตรรกะหลายๆ ให้คิด บางคนคือเริ่มจากศูนย์ จากสถานะทางบ้านที่ไม่มีอะไรรองรับ เริ่มจากการเป็นมนุษย์เงินเดือน จากที่กล่าวข้างต้นสมัยนี้ เริ่มที่ 15,000 บาท กว่าเงินเดือนจะขึ้นพอที่จะดูแลอีกคนได้ ไหนจะซื้อบ้าน ซื้อรถ ซึ่งของพวกนี้ราคาเป็นหลักแสนหลักล้าน ยิ่งสถานะทางบ้านของเขาแย่ เขาก็ต้องให้ทางบ้านเขามีสถานะที่ดีขึ้นก่อน ให้พ่อแม่ได้สุขสบายก่อน แล้วคำถามคือเมื่อไหร่เขาจะมีเงินพอ ให้สำหรับให้อีกคนที่เข้ามาในชีวิตได้ สมัยนี้บอกตรงๆว่าอายุ30+ แน่นอน ดังนั้นผู้หญิงที่เลือกผู้ชายในฐานะนี้จึงจำเป็นต้องช่วยกันทำมาหากิน สร้างเนื้อสร้างตัวไปด้วยกัน มีบ้างไม่มีบ้าง มันถึงจะอยู่ด้วยกันได้ และยิ่งเป็นฐานะยากจน ปากกัดตีนถีบ มันยิ่งทำให้ยากเข้าไปใหญ่
[บทความ] มุมมองทางสังคมว่าด้วยเรื่อง “ทำไมผู้หญิงถึงชอบผู้ชายที่อายุมากกว่า”
คือประเด็นนี้ มันเกิดจากมุมมอง และความคิดของเจ้าของกระทู้ ซึ่งได้พบเจอจากชีวิตประวันมากมาย โดยเฉพาะในวงเหล้า ที่ผมได้เจอมาทั้งจากเพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้อง มาระบายอารมณ์ที่โดนแฟนทิ้ง ซึ่งบางคน เลิกกันไป ฝ่ายหญิงไปเจอคนใหม่ที่ดีกว่าแล้วแต่งงานกันไป แต่สุดท้ายก็โดนอุปมาไปว่า "สุดท้ายก็ชอบคนรวย" และผู้ชายเหล่านั้นยังมองไม่ออกถึงความเป็นจริงทางสังคม จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขียนบทความนี้ขึ้นมา ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีเชิงอคติ เจ้าของกระทู้พยายามเขียนให้เกิดความเป็นกลางมากที่สุด [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ หากผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมาณที่นี้ด้วยนะครับ
ธรรมชาติสร้างมนุษย์ขึ้นมา 2 แบบ คือ ผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีสรีระ สมรรถภาพร่างกายที่แตกต่างกัน ผู้ชายถูกสร้างรูปแบบให้มาเป็นผู้นำและผู้หญิงถูกสร้างมาให้เดินเคียงคู่ด้วย ไม่ใช่เป็นเพียงผู้ตาม ในความเป็นจริงทางสังคมคุณรู้สึกบ้างไหมว่า ผู้ชายและผู้หญิงที่มีอายุเท่าๆกัน ผู้หญิงกลับมีมุมมองความคิดที่โตกว่าผู้ชายอย่างเรามากมาย โดยธรรมชาติผู้หญิงมีพัฒนาการทางร่างกายที่เร็วกว่าผู้ชาย โดยผู้ชายช่วงอายุ 25-30 ปี จะหล่อดูดีมาก ทั้งกล้ามเนื้อ หน้าตา มันสมบูรณ์สูงสุด และผู้หญิงจะสวยสะพรั่งตั้งแต่อายุ 17-23 ปี หลังจากนั่นเริ่มร่วงโรย พูดง่ายๆก็คือช่วงพีคที่สุดนั่นเอง แต่สมัยปัจจุบันนี้แทบจะใช้ไม่ได้กับตรรกกะที่ว่า แต่สิ่งที่เป็นความจริงที่สุดผู้หญิงหลังอายุ 30ปีเป็นต้นไป มดลูกจะเริ่มฝ่อ จึงไม่แปลกที่พออายุใกล้เลขสามของ ผู้หญิงจึงคิดเรื่องที่จะแต่งงาน เพราะเหตุนี้แหละครับจึงเป็นสาเหตุที่ว่า “ทำไมผู้หญิงถึงชอบผู้ชายที่อายุมากกว่า”
หลายๆคนเคยประสบพบเจอปัญหานี้ ซึ่งประเด็นในหัวข้อนี้ เป็นประเด็นที่อยู่ในสังคมมาทุกยุคทุกสมัย ไม่ใช่เกิดขึ้นในสมัยนี้ แต่มันเกิดขึ้นตั้งแต่สังคมสมัยอดีต ตั้งแต่รุ่นทวดๆ ของเราแล้ว และเรื่องราวเหล่านี้มันก็ไม่ได้ไกลตัวเรามากนัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของตัวเรา เพื่อน หรือคนรอบๆตัวเรา ที่ต้องเลิกกับแฟนสาวด้วยเหตุผลที่ว่า “เด็กเกินไป” “ไม่มีความเป็นผู้นำหรือผู้ใหญ่” หรือแฟนสาวไปเจอผู้ชายคนใหม่ที่ดีกว่า
ฉะนั้นปัญหาเหล่านี้ ขอเจาะประเด็นไปที่ “แฟนสาวไปเจอผู้ชายคนใหม่ที่ดีกว่า” ซึ่งประเด็นนี้ มันตอบโจทย์ทุกอย่างของคำถามที่ว่า “ทำไมผู้หญิงถึงชอบผู้ชายที่อายุมากกว่า” ในกรณีนี้ มันอาจจะเกิดขึ้นกับใครหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ยังคบกันอยู่ หรือเลิกกันไปแล้ว ซึ่งหมายความว่า เป็นการนอกใจหรือไม่นอกใจก็แล้วแต่ (ในส่วนนี้เรื่องของการนอกใจผมก็ไม่ได้ว่าเฉพาะผู้หญิงนะครับ ผู้ชายมันก็ไม่ต่างกัน เรื่องการนอกใจมันก็เกิดขึ้นได้ทุกคน) การเลิกราของคู่รัก ในความเป็นจริงแล้วนั้น จะมีสักกี่คนที่มองตัวเองว่าผิด บ่อยครั้งที่ทุกคนได้ฟังเวลาเพื่อนของเราเลิกกับแฟน โดนแฟนทิ้ง เคยมีบางไหมที่จะเล่าความผิดของตนเองให้ฟัง ว่าผิดอย่างนู้นอย่างนี้ ซึ่งตัวผมเองก็แทบจะไม่ค่อยเจอเลยกับเรื่องที่เคยรับฟังทั้งหมด มีน้อยมากที่จะโทษตัวเอง
กรณีที่ “คนรักของเราไปเจอคนใหม่ที่ดีกว่า” กับ “การนอกใจ” ผมมองว่า 2 เหตุผลนี้มันต่างกันนะ การนอกใจ คือ การที่ตัวเองมีคนรักอยู่แล้วแต่ก็ไปมีคนอื่นอีกคนแต่ไม่ได้ทิ้งคนปัจจุบัน แต่การที่ไปเจอคนใหม่ มันคือการเลือกสิ่งที่ดีสำหรับชีวิตให้กับตนเอง โดยการทิ้งคนปัจจุบันไว้ ซึ่งมันเกิดได้ทั้งหญิงและชาย ถ้าเรารู้ตัวเองว่าเราดูแลคนรักของเราได้ไม่ดีแต่อีกคนดีกว่า มันก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีใช่ไหมที่คนรักได้เจอสิ่งที่ดีกว่าพร้อมกว่า ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็มักไม่เข้าใจกัน ยิ่งเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับผู้ชาย ก็มักเหมารวมว่า “ไปหาคนใหม่ก็เพราะว่ามันรวยกว่าล่ะหว้า” เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริงในสังคมไม่ใช่เฉพาะสังคมไทยแต่มันเป็นกันทั้งโลก มันเป็นสัจธรรม ยิ่งเป็นระบบทุนนิยมยิ่งแล้วใหญ่ จนมาเป็นวลีเด็ดที่ว่า “ผู้หญิงชอบคนดี รักคนเลว แต่งงานกับคนรวย”
ในสมัยที่ผมยังเรียนอยู่มีคาบเรียนวิชาหนึ่ง อาจารย์พูดขึ้นมาประมาณว่า “ส่วนใหญ่ผู้หญิงคิดที่จะแต่งงานช่วงอายุ 27 – 30ปี ส่วนผู้ชายจะคิดแต่งานช่วง 30+” ก็พูดง่ายๆว่า ผู้หญิงคิดแต่งงานก่อนอายุ 30 นั้นแหละ คุณคิดดูว่า ณ ปัจจุบันช่วงเวลาเฉลี่ยที่ผู้หญิงต้องการจะแต่งงานผู้ชายอย่างเราๆทำอะไรกันอยู่ และการที่ผู้หญิงชอบผู้ชายที่อายุมากกว่า มันไม่ได้เป็นเพราะว่า ผู้ชายคนนั้นรวยอย่างเดียว แต่มันเป็นสิ่งที่อธิบายได้ยาก มันมีมากกว่าคำว่า “รวย” มันมีอะไรหลายๆอย่างที่มากกว่านั้น องค์ประกอบของคำว่าชีวิตคู่ของแต่ละคนมันมีไม่เหมือนกัน ความมั่นคง การดูแล ความเอาใจใส่ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ผู้ชายอย่างเราๆ มักจะมองไม่ออก ถ้าจะพูดให้ถูกต้องที่สุด คือ “ความพร้อม” ผู้ชายอย่างเรามีความพร้อมแล้วหรือยัง ซึ่งยุคปัจจุบันมีน้อยมากที่ผู้ชายที่อยู่ช่วงอายุการเฉลี่ยการแต่งงานของผู้หญิงนั้นมีความพร้อม มันจึงเป็นสาเหตุที่ว่า “ทำไมผู้หญิงถึงชอบผู้ชายที่อายุมากกว่า” ก็เพราะองค์ประกอบต่อไปนี้
1. วุฒิภาวะ องค์ประกอบแรกที่ผู้ชายทุกคนควรมี
ผู้หญิงชอบผู้ชายที่สุขม ใจเย็น มีความเป็นผู้นำ และดูแลปกป้องเธอได้ ผู้ชายที่ผ่านโลกมาเยอะ จะมีประสบการณ์ชีวิตมากมาย มีมุมมองและใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ ด้วยสิ่งที่ผู้ชายเหล่านี้มี มันสามารถควบคุมเรื่องเล็กๆน้อยๆ ในชีวิตคู่ได้มากกว่าในช่วงที่เป็นวัยรุ่น ยิ่งด้วยผู้ชายที่ผ่านเรื่องผู้หญิงมาเยอะ มักมีมุมมองที่พิเศษกว่าคนอื่นๆ แต่กว่าที่ผู้ชายคนนั้นจะมีวุฒิภาวะให้ตรงกับอุดมคติของคุณผู้หญิง มันใช้เวลานานสักเท่าไหร่กัน ในข้อนี้ผมก็ตอบไมได้ แต่ถ้ามันถึงจุดจุดหนึ่งที่ต้องปล่อยวางจากสิ่งที่เป็นมาในช่วงวัยรุ่น ผู้ชายที่คิดจะแต่งงานมีครอบครัว คุณเชื่อหรือไม่ ผู้ชายสามารถตัดสิ่งเหล่านั้นออกจากชีวิตได้จริง เขาจะมุ่งมั่นกับหญิงที่จะแต่งงานด้วย ยิ่งคู่รักที่เคยผ่านช่วงเวลา 7 ปีอาถรรพ์ ผมเชื่อว่าผู้หญิงเห็นความแตกต่างจากพฤติกรรมของฝ่ายชายได้เป็นอย่างดี ว่าตอนคบกันช่วงแรกๆกับตอนหลังๆมันแตกต่างกันอย่างไร
ผมได้รับฟังเรื่องราวของรุ่นน้องคนหนึ่งที่ทำงานกับผม เขาประสบปัญหากับคู่รัก ซึ่งคบกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ผู้ชายมีอายุช่วง 20 กลางๆ ส่วนผู้หญิงนั้น เรียนจบจากมหาวิทยาลัยได้ 1 ปี ก็คือผู้ชายมีอายุมากกว่า 3 ปี เขาทะเลาะกันเพราะเหตุที่ว่า
ฝ่ายหญิงเป็นคนถามฝ่ายชายว่า “เราก็คบกันมานานแล้วนะ ตอนนี้เขาก็ทำงานได้สักระยะหนึ่งแล้ว อยากถามเรื่องอนาคตของเราว่า จะทำยังไงต่อดี ชีวิตคู่ของเราจะทำอะไรต่อ”
แต่ฝ่ายชายกลับไม่มีคำตอบให้กับฝ่ายหญิง ซึ่ง 2ปีจะ 3ปีแล้วที่พวกเขาคบกันมา ฝ่ายชายยังใช้ชีวิตเหมือนกับสมัยที่ยังเรียนอยู่ 3ปีที่เขาจบมา ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันแม้แต่คำพูดที่ทำให้ฝ่ายหญิงเชื่อมั่น
แล้วฝ่ายชายก็ตอบกลับมาว่า “ทำไมถึงถามแบบนี้ ไม่เชื่อมั่นในตัวเราแล้วหรอ”
และหลังจากเหตุการณ์นั้น รุ่นน้องของผมก็ได้เลิกกับเขา แต่สิ่งที่ฝ่ายชายทิ้งท้ายไว้ด้วยประโยคที่ว่า “ใช่สิสุดท้ายเธอก็ชอบคนรวย” ซึ่งประโยคแบบนี้ไม่น่าจะออกมาจากคำพูดของผู้ชาย
ด้วยเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้หญิงเมื่อถึงวัยทำงาน ได้เจอกับสังคมใหม่ โลกใบใหม่ ความคิดของเธอจะโตมากขึ้นกว่าผู้ชาย จะขยับเข้าใกล้ความเป็นจริงมากกว่าเท่าตัว นั้นคือธรรมชาติของผู้หญิง สิ่งที่บ่งบอกถึงวุฒิภาวะของผู้ชายนั้น ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แต่อย่างน้อยก็ควรจะมีคำพูดให้ผู้หญิงได้เชื่อมั่นว่า คนรักของเราจะดูแลเราได้ ซึ่งในส่วนนี้มันบ่งบอกถึงทัศนะคติ ความเป็นผู้นำ นั่นก็คือส่วนหนึ่งของ “วุฒิภาวะ” ที่ตอบโจทย์ของคุณผู้หญิงทั้งหลาย แต่กว่าจะถึงวุฒิภาวะที่ว่านั้น ส่วนใหญ่ผู้ชายที่พึ่งเข้าสู่วัยทำงานใหม่ๆยังคงยึดติดกับชีวิตเหมือนสมัยที่ยังเรียนอยู่ มันคือความจริงในสังคม การเข้าสู่วุฒิภาวะที่ว่านั้น ผู้ชายแต่ละคนก็มีช่วงเวลาที่แตกต่าง บางคนอาจจะมีเร็ว บางคนอาจจะมีช้า จึงบอกได้ “ก็ต่อเมื่อถึงจุดจุดหนึ่งที่ต้องปล่อยวางจากสิ่งที่เป็นมาในช่วงวัยรุ่น” องค์ประกอบแรกนี้ผู้ชายแต่ละคนก็มีแตกต่างกันไป ก็อยู่ที่ว่าผู้หญิงจะพอใจในระดับไหน ดังนั้นด้วยวุฒิภาวะนี้ จึงจำเป็นต่อผู้หญิงที่เข้าสู่ช่วงชีวิตจริง
2. สถานะครอบครัว/ฐานะของฝ่ายชาย ความมั่นคง หน้าที่การงาน
เมื่อพูดถึงองค์ประกอบในหัวข้อนี้ มันคือสัจธรรมของชีวิต จะมีใครสักคนล่ะที่ต้องกัดก้อนเกลือกินไปด้วยกัน กว่าที่ผู้ชายจะมีการงาน ฐานะที่มั่นคง ณ เศรษฐกิจที่ย่ำแย่ เรียนจบมา เงินเดือนเริ่ม 15,000 บาท ค่าครองชีพมากว่าเท่าตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะก่อร่างสร้างตัว ถ้ายิ่งผู้ชายที่ต้องเริ่มสร้างสร้างตัวด้วยตนเอง กว่าพวกเขาจะมั่นคงได้ ก็อายุปาไปเท่าไหร่แล้ว ดังนั้นจึงขอแยกฐานะของฝ่ายชายเป็น 4 ฐานะ
ผู้ชายที่อยู่ฐานะนี้มันง่ายมากที่ผู้หญิงจะให้ความสำคัญ ถ้าจะให้พูดแบบมักง่ายก็ประมาณว่า “ถึงแม้ไม่ต้องทำมาหากินอะไร ก็มีกินมีใช้ไปถึงลูกถึงหลาน” ไม่ต้องอธิบายอะไรมากตอบโจทย์ชีวิตคุณผู้หญิงอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าผู้ชายคนนั้นจะมีวุฒิภาวะพอหรือป่าว
ในสมัยนี้ คำว่า “รวย” อย่างเดียวยังอยู่ยาก พูดง่ายๆก็ประมาณว่า “มีถึงแค่รุ่นลูก ถ้าไม่หาเพิ่ม รุ่นหลานก็อดตาย” แต่ในส่วนการทำให้ผู้หญิงเลือกยังเหมือนตามฐานะข้างต้น
ส่วนใหญ่ ก็ครอบครัวมนุษย์เงินเดือน ซึ่งในปัจจุบันก็เห็นได้ มีแค่พอตัวบ้านต้องมี รถต้องผ่อน ซึ่งผู้ชายในฐานะนี้ มันก็เริ่มจากการสร้างตัว แต่กว่าที่จะสร้างเนื้อสร้างตัวได้มันต้องใช้เวลาเท่าไหร่กัน
พูดยาก กัดก้อนเหลือกิน ตรงกันข้ามกับฐานะแรก
จากการที่กล่าวถึงฐานะของผู้ชายมา 2 ฐานะแรก มันไม่มีอะไรให้ต้องอธิบายมากเพราะมันขึ้นอยู่กับวุฒิภาวะของผู้ชายอยู่แล้ว แต่ขอมุ่งไปที่ฐานะปานกลาง นั่นก็เพราะว่าผู้ชายในฐานะนี้ มันมีตรรกะหลายๆ ให้คิด บางคนคือเริ่มจากศูนย์ จากสถานะทางบ้านที่ไม่มีอะไรรองรับ เริ่มจากการเป็นมนุษย์เงินเดือน จากที่กล่าวข้างต้นสมัยนี้ เริ่มที่ 15,000 บาท กว่าเงินเดือนจะขึ้นพอที่จะดูแลอีกคนได้ ไหนจะซื้อบ้าน ซื้อรถ ซึ่งของพวกนี้ราคาเป็นหลักแสนหลักล้าน ยิ่งสถานะทางบ้านของเขาแย่ เขาก็ต้องให้ทางบ้านเขามีสถานะที่ดีขึ้นก่อน ให้พ่อแม่ได้สุขสบายก่อน แล้วคำถามคือเมื่อไหร่เขาจะมีเงินพอ ให้สำหรับให้อีกคนที่เข้ามาในชีวิตได้ สมัยนี้บอกตรงๆว่าอายุ30+ แน่นอน ดังนั้นผู้หญิงที่เลือกผู้ชายในฐานะนี้จึงจำเป็นต้องช่วยกันทำมาหากิน สร้างเนื้อสร้างตัวไปด้วยกัน มีบ้างไม่มีบ้าง มันถึงจะอยู่ด้วยกันได้ และยิ่งเป็นฐานะยากจน ปากกัดตีนถีบ มันยิ่งทำให้ยากเข้าไปใหญ่