(เรื่องน่ารู้) 10 อันดับทฤษฎีการดำรงอยู่ของพระผู้เป็นเจ้า

กระทู้สนทนา
ไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่า พระเจ้ามีอยู่จริงหรือไม่ ซึ่งมันก็มีทฤษฎีหลายทฤษฎีด้วยกันที่จะต้องทำการประเมินตรวจสอบ ส่วนมากก็ยังเป็นเรื่องที่โต้แย้งกันอยู่ แม้ว่าจะมีบางกลุ่ม บางคนที่หมกหมุ่นกับเรื่องนี้อยู่มาก แต่ผู้คนส่วนใหญ่ก็ยังมีความเคลือบแคลงสงสัยกับเรื่องนี้อยู่ ลองมาดูทฤษฎี 10 อันดับดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง













10.การพัฒนาทางความเชื่อ


ทฤษฎีส่วนใหญ่ก็จะโน้มน้าวสนับสนุนให้เกิดความเชื่อในเรื่องของมุมมองต่างๆ เกือบทุกๆศาสนาก็มักจะพูดถึงการดำรงอยู่ของพระผู้เป็นเจ้า ที่เปรียบเสมือนเป็นผู้ที่มีพลังเหนือธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้พวกเราจะต้องใช้ความเชื่อของตัวเองในการคิดว่า พระเจ้าเป็นผู้อยู่เหนือธรรมชาติหรือเข้ามาแทนที่ความคิดของมนุษย์ในตอนนี้













9.คัมภีร์ไบเบิ้ล

ความคิดและความเชื่อเกี่ยวกับการดำรงอยู่ของพระผู้เป็นเจ้าส่วนใหญ่จะอยู่ที่คัมภีร์ไบเบิ้ลเป็นหลัก ซึ่งคัมภีร์ไบเบิ้ลส่วนใหญ่ก็จะมีอยู่หลายศาสนาด้วยกัน ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่ก็มักจะไม่ค่อยกล้าตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้กันมากเท่าไรนัก ความเชื่อในเรื่องการดำรงอยู่ของพระผู้เป็นเจ้าจึงไม่ค่อยมีใครกล้าเห็นแย้งกับคัมภีร์ไบเบิลมากนัก













8.การพิสูจน์เรื่องการดำรงอยู่


หากว่าพวกเราไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า พระเจ้าดำรงอยู่หรือไม่ ก็ถือเป็นเรื่องที่หลายคนเชื่อได้ว่า พระเจ้าอาจมีตัวตนอยู่จริง แต่มนุษย์ไม่สามารถเข้าถึงพระผู้เป็นเจ้าได้ ซึ่งก็มีแนวทางต่างๆที่หาทางพิสูจน์ แม้แต่หลักทางวิทยาศาสตร์เองก็ยังไม่สามารถหาแนวทางพิสูจน์ได้ว่า พระเจ้ามีอยู่จริงหรือไม่













7.ผู้ที่มีความเชื่ออย่างแรงกล้า


หากพวกเราสังเกตได้ถึงคนที่เชื่อกับคนที่ไม่เชื่อ ก็เป็นเรื่องง่ายที่เรารู้ได้ว่า มีใครเชื่อแบบไหนมากกว่ากัน ก็แสดงให้เห็นถึงความเชื่ออย่างแรงกล้าของผู้คนส่วนใหญ่ที่เข้าใจการดำรงอยู่ของพระผู้เป็นเจ้า และก็ไม่มีใครที่สามารถรู้ได้ว่า สิ่งที่คนส่วนใหญ่ยึดถือเชื่อนั้นจะเป็นความจริง แต่มันก็เป็นกรณีศึกษาที่ดีสำหรับคนส่วนใหญ่ที่มีความเชื่ออันแรงกล้าอยู่













6.ขาดการพิสูจน์ที่แน่ชัดจากหลักวิทยาศาสตร์


แม้ว่านักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่จะมีมุมมองความเชื่อหลายอย่าง มีการวิจัยอยู่เหมือนกันว่า การปรากฏตัวของพระเจ้าก็ยังไม่มีอะไรยืนยันได้แน่ชัดนัก ไม่ว่าพระเจ้าจะอยู่หรือไม่ก็ตามแต่ พระเจ้าก็ยังเป็นปริศนาในทางด้านวิทยาศาสตร์อยู่ แต่ก็มีทฤษฎีหลายทฤษฎีที่มีมุมมองโต้แย้งเรื่องความเป็นอยู่ของพระเจ้า แต่ก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเด่นชัดมากนัก













5.ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ตั้งคำถาม


คำถามส่วนใหญ่มีข้อโต้แย้งอยู่เหมือนกันว่า ใครเป็นชี้ถึงการปรากฏตัวของพระผู้เป็นเจ้า? ไม่สำคัญหรอกครับว่าจะเป็นยังไง ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหนหรือยุคไหนก็ตาม แต่ละคนก็คงไม่ตั้งคำถามเรื่องราวพวกนี้แน่ๆ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า คนที่ตั้งคำถามแบบนี้จะเป็นคนที่แปลกแยกออกจากสังคมหรือดูไม่ดีก็ได้













4.จำนวนคนที่ไม่ศรัทธาในพระเจ้า


จำนวนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับความเชื่อที่ว่าพระเจ้ามีอยู่จริงนั้น ก็เป็นที่ชัดเจนว่าทฤษฎีนี้ถือเป็นทฤษฎีที่มีอิทธิพลมาก ซึ่งคนที่ยังสงสัยถึงการดำรงอยู่ของพระผู้เป็นเจ้านั้น ก็ยังให้การยอมรับเกี่ยวกับเรื่องของบางคนที่เรียกว่าพระเจ้ากันอยู่













3.แนวคิดที่สลับซับซ้อน


แน่นอนว่าประเด็นหัวข้อนี้ถือว่ามีความสลับซับซ้อนเป็นอย่างมาก ยังมีข้อโต้แย้งจากคนที่ไม่เชื่อในพระเจ้าว่า ไม่สามารถมองเห็นได้ในทั้งตอนกลางวันหรือตอนกลางคืน ปัญหาที่สำคัญก็คือยังไม่มีใครเข้าใจถึงแนวคิดนี้ได้ คำตอบง่ายๆก็อาจจะอยู่ที่สภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ของมนุษย์ที่ทำให้เกิดความเชื่อแบบนั้น แต่จริงๆมันก็ยังเป็นเรื่องซับซ้อนที่จะเข้าใจได้














2.ยังมีการโต้แย้งเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ


การโต้แย้งเรื่องนี้ ก็แสดงให้เห็นถึงความสงสัยในการดำรงอยู่ของพระผู้เป็นเจ้า แม้ว่าจะมีคำตอบหลายๆอย่างที่มีความสัมพันธ์กับเรื่องของมนุษย์ แต่ก็ยังล้มเหลวถึงรายละเอียดเกี่ยวกับผู้สร้างขึ้นมา แน่นอนว่าผู้สร้างก็ต้องคิดได้ว่า อาจจะเป็นพระเจ้าหรือสิ่งที่มองไม่เห็น ขนาดมนุษย์สร้างหุ่นยนต์ขึ้นมาได้ แล้วผู้สร้างมนุษย์นั้นเป็นใครกันล่ะ














1.คำถามความเป็นอยู่ของสรรพสิ่ง


ทฤษฎีหลายๆทฤษฎีที่เกี่ยวกับเรื่องของวันสิ้นโลกอะไรนั้น ส่วนใหญ่ก็ล้มเหลว ซึ่งหลายคนก็มักจะใช้เรื่องของศาสนาเป็นเครื่องมือยึดเหนี่ยวจิตใจ ให้รู้สึกว่ามีความปลอดภัยขึ้นมา ซึ่งศาสนาหลายศาสนาทุกวันนี้ก็ยังดำรงอยู่ได้ คำถามที่สำคัญก็คือ พวกเราจะตั้งคำถามเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของพระเจ้าได้อย่างไร?


ผู้เขียน Mr.lawrence10
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่