คำถามที่รอคำตอบ 'โรดแมป' คลื่นความถี่ ถึงเวลาที่ไทยต้องมีหรือยัง?!

กระทู้ข่าว

'โรดแมป'คลื่นความถี่ ถึงเวลาที่ไทยต้องมีหรือยัง?!
มติชน ฉบับวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2559
โดย : ไพรัตน์ พงศ์พานิชย์



          อันที่จริง สิ่งที่ผมนำมาแลกเปลี่ยนในสัปดาห์นี้จะว่าเป็นประเด็นสืบเนื่องจากคำให้สัมภาษณ์ของ คุณประเทศ ตันกุรานันท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มเทคโนโลยี บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ "ดีแทค" ที่เผยแพร่ไปสัปดาห์ที่แล้วก็เห็นจะไม่ผิดนัก โดยเฉพาะเมื่อเกิดคำถามสำคัญขึ้นมาในแง่ของผู้บริโภคว่า เมื่อธุรกิจผู้ให้บริการหรือ โอเปอเรเตอร์มือถือทั้งหลาย ลงทุนกันหนัก แข่งกันดุเดือด ในปีนี้หรืออาจจะรวมไปถึงปีหน้าแล้ว ผู้บริโภคจะได้อะไร?

          ในความเห็นส่วนตัว ผมเชื่อว่าสภาวะการแข่งขันดังกล่าว ที่อาจลงเอยด้วยการ "เปลี่ยนตำแหน่ง" แชมป์ หรือรองแชมป์ ผู้ให้บริการในประเทศไทยก็เป็นไปได้นั้น ส่งผลดีต่อผู้บริโภคอย่างเราๆ ท่านๆ แน่นอน ด้วยเหตุผลที่ว่า โอเปอเรเตอร์ ไม่เพียงแข่งขันกันลงทุนพัฒนาโครงข่ายของตัวเองให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ให้เร็วที่สุดเท่านั้น ในเวลาเดียวกันก็ต้องดึงดูดผู้ใช้บริการเข้ามาหาค่ายตัวเองให้มากที่สุด ด้วยบริการ ที่ดีที่สุดและราคาที่ดีที่สุดเท่าที่สามารถจะทำได้

          ตลาดจึงเป็นของ "ผู้บริโภค" มากกว่าเป็นของ "ผู้ให้บริการ" อย่างน้อยที่สุดก็ใน "ระยะสั้น" ละครับ
          ในระยะยาวก็ขึ้นอยู่กับ "กลยุทธ์" ของแต่ละค่ายว่าจะทำอย่างไร ด้วยวิธีการไหน เพื่อดึงเอารายได้กลับมาทำ "กำไร" ให้กับบริษัท โดยไม่กระทบถึง "จำนวนผู้ใช้บริการ" ของตนค่ายสมาร์ทโฟนจำเป็นต้องละเอียดกับกลยุทธ์ด้านการตลาดเหล่านี้ไม่น้อย เพราะธุรกิจมือถือทุกวันนี้ไม่ได้เป็นเหมือนยุคสัมปทานอีกต่อไป แต่เป็นยุคที่นักการตลาดเรียกว่า "ซีโรซัมเกม" นั่นคือ ทุกครั้งที่ค่ายหนึ่งมีลูกค้าเพิ่มขึ้น 10 คน จะต้องมีค่ายมือถืออื่นๆ ซึ่งอาจเป็นค่ายไหนก็ได้ เสียลูกค้าไป 10 คน

          เหตุผลที่เป็นอย่างนั้นเพราะ ทุกวันนี้จำนวน "ซิม" มือถือที่เปิดใช้งานอยู่ (และเสียค่าบริการอยู่) มีปริมาณมากกว่าจำนวนประชากรของประเทศไปแล้ว

          นั่นหมายถึง ผู้ให้บริการไม่สามารถจะสร้างรายได้เพิ่มโดยการขยายฐานผู้ใช้ได้อีกต่อไป แต่ต้องสร้างรายได้เพิ่มจากการ "ช่วงชิง" ผู้ใช้บริการของรายอื่นๆ ให้เลือกใช้บริการของตนเองแทน

          ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ทำให้โอเปอเรเตอร์ระมัด ระวังในการขึ้นค่าบริการของตนก็จริง แต่ผมเชื่อเหมือนกันว่า ลงเอยแล้วผู้ให้บริการก็จะคิดวิธีการออกจนได้ เหตุผลสั้นๆ ง่ายๆ ก็คือ เพราะผู้ให้ บริการไม่ได้เป็น "องค์กรการกุศล" แต่เป็นธุรกิจที่ยังไงๆ ก็ต้องทำกำไรครับ

          นั่นนำไปสู่คำถามที่ว่า ถ้าเช่นนั้น การประมูลใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ที่ผ่านมาที่ถือกันว่า "ประสบความสำเร็จ" เพราะทำราคาได้สูงเกินกว่าที่ทุกฝ่ายคาดกันไว้ แม้แต่ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ยังยอมรับว่าสูงเกินกว่าที่คิดไว้นั้น เป็นความสำเร็จจริงหรือ?

          หรือเป็นความสำเร็จของ กสทช.กับรัฐบาล (ที่ได้เงินมาก) แต่เป็นความ "ไม่สำเร็จ" ของผู้บริโภค ที่ในที่สุดแล้วต้องใช้บริการราคาแพงขึ้น? เพราะต้นทุนของผู้ให้บริการแพงขึ้น

          เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน มีหลายด้านหลายมุมมากครับ ตัวอย่างเช่น ถ้าไม่ใช้วิธีแบบที่ผ่านมา จะใช้วิธีไหนถึงดีที่สุด? ซึ่งหาคำตอบได้ยากไม่ใช่น้อย กสทช.เองก็คิดเรื่องนี้มามากไม่ใช่เล่น เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้

          แต่ยังไงก็ต้องคิดต่อละครับว่า ทำยังไงถึงไม่ให้ผู้บริโภคตกเป็นลูกไล่ถ่ายเดียวในที่สุด
          ประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องประมูลคลื่นความถี่ยังไม่จบอยู่แค่เรื่องนั้น แต่ยังมีอีกเรื่องที่เห็นกันอยู่ว่าก่อให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน นั่นคือความกังวลต่อปรากฏการณ์ "ซิมดับ"

          ปรากฏการณ์ "ซิมดับ" เพราะคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ เปลี่ยนมือจากผู้ให้บริการรายหนึ่งไปอยู่กับผู้ให้บริการอีก 2 ราย ที่จำเป็นต้องใช้เวลาในการพัฒนาโครงข่ายเพื่อการนี้ เพื่อป้องกันปัญหานี้ ผู้ให้บริการจำเป็นต้องลงทุนเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ของตน "เปลี่ยนค่าย" ด้วยวิธีการนานาเพื่อเปลี่ยนผู้ใช้บริการที่ยังคงเป็น 2จี อยู่ เปลี่ยนมาเป็น 3จี หรือ 4จี ที่โครงการของตนเองรองรับ ก็วุ่นวายอยู่ไม่ใช่น้อยเพราะระยะเวลาสั้น และโอกาสที่ผู้ใช้จะ "ซิมดับ" เพราะไม่รู้เรื่องความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก็มีมากไม่น้อย

          ทางแก้ไขที่ง่ายที่สุดแต่ไม่ได้ทำกันก็คือ กสทช. ควรเปิดประมูลคลื่นความถี่กันตั้งแต่ก่อนหมดอายุอย่างน้อย 1 ปี เพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการปรับตัวได้ทัน ไม่ใช่ประมูลเสร็จปุ๊บเหลือเวลาเพียงสั้นๆ ให้ปรับตัวเหมือนที่เป็นกันอยู่ในเวลานี้

          ทั้งหลายทั้งปวงนี้ นำไปสู่คำถามสำคัญอีกคำถามสำหรับ กสทช.ในอนาคตครับ
          นั่นคือ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เมืองไทยจำเป็นต้องมี "โรดแมป" คลื่นความถี่ที่เปิดเผย โปร่งใส และเป็นที่รับรู้ทั่วกัน?

แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2559 (หน้า 26)
ภาพประกอบจาก http://mcr.doingbusiness.ro/uploads/55e564816a0f7curierat_crestere.png
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่