[Spoil] EXEcutional - 276 # แผนการของ EXEcutioner

มาลงช้าไปวัน เพราะเมื่อวานไปตระเวนหาซื้อ C-KiDs แต่แถวบ้านผมไม่มีร้านไหนวางขายเลยสักร้าน(จนถึงวันนี้ร้านการ์ตูนเจ้าประจำยังไม่มีเลย) คราวหน้าสงสัยผมคงหาซื้อวันจันทร์ยากล่ะ


เปิดตอน ณ โลกจริงที่มหาลัยแห่งหนึ่ง มินต์และเพื่อนสาวสองคนกำลังบ่นด้วยความหิวเพราะเลิกเรียนช้า พอคุยกันว่าจะไปโรงอาหารดีไหมก็คิดว่าร้านที่อร่อยๆมีแค่สองร้าน เลยคิดว่าคงโดนคณะอื่นเหมากินไปหมดแล้ว จะกินร้านอื่นก็บอกเลยจะมีกำลังใจเรียนตอนบ่ายได้ไง ถึงเพื่อนอีกคนจะพูดก็เถอะว่าเห็นเรียนก็หลับทุกที ขณะที่เดินๆกันอยู่ จู่ๆก็มีมือลึกลับมามาจับผมของมินต์และลากมินต์เข้าไปที่ตรอกลับของตึก จนพอมินต์หันมาดูถึงรู้ว่าคนที่ลากเธอมาก็คือ วิศนะ

มินต์จำหน้าวิศนะได้ทันทีถึงจะพึ่งเคยเจอตัวจริงในโลกจริง เหตุผลที่วิศนะมาหามินต์เพราะมีเรื่องอยากให้บอกกานดา แต่มินต์ถามแล้วทำไมไม่ไปบอกกานดาเอาเอง วิศนะบอกเพราะมินต์คือคนเดียวในกลุ่มที่รู้ว่าเขาคือหน้ากากไฟเยอร์ที่เคยอยู่กลุ่มกานดา มินต์เลยถามต่อว่าถ้าวิศนะยังสนใจความเคลื่อนไหวของกานดาแล้วทำไมถึงออกจากกลุ่ม ทำไมถึงไม่มาดูน้องที่กำลังสู้รอบสุดท้ายล่ะ วิศนะบอกมีเรื่องสำคัญต้องทำ ทำเอามินต์หูผึ่งเริ่มอยากรู้ทันทีแต่วิศนะชิงบอกก่อนเลยว่าให้หยุดเลย ที่สำคัญคือเรื่องที่กำลังจะบอกเป็นเรื่องสำคัญและจะเป็นประโยชน์กับพวกกานดาและมินต์เอง ด้านเพื่อนของมินต์ก็เริ่มสังเกตว่ามินต์หายไปแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรนอกไปจากหลงทาง บอกเป็นแบบนี้ประจำ

วิศนะบอกถึงเรื่องของเพลทการ์เดี้ยนตัวสุดท้าย  โดยปกติพวก EXEcutioner จะสามารถผ่านเพลทการ์เดี้ยนในคลังแสงได้ง่ายๆเพราะถูกมองเป็นมอนสเตอร์เหมือนกัน แต่ในตอนนี้พวก EXEcutioner กำลังรวมตัวกันโดยคาดว่าจะบุกเข้าคลังแสงโดยมีเพลทการ์เดี้ยนตัวสุดท้ายเป็นเป้าหมาย มินต์ก็ถามว่าทำไม วิศนะบอก เพลทการ์เดี้ยนตัวสุดท้าย "Last monolith" เป็นระบบป้องกันตัวสุดท้ายของคลังแสงอวกาศซึ่งตัวมันเองมีความสามารถส่วนหนึ่งของ Space และส่วนหนึ่งของ Time การมีอยู่ของมันมีเพื่อสร้างระบบช่องว่างมิติของคลังแสงอวกาศ ทำให้คลังแสงไม่ปรากฎในแผนที่จักรวาล รวมไปถึงการเชื่อมต่อไอเทมทั้งหลายในคลังแสงกับจุดต่างๆในจักรวาล ระบบการเคลื่อนย้ายการ์เดี้ยน การป้องกันการต่อสู้นอกเพลทในคลังแสง และยังรวมถึงการดูแลและการซ่อมแซมอาวุธ Event Horizon จึงพูดได้ว่าเป็นเสาหลักของคลังแสงอวกาศนั้นเอง

ฟังแค่นี้มินต์ก็เข้าใจได้ทันทีว่าพวก EXEcutioner ต้องการทำลาย Last monolith เพื่อทำลายคลังแสง และเมื่อ Last monolith ถูกจัดการ ระบบมิติของคลังแสงก็จะหายไปจนปรากฎขึ้นในจักรวาล ถึงตอนนั้นนักโทษสวรรค์ก็จะสามารถยิง Final blast ใส่คลังแสงอวกาศได้ แล้วไอเทมก็จะกลายเป็นผุยผงทันที ด้วยเหตุนี้วิศนะถึงอยากจะเตือนเรื่องการเข้าไปในคลังแสงในช่วงนี้จนถึงจบรอบสุดท้ายของแกรน์คอสมิค ถึงตอนนี้จะไม่ค่อยมีคนเข้าไปเพราะไปรวมตัวกันที่คอสมิค แต่หากเข้าไปแล้วและ EXEcutioner ทำลาย Last monolith ได้ คลังแสงก็จะกลายเป็นสมรภูมิทำลายล้าง ต่อให้เป็นเพลเยอร์อันดับต้นๆก็ยังเป็นแค่มดปลวก

เรื่องต่อไป.. วิศนะบอกให้คนที่ถืออาวุธ Event Horizon โดยเฉพาะคนที่ตกรอบไปแล้วอย่างภัสสร ตอนว่างๆให้หาคนเข้าปาร์ตี้ มินต์ถามหมายถึงปาร์ตี้พันคนที่เคยได้ยินเหรอ วิศนะบอกใช่ ส่วนคนอื่นๆอย่างพัมพ์กิ้น จูเลียน มีกองกำลังของตัวเองอยู่แล้วจึงไม่ต้องพูดถึง ต่างกับกานดาที่มีไม่ถึงสิบคนเลย

เรื่องสุดท้าย มอนสเตอร์คลัสเตอร์เรทิคิวลัมกำลังเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ เมื่อมันหาพิกัดดาวที่เคยมีเพลเยอร์อาศัยจนเจอก็จะสามารถแทรกซึมกองดาวสมาพันธ์ได้ทีละช้าๆ ถึงเพลเยอร์จะทำลายเกทไปก็ทำได้แค่ถ่วงเวลาไม่ให้พวกมอนสเตอร์หลุดเข้ามาทีละเยอะๆเท่านั้น เมื่อถึงเวลาก็จะไม่มีที่ปลอดภัยสำหรับเพลเยอร์อีก ถ้าอยากจบเกมจริงๆก็ต้องเตรียมพร้อมเพราะอีเวนท์ที่ครอบคลุมทุกคนกำลังเริ่มแล้ว [มหาสงครามจักรวาล] War of Observable universe and beyond

พอบอกหมดวิศนะถามเพื่อความแน่ใจว่าจำได้หมดรึเปล่า มินต์บอกได้ แต่ก็โดยย้ำด้วยว่าอย่าบอกพวกกานดาว่ารู้มาจากเขา มินต์บอกเลยเรื่องนี้แหละที่ยาก วิศนะเลยให้อ้างว่าตอบไม่ได้ก็พอ บอกจะไม่ช่วยเหลือมากกว่านี้โดยเฉพาะในเกม และก็ไม่ได้สนใจด้วยว่าใครจะเป็นคนจบเกมแค่ไม่ชอบพัมพ์กิ้นเป็นพิเศษเท่านั้น บอกถ้าต้องทำหน้าที NPC เพื่อช่วยพัมพ์กิ้นจบเกมคงน่ารำคาญ มินต์ก็เห็นด้วย แต่วิศนะบอกพัมพ์กิ้นมันชอบใจมินต์น่าดูไม่ใช่เหรอไง มินต์ถึงกับขนลุกบอกที่พัมพ์กิ้นพูดแบบนั้นแค่พูดเล่นต่างหาก ตอนเป็น GM ก็ไม่ได้สนิท ที่มินต์สนิทด้วยคือบร็อคโคลี่และเลม่อนต่างหาก และพอพูดเรื่อง GM เมื่อไม่นานมานี่มินต์ได้รับการติดต่อจากบร็อคโคลี่ชวนไปเป็น GM ที่สร้างใหม่แต่มินต์ปฎิเสธ เพราะคิดว่าหากต้องไปช่วยศัตรูของกานดาก็ไม่ต่างจากก่อนหน้านี้ วิศนะถึงกับพูดเลยว่ากานดาเองก็เหลือเกินจริงๆ มินต์บอกก็เพื่อนกันนิ แถมยังบอกด้วยว่าถ้าวิศนะเป็นเพื่อนก็โอ๋เหมือนกัน

ส่วนเหตุผลที่วิศนะมาหามินต์โดยตรง เพราะตอนนี้วิศนะเป็น NPC สำคัญที่บอกมินต์ไม่ได้ว่าเป็นอะไร แต่เรื่องที่บอกไปเมื่อครู่เป็นเรื่องที่บอกไม่ได้ในเกม ไม่งั้นจะถูก Ruler ประเมินว่าทำเกินจนส่งผลต่อเกมและจะถูกปลดออกจาก NPC ทำให้เป็นเหตุผลเดียวกันที่ออกจากกลุ่มกานดามาเพราะ NPC จะอยู่ปาร์ตี้ใครไม่ได้ ทำให้ต้องมาหามินต์ถึงที่นี่ แถมมหาลัยใครจะเข้ามาก็ได้แค่แต่งตัวเรียบร้อยก็พอ

แต่วิศนะก็แซวด้วยหน้าตาหน้ากลัวว่าดูมินต์เองก็ไม่ระวังตัวเลย เพื่อนเองก็เหมือนกันขนาดมินต์หายไปยังไม่รู้ตัว ทำเอามินต์เริ่มคิดว่าวิศนะน่ากลัวนิดๆแล้ว วิศนะบอกเลยแค่คิดว่านิดๆงั้นเหรอ แต่มินต์ก็สงสัยว่าให้เธอรู้เยอะขนาดนี้จะดีเหรอ ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญ วิศนะบอกไม่รู้แค่คิดว่าอย่างมินต์คงเก็บความลับได้ แต่ก็มีที่ไม่ชอบใจเหมือนกันเรื่องที่ไม่ยอมสู้กับเพื่อนจนเกมโอเวอร์ บอกให้ดูกานดาซะบ้างทีพี่ชายแท้ๆยัง.... แล้วก็บ่นๆๆไม่หยุด แต่สรุปแล้วมินต์ก็เข้าใจได้ว่าทั้งหมดนั้นที่วิศนะยอมมาถึงนี่ก็เพื่อช่วยกานดาเอง ทำเอามินต์แอบคิดและยิ้มเลยว่า "รักน้องแต่ทำฟอร์ม" วิศนะก็ถามทันทีว่ายิ้มทำไม มินต์ก็หลบตาและบอกเปล่า

คุยจบมินต์อยากจะขอตัวเลยเพราะยังไม่ได้กินข้าว วิศนะที่พูดซะยาวก็นึกว่ากินแล้ว แต่พอมินต์จะเดินออกก็ต้องหยุดและรีบเอาตัววิศนะมาบังอย่างที่วิศนะไม่ทันตั้งตัว วิศนะเลยงงๆถามมินต์ทำอะไร มินต์บอกเพื่อนของเธอกำลังเดินผ่านมา แถมเป็นพวกชอบถามซอกแซก อย่างคราวก่อนคุยกับเพื่อนชายข้างห้องนิดเดียวก็เจอล้อเป็นสัปดาห์(จริงๆคือมาจีบมินต์แต่เจ้าตัวไม่รู้ตัว) มินต์เลยขอให้วิศนะช่วยยืนบังหน่อย แต่เพราะยืนเฉยๆแล้วมันบังได้ไม่หมดก็เลยต้องให้วิศนะขยับท่าทางนิดหน่อยช่วย วิศนะถึงจะรำคาญนิดๆแต่ก็ช่วยไม่ได้

และตอนนั้นเองที่เพื่อนมินต์ที่เหมือนจะได้ยินเสียงมินต์เลยเข้ามาดูแต่ก็ถึงกับตะลึง.... เมื่อเจอชายแปลกหน้าที่กำลังทำท่าแปลกๆจนไม่รู้จะพูดยังไงดี แต่ก็ไม่เห็น(?)มินต์เลยเดินไปเลย มินต์เห็นเพื่อนไปแล้วก็เลยจะรีบออก แต่ก็เจอเพื่อนดัดหลังที่แกล้งทำเป็นเดินไปแต่ทีไหนได้อาศัยจังหวะตายใจโผล่กลับมาถ่ายรูปมินต์กับวิศนะทันที ได้หลักฐานเตรียมสร้างประเด็นให้เพื่อนทั้งชั้นเป็นทีเรียบร้อย เพื่อนก็เตรียมจะกดปุ่มส่งแล้ว แต่พริบตานั้นเองวิศนะทำหน้าน่ากลัวพุ่งเข้ามาคว้ามือถือแล้วถามมินต์ให้ขว้างทิ้งดีไหม เพื่อนบอกแค่แหย่เล่นเท่านั้น บอกแค่ดีใจที่เพื่อนจะได้เป็นฝั่งเป็นฝา แต่มินต์บอกไม่ฝั่งฝาอะไรทั้งนั้น แต่เพื่อนไม่เชื่อถามเลยงั้นคุยอะไรกันอยู่ มินต์ถึงกับเหงื่อตกชะงักไปชั่วครู่ แต่ก็บอกไปตรงๆเลยว่าคุยเรื่องเกม วิศนะคิดเลยว่าเอาตรงๆแบบนี้จะเชื่อเหรอ ใครมันจะเชื่อว่าอยู่กันตรอกแคบๆคุยเกมกันสองคน แต่เพื่อนมินต์ดันเชื่อซะงั้น

สุดท้ายวิศนะก็คิดอยู่ว่าถึงจะดูการต่อสู้ของกานดากับพัมพ์กิ้นไม่ได้ ถึงจะไม่ได้คาดหวังอะไรแต่ถ้าแพ้โง่ๆ "โดนเล่นแน่"

จบตอน


ตอนหน้าคงได้เข้าช่วงรอบสุดท้ายแล้ว จะเป็นยังไงคงต้องรอลุ้น เดาว่าหลายตอนแน่นอน

ภาพตอนนี้...... คุยทั้งตอนเลยจนไม่รู้จะเอาภาพไรดี งั้นจัดภาพการโพสท่าของวิศนะเพื่อบังมินต์ให้ดูขำๆแล้วกันครับ (แต่คงซื้ออ่านเห็นกันหมดแล้วมั้ง 555)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่