"หม่อมอุ๋ย" สวด "ลูกปลื้ม" หลังโพสต์หนุนสรยุทธ-ด่า ป.ป.ช. เสียใจไม่รู้จักอุเบกขา-จริยธรรม (โจ ขิง)

กระทู้คำถาม
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9590000023226




"ม.ร.ว.ปรีดิยาธร" รับเสียใจบุตรชายโพสต์เฟซบุ๊กด่า ป.ป.ช.คลั่งฟัน "สรยุทธ" จนศาลพิพากษาจำคุก ชี้เป็นเหยื่อข้อมูลง่ายๆ คิดตื้น ด่วนสรุปไป แถมไม่เข้าใจเรื่องจริยธรรม ยันคนผิดไม่ควรปล่อยให้ลอยหน้าลอยตาในทีวี ยันศาลตัดสินไม่ได้ชุ่ย มีหลักฐานชัด เผยตำหนิไปแล้วก็ดูเงียบๆ บอกอายุ 40 แล้วไม่รู้จะรู้สึกแค่ไหน หวังเป็นอุทาหรณ์ส่งลูกเรียนนอกตั้งแต่เด็ก แถมไม่เคยบวชเรียนเลยไม่รู้จักคำว่า อุเบกขา แนะคิดให้ดี หวังผู้ใหญ่คงไม่เล่นงาน
       
       วันนี้ (3 มี.ค.) ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมสปริงนิวส์ ถึงกรณีที่ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล บุตรชาย และพิธีกรรายการโทรทัศน์ เขียนข้อความโจมตีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คลั่ง เชือดไก่ให้ลิงดู นำสื่อที่เป็นคนรวยมาสังเวยต่อสาธารณะชน หลังมีมติให้นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรรายการข่าวสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 ผิดในคดีทุจริตค่าโฆษณารายการใน อสมท.จนถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 13 ปี 4 เดือนว่า ตนเสียใจที่บุตรชายไม่ดูเรื่องอะไรให้ละเอียดละออ เป็นเหยื่อข้อมูลง่ายๆ แล้วด่วนสรุปไป ที่สำคัญกว่าคือเขาไม่เข้าใจว่าเรื่องนี้มันคือเรื่องของจริยธรรม การที่คนที่ถูกศาลตัดสินจำคุก ในความผิดที่เป็นเรื่องจริยธรรม ไม่ควรจะปล่อยให้ลอยหน้าลอยตาอยู่ในทีวีต่อไป เพราะถ้าคนที่บกพร่องทางจริยธรรมอยู่ในทีวีเป็นผู้นำความเห็นได้ ประชาชนกับเด็กรุ่นใหม่เขาจะคิดยังไง เขาก็จะคิดว่าผิดก็ไม่เป็นไรหรอก ประเทศมันก็อยู่ไม่ได้ ตนว่าบุตรชายก็คิดตื้นไปหน่อย ศาลตัดสินครั้งนี้เขาไม่ได้ชุ่ย เขามีหลักฐานชัดว่ามีการเอาเงินไปติดสินบน แต่ที่สำคัญที่สุดคือไม่เข้าใจเขาว่าสื่อมวลชนมันต้องมีตัวอย่างของจริยธรรม มันแย่ไปหมด
       
       "คือผมก็ว่าเขาไปแล้วก็ดูเงียบไปแต่ไม่รู้ว่าจะรู้สึกแค่ไหนเพราะว่าก็อายุ 40 แล้ว ผมก็สอนมันตั้งแต่เด็ก พยายามเต็มที่ จริงๆ แล้วก็เป็นอุทาหรณ์น่ะ ส่งลูกไปเรียนเมืองนอกทางตะวันตกเร็วไป ตั้งแต่ 12 ขวบ ซึ่งเป็นช่วงกำลังซึมซับทัศนคติแบบที่นั่น ซึ่งผมรู้สึกว่าทางตะวันตกแบบปัจจุบันเขาให้คุณค่าเรื่องจริยธรรมน้อยลงไปกว่าสมัยก่อน และไม่หนักแน่นเหมือนในเมืองไทย นี่ก็จะพยายามตามแก้เท่าที่แก้ได้ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว " ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว
       
       เมื่อถามว่า ที่บอกว่าเป็นเหยื่อข้อมูล เป็นข้อมูลของใคร ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ระบุว่า ไม่รู้ เขาชอบได้ข้อมูลมา บางทีเขาก็เอาข้อมูลอันโน้นอันนี้มาอวดตน ตนก็บอกเฮ้ยมันไม่ใช่อย่างที่คิดนะ ทีนี้เขาก็ไม่ได้อวด ไปโพสต์เลย เขาเป็นคนที่เห็นข้อมูลเขาก็คิด เขาคิดเก่ง แต่ก็เป็นเหยื่อไง คนหยอดข้อมูลอะไรก็คิดแล้วด่วนสรุปเลย อันนี้เป็นข้อเสีย อย่างนึงก็คือเขาไม่เคยบวชเลยยังไม่เข้าใจคำว่าอุเบกขา คือการวางเฉยในเรื่องที่มันไม่มีทางเกี่ยวกับตัวเองเลย แล้วก็ยังรู้ไม่มากพอ การเข้าไปยุ่งมันก็เสียไปหมด คนที่เรียนตะวันตกคงจะเก่งเรื่องไอคิว แต่เรื่องอีคิวมันต้องเรียนทางธรรมะด้วย เสียดายนะที่เขาไม่ได้บวชเรียน ตนไม่ได้ด่าลูก แต่พูดข้อเท็จจริง
       
       ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวอีกว่า ตนก็บอกเขาให้คิดให้ดี มีอะไรก็แก้ตัว ขอโทษเขาไป ขอโทษประชาชนก็ยังได้ แต่เขาจะทำหรือไม่ตนไม่รู้ ตนก็เตือนเขาแล้ว ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรหากมีคนไปฟ้องว่าละเมิดศาล แต่ก็หวังว่าผู้ใหญ่เขาคงไม่ถึงขนาดนั้น


      

ดูหนอ  ความรักที่พ่อมีต่อลูก   ไม่ว่าลูกจะอายุแค่ไหน  พ่อยังห่วงใยเสมอ...ซาบซึ้ง ๆ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 25
ถ้าคุณดูข่าวมากๆ คุณจะรู้ว่า ปลื้ม มันชอบเเสดงความคิดเห้นที่ผิดพลาดเเละเอนเอียงเสมอ จึงเป็นความกดดันภายในใจของพ่อมานานคับ ไม่มีใครอยากมาพูดว่าลูกออกสื่อหรอกคับ ถ้ามันไม่สุดๆจริงๆ "เเละถ้าคุณมองวิเคราะห์เจอะไปให้ลึกวึ้งขึ้น จะเห็นว่า.. "การที่พ่อออกมาตำหนิลูกออกสื่อ ก็เพื่อลดเเรงเสียดทานจากผู้มีอำนาจที่จะเล่นงาน ไอ้ปลื้ม เช่น ปปช.ที่มันไปด่าเขา การออกมาตำหนิของพ่อ เปรียบเสมือนการช่วยให้ความผิดดุหน้าเห็นใจขึ้นครับ.  "สุดท้ายฝากถึงพวกที่เอะอะก้ก็ด่า ก็ด่า.. พวกคุณเหมือนพวกเก็บกดในชีวิตจริง เเล้วมาระบายกับโซเชี่ยว เช่นคอมเม้นด่าในเฟส หรือในพันทิป พวกคุณรู้จักนิ่งเฉย หรือ "อุเบกขา" กันบ้างเถอะคับ อย่างที่หม่อมอุ๋ยพูด.. "บางเรื่อง เราไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลย.. เเต่กระโดดลงไปยุ่งเรื่องของคนอื่นเขา ด่าเขา วิจารณ์เขา เพื่ออะไรคับ.. "ผมถาม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่