สวัสดีค่ะ เจ้าของเพจและบล้อก " ความลับนางฟ้า Angelsecrets by Angellooktarn " กลับมาแล้วคะ
จากคราวที่แล้ว เขียนเรื่อง "จากนักวิทยาศาสตร์ ศึกษาพันธุกรรม DNA จุลินทรีย์ พลิกชีวิตตามล่าฝันท่องโลก ติดปีกไปเป็นแอร์เมืองทะเลทราย ได้ยังไงเนี่ย??? ภาคแรก"
ทิ้งช่วงไปพักใหญ่เลยค่ะ เนื่องจากเดินทางตลอด ไม่ค่อยสะดวกในการเขียน และอินเตอร์เนต ยังไงก็กลับมาแล้วเนาะ จะเล่าต่อให้หมดเปลือกเลยคะ

จากตอนที่แล้ว เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ไปสมัครแอร์ ตื่นเต้นตื่นเต้น เป็นสายการบินจากประเทศญี่ปุ่น ที่แม้แต่จะยื่นเอกสารในการสมัคร ยังไม่ได้ยื่นเลยคะ ทั้งที่ไปเรียนไปติวมาซะดิบดี แถมยังยืนรอมาครึ่งค่อนวัน ซึ่งมันก็เป็นความผิดของเราเอง ที่ไม่ศึกษารายละเอียดของแต่ละสายการบินให้ดี เพราะแต่ละที่ จะมีหลักเกณฑ์การสมัครเป็นแตกต่างกันออกไป ก็ร้องห่มร้องไห้กลับบ้านไปตามระเบียบ
เวลาผ่านไป 2 อาทิตย์ มาแล้วมาแล้ว สายการบินตะวันออกกลางชุดสีเลือดหมู QATAR Airways เปิด " walkin interview " ที่โรงแรม 5 ดาวแห่งหนึ่ง ย่านพระราม 9 เวลา 08.00 เช้า พร้อมกับนำเอกสาร และชุดว่ายนำ้มาด้วย
หลังจากหาข้อมูลไปมา ได้ความว่าสายการบินนี้ติดอันดับต้นๆในเรื่องรายได้ หลักแสน ว้าววววว!!!!! ตาลุกวาว จิตใจว้าวุ่น รีบเตรียมตัวด่วนเลย เดี๋ยวจะไม่ทัน
ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ของการสมัครแอร์ เพราะครั้งที่แล้ว ไม่ได้ยื่นใบสมัคร ตามที่ตั้งใจไว้ ทำให้ความตื่นเต้น ยิ่งเพิ่มทวีคูณ และความหวัง ก็ก่อตัวสูงขึ้นกว่าเดิม
เอาล่ะ ขั้นตอนในการเตรียมตัวสมัครแอร์ของสายการบิน QATAR ได้เริ่มขึ้นแล้ว!!!!!!!!
การ 'walkin interview" คือการที่ใครก็ได้ ที่ต้องการสมัครแอร์ แต่งหน้าทำผม แต่งตัวเต็มยศ แต่งแบบที่คิดว่าตัวเองสวยที่สุด มาประชันกัน พร้อมกับเตรียมเอกสารในการสมัคร ที่เค้าระบุไว้ มาด้วย แล้วก็ยืนรอเพื่อยื่นเอกสาร และหลังจากนั้นทางตัวแทนสายการบิน จะทำการคัดเลือกคนที่ผ่านเข้ารอบ ตามจำนวนที่เค้ากำหนดไว้ เพื่อเข้าร่วมการคัดเลือกในขั้นตอนอื่นต่อไป (ซึ่งแต่ละสายการบินจะมีวิธีการคัดเลือกที่แตกต่างกันไปคะ)
การเตรียมตัวอย่างแรก " เอกสาร "
อันนี้สำคัญมาก เพราะคราวที่แล้ว เราก็ตกม้าตายตอนยื่น หลังจากที่ยืนขาแข็งมาหลายชั่วโมง คว้านำ้เหลวกลับบ้าน
เอกสารในการสมัคร ทุกสายการบินจะคล้ายกัน ซึ่งก็คล้ายกับการสมัครงานทั่วไป นั่นคือ
Resume, เอกสารประจำตัว เช่นสำเนาทะเบียนบ้าน, สำเนาบัตรประชาชน และเอกสารทางการศึกษา
นอกจากนี้ ยังมีเอกสาร ที่ต่างจากการสมัตรงานธรรมดาคือ ใบสอบ TOEIC ที่เราจะต้องไปสอบเพิ่มเติม หลายท่านอาจทราบแล้ว ว่าเป็นการสอบเกี่ยวกับทักษะภาษาอังกฤษ
คะแนนที่ออกมาจะแยกเป็น 2 ชนิด คือ ทักษะการฟัง และการอ่าน แล้วนำคะแนนมารวมกัน
ซึ่งแต่ละสายการบิน จะมีเกณฑ์คะแนนขั้นตำ่ที่แตกต่างกันไป
การเตรียมตัวอย่างที่ 2 ที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การศึกษาหาข้ิมูลเกี่ยวกับสายการบินนี้ ว่าเค้ามีเส้นทางการบินไปไหนบ้าง อยู่ที่ไหน เมืองอะไร ศาสนา วัฒนธรรม เครื่องแต่งกาย เหล่านี้เป็นต้น เพื่อใช้เป็นความรู้ติดตัวในการสอบสัมภาษณ์ เผื่อโชคดี ได้ผ่านเข้าไปยังรอบสัมภาษณ์
และสุดท้ายคือ การจดวันเวลา สถานที่ ให้แม่นยำ เพื่อจะได้ไปทันเวลา และคำนวณเวลาที่รถติดบวกเข้าไปด้วย เค้าบอก 8.00 น. แปดโมงเช้า งั้นเรากะเวลาไปถึงซัก เจ็ดโมงครึ่ง ชิวชิว
และแล้ว วันนั้นก็มาถึง ด้วยความตื่น ตื่นตั้งแต่ตี 4 คะ โอ้แม่เจ้า!!!!! หลับก็ไม่สนิท แถมยังตื่นแต่เช้าอีก แหมแหม!!! ทำไงได้ ไหนๆก็ตื่นแล้ว เริ่มเตรียมตัวแต่งหน้าเลยดีกว่า แต่งหน้า ทั้งที่ตาบวมเป่งแบบนี้แหละ ทำไงได้
2 ชั่วโมงผ่านไป ไวเหมือนโกหก!!! อย่าเพิ่งตกใจไป เพิ่งแต่งตัวเสร็จคะ กำลังจะออกจากบ้าน ถ้าออกช้ากว่านี้ รถติดแน่นอน
ชณะที่อยู่ในรถ เดินทางไปโรงแรม นั่งท่องบทแนะนำตัวเอง ทบทวนคำถามคำตอบ ตามที่เรียนมา ถ้าเผื่อได้ผ่านเข้ารอบจะได้ตอบคำถามแบบชัดถ้อยชัดคำ เอาให้กรรมการอึ้งไปเลย! พลางนึกในใจ ถึงการเตรียมตัว แต่งหน้าทำผม เมื่อกี้...ใช้เวลาตั้ง 2 ชั่วโมงเชียวเหรอ!!! นี่ถ้าเราได้เป็นแอร์จริงๆ แล้วเราจะไปบินทันไม้เนี่ย????
เอาล่ะ มาถึงโรงแรมแล้ว หน้าพร้อม ผมพร้อม ชุดพร้อม สีฟ้าลายผ้าไหมไทย สีสด มองเห็นมาแต่ไกล แต่งตัวแต่งหน้าทำผม แบบจัดเต็ม พกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยม
ทันใดที่ก้าวเท้าเข้าเขตโรงแรมมาเท่านั้นแหละ โอ้โห!!!!! ทำไมคนเยอะมหาศาล นี่มันเป็นเรื่องปกติหรือเนี่ย ทุกคนสวยเด้ง เริ่ดสะแมนแตน เด็ดสะระตี่ สวยหล่อเกินคำบรรยาย ( ขอใช้คำเปรียบเปรยหน่อยนะคะ เพื่อแสดงถึงความสวยหล่อมาก จนยากที่จะบรรยาย)
และที่สำคัญ คนเยอะมาก ชุดสีสดกันมาก ทุกคนเด่นมาก จนสีฟ้าผ้าไหมไทยอย่างเรา เกือบดับ!!!
และคิวยาวมาก.....
ขณะนั้น คิวที่เรายืนรออยู่ แค่ก้าวเข้าประตูโรงแรมมานิดเดียวเอง ขนาดว่ามาก่อนเวลานะ แล้วคนที่มายืนต่อแถวก่อนเรานี่ ที่ต่อยาวไปถึงห้องประชุมชั้นบน เค้ามากันกี่โมงล่ะเนี่ย ( พยายามนึกภาพโรงแรม 5 ดาว ที่ใหญ่โตหรูหราไว้นะคะ จะได้จินตนาการออกคะ)
แล้วก็ยืนงงเล็กน้อย แอบสะกิดปรึกษาคนข้างหน้า "เธอๆ เธอว่าเราจะได้เข้าไปยื่นไม้? เธอว่าเราต้องยืนกันกี่ชั่วโมงเพื่อที่จะยื่นเอกสาร? เธอว่าที่เราเห็นนี่มีประมาณกี่พันคนเนี่ย?"
เพื่อนสาวคนนั้น ก็ทำหน้างงงง ปนเมื่อย ตอบเราว่า " น่าจะมีซัก 2 พันคนนะเราว่า เพราะเมื่อกี้เห็นเพื่อนเดินไปดูข้างบนห้องประชุมใหญ่ คนแน่นเอี๊ยดล้นลงมาถึง Lobby โรงแรม ที่เรายืนอยู่นี่แหละ"
เอ่อ.....ขอถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ ซัก 3 เฮือก!!!!!! ฮึบฮึบฮึบ.... รอรอรอ...... สู้สู้สู้........
ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก...ระหว่างรอ ยืน นั่ง ยืน นั่ง ยืน ถอดรองเท้า ใส่รองเท้า ถอดรองเท้า ถอด ใส่ (เนื่องจากรองเท้าคัชชูกัด สาบานได้ ว่าสาวๆ ถอดกันทุกคน ) เม้ามอย เช็คโทรศัพท์ คุยโทรศัพท์ หลับตา นั่งสมาธิ นั่งทบทวนภาษาอังกฤษ เข้าห้องนำ้ ซับหน้า เติมปาก ซับหน้า เติมปาก ....... เวลาผ่านไป 5 ชั่วโมง และแล้ว เราก็มาถึงหน้าห้อง เตรียมยื่นเอกสาร เย้เย้เย้!!!! ได้ยื่นแล้ว
หลังจากเอกสารครบถ้วน ยื่นเอกสารไป จะได้รับหมายเลขกลับมา รู้ไม้คะ ว่าหมายเลขเท่าไหร่ 1299 ค่ะ ห้า!!!! คนมหาศาลจริงๆ ยอมรับอย่างไม่มีข้อกังขาเลยว่า คนไทย อยากเป็นแอร์กันมากจริงๆ.... น่าทึ่งจริงๆ!!!!!
เอาล่ะ ขั้นตอนต่อไปคือ รอเจ้าหน้าที่คัดเลือก คนที่โดนใจเค้ามากที่สุด ตามจำนวนที่เค้าต้องการ อาจจะด้วยรูปร่างหน้าตา ท่าทาง อายุ หรือการศึกษา หรืออะไรน้าที่เค้าจะใช้เป็นเกณฑ์ในการคัดเลือก คนที่มาสมัคร จากประมาณ 2000 คน เหลือแค่ไม่กี่ร้อยคน ชักสงสัยซะแล้วซิ ว่าเค้าใช้เกณฑ์อะไร หรือว่าดูโหงวเฮ้ง???
จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ วินาทีนั้น ความหวังที่เคยอยากเป็นแอร์ อันเต็มเปี่ยม มันหดหายกลับไปรอที่บ้านหมดแล้วคะ ก็ยืนรอมาตั้ง 5 ชั่วโมง เพิ่งได้ยื่นเอกสารเอง ไหนจะรอการคัดเลือกรอบแรกอีก แล้ววันนี้เค้าจะคัดกันเสร็จมั้ยเนี่ย???
ระหว่างที่รอ ยังมีคนที่มาช้ากว่าเรา รอยื่นเอกสารอยู่ ก็เลยชวนเพื่อนที่ยืนรอร่วมชะตากรรมด้วยกันมา 5 ชั่วโมง ลงไปหาขนม และนำ้ทาน รอเวลา ด้วยใจจดใจจ่อ และความหวังอันน้อยนิด.... ส่วนเพื่อน ก็รู้สึกเช่นเดียวกัน
ก็เพราะคนมาสมัคร มากจนเกินคาด ความหวังก็เลยหายไปหมดแล้วคะ ยังพูดกับเพื่อนด้วยว่า " เรากลับกันดีมั้ย ดูเหมือนจะไม่มีหวัง"
แต่โชคดีที่ไม่ถอดใจ กลับไปซะก่อน เพราะซักประมาณ 1 ชั่วโมง รอไป กินไป บ่นไป เจ้าหน้าที่ของสายการบิน QATAR ก็ประกาศ
" Ladies and gentlemen, Thank you for waiting, I would like to announce the 200 success candidates for the first stage to go to the next round.
The next step will be
- English exam
- Group discussion
- Final interview
- swimming
For now I will call out the number, these numbers mean you pass to the next stage, thank you and all the best for you."
เค้ากำลังจะประกาศ ชื่อคนที่ผ่านรอบแรกแล้ว ทันใดนั้น ใจก็เต้นตุบๆๆๆๆๆๆ แบบไม่ทันตั้งตัว
เค้าประกาศคนแล้วคนเล่า ไล่จากเลขน้อย ไปยังเลขมาก
ระหว่างฟังไป หูก็อื้อๆ เบลอๆ เลข 754, 832, 942, 978, 1298
เฮ้ย!!! เพื่อนที่ยืนก่อนหน้าเรา ที่ยืนรอด้วยกันมา นางได้ นางได้ นางโดนเรียก อึ้งแป้บ!!!!! บวกกับอาการตื่นเต้น ซักพัก มีเสียงเรียก 1299 อ้าวเฮ้ย!!!!!
เฮ้ย!!!! 1299 เบอร์ชั้น เบอร์ชั้น ชั้นเอง ชั้นเอง !!!!!!!!!! ขอบอกเลยคะ อาการเมื่อยล้า อ่อนแรก ขี้เกียจ หายวับไปกับตา ดีใจเริงร่ากันทั้งคู่ (ใช้คำว่า เฮ้ย บ่อยมาก ต้องขออภัยนะคะ คืออยากจะบอกว่า มันตื่นเต้นจริงๆคะ)
แล้วเราก็เดินควงคู่เข้าห้องโถงใหญ่ ไปเตรียมตัวทำข้อสอบ ภาษาอังกฤษต่อไป ด้วยความตื่นเต้น ถึงขีดสุด ดีจัง มาสมัครงาน ได้เพื่อนรู้ใจเพิ่มอีกด้วย...
แต่นั่นยังไม่หมด เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้นคะ...
การคัดเลือกด่านที่ 2 คือการสอบข้อสอบภาษาอังกฤษ คือด่านต่อไป ให้เวลาสอบ 30 นาที มี 40 ข้อ
ข้อสอบมียากบ้าง ง่ายบ้าง ปนกันไป รวมๆแล้ว สำหรับเราพอทำได้ ทำเสร็จก่อนเวลา ยังไม่ส่งข้อสอบ นั่งสำรวจสถาณการณ์โดยรอบ นับคนที่ผ่านเข้ารอบนี้ นับจำนวนกรรมการ กรรมการน่าจะเป็นคน อาหรับทั้งหมด แล้วก็หันมองไปทางเพื่อนที่นั่ง โต๊ะข้างหน้า นางก็เสร็จแล้วเหมือนกัน ก็เลยส่งกระดาษคำตอบพร้อมกัน ออกไปรอฟังผล
และก็เป็นอย่างที่คาดไว้คะ เราผ่านทั้งคู่ ไชโย!!! ดีใจมากมายมหาศาล สุดจะพรรณา อารมณ์เหมือนได้นางงามจักรวาลกันอย่างไงอย่างงั้น....
แต่เราก็ต้องสงบเสงี่ยมเล็กน้อย ไม่ดีใจจนออกนอกหน้า เพราะมีตนที่ตกรอบก็เยอะ เท่าที่นับๆดู เหลือคนที่ผ่านเข้าไปรอบถัดไป ประมาณ 60 คน จาก 200 คน
จะว่าไป ก็น่าใจหายนะคะ ทุกคนก็เหนื่อยรอกันมาตั้งแต่เช้า ดันมาตกรอบนี้ เสียดายแทน
แต่เวลานี้ เราต้องห่วงตัวเองก่อนคะ เพราะรอบต่อไป เป็น "การจับกลุ่มสนทนา หรือ Group discussion"
เราเองก็มาได้แค่ครึ่งทาง ยังต้องไปต่อ อีก ซึ่งถ้าผ่านด่านนี้ ก็เตรียมรอไปว่ายนำ้ได้เลย เพราะจะเป็นด่านสอบสัมภาษณ์ ตัวต่อตัว และ ว่ายนำ้
ซึ่งผลหลังจากนั้น เค้าจะแจ้งกลับมาทาง Email
ตอนนี้ก็เวลาก็ 16.30 น. แล้ว เราต้องทำให้ได้ ผ่านด่านนี้ไปให้ได้ สู้สู้...สู้สู้สู้...
ว่ากันว่า ด่านจับกลุ่มสนทนานี้ เป็น " ด่านปราบเซียน" จะปราบเซียนยังไง เราได้หัวข้ออะไร มีเคล็ดลับในการทำยังไงให้ผ่าน เดี๋ยวไปติดตามกัน ในภาคต่อ คราวหน้านะคะ รู้สึกว่าจะยาวมาก กลัวคุณผู้อ่านจะเมื่อยซะก่อน เดี๋ยวจะรีบมาลงเร็วๆนี้คะ รับรองว่า ไม่นานเกินรอคะ
ส่วนใครที่ยังไม่เคยอ่านตอนแรก ของเรื่อง "จากนักวิทยาศาสตร์ ศึกษาพันธุกรรม DNA จุลินทรีย์ พลิกชีวิตตามล่าฝันท่องโลก ติดปีกไปเป็นแอร์เมืองทะเลทราย ได้ยังไงเนี่ย??? ก็ลองคลิกตามลิ้งได้เลยคะ
http://pantip.com/topic/34544991
ลูกตาล ตั้งใจเขียนมากๆเลยนะคะ ฝากติดตามด้วยคะ
และถ้าใครอยากติดตามชีวิต และเรื่องเล่า เล็กๆน้อยๆของ ความลับนางฟ้า Angelsecrets by Angellooktarn ก็ติดตามได้ในเพจนี้คะ
https://www.facebook.com/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2-AngelSecrets-by-Angellooktarn-614728751999713/?ref=hl
อาจจะมีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ก็ไม่ว่ากันนะคะ
สอบแอร์ครั้งแรก ผ่านไปถึงด่านสุดท้าย นี่ดวงดีหรือฟลุ๊คกันแน่?(ภาค2ของ"จากนักวิทยาศาสตร์ศึกษาDNA ไปเป็นแอร์อาหรับได้ไงน้า
จากคราวที่แล้ว เขียนเรื่อง "จากนักวิทยาศาสตร์ ศึกษาพันธุกรรม DNA จุลินทรีย์ พลิกชีวิตตามล่าฝันท่องโลก ติดปีกไปเป็นแอร์เมืองทะเลทราย ได้ยังไงเนี่ย??? ภาคแรก"
ทิ้งช่วงไปพักใหญ่เลยค่ะ เนื่องจากเดินทางตลอด ไม่ค่อยสะดวกในการเขียน และอินเตอร์เนต ยังไงก็กลับมาแล้วเนาะ จะเล่าต่อให้หมดเปลือกเลยคะ
จากตอนที่แล้ว เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ไปสมัครแอร์ ตื่นเต้นตื่นเต้น เป็นสายการบินจากประเทศญี่ปุ่น ที่แม้แต่จะยื่นเอกสารในการสมัคร ยังไม่ได้ยื่นเลยคะ ทั้งที่ไปเรียนไปติวมาซะดิบดี แถมยังยืนรอมาครึ่งค่อนวัน ซึ่งมันก็เป็นความผิดของเราเอง ที่ไม่ศึกษารายละเอียดของแต่ละสายการบินให้ดี เพราะแต่ละที่ จะมีหลักเกณฑ์การสมัครเป็นแตกต่างกันออกไป ก็ร้องห่มร้องไห้กลับบ้านไปตามระเบียบ
เวลาผ่านไป 2 อาทิตย์ มาแล้วมาแล้ว สายการบินตะวันออกกลางชุดสีเลือดหมู QATAR Airways เปิด " walkin interview " ที่โรงแรม 5 ดาวแห่งหนึ่ง ย่านพระราม 9 เวลา 08.00 เช้า พร้อมกับนำเอกสาร และชุดว่ายนำ้มาด้วย
หลังจากหาข้อมูลไปมา ได้ความว่าสายการบินนี้ติดอันดับต้นๆในเรื่องรายได้ หลักแสน ว้าววววว!!!!! ตาลุกวาว จิตใจว้าวุ่น รีบเตรียมตัวด่วนเลย เดี๋ยวจะไม่ทัน
ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ของการสมัครแอร์ เพราะครั้งที่แล้ว ไม่ได้ยื่นใบสมัคร ตามที่ตั้งใจไว้ ทำให้ความตื่นเต้น ยิ่งเพิ่มทวีคูณ และความหวัง ก็ก่อตัวสูงขึ้นกว่าเดิม
เอาล่ะ ขั้นตอนในการเตรียมตัวสมัครแอร์ของสายการบิน QATAR ได้เริ่มขึ้นแล้ว!!!!!!!!
การ 'walkin interview" คือการที่ใครก็ได้ ที่ต้องการสมัครแอร์ แต่งหน้าทำผม แต่งตัวเต็มยศ แต่งแบบที่คิดว่าตัวเองสวยที่สุด มาประชันกัน พร้อมกับเตรียมเอกสารในการสมัคร ที่เค้าระบุไว้ มาด้วย แล้วก็ยืนรอเพื่อยื่นเอกสาร และหลังจากนั้นทางตัวแทนสายการบิน จะทำการคัดเลือกคนที่ผ่านเข้ารอบ ตามจำนวนที่เค้ากำหนดไว้ เพื่อเข้าร่วมการคัดเลือกในขั้นตอนอื่นต่อไป (ซึ่งแต่ละสายการบินจะมีวิธีการคัดเลือกที่แตกต่างกันไปคะ)
การเตรียมตัวอย่างแรก " เอกสาร "
อันนี้สำคัญมาก เพราะคราวที่แล้ว เราก็ตกม้าตายตอนยื่น หลังจากที่ยืนขาแข็งมาหลายชั่วโมง คว้านำ้เหลวกลับบ้าน
เอกสารในการสมัคร ทุกสายการบินจะคล้ายกัน ซึ่งก็คล้ายกับการสมัครงานทั่วไป นั่นคือ
Resume, เอกสารประจำตัว เช่นสำเนาทะเบียนบ้าน, สำเนาบัตรประชาชน และเอกสารทางการศึกษา
นอกจากนี้ ยังมีเอกสาร ที่ต่างจากการสมัตรงานธรรมดาคือ ใบสอบ TOEIC ที่เราจะต้องไปสอบเพิ่มเติม หลายท่านอาจทราบแล้ว ว่าเป็นการสอบเกี่ยวกับทักษะภาษาอังกฤษ
คะแนนที่ออกมาจะแยกเป็น 2 ชนิด คือ ทักษะการฟัง และการอ่าน แล้วนำคะแนนมารวมกัน
ซึ่งแต่ละสายการบิน จะมีเกณฑ์คะแนนขั้นตำ่ที่แตกต่างกันไป
การเตรียมตัวอย่างที่ 2 ที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การศึกษาหาข้ิมูลเกี่ยวกับสายการบินนี้ ว่าเค้ามีเส้นทางการบินไปไหนบ้าง อยู่ที่ไหน เมืองอะไร ศาสนา วัฒนธรรม เครื่องแต่งกาย เหล่านี้เป็นต้น เพื่อใช้เป็นความรู้ติดตัวในการสอบสัมภาษณ์ เผื่อโชคดี ได้ผ่านเข้าไปยังรอบสัมภาษณ์
และสุดท้ายคือ การจดวันเวลา สถานที่ ให้แม่นยำ เพื่อจะได้ไปทันเวลา และคำนวณเวลาที่รถติดบวกเข้าไปด้วย เค้าบอก 8.00 น. แปดโมงเช้า งั้นเรากะเวลาไปถึงซัก เจ็ดโมงครึ่ง ชิวชิว
และแล้ว วันนั้นก็มาถึง ด้วยความตื่น ตื่นตั้งแต่ตี 4 คะ โอ้แม่เจ้า!!!!! หลับก็ไม่สนิท แถมยังตื่นแต่เช้าอีก แหมแหม!!! ทำไงได้ ไหนๆก็ตื่นแล้ว เริ่มเตรียมตัวแต่งหน้าเลยดีกว่า แต่งหน้า ทั้งที่ตาบวมเป่งแบบนี้แหละ ทำไงได้
2 ชั่วโมงผ่านไป ไวเหมือนโกหก!!! อย่าเพิ่งตกใจไป เพิ่งแต่งตัวเสร็จคะ กำลังจะออกจากบ้าน ถ้าออกช้ากว่านี้ รถติดแน่นอน
ชณะที่อยู่ในรถ เดินทางไปโรงแรม นั่งท่องบทแนะนำตัวเอง ทบทวนคำถามคำตอบ ตามที่เรียนมา ถ้าเผื่อได้ผ่านเข้ารอบจะได้ตอบคำถามแบบชัดถ้อยชัดคำ เอาให้กรรมการอึ้งไปเลย! พลางนึกในใจ ถึงการเตรียมตัว แต่งหน้าทำผม เมื่อกี้...ใช้เวลาตั้ง 2 ชั่วโมงเชียวเหรอ!!! นี่ถ้าเราได้เป็นแอร์จริงๆ แล้วเราจะไปบินทันไม้เนี่ย????
เอาล่ะ มาถึงโรงแรมแล้ว หน้าพร้อม ผมพร้อม ชุดพร้อม สีฟ้าลายผ้าไหมไทย สีสด มองเห็นมาแต่ไกล แต่งตัวแต่งหน้าทำผม แบบจัดเต็ม พกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยม
ทันใดที่ก้าวเท้าเข้าเขตโรงแรมมาเท่านั้นแหละ โอ้โห!!!!! ทำไมคนเยอะมหาศาล นี่มันเป็นเรื่องปกติหรือเนี่ย ทุกคนสวยเด้ง เริ่ดสะแมนแตน เด็ดสะระตี่ สวยหล่อเกินคำบรรยาย ( ขอใช้คำเปรียบเปรยหน่อยนะคะ เพื่อแสดงถึงความสวยหล่อมาก จนยากที่จะบรรยาย)
และที่สำคัญ คนเยอะมาก ชุดสีสดกันมาก ทุกคนเด่นมาก จนสีฟ้าผ้าไหมไทยอย่างเรา เกือบดับ!!!
และคิวยาวมาก.....
ขณะนั้น คิวที่เรายืนรออยู่ แค่ก้าวเข้าประตูโรงแรมมานิดเดียวเอง ขนาดว่ามาก่อนเวลานะ แล้วคนที่มายืนต่อแถวก่อนเรานี่ ที่ต่อยาวไปถึงห้องประชุมชั้นบน เค้ามากันกี่โมงล่ะเนี่ย ( พยายามนึกภาพโรงแรม 5 ดาว ที่ใหญ่โตหรูหราไว้นะคะ จะได้จินตนาการออกคะ)
แล้วก็ยืนงงเล็กน้อย แอบสะกิดปรึกษาคนข้างหน้า "เธอๆ เธอว่าเราจะได้เข้าไปยื่นไม้? เธอว่าเราต้องยืนกันกี่ชั่วโมงเพื่อที่จะยื่นเอกสาร? เธอว่าที่เราเห็นนี่มีประมาณกี่พันคนเนี่ย?"
เพื่อนสาวคนนั้น ก็ทำหน้างงงง ปนเมื่อย ตอบเราว่า " น่าจะมีซัก 2 พันคนนะเราว่า เพราะเมื่อกี้เห็นเพื่อนเดินไปดูข้างบนห้องประชุมใหญ่ คนแน่นเอี๊ยดล้นลงมาถึง Lobby โรงแรม ที่เรายืนอยู่นี่แหละ"
เอ่อ.....ขอถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ ซัก 3 เฮือก!!!!!! ฮึบฮึบฮึบ.... รอรอรอ...... สู้สู้สู้........
ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก...ระหว่างรอ ยืน นั่ง ยืน นั่ง ยืน ถอดรองเท้า ใส่รองเท้า ถอดรองเท้า ถอด ใส่ (เนื่องจากรองเท้าคัชชูกัด สาบานได้ ว่าสาวๆ ถอดกันทุกคน ) เม้ามอย เช็คโทรศัพท์ คุยโทรศัพท์ หลับตา นั่งสมาธิ นั่งทบทวนภาษาอังกฤษ เข้าห้องนำ้ ซับหน้า เติมปาก ซับหน้า เติมปาก ....... เวลาผ่านไป 5 ชั่วโมง และแล้ว เราก็มาถึงหน้าห้อง เตรียมยื่นเอกสาร เย้เย้เย้!!!! ได้ยื่นแล้ว
หลังจากเอกสารครบถ้วน ยื่นเอกสารไป จะได้รับหมายเลขกลับมา รู้ไม้คะ ว่าหมายเลขเท่าไหร่ 1299 ค่ะ ห้า!!!! คนมหาศาลจริงๆ ยอมรับอย่างไม่มีข้อกังขาเลยว่า คนไทย อยากเป็นแอร์กันมากจริงๆ.... น่าทึ่งจริงๆ!!!!!
เอาล่ะ ขั้นตอนต่อไปคือ รอเจ้าหน้าที่คัดเลือก คนที่โดนใจเค้ามากที่สุด ตามจำนวนที่เค้าต้องการ อาจจะด้วยรูปร่างหน้าตา ท่าทาง อายุ หรือการศึกษา หรืออะไรน้าที่เค้าจะใช้เป็นเกณฑ์ในการคัดเลือก คนที่มาสมัคร จากประมาณ 2000 คน เหลือแค่ไม่กี่ร้อยคน ชักสงสัยซะแล้วซิ ว่าเค้าใช้เกณฑ์อะไร หรือว่าดูโหงวเฮ้ง???
จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ วินาทีนั้น ความหวังที่เคยอยากเป็นแอร์ อันเต็มเปี่ยม มันหดหายกลับไปรอที่บ้านหมดแล้วคะ ก็ยืนรอมาตั้ง 5 ชั่วโมง เพิ่งได้ยื่นเอกสารเอง ไหนจะรอการคัดเลือกรอบแรกอีก แล้ววันนี้เค้าจะคัดกันเสร็จมั้ยเนี่ย???
ระหว่างที่รอ ยังมีคนที่มาช้ากว่าเรา รอยื่นเอกสารอยู่ ก็เลยชวนเพื่อนที่ยืนรอร่วมชะตากรรมด้วยกันมา 5 ชั่วโมง ลงไปหาขนม และนำ้ทาน รอเวลา ด้วยใจจดใจจ่อ และความหวังอันน้อยนิด.... ส่วนเพื่อน ก็รู้สึกเช่นเดียวกัน
ก็เพราะคนมาสมัคร มากจนเกินคาด ความหวังก็เลยหายไปหมดแล้วคะ ยังพูดกับเพื่อนด้วยว่า " เรากลับกันดีมั้ย ดูเหมือนจะไม่มีหวัง"
แต่โชคดีที่ไม่ถอดใจ กลับไปซะก่อน เพราะซักประมาณ 1 ชั่วโมง รอไป กินไป บ่นไป เจ้าหน้าที่ของสายการบิน QATAR ก็ประกาศ
" Ladies and gentlemen, Thank you for waiting, I would like to announce the 200 success candidates for the first stage to go to the next round.
The next step will be
- English exam
- Group discussion
- Final interview
- swimming
For now I will call out the number, these numbers mean you pass to the next stage, thank you and all the best for you."
เค้ากำลังจะประกาศ ชื่อคนที่ผ่านรอบแรกแล้ว ทันใดนั้น ใจก็เต้นตุบๆๆๆๆๆๆ แบบไม่ทันตั้งตัว
เค้าประกาศคนแล้วคนเล่า ไล่จากเลขน้อย ไปยังเลขมาก
ระหว่างฟังไป หูก็อื้อๆ เบลอๆ เลข 754, 832, 942, 978, 1298
เฮ้ย!!! เพื่อนที่ยืนก่อนหน้าเรา ที่ยืนรอด้วยกันมา นางได้ นางได้ นางโดนเรียก อึ้งแป้บ!!!!! บวกกับอาการตื่นเต้น ซักพัก มีเสียงเรียก 1299 อ้าวเฮ้ย!!!!!
เฮ้ย!!!! 1299 เบอร์ชั้น เบอร์ชั้น ชั้นเอง ชั้นเอง !!!!!!!!!! ขอบอกเลยคะ อาการเมื่อยล้า อ่อนแรก ขี้เกียจ หายวับไปกับตา ดีใจเริงร่ากันทั้งคู่ (ใช้คำว่า เฮ้ย บ่อยมาก ต้องขออภัยนะคะ คืออยากจะบอกว่า มันตื่นเต้นจริงๆคะ)
แล้วเราก็เดินควงคู่เข้าห้องโถงใหญ่ ไปเตรียมตัวทำข้อสอบ ภาษาอังกฤษต่อไป ด้วยความตื่นเต้น ถึงขีดสุด ดีจัง มาสมัครงาน ได้เพื่อนรู้ใจเพิ่มอีกด้วย...
แต่นั่นยังไม่หมด เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้นคะ...
การคัดเลือกด่านที่ 2 คือการสอบข้อสอบภาษาอังกฤษ คือด่านต่อไป ให้เวลาสอบ 30 นาที มี 40 ข้อ
ข้อสอบมียากบ้าง ง่ายบ้าง ปนกันไป รวมๆแล้ว สำหรับเราพอทำได้ ทำเสร็จก่อนเวลา ยังไม่ส่งข้อสอบ นั่งสำรวจสถาณการณ์โดยรอบ นับคนที่ผ่านเข้ารอบนี้ นับจำนวนกรรมการ กรรมการน่าจะเป็นคน อาหรับทั้งหมด แล้วก็หันมองไปทางเพื่อนที่นั่ง โต๊ะข้างหน้า นางก็เสร็จแล้วเหมือนกัน ก็เลยส่งกระดาษคำตอบพร้อมกัน ออกไปรอฟังผล
และก็เป็นอย่างที่คาดไว้คะ เราผ่านทั้งคู่ ไชโย!!! ดีใจมากมายมหาศาล สุดจะพรรณา อารมณ์เหมือนได้นางงามจักรวาลกันอย่างไงอย่างงั้น....
แต่เราก็ต้องสงบเสงี่ยมเล็กน้อย ไม่ดีใจจนออกนอกหน้า เพราะมีตนที่ตกรอบก็เยอะ เท่าที่นับๆดู เหลือคนที่ผ่านเข้าไปรอบถัดไป ประมาณ 60 คน จาก 200 คน
จะว่าไป ก็น่าใจหายนะคะ ทุกคนก็เหนื่อยรอกันมาตั้งแต่เช้า ดันมาตกรอบนี้ เสียดายแทน
แต่เวลานี้ เราต้องห่วงตัวเองก่อนคะ เพราะรอบต่อไป เป็น "การจับกลุ่มสนทนา หรือ Group discussion"
เราเองก็มาได้แค่ครึ่งทาง ยังต้องไปต่อ อีก ซึ่งถ้าผ่านด่านนี้ ก็เตรียมรอไปว่ายนำ้ได้เลย เพราะจะเป็นด่านสอบสัมภาษณ์ ตัวต่อตัว และ ว่ายนำ้
ซึ่งผลหลังจากนั้น เค้าจะแจ้งกลับมาทาง Email
ตอนนี้ก็เวลาก็ 16.30 น. แล้ว เราต้องทำให้ได้ ผ่านด่านนี้ไปให้ได้ สู้สู้...สู้สู้สู้...
ว่ากันว่า ด่านจับกลุ่มสนทนานี้ เป็น " ด่านปราบเซียน" จะปราบเซียนยังไง เราได้หัวข้ออะไร มีเคล็ดลับในการทำยังไงให้ผ่าน เดี๋ยวไปติดตามกัน ในภาคต่อ คราวหน้านะคะ รู้สึกว่าจะยาวมาก กลัวคุณผู้อ่านจะเมื่อยซะก่อน เดี๋ยวจะรีบมาลงเร็วๆนี้คะ รับรองว่า ไม่นานเกินรอคะ
ส่วนใครที่ยังไม่เคยอ่านตอนแรก ของเรื่อง "จากนักวิทยาศาสตร์ ศึกษาพันธุกรรม DNA จุลินทรีย์ พลิกชีวิตตามล่าฝันท่องโลก ติดปีกไปเป็นแอร์เมืองทะเลทราย ได้ยังไงเนี่ย??? ก็ลองคลิกตามลิ้งได้เลยคะ
http://pantip.com/topic/34544991
ลูกตาล ตั้งใจเขียนมากๆเลยนะคะ ฝากติดตามด้วยคะ
และถ้าใครอยากติดตามชีวิต และเรื่องเล่า เล็กๆน้อยๆของ ความลับนางฟ้า Angelsecrets by Angellooktarn ก็ติดตามได้ในเพจนี้คะ
https://www.facebook.com/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2-AngelSecrets-by-Angellooktarn-614728751999713/?ref=hl
อาจจะมีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ก็ไม่ว่ากันนะคะ