สวัสดีครับ ด้วยวันนี้ เมื่อหัวค่ำหลายคนคงได้ยินข่าวการเกิดแผ่นดินไหวในบริเวณสุมาตราที่ขนาด 7.8 หรือ 7.9 ตามแต่มาตรา
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจขึ้น คือ คนไทยสามารถเข้าถึงข้อมูลการเกิดแผ่นดินไหวได้ง่าย การทำงานของหน่วยงานราชการถือว่าบรรลุเป้าหมายได้อย่างน่าชมเชย รวมถึงความตื่นตัวของประชาชนเองก็น่าชื่นชมเช่นกัน
คือปกติบ้านเราแผ่นดินไหวน้อย คนก็จะตื่นตัวกับการเกิดแผ่นดินไหวน้อย วันนี้เลยอยากจะใช้โอกาสที่คนกำลังตื่นตัว ในการอธิบายถึง เรื่องราวของแผ่นดินไหวและสึนามิ รวมถึงข้อมูลเบื้องต้น ที่น่าจะเป็นประโยชน์ครับ บางเรื่อง หลายคนอาจคงรู้หรือเรียนไปแล้ว แต่อาจลืม ส่วนตัวผมก็เป็นเหมือนกัน ที่เรื่องที่อ่านจากพันทิพย์ มักจะจำได้แม่นกว่าตอนที่มันอยู่ในหนังสือเรียน ตึ่งโป๊ะ!
ข้อมูลบางอย่างหลายคนคงรู้อยู่แล้วนะครับ ผมพิมพ์เผื่อคนที่ยังไม่ทราบแล้วกันนะครับ
1. ความรวดเร็วในการเตือนภัยแผ่นดินไหว/สึนามิ
แผ่นดินไหวครั้งนี้ เกิด ณ เวลา 19:49:48 ตามเวลาท้องถิ่น สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนอย่างเป็นทางการที่เวลา 20.04 น. ณ จุดนี้ คำนวณคร่าวคือใช้เวลา ประมาณ 10-20 นาทีหลังเกิดแผ่นดินไหว เนื่องจากผมไม่ได้ดูโทรทัศน์ เลยไม่แน่ใจว่าออกข่าวกันที่เวลาประมาณกี่โมง
ประมาณคร่าวๆว่าระยะห่างจากจุดศูนย์กลาง คือ 1500 กิโลเมตร คลื่นสึนามิเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเฉลี่ยประมาณ 900 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (คลื่นในน้ำ ความเร็วขึ้นอยู่กับความลึกของระดับน้ำ หลายคนคงพอจำได้) ดังนั้น เรามีเวลามากกว่า 1 ชั่วโมง ในการหนีจากมัน ดังนั้น การที่กรมอุติสามารถเตือนภัยได้ในเวลาไม่กี่สิบนาทีนี้ถือว่าเพียงพอต่อการหนีสึนามิ และน่าชมเชย (ผมไม่ใช่หน้าม้านะ!) แต่กระนั้นถ้าสึนามิเกิดในตำแหน่งอื่นที่ใกล้ไทยมากกว่านี้ เวลาก็จะลดลงเช่นกัน ควรพิจารณาเป็นกรณีๆ
2. ปัจจัยความเสี่ยงสึนามิ ระยะห่าง ขนาด และ ลักษณะของแผ่นดินไหว
แผ่นดินไหววันนี้เกิด ที่ตำแหน่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของหมู่เกาะสุมาตรา ห่างจากประเทศไทยพอสมควร แต่ระยะห่างไม่ใช่ตัวชี้วัดเดียวของความเสี่ยงภัยจากการเกิดสึนิมิ เพราะถ้าสึนามิเกิดขึ้นจริง คลื่นสึนามิมีคุณสมบัติพิเศษ คือ ขนาดของแอมพลิจูดจะลดลงน้อยมากเมื่อเดินทางในตัวกลาง เช่น สึนามิตอนปี 2004 คลื่นเดินทางไปสร้างความเสียหายได้ไกลถึงฝั่งแอฟริกาหลายคนยังพอจำได้ (อย่างไรก็ตามขนาดแผ่นดินไหวตอนนั้นใหญ่กว่าครั้งนี้มาก) หรือ ครั้งปี 1960 ที่เกิดแผ่นดินไหวที่ ชิลี แต่ขนาดใหญ่มาก 9.5 เกิดสึนามิมาถึงที่ญี่ปุ่น ที่ระยะทางกว่า 16,800 km ซึ่งเราเรียกสึนามิแบบนี้ว่า Teletsunami [
https://en.wikipedia.org/wiki/Teletsunami] ดังนั้น นอกจากระยะห่าง คงต้องดู “ขนาด” ควบคู่ไปด้วย ซึ่งแผ่นดินไหววันนี้มีขนาด 7.8 Mw โอกาสในการเกิด teletsunami ก็ลดน้อยลงไปด้วย แต่ประเทศไทยเราก็ไม่ได้ห่างจากจุดศูนย์กลางถึงหลักหมื่นกิโลเมตร ด้วยระยะห่างเพียงหลักพันกิโลเมตร เราสมเหตุสมผลแล้วที่จะเฝ้าระวังแผ่นดินไหวครั้งนี้เป็นพิเศษ
นอกไปจากนี้สิ่งที่เราต้องพิจารณาเพิ่มและเป็นตัวแปรสำคัญของการเกิดสึนามิ คือ ลักษณะการเคลื่อนตัวของพื้นดิน/รอยเลื่อนขณะเกิดแผ่นดินไหวด้วย
โดยพื้นฐานเราสามารถจำแนกการเกิดแผ่นดินไหวว่าเกิดจากการเคลื่อนตัวของรอยเลื่อน 3 ประเภทหลัก คือ
1. การเคลื่อนตัวแบบแยก (Normal slip)
2. การเคลื่อนตัวแบบย้อน (Reverse slip)
3. การเคลื่อนตัวแบบระนาบ (strike-slip)
หรือสามารถดูแบบอนิเมชั่นได้ตามลิ้งด้านล่าง
http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/earth-science/link2map.html
หมายเหตุ: ผมเลือก link นี้เพราะ search google ว่า ประเภทของรอยเลื่อน แล้วเจอเป็นเว็บแรกนะครับ + มีภาพเคลื่อนไหวอธิบายได้ง่าย ผมไม่ใช่หน้าม้าอีกนั่นแหละ
ถ้าเราสามารถทราบประเภทการเคลื่อนตัวของแผ่นดินไหวได้ เราก็พอจะประเมินความเสี่ยงของการเกิดแผ่นดินไหวได้ โดยทั่วไป แผ่นดินไหวประเภทที่เกิดจากการเคลื่อนตัวแนวระนาบนั้นจะมีโอกาสเกิดสินามิได้น้อย ลองพิจารณาว่าถ้ารอยเลื่อนเคลื่อนตัวแบบในภาพใต้น้ำ มันไม่ได้ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงความดันและความสูงของคลื่น บริเวณเหนือแผ่นดินไหวนัก ตรงกันข้าม ถ้าเป็นแบบ ย้อน หรือ แบบแยก จะเกิดการเปลี่ยนแปลงความดัน และ ระดับของน้ำทะเลเหนือจุดศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหว ทำให้เกิดคลื่นสึนามินั่นเอง
ด้วยเหตุนี้นักวิทยาศาสตร์จึงใช้ รูปง่ายๆ เพื่อใช้ในการบอกลักษณะการเคลื่อนตัวของจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว (Focal mechanism) ในรูปแบบของ Beachball diagram ดังนี้
มี วิดีโอ ของต่างประเทศอธิบายเรื่อง Beach ball diagram
https://www.youtube.com/watch?v=MomVOkyDdLo
ส่วนประเด็นที่สำคัญคือ แล้วเราจะรู้เรื่องลักษณะของแผ่นดินไหวได้อย่างไร ทั้งนี้คงต้องพึ่งองค์กรณ์นานาชาติ หรือต่างชาติในการคำนวณลักษณะของแผ่นดินไหวแต่ละเหตุการณ์
โดย หน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือ และรวดเร็ว คือ USGS ของอเมริกา
http://earthquake.usgs.gov/
โดยเข้าไปเลือกแผ่นดินไหวที่มีการตรวจพบ เช่นเข้าไปที่ของเหตุการณ์ในวันนี้ แล้วเลือกที่ แถบด้านซ้ายมือ “Scientific”
[
http://earthquake.usgs.gov/earthquakes/eventpage/us10004u1y#scientific_summary
ลิ้งด้านบน คือ แผ่นดินไหววันนี้ จะเห็นได้ว่า มี beach ball เป็นแบบ strike-slip ดังนั้นปลอดภัยจากการเกิดสึนามิขนาดใหญ่
]
ก็จะได้เห็นรูป Beachball ที่ได้จากการคำนวณโดยสถานีวัดแผ่นดินไหวทั่วโลก ซึ่งอาจต้องช่วงเวลาหนึ่งหลังจากเกิดแผ่นดินไหวถึงจะมีการคำนวณเสร็จ ถึงตรงนี้ ถ้าเราสามารถตรวจสอบลักษณะแผ่นดินไหวได้ ก็คงช่วยในการวิเคราะห์ความเสี่ยงจากแผ่นดินไหวได้บ้าง
ทั้งนี้ ผมไม่ได้จะบอกว่า ให้เช็คข้อมูลเหล่านี้ก่อนค่อยหนีหรือตื่นตัวทำอะไร ควรตื่นตัวและเตรียมตัว ติดตามข่าวก่อน การเช็คเรื่องข้อมูลอื่นเพิ่มเติมควรทำหลังจากที่อยู่สถานะที่คิดว่าปลอดภัย เป็นการเฝ้าระวังแบบ active คือเข้าหาข้อมูล มิใช้แค่รอคอยข้อมูล (passive)
หลังจากเกิดแผ่นดินไหวและมีการเตือน เราควรประมาณได้ว่า เรามีเวลาเท่าไหร่ถ้ามีสึนามิเกิดขึ้น จนมันเดินทางมาถึงเรา และ ควรเฝ้าระวังต่อเนื่องจนได้รับการยืนยันว่าปลอดภัย หรือถ้าคุณเป็นคนในพื้นที่ ที่กังวลจริงๆ (ไม่เชื่อหน่วยงานต่างๆ) อย่างน้อยก็พอประมาณได้ว่า พ้นช่วงเวลาเท่าไรไปแล้ว ยังไม่มีคลื่นมา หมายความว่าเราปลอดภัยจริงๆ นอนได้
3. Website ที่เป็นประโยชน์
3.1 สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว
http://www.seismology.tmd.go.th/home.html
สามารถ อัพเดท ข้อมูลได้โดยตรงจากที่นี่ เพราะมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงๆ น่าจะไวกว่า รอสื่อหรือหน่วยงานอื่นรับรอง ทั้งนี้ ถ้าคุณรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว(ครั้งไหนก็ตาม) สามารถรายงายการสั่นสะเทือนในบริเวณของคุณที่นี่ได้ด้วย โดยข้อมูลจะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาเรื่องผลกระทบของแผ่นดินไหว ซึ่งอาจเกิดจากตัวแผ่นดินไหวโดยตรง หรือ จากโครงสร้างพื้นดินในบริเวณที่คุณอยู่ [
http://www.seismology.tmd.go.th/inform.html]
3.2 ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ
http://www.ndwc.go.th/web/index.php
3.3 USGS
http://earthquake.usgs.gov/
ว่าจะพิมพ์สั้นๆ ไปๆมาๆชักเยอะ ขอจบ ไปนอนห้วนๆตรงนี้เลยแล้วกันครับ ราตรีสวัส
References
http://link.springer.com/referenceworkentry/10.1007%2F978-90-481-8702-7_158
ขอบคุณ website Geothai และ earth science mahidol ด้วยครับ ผมจิ๊กภาพและลิ้งค์มาใช้เลย คงไม่ว่ากันเด้อจ้า
แผ่นดินไหวและการเตือนภัยสึนามิ ข้อมูลเบื้องต้นที่ควรรู้[มั้ง]
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจขึ้น คือ คนไทยสามารถเข้าถึงข้อมูลการเกิดแผ่นดินไหวได้ง่าย การทำงานของหน่วยงานราชการถือว่าบรรลุเป้าหมายได้อย่างน่าชมเชย รวมถึงความตื่นตัวของประชาชนเองก็น่าชื่นชมเช่นกัน
คือปกติบ้านเราแผ่นดินไหวน้อย คนก็จะตื่นตัวกับการเกิดแผ่นดินไหวน้อย วันนี้เลยอยากจะใช้โอกาสที่คนกำลังตื่นตัว ในการอธิบายถึง เรื่องราวของแผ่นดินไหวและสึนามิ รวมถึงข้อมูลเบื้องต้น ที่น่าจะเป็นประโยชน์ครับ บางเรื่อง หลายคนอาจคงรู้หรือเรียนไปแล้ว แต่อาจลืม ส่วนตัวผมก็เป็นเหมือนกัน ที่เรื่องที่อ่านจากพันทิพย์ มักจะจำได้แม่นกว่าตอนที่มันอยู่ในหนังสือเรียน ตึ่งโป๊ะ!
ข้อมูลบางอย่างหลายคนคงรู้อยู่แล้วนะครับ ผมพิมพ์เผื่อคนที่ยังไม่ทราบแล้วกันนะครับ
1. ความรวดเร็วในการเตือนภัยแผ่นดินไหว/สึนามิ
แผ่นดินไหวครั้งนี้ เกิด ณ เวลา 19:49:48 ตามเวลาท้องถิ่น สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนอย่างเป็นทางการที่เวลา 20.04 น. ณ จุดนี้ คำนวณคร่าวคือใช้เวลา ประมาณ 10-20 นาทีหลังเกิดแผ่นดินไหว เนื่องจากผมไม่ได้ดูโทรทัศน์ เลยไม่แน่ใจว่าออกข่าวกันที่เวลาประมาณกี่โมง
ประมาณคร่าวๆว่าระยะห่างจากจุดศูนย์กลาง คือ 1500 กิโลเมตร คลื่นสึนามิเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเฉลี่ยประมาณ 900 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (คลื่นในน้ำ ความเร็วขึ้นอยู่กับความลึกของระดับน้ำ หลายคนคงพอจำได้) ดังนั้น เรามีเวลามากกว่า 1 ชั่วโมง ในการหนีจากมัน ดังนั้น การที่กรมอุติสามารถเตือนภัยได้ในเวลาไม่กี่สิบนาทีนี้ถือว่าเพียงพอต่อการหนีสึนามิ และน่าชมเชย (ผมไม่ใช่หน้าม้านะ!) แต่กระนั้นถ้าสึนามิเกิดในตำแหน่งอื่นที่ใกล้ไทยมากกว่านี้ เวลาก็จะลดลงเช่นกัน ควรพิจารณาเป็นกรณีๆ
2. ปัจจัยความเสี่ยงสึนามิ ระยะห่าง ขนาด และ ลักษณะของแผ่นดินไหว
แผ่นดินไหววันนี้เกิด ที่ตำแหน่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของหมู่เกาะสุมาตรา ห่างจากประเทศไทยพอสมควร แต่ระยะห่างไม่ใช่ตัวชี้วัดเดียวของความเสี่ยงภัยจากการเกิดสึนิมิ เพราะถ้าสึนามิเกิดขึ้นจริง คลื่นสึนามิมีคุณสมบัติพิเศษ คือ ขนาดของแอมพลิจูดจะลดลงน้อยมากเมื่อเดินทางในตัวกลาง เช่น สึนามิตอนปี 2004 คลื่นเดินทางไปสร้างความเสียหายได้ไกลถึงฝั่งแอฟริกาหลายคนยังพอจำได้ (อย่างไรก็ตามขนาดแผ่นดินไหวตอนนั้นใหญ่กว่าครั้งนี้มาก) หรือ ครั้งปี 1960 ที่เกิดแผ่นดินไหวที่ ชิลี แต่ขนาดใหญ่มาก 9.5 เกิดสึนามิมาถึงที่ญี่ปุ่น ที่ระยะทางกว่า 16,800 km ซึ่งเราเรียกสึนามิแบบนี้ว่า Teletsunami [https://en.wikipedia.org/wiki/Teletsunami] ดังนั้น นอกจากระยะห่าง คงต้องดู “ขนาด” ควบคู่ไปด้วย ซึ่งแผ่นดินไหววันนี้มีขนาด 7.8 Mw โอกาสในการเกิด teletsunami ก็ลดน้อยลงไปด้วย แต่ประเทศไทยเราก็ไม่ได้ห่างจากจุดศูนย์กลางถึงหลักหมื่นกิโลเมตร ด้วยระยะห่างเพียงหลักพันกิโลเมตร เราสมเหตุสมผลแล้วที่จะเฝ้าระวังแผ่นดินไหวครั้งนี้เป็นพิเศษ
นอกไปจากนี้สิ่งที่เราต้องพิจารณาเพิ่มและเป็นตัวแปรสำคัญของการเกิดสึนามิ คือ ลักษณะการเคลื่อนตัวของพื้นดิน/รอยเลื่อนขณะเกิดแผ่นดินไหวด้วย
โดยพื้นฐานเราสามารถจำแนกการเกิดแผ่นดินไหวว่าเกิดจากการเคลื่อนตัวของรอยเลื่อน 3 ประเภทหลัก คือ
1. การเคลื่อนตัวแบบแยก (Normal slip)
2. การเคลื่อนตัวแบบย้อน (Reverse slip)
3. การเคลื่อนตัวแบบระนาบ (strike-slip)
หรือสามารถดูแบบอนิเมชั่นได้ตามลิ้งด้านล่าง
http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/earth-science/link2map.html
หมายเหตุ: ผมเลือก link นี้เพราะ search google ว่า ประเภทของรอยเลื่อน แล้วเจอเป็นเว็บแรกนะครับ + มีภาพเคลื่อนไหวอธิบายได้ง่าย ผมไม่ใช่หน้าม้าอีกนั่นแหละ
ถ้าเราสามารถทราบประเภทการเคลื่อนตัวของแผ่นดินไหวได้ เราก็พอจะประเมินความเสี่ยงของการเกิดแผ่นดินไหวได้ โดยทั่วไป แผ่นดินไหวประเภทที่เกิดจากการเคลื่อนตัวแนวระนาบนั้นจะมีโอกาสเกิดสินามิได้น้อย ลองพิจารณาว่าถ้ารอยเลื่อนเคลื่อนตัวแบบในภาพใต้น้ำ มันไม่ได้ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงความดันและความสูงของคลื่น บริเวณเหนือแผ่นดินไหวนัก ตรงกันข้าม ถ้าเป็นแบบ ย้อน หรือ แบบแยก จะเกิดการเปลี่ยนแปลงความดัน และ ระดับของน้ำทะเลเหนือจุดศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหว ทำให้เกิดคลื่นสึนามินั่นเอง
ด้วยเหตุนี้นักวิทยาศาสตร์จึงใช้ รูปง่ายๆ เพื่อใช้ในการบอกลักษณะการเคลื่อนตัวของจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว (Focal mechanism) ในรูปแบบของ Beachball diagram ดังนี้
มี วิดีโอ ของต่างประเทศอธิบายเรื่อง Beach ball diagram
https://www.youtube.com/watch?v=MomVOkyDdLo
ส่วนประเด็นที่สำคัญคือ แล้วเราจะรู้เรื่องลักษณะของแผ่นดินไหวได้อย่างไร ทั้งนี้คงต้องพึ่งองค์กรณ์นานาชาติ หรือต่างชาติในการคำนวณลักษณะของแผ่นดินไหวแต่ละเหตุการณ์
โดย หน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือ และรวดเร็ว คือ USGS ของอเมริกา
http://earthquake.usgs.gov/
โดยเข้าไปเลือกแผ่นดินไหวที่มีการตรวจพบ เช่นเข้าไปที่ของเหตุการณ์ในวันนี้ แล้วเลือกที่ แถบด้านซ้ายมือ “Scientific”
[
http://earthquake.usgs.gov/earthquakes/eventpage/us10004u1y#scientific_summary
ลิ้งด้านบน คือ แผ่นดินไหววันนี้ จะเห็นได้ว่า มี beach ball เป็นแบบ strike-slip ดังนั้นปลอดภัยจากการเกิดสึนามิขนาดใหญ่
]
ก็จะได้เห็นรูป Beachball ที่ได้จากการคำนวณโดยสถานีวัดแผ่นดินไหวทั่วโลก ซึ่งอาจต้องช่วงเวลาหนึ่งหลังจากเกิดแผ่นดินไหวถึงจะมีการคำนวณเสร็จ ถึงตรงนี้ ถ้าเราสามารถตรวจสอบลักษณะแผ่นดินไหวได้ ก็คงช่วยในการวิเคราะห์ความเสี่ยงจากแผ่นดินไหวได้บ้าง
ทั้งนี้ ผมไม่ได้จะบอกว่า ให้เช็คข้อมูลเหล่านี้ก่อนค่อยหนีหรือตื่นตัวทำอะไร ควรตื่นตัวและเตรียมตัว ติดตามข่าวก่อน การเช็คเรื่องข้อมูลอื่นเพิ่มเติมควรทำหลังจากที่อยู่สถานะที่คิดว่าปลอดภัย เป็นการเฝ้าระวังแบบ active คือเข้าหาข้อมูล มิใช้แค่รอคอยข้อมูล (passive)
หลังจากเกิดแผ่นดินไหวและมีการเตือน เราควรประมาณได้ว่า เรามีเวลาเท่าไหร่ถ้ามีสึนามิเกิดขึ้น จนมันเดินทางมาถึงเรา และ ควรเฝ้าระวังต่อเนื่องจนได้รับการยืนยันว่าปลอดภัย หรือถ้าคุณเป็นคนในพื้นที่ ที่กังวลจริงๆ (ไม่เชื่อหน่วยงานต่างๆ) อย่างน้อยก็พอประมาณได้ว่า พ้นช่วงเวลาเท่าไรไปแล้ว ยังไม่มีคลื่นมา หมายความว่าเราปลอดภัยจริงๆ นอนได้
3. Website ที่เป็นประโยชน์
3.1 สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว http://www.seismology.tmd.go.th/home.html
สามารถ อัพเดท ข้อมูลได้โดยตรงจากที่นี่ เพราะมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงๆ น่าจะไวกว่า รอสื่อหรือหน่วยงานอื่นรับรอง ทั้งนี้ ถ้าคุณรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว(ครั้งไหนก็ตาม) สามารถรายงายการสั่นสะเทือนในบริเวณของคุณที่นี่ได้ด้วย โดยข้อมูลจะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาเรื่องผลกระทบของแผ่นดินไหว ซึ่งอาจเกิดจากตัวแผ่นดินไหวโดยตรง หรือ จากโครงสร้างพื้นดินในบริเวณที่คุณอยู่ [http://www.seismology.tmd.go.th/inform.html]
3.2 ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ http://www.ndwc.go.th/web/index.php
3.3 USGS http://earthquake.usgs.gov/
ว่าจะพิมพ์สั้นๆ ไปๆมาๆชักเยอะ ขอจบ ไปนอนห้วนๆตรงนี้เลยแล้วกันครับ ราตรีสวัส
References
http://link.springer.com/referenceworkentry/10.1007%2F978-90-481-8702-7_158
ขอบคุณ website Geothai และ earth science mahidol ด้วยครับ ผมจิ๊กภาพและลิ้งค์มาใช้เลย คงไม่ว่ากันเด้อจ้า