ผมกับแฟนเพิ่งเลิกกันได้ 2 อาทิตย์แล้ว ซึ่งเราคบกันได้ 4 ปี ซึ่งเป็นรักที่ผมดูแลมาอย่างดีตลอด ถึงแม้ว่าจะไม่ดีที่สุด
แฟนผมเขาเป็นคนน่ารักครับ นิสัยดีมาก ให้คำปรึกษาได้ดีหลายๆอย่าง ซึ่งผมมีความเป็นผู้ใหญ่ได้ก็เพราะเขาครับ
ครั้งไหนที่เราทะเลาะกัน พอเครียกันจบ เราจะสัญญากันทุกครั้งครับว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องนี้ซ้ำอีกแล้ว ซึ่งเราทั้งสองก็ช่วยกันมาอย่างดี โดยที่จับมือกันผ่านหลายสิ่งหลายอย่าง
จนมาถึงวันที่ก่อนจะเลิกกัน เรารักกันดีมากครับ ทุกอย่างดำเนินไปเรื่อยๆ พอวันที่เลิกกันมาถึงเราก็ยังคุยกันดีแหละครับ ประจวบเหมาะที่ผมบอกไปว่า ผมชอบปรึกษาเขาเรื่องครอบครัวผม ซึ่งผมอยากได้กำลังใจจากเขามาก อยากกอด (ลืมบอกไปครับเราอยู่กันคนละจังหวัดน่ะครับ)
ผมก็เลยตัดสินใจปรึกษาเขาเรื่องครอบครัวผม พอคุยกันไดสักพัก เขาก็สอนและแนะนำผมในเรื่องการใช้ชีวิตให้อยู่ได้ แต่ผมคงงอแงเองแหละครับ เลยบอกเขาไปแบบปัดๆว่า เมื่อไหร่ก็สอนอารมไม่ให้กำลังใจอยู่ตลอดแหละ (เขาบอกผมในด้านที่ต้องรับความจริง แต่ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยยอมรับความจริงก็เลยทะเลาะกัน)
พอถึงจุดนี้เราต่างก็ทะเลาะกันซึ่งผมก็ไม่ยอม เขาก็ไม่ยอม ต่างคนต่างไม่ยอม เลยทำให้เขารับไม่ได้ในพฤติกรรมที่ผมแสดงออก เพราะผมทำแบบนี้หลายครั้ง จนในที่สุดเขาก็ขอหยุดทุกอย่างไว้แค่นี้ครับ
พอมองย้อนไป ผมเองแหละครับที่ผิด ถึงแม้ว่าเขานำทางเราไปในทางที่ตรงและถูก แต่ผมก็ยังมีความเป็นเด็กอยู่ ทำให้เพิ่งคิดขึ้นมาได้ว่า ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยยอมรับความจริง แต่ที่แฟนพูดมาคือความจริง และควรจะรับให้ได้
ผมอยากให้แฟนกลับมาคบกันเหมือนเดิม แต่ก็จริงที่เขาพูดว่า ถ้ากลับไปมันก็ไม่เหมือนเดิมหรอก เสียใจครับ ไม่ทันได้เผื่อใจ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะทำให้ดีกว่านี้ และจะทำทุกวันให้ดีกว่าเดิม
ถึงจุดนี้ผมยังเสียใจมากครับ ถึงแม้ว่าจะผ่านมาจะ 2 อาทิตย์แล้วก็ตาม ผมลืมเขาไม่ได้เลย ทุกสิ่งมันคอยย้ำว่าเขายังอยู่ข้างเรา ผมรักเขามากครับ อยากให้เขาได้เห็นว่าผมยอมหมดทุกอย่างถ้าให้เขากลับคืนมารักกัน

(
ผมยังลืมรักเก่าไม่ได้ ให้กำลังใจผมที
แฟนผมเขาเป็นคนน่ารักครับ นิสัยดีมาก ให้คำปรึกษาได้ดีหลายๆอย่าง ซึ่งผมมีความเป็นผู้ใหญ่ได้ก็เพราะเขาครับ
ครั้งไหนที่เราทะเลาะกัน พอเครียกันจบ เราจะสัญญากันทุกครั้งครับว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องนี้ซ้ำอีกแล้ว ซึ่งเราทั้งสองก็ช่วยกันมาอย่างดี โดยที่จับมือกันผ่านหลายสิ่งหลายอย่าง
จนมาถึงวันที่ก่อนจะเลิกกัน เรารักกันดีมากครับ ทุกอย่างดำเนินไปเรื่อยๆ พอวันที่เลิกกันมาถึงเราก็ยังคุยกันดีแหละครับ ประจวบเหมาะที่ผมบอกไปว่า ผมชอบปรึกษาเขาเรื่องครอบครัวผม ซึ่งผมอยากได้กำลังใจจากเขามาก อยากกอด (ลืมบอกไปครับเราอยู่กันคนละจังหวัดน่ะครับ)
ผมก็เลยตัดสินใจปรึกษาเขาเรื่องครอบครัวผม พอคุยกันไดสักพัก เขาก็สอนและแนะนำผมในเรื่องการใช้ชีวิตให้อยู่ได้ แต่ผมคงงอแงเองแหละครับ เลยบอกเขาไปแบบปัดๆว่า เมื่อไหร่ก็สอนอารมไม่ให้กำลังใจอยู่ตลอดแหละ (เขาบอกผมในด้านที่ต้องรับความจริง แต่ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยยอมรับความจริงก็เลยทะเลาะกัน)
พอถึงจุดนี้เราต่างก็ทะเลาะกันซึ่งผมก็ไม่ยอม เขาก็ไม่ยอม ต่างคนต่างไม่ยอม เลยทำให้เขารับไม่ได้ในพฤติกรรมที่ผมแสดงออก เพราะผมทำแบบนี้หลายครั้ง จนในที่สุดเขาก็ขอหยุดทุกอย่างไว้แค่นี้ครับ
พอมองย้อนไป ผมเองแหละครับที่ผิด ถึงแม้ว่าเขานำทางเราไปในทางที่ตรงและถูก แต่ผมก็ยังมีความเป็นเด็กอยู่ ทำให้เพิ่งคิดขึ้นมาได้ว่า ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยยอมรับความจริง แต่ที่แฟนพูดมาคือความจริง และควรจะรับให้ได้
ผมอยากให้แฟนกลับมาคบกันเหมือนเดิม แต่ก็จริงที่เขาพูดว่า ถ้ากลับไปมันก็ไม่เหมือนเดิมหรอก เสียใจครับ ไม่ทันได้เผื่อใจ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะทำให้ดีกว่านี้ และจะทำทุกวันให้ดีกว่าเดิม
ถึงจุดนี้ผมยังเสียใจมากครับ ถึงแม้ว่าจะผ่านมาจะ 2 อาทิตย์แล้วก็ตาม ผมลืมเขาไม่ได้เลย ทุกสิ่งมันคอยย้ำว่าเขายังอยู่ข้างเรา ผมรักเขามากครับ อยากให้เขาได้เห็นว่าผมยอมหมดทุกอย่างถ้าให้เขากลับคืนมารักกัน