รบกวนให้อ่านกระทู้ลิ้งนี้ก่อนนะครับ ผมเคยตั้งเมื่อต้นเดือน แต่ไม่มีใครอ่านเลย
http://pantip.com/topic/34781407
ทีนี้วันก่อนมีคนหลังไมด์มาถามนู่นนี่เกี่ยวกับย้ายค่าย ผมเลยถือโอกาสมาสรุปใหม่ดังนี้ครับ
วันแจ้งย้ายค่าย
1.คุณต้องชำระค่าบริการงวดสุดท้ายให้เสร็จสิ้นก่อนไปแจ้งย้ายค่ายที่เครือข่ายใหม่
...ค่าบริการงวดสุดท้ายคือค่าบริการที่ออกใบแจ้งหนี้มาแล้ว
2. คุณอาจจะยอมชำระค่าบริการล่วงหน้าหรือไม่ก็ได้ แต่ต้องแพลนล่วงหน้าดีๆว่าคุณต้องย้ายค่ายสำเร็จก่อนวันตัดรอบบิล
- หากเบอร์คุณตัดรอบบิลวันที่ 18 (คือ ยอดการใช้งานวันที่ 19 เดือนนี้ ถึง 18 เดือนหน้า)
หากคุณแจ้งย้ายค่ายวันที่ 14 มีนา แปลว่ารอบบิล 19/2 - 18/3 มันกำลังจะถึงแล้ว คุณย้ายค่ายไม่ได้แน่นอนครับ เพราะทรูจะยื้อคุณถึงวันที่ 18 แล้วบอกว่าค้างค่าบริการ
ดังนั้นคุณควรทำเรื่องย้ายค่ายหลังจากเลยวันตัดรอบบิลไปแล้วไม่เกิน 10 วันเพื่อกันเหนียว
ตอนกรอกข้อมูลย้ายค่าย
สังเกตด้วยว่าคำนำหน้าในใบแจ้งหนี้ของ true ของคุณเป็นอะไร เป็น คุณ นาย นางสาว นาง หรืออะไร รบกวนใส่ให้ตรงกับเอกสารสมัครแพคเกจของเครือข่ายใหม่
โทรเช็ค call center
ขั้นตอนนี้ อาจจะทำก่อน หรือหลังแจ้งย้ายค่ายก็ได้ครับ
1. เช็คว่า แพคเกจของคุณ มีได้สิทธิ์อะไรบ้าง เช่น สิทธิ์ค่าบริการ 50% สิทธิ์โทรฟรี 100 นาที สิทธิ์เล่นเนทฟรี สิทธิ์พ่อสิทธิ์แม่ นู่นนี่
...
คุณต้องแจ้งยกเลิกการรับสิทธิ์พวกนี้ทั้งหมด และให้มีผลทันที ย้ำ ต้องให้มีผลทันที ณ วันที่คุณแจ้ง call center
เพราะ call center จะบอกว่า "ดำเนินการทันที"
แต่สิ่งที่ไม่บอกคุณคือ "ดำเนินการให้มีผลตอนรอบบิลหน้านะคะ"
คำว่า "ทันที" ของ call center คือ "กดปุ่มทำคำสั่งทันที แต่ effective จะมีผลวันอื่น"
สิ่งที่อาจเกิดขึ้น
- คุณอาจต้องจ่ายมากขึ้นในรอบสุดท้ายของคุณ เนื่องจากสิทธิ์คุณหมดแล้ว
2. เช็คว่า เบอร์ของคุณ ติดสัญญาอะไรบ้าง เช่น สัญญาการใช้งาน 50% สัญญาการใช้งานขั้นต่ำ 1 ปี
2.1 สัญญาการใช้งาน 50%
- จุดนี้ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่งง เพราะ
"สัญญาการใช้งาน 50%" กับ "สิทธิ์ 50%" เป็นคนละส่วนกัน
เพราะถึงแม้ว่าคุณจะขอยกสิทธิ์ 50%
ความหมายคือคุณสละสิทธิ์ค่าบริการ 50% แต่สัญญาการใช้งาน 50% คุณยังคงอยู๋
ดังนั้น ตอนคุณแจ้ง call center ต้องแจ้งให้ละเอียดว่าจะยกเลิกสัญญาด้วย และ ให้มีผลทันที เช่นกัน
2.2 สัญญาการใช้งานขั้นต่ำ 1 ปี
- อันนี้ทำไรไมไ่ด้ครับ เพราะสัญญาระบุชัดเจน
การติดตาม
อันนี้คือสิ่งที่ทำเองส่วนตัว ไม่ได้แนะนำให้ต้องทำ แต่ไม่บอกว่าไม่ควรจะทำครับ
1. โทรเข้า call center สอบถามความคืบหน้าทุกวัน
>>> เพราะคุณจะได้คุยกับ call center คนละคนกัน สิ่งที่เค้าบอกคุณคือ "ข้อมูลที่บันทึกในระบบ" ซึ่งคุณจะรู้ทันทีว่าสิ่งที่คุณบอก call center ไปก่อนหน้านี้นั้น เค้าบันทึกข้อมูลถูกต้องตามที่คุณแจ้งให้ทำหรือไม่
>>> ตอนคุย ให้ลองสอบถามไปอ้อมๆ เพื่อสืบข้อมูล ไม่ใช่ถามไปตรงๆครับ ตัวอย่าง
สิ่งที่ควรถาม
1. ตอนนี้สิทธิ์ 50% มีผลใช้ถึงไหน
2. รอบบิลสุดท้ายต้องจ่ายทั้งหมดกี่บาท
3. พรุ่งนี้เบอร์จะถูกย้ายออกใช่มั้ย
สิ่งที่ไม่ควรถาม
1. ยกเลิกสิทธิ์ 50% ไปรียัง
2. สถานะการย้ายค่ายไปถึงไหน
หลังจากย้ายค่ายสำเร็จแล้ว
ตอนไปจ่ายบิล รบกวนไปจ่ายที่ shop ครับ ไปวันที่ manager อยู่ หลังจากจ่ายเสร็จแล้ว ให้ manager เซ็นต์กำกับลงวันที่พร้อมระบุว่าไม่มียอดค้างเรียกเก็บแล้ว
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เจอมาครับ อาจจะมีหลายอย่างงที่ผมไม่ได้เจอ แตเ่ชือว่าหลักการน่าจะเหมือนกันหมด
อยากรู้มั้ยครับว่าทำไมการย้ายเบอร์จาก true ไปค่ายอื่น ทำไมมันถึงยากเย็นขนาดนี้..ผมมีคำตอบให้ครับ
http://pantip.com/topic/34781407
ทีนี้วันก่อนมีคนหลังไมด์มาถามนู่นนี่เกี่ยวกับย้ายค่าย ผมเลยถือโอกาสมาสรุปใหม่ดังนี้ครับ
วันแจ้งย้ายค่าย
1.คุณต้องชำระค่าบริการงวดสุดท้ายให้เสร็จสิ้นก่อนไปแจ้งย้ายค่ายที่เครือข่ายใหม่
...ค่าบริการงวดสุดท้ายคือค่าบริการที่ออกใบแจ้งหนี้มาแล้ว
2. คุณอาจจะยอมชำระค่าบริการล่วงหน้าหรือไม่ก็ได้ แต่ต้องแพลนล่วงหน้าดีๆว่าคุณต้องย้ายค่ายสำเร็จก่อนวันตัดรอบบิล
- หากเบอร์คุณตัดรอบบิลวันที่ 18 (คือ ยอดการใช้งานวันที่ 19 เดือนนี้ ถึง 18 เดือนหน้า)
หากคุณแจ้งย้ายค่ายวันที่ 14 มีนา แปลว่ารอบบิล 19/2 - 18/3 มันกำลังจะถึงแล้ว คุณย้ายค่ายไม่ได้แน่นอนครับ เพราะทรูจะยื้อคุณถึงวันที่ 18 แล้วบอกว่าค้างค่าบริการ
ดังนั้นคุณควรทำเรื่องย้ายค่ายหลังจากเลยวันตัดรอบบิลไปแล้วไม่เกิน 10 วันเพื่อกันเหนียว
ตอนกรอกข้อมูลย้ายค่าย
สังเกตด้วยว่าคำนำหน้าในใบแจ้งหนี้ของ true ของคุณเป็นอะไร เป็น คุณ นาย นางสาว นาง หรืออะไร รบกวนใส่ให้ตรงกับเอกสารสมัครแพคเกจของเครือข่ายใหม่
โทรเช็ค call center
ขั้นตอนนี้ อาจจะทำก่อน หรือหลังแจ้งย้ายค่ายก็ได้ครับ
1. เช็คว่า แพคเกจของคุณ มีได้สิทธิ์อะไรบ้าง เช่น สิทธิ์ค่าบริการ 50% สิทธิ์โทรฟรี 100 นาที สิทธิ์เล่นเนทฟรี สิทธิ์พ่อสิทธิ์แม่ นู่นนี่
...คุณต้องแจ้งยกเลิกการรับสิทธิ์พวกนี้ทั้งหมด และให้มีผลทันที ย้ำ ต้องให้มีผลทันที ณ วันที่คุณแจ้ง call center
เพราะ call center จะบอกว่า "ดำเนินการทันที" แต่สิ่งที่ไม่บอกคุณคือ "ดำเนินการให้มีผลตอนรอบบิลหน้านะคะ"
คำว่า "ทันที" ของ call center คือ "กดปุ่มทำคำสั่งทันที แต่ effective จะมีผลวันอื่น"
สิ่งที่อาจเกิดขึ้น
- คุณอาจต้องจ่ายมากขึ้นในรอบสุดท้ายของคุณ เนื่องจากสิทธิ์คุณหมดแล้ว
2. เช็คว่า เบอร์ของคุณ ติดสัญญาอะไรบ้าง เช่น สัญญาการใช้งาน 50% สัญญาการใช้งานขั้นต่ำ 1 ปี
2.1 สัญญาการใช้งาน 50%
- จุดนี้ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่งง เพราะ "สัญญาการใช้งาน 50%" กับ "สิทธิ์ 50%" เป็นคนละส่วนกัน
เพราะถึงแม้ว่าคุณจะขอยกสิทธิ์ 50% ความหมายคือคุณสละสิทธิ์ค่าบริการ 50% แต่สัญญาการใช้งาน 50% คุณยังคงอยู๋
ดังนั้น ตอนคุณแจ้ง call center ต้องแจ้งให้ละเอียดว่าจะยกเลิกสัญญาด้วย และ ให้มีผลทันที เช่นกัน
2.2 สัญญาการใช้งานขั้นต่ำ 1 ปี
- อันนี้ทำไรไมไ่ด้ครับ เพราะสัญญาระบุชัดเจน
การติดตาม
อันนี้คือสิ่งที่ทำเองส่วนตัว ไม่ได้แนะนำให้ต้องทำ แต่ไม่บอกว่าไม่ควรจะทำครับ
1. โทรเข้า call center สอบถามความคืบหน้าทุกวัน
>>> เพราะคุณจะได้คุยกับ call center คนละคนกัน สิ่งที่เค้าบอกคุณคือ "ข้อมูลที่บันทึกในระบบ" ซึ่งคุณจะรู้ทันทีว่าสิ่งที่คุณบอก call center ไปก่อนหน้านี้นั้น เค้าบันทึกข้อมูลถูกต้องตามที่คุณแจ้งให้ทำหรือไม่
>>> ตอนคุย ให้ลองสอบถามไปอ้อมๆ เพื่อสืบข้อมูล ไม่ใช่ถามไปตรงๆครับ ตัวอย่าง
สิ่งที่ควรถาม
1. ตอนนี้สิทธิ์ 50% มีผลใช้ถึงไหน
2. รอบบิลสุดท้ายต้องจ่ายทั้งหมดกี่บาท
3. พรุ่งนี้เบอร์จะถูกย้ายออกใช่มั้ย
สิ่งที่ไม่ควรถาม
1. ยกเลิกสิทธิ์ 50% ไปรียัง
2. สถานะการย้ายค่ายไปถึงไหน
หลังจากย้ายค่ายสำเร็จแล้ว
ตอนไปจ่ายบิล รบกวนไปจ่ายที่ shop ครับ ไปวันที่ manager อยู่ หลังจากจ่ายเสร็จแล้ว ให้ manager เซ็นต์กำกับลงวันที่พร้อมระบุว่าไม่มียอดค้างเรียกเก็บแล้ว
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เจอมาครับ อาจจะมีหลายอย่างงที่ผมไม่ได้เจอ แตเ่ชือว่าหลักการน่าจะเหมือนกันหมด