ก็นะครับ เป็นเรื่องราวของคนใกล้ตัวผม โดยเค้าคนนี้เป็นเพื่อนกับผมมาตั้งแต่สมัยเรียนอนุบาล ซึ่งตอนนี้ก้ยังคงอยู่ด้วย กัน ครับ ตามหัวเรื่องเลยครับ คุณคิดไม่ผิด เค้าไม่แมนครับ เรียกง่ายๆก้เค้าเป็นตุ๊ด ผมขอใช้นามสมมติว่า เอมมี่ ละกันนะครับอยากให้เค้าดูเป็นผู้หญิง ขอเรียกสั้นๆว่าเอมละกันนะครับ

เรื่องราวมีอยู่ว่า เค้าได้แอบชอบเพื่อนสนิทของผมคนนึง ผมของผม ผมขอใช้นามสมมติว่า โจ้ ละกันนะครับ เอมก้เหมือนตุ๊ดปกติ ตลกโปกฮา ขี้มโนตามประสานั่นแหละครับ แต่เค้าค่อนข้างเป็นตุ๊ดเกรดพรีเมี่ยมครับ ดูดีมีระดับ แต่บางทีก็เลือกรองพื้นผิดเบอร์ เทาเทา แบบฉบับตุ๊ดนั่นแหละ แล้วโจ้มันก้เป็นคนที่แบบ อยู่ขาวขาว ตาตี่ๆ ตามแบบฉบับตำราหนุ่มตี๋ เลยครับ โจ้เป็นคนเชียงราย เค้าจึงขาวมากก แบบออร่า คงพอจินตนาการออกสินะครับ ใช่แล้ว เอมมี่ได้แอบชอบโจ้ คงไม่ใช่รักแรกพบตามประสาตุ๊ดซี่ขี้มโน คนนู้นสามีฉั้น คนนั้นของฉั้นตามประสานั้นแหละครับ แล้วคือแบบ ด้วยความที่ห้องเรียนของผมนั้นเปนโครงการสามภาษา และมีสมาชิกอันน้อยนิดเพียง 19 คนเท่านั้น เมื่อเทียบกับห้องเพื่อนๆ แผนการเรียนอื่นที่มีประชากรถึงห้องละ 40-45 คน นั้นจึงส่งผลให้ห้องของผมนั้นมีความสนิทสนมกันทั้งหมด ซึ่งเอมเค้าก็มีความสนิทสนมกับโจ้อยู่ในระดับนึงเลยทีเดียว สนิทกันที่แบบ ไปรับไปส่งกัน เวลาซ้อนมอเตอไซค์ เค้าก้เนียนๆแอบกอด เเอบเกาะ เอมเค้าก้แบบ มีงานอะไรเค้าก้ช่วยงานโจ้ตลอดเลย ถึงขั้นที่แบบ งานโปรเจคจบ เขียน essay ทั้งหน้ากระดาษรายงาน เค้าทำให้โจ้ทุกงานเลยแหละครับ (คหสต หลายคนอาจะคิดว่าเออ essay มันก้เเค่เรียงความจะยากอะไร ใช่ครับถ้าภาษาไทยมันก็ไม่ยากหรอก แต่คือพอมาเป็นภาษาอังกฤษ เป็นโปรเจคจบ มันไม่น้อยนะครับ ทั้งยังต้องถูกต้องตามหลักไวยากรณ์)  แล้วเอมก็เป็นคนที่ค่อนข้างเก่งด้านภาษามาก พอสมควรเลยครับ , เค้าเคยไปค้างบ้านโจ้ด้วยแหละ OMG แต่โจ้ก็ไม่เคยว่าอะไรนะครับประสาผู้ชาย เอมเค้าเป็นคนที่ค่อนข้างคลั่งไคล้ในประเทศสิงคโปร์ และท่านผู้นำ ลีกวนยู มากๆ จนอยู่มาวันนึง เค้าได้เกิดมีปากเสียงกันรุนแรงด้วยความรำคาญรุนแรงถึงขั้นไม่พูดกัน  โจ้มันก็อยู่เฮลท์ๆ แมนๆเตะบอล มันเปนคนที่ค่อนข้างหงุดหงิดง่าย ก็ครับ เค้าทะเลาะกัน เพราะเอมพูดมาก มันก็มากจริงๆนั่นแหละครับ แต่เอมแบบ ปากแข็ง ไม่บอกเพื่อนซ้ากคำ คือในแกงค์ชะนี พวกนางก้เมาท์กันตามประสา แต่คือเอมนางใจเเข็งมาก ปกปิดมาได้อย่างแนบเนียนมาโดยตลอด จนมาเมื่อสองวันที่แล้ว โจ้ ล้มรถครับ หมาตัดหน้าตอนเข้าโค้ง โจ้ได้รับอาการบาดเจ็บบริเวณศรีษะนิดน่อยสะโพก ที่หน้าบริเวณคิ้วและใต้ดวงตาข้างซ้าย โจ้ไม่ได้มาสังสรรค์กับเพื่อน จนเอมสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นผมก็ได้เล่าไปถึงแม้ว่าทั้งสองจะทะเลาะกันอยู่ แต่ด้วยความรัก ความเป็นห่วง ความรู้สึกดีดีต่างๆนานา ที่เอมไม่สามารถเปิดเผยออกมา และได้ปกปิดมันมาโดยตลอด เค้ารีบให้แม่มาส่งที่บ้านผม เพื่อให้ผมพาเค้าไปเยี่ยม คือผมอยากจะบอกว่า บ้านเอมนั้นไกลมากจริงๆครับ คร่าวๆก้ร่วม 20 กิโลได้แหละครับ แต่ก็ยังดั้นด้นมาถึงบ้านผมได้ ซึ่งผมต้องขับพาเค้าไปบ้านโจ้ซึ่งไกลเข้าไปอีกครับ เค้าได้แวะซื้อนม ขนม ไปเยี่ยมโจ้ ทั้งๆที่แบบ ไอเหี้*เอ้ย มันไม่ได้เจ็บหนัก แค่ถลอกและปวดหัวจากแรงกระแทก เพราะตอนเกิดเหตุโจ้ได้กระเด็นข้ามเกาะกลางมานอนอยู่อีกเลนนึง แต่ทำไงได้ละครับ คนมันเป็นห่วงนี่นา มันก็รักของมัน ผมก็เลยไม่อยากขัดอะไร ซึ่งผมก้พาเอม ไปเยี่ยมโจ้ถึงบ้าน ซึ่งโจ้ก้ดีใจที่เหนเอมมาเยี่ยม แม้ว่าตอนแรกเค้าสองคนจะโกรธและไม่คุยกัน แต่โจ้ก็รู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจและกอดเปนการขอบคุณสำหรับน้ำใจในครั้งนี้ของเพื่อนคนนึงในสายตาโจ้ ซึ่งเพื่อนที่ได้ตามมาทีหลังได้มาเห็นเข้า ในจังหวะที่เอมดีใจระริกระรี้ตอนที่ส่งของเยี่ยมให้โจ้ ใช่แล้วครับ แกงค์ชะนี ได้ทราบข่าวและเปิดประเด็นกันอย่างได้อรรถรส จนเกิดความสงสัยและได้ถามกับเอมตรงๆซึ่งทำให้เอมเกิดความอับอาย เป็นอย่างมาก และรู้สึกอึดอัด ในเรื่องที่ได้ปิดบัง และยังพยายาม ปฎิเสธมาตลอด แล้วผมรู้สึกสงสารเพื่อนผมมากเลยครับ แล้วโจ้ก็เป็นเพื่อนสนิทกับผม ผมไม่รู้จะทำยังไง จากความสัมพันธ์อันใกล้ชิดของเค้าทั้งสองจากคนที่เคยซบไหล่ กอดไปตอนซ้อนรถ วันนี้เค้าทะเลาะกัน เค้ากลัวโจ้จะรู้ความจริง ผมก็อยากจะขอคำปรึกษาจากเพื่อนๆว่าผมจะช่วยพวกเค้ายังไง และเอมมี่ผิดไหมที่แอบคิดไปไกลจากความใกล้ชิด
แล้ว ถ้าคุณรู้อยู่แล้วว่าไม่ว่ายังไงรักครั้งนี้มันก็เป็นไปไม่ได้ คุณจะยังรักเค้าต่อไปรึเปล่าาาาา ?

หากว่ามีข้อผิดพลาด หรือ พิมพ์ผิดในคำใดใด ผมก็ขอกราบขออภัย มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
ขอบคุณมากฮ่ะ

ปล. หากมีผู้สนใจอยากติดตาม ผมจะเข้ามาเล่าเหตุการณ์ yy หยิบย่อยอื่นๆ อีก ให้ทุกคนได้ติดตามความฟินของเอมต่อนะครับ