เรากับแฟนคบกันมาได้ 3 ปีนิดๆแฟนทำงานเป็นช่างไฟ ส่วนเราเป็นแม่ค้า โดยปกติเราสองคนตัวติดกันตลอดยกเว้นเวลาทำงาน เรื่องมีอยู่ว่าวันนั้นอยู่ดีๆแฟนก็หายไปคืนนึง บอกว่าไปกินเหล้าโดยปกติก็จะมีเราไปด้วยทุกครั้ง หรือถ้าเราขายของเราปิดร้านเสดเค้าก็จะมารับ แต่วันนั้นเค้าไปค้างที่อื่นบอกว่าค้างห้องน้องที่ทำงาน เมากกลับไม่ได้ ซึ่งไม่เคยเป็น หลังจากนั้นก็มีอาการแปลกๆไม่ค่อยไปหาที่ร้าน ปกติจะไปนั่งกินเบียร์เฝ้าที่ร้าน ดูหนัง แล้ววันนึงเค้าไปนั่งอยู่กับน้องที่เค้าอ้างว่าเคยไปค้างด้วยแล้วเราปิดร้านแล้วเลยตามไปเหมือนทุกครั้ง แต่วันนั้นเด็กมันหลุดปาก ว่า แล้ว"เจ้พี่หล่ะ"แต่เรายังไม่ได้คิดอะไรมาก จนวันนึง
Part1.. ตื่นมาด้วยเซ้นแปลก ที่บอกว่าต้องออกไปหาแฟน เลยปั่นจักยานออกไปหาแฟนที่รับจ๊อบอยู่ บริเวณพื้นที่บริษัทกับน้องที่ทำงานเครือเดียวกัน เราไปถึงก็เอาโทรสัพแฟนมาเล่นกเกมส์ตามปกติ เล่นไปเล่นมาเริ่มเบื่อ เลยถือโทรสัพแล้วนั่งดูเค้าทำงานกัน อยู่ดีๆก็มีเมสเสจเข้ามาเราก็เปิดอ่านก่อนเลยว่า "คิดถึง" จากมาดามร้านนวดชื่อ"ดีที่สุด"ย่านไนท์บาร์ซ่า พอใกล้ เลยเห็นละอึ้งไปสักพักแล้ววางโทรสัพเลย พอใกล้เวลาบ่าย3แฟนก็มาหยิบโทรสัพไปสแกนนิ้ว แต่คงเห็นแล้วหล่ะว่าข้อความโดนเปิดอ่าน แต่กลับมาก็ไม่ได้พูดอะไรกับเราเลย ไม่อธิบาย ไม่อะไรสักอย่าง แล้วเราเลยไปหาเพื่อนที่โรงบาล พาลจนไม่ขายของ พอกลับมา เราแวะไปหาที่ทำงานเค้าก็เงียบ เราก็เริ่มนอยส์ตามประสาผู้หญิง เลยวะนั่งร้านพี่ที่รู้จัก นั่งหาไรกิน แล้วก็โทรเรียกเค้า พี่เค้าก็นั่งรออยู่ด้วย แล้วเค้าก็ถามหาตามประสาเพราะเรากะแฟนไม่เคยจะห่างกัน ถามบ่อยๆเลยเลยโทรตาม แล้วบอกว่าอยู่นี่..นะ พี่เค้าถามหาจะมามั้ยเค้าก็บอกว่ามา เราก็รอๆๆกับพี่เค้า จนร้านปิดแฟนพี่แก เกิดคึกชวนกันไปเที่ยว โซอี้ เราก็โทรๆๆ เค้าก็ไม่รับ พี่เค้าก็โทรๆ แต่ก็ไม่มา เราก็เลยไปกัน พอกลับมาจากเที่ยวเค้าไม่อยู่ห้อง เราก็เลยโทรๆๆ อีกเป็นร้อยสายได้ เราเลยกะจับผิด ไปหอน้องเค้าที่เค้าเคยอ้าง เมื่อคราวก่อนเคยไปนอนด้วย นั่งตุ๊กๆไปเคาะห้องเลย ปรากฏว่าาไม่อยู่ ไปดูที่ทำงาน รถยนต์ รถมอไซด์ จอดอยู่ เราเลยกลับมาหอก่อน แต่ก็ยังโทรเรื่อยๆ อีกรอบตี5เราออกไปที่ทำงานเค้าอีกรอบ ทั้งโทรทั้งส่งเมสเสจ แต่ก็ไม่รับเหมือนเดิม เราเลยโมโห เอาสีเสปรย์ พ่นรถเลย "คิดถึง เด็กเจ้ จ "แล้วเอาหินปาใส่กระจกรถ แตก แล้วก็กลับถึงห้อง เก็บของๆเค้าทั้งหมดใส่ถุงแล้วกองไว้เลย พอเช้ามาเค้าเข้ามาประมาณ 10 โมง มาพูดว่าทำไมเราไม่ฟังเค้าบ้าง มาขอโทษ เค้าก็บอกว่าเค้าไปกินเหล้ากับเพื่อน ที่เคยเป็นทหารด้วยกัน พอดีมาเจอกันเลยไปด้วยกัน วันนั้นเราตัดสินใจไล่เค้าออก จากห้อง แต่ก็ทำใจยากเหมือนกันนะ ฟูมฟาย แทบบ้าไปเป็นเดือนเหมือนกัน จนต้องหนีไปอยู่กับพี่ อยู่พักใหญ่ แต่ก็ยังติดต่อกันอยู่บ้าง เราเป็นคนง้อซะส่วนใหญ่ เพราะยอบรับว่าผิดจริงอยู่ที่ทำไรแรงๆ แล้ะวู่วามไป
Part2..เมื่อเริ่มรู้ตัวว่าท้องละ(คือวันที่มีเรื่องกันเราตกเลือดด้วยหลังจากเที่ยวเลยไม่ได้คิดอะไร)กลับเข้ามาอยู่ในเมือง ขายของ แล้วตกลงกันเรื่องเด็กว่าจะเอายังไง กลายเป็นเราผิดที่ไม่ดูแลตัวเอง บลาๆๆ แต่ก็รู้ว่าเค้ากับ มาดามร้านนวดชื่อ"ดีที่สุด" แอบคบกันจริง แต่ตลอดเวลาเราก็พยายามง้อ พยายามตื้อ ทุกทาง แต่เค้าก็ไปๆมาๆ จนเราเริ่มเหนื่อยละ เวลาเราไปหาที่บ้านเค้าก็ไล่เรา ด่าเรา ตะคอก จนวันนึง เรารู้ว่าเค้าพาคนอื่นเข้าบ้าน แต่วันนั้นเราสบโอกาส วันนั้นเราเห็นกล้องถ่ายรูปเราเลยเปิดดูเล่นๆแต่ โช๊ะเด๊ะ...เหมือนฟ้าเป็นใจ ในกล้องมีรูปของคืนที่ ที่เกิดเรื่อง เป็นรูปที่ถ่ายที่ร้านคาราโอเกะ แล้วเผอิญ เป็นรูปที่แฟนเรากับมาดามร้านนวดชื่อ"ดีที่สุด" นั่งกอดกันอยู่ โดยมีพนักงานร้านนวด แล้วเพื่อนของ มาดาม นั่งชู2 นั่งข้างๆ ในใจคิดละ เมื่อไหร่จะสว่างจะได้ไปซะที พอสว่างเราก็ออกมาทันที แต่เค้าไม่รู้นะว่าเรารมีเมมกล้อง เราก็นิ่งไว้ก่อน หลังจากนั้น เราก็อยู่ของเราคนเดียวแหละ เค้าก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร บางครั้งเราก็ท้อนะ ที่หาความชัดเจนไม่ได้เพราะผู้หญิงทุกคนล้วนต้องการความชัดเจน จนเราท้อง 4 เดือน เราเคยวัดใจถามนะว่าเอาออกไม๊ ให้หายามาแต่เค้าก็เฉย แล้วเค้าก็กลับมาว่าเราว่าทำไมตอนนี้ถึงอยากได้ไว้ ในใจบอกว่าทำบาปมาเยอะละ แค่นี้ก็ทำอะไรไม่ขึ้นละ เลยตัดสินใจจะเก็บไว้ เค้าก็บอกว่าจะทำอะไรก็ทำเหอะ เคารพในการตัดสินใจของเรา(เรากับแฟนเคยเอาเด็กออกมาแล้ว)ผ่านมาได้เดือนเศษ จากเหตุการทั้งหมด เราเลยคุยกับพี่คนนึงที่อกหักเหมือนกกันในเฟสบุค ปรึกษาเค้าเพราะเค้าก็อกหักเหมือนกัน เค้าเลยบอกว่าให้ปรึกษาผู้ใหญ่ เราเลยโทรหาป้า เค้าเพราะป้าเค้าก็เหมือนแม่เค้าอีกคน ป้าเค้าเลยบอกว่าให้เราไปฝากท้อง เราเลยโทรหาเค้า ถามว่าวันศุกร์ไปไหนป่าวไปฝากท้อง เค้าบอกว่าไปทำธุระให้พ่อ เราเลยบอกว่าไม่เป็นไร แล้ววันจันทร์หล่ะเข้างานกี่โมง เค้าก็ปักมา พอถึงวันศุกร์ เราตื่นมาแล้วนอนเล่นโทรสัพอยู่บนที่นอน พอดีเป็นวันเกิดพี่ชายที่เราทั้งคู่สนิทกะแกเราเลยเข้าไปโพสอวยพรวันเกิด พอดีแฟนโพสไปก่อนหน้า แล้วมีคอมเม้นคุยกันกะพี่เค้า เหมือนชวนกันดื่ม แต่แฟนเราโพสรูปเหล้าบนเสื่อ เรารู้เลยเหล้ายี่ห้อนี้กับเสื่อแบบนี้ อยู่แถวไหน เดือด....ลุกมาแต่ตัว เก็บของใช้ที่เหลือใส่ถุงไปด้วย(กกน ถุงเท้า เส้ือ) นั่งตุ๊กๆไปเลยกะว่าต้องเจอคาหนังคาเขาให้ได้ แล้วโชคก็เข้าข้างเราเจอจริงๆ เราเลยลงไปที่ร้าน เห็นเราแล้วอึ้งกันหมด ทั้งแฟน มาดามร้านนวดชื่อ"ดีที่สุด" แล้วก็เพื่อนนาง (ปล.เวลาออกไปกินข้าวหรือสังสรรค์ที่ไม่ใช่ม่านรูด นางต้องเหน็บเพื่อนที่เป็นแคชเชียร์ออกไปด้วยทุกครั้งเพราะ เดี๋ยวสามีนางจะรู้และเผือเจอคนที่รู้จัก)แล้วถามว่าไหนบอกว่าไปธุระให้พ่อ ถามอะไรไมม่มีคำตอบจากผู้ชายสักอย่าง เราเลยหันมาบอกขอบคุณมาดามร้านนวดชื่อ"ดีที่สุด" ว่า.."ขอบคุณนะเจ้ ที่ทำให้ลูกของหนูไม่มีพ่อ " เพื่อนนาง ก็ถามนางกลับเลย ว่ารู้เรื่องไม๊ นางก็สายหัว เราเลยบอกว่า นอนด้วยกันไม่คุยกันเลยรึไง แล้วบอกให้เราสองคนออกมาเคลียร์กันข้างนอก เพราะเป็นเรื่องของเรากับแฟน เราสั่นไปหมดทั้งตัวเลย เราเลยบอกว่าอยากได้ก็เอาไป นี่ของเหลือเราก็เลยเทถุงของใช้ของแฟนที่เราเอาไปลงกลางวงเลย แล้วเราก็เดินขึ้นมา ถ่ายรูปเก็บไว้ แต่มาดามเห็น เลยให้แฟนเราตามขึ้นมา แฟนมาแย่งโทรสัพเรา เราเลยถามนี่มันอะไร เค้าบอกก็มาเคลียร์ไง เราเลยบอกเหรอ ละเมื่อกี้ต่อหน้าทำไมไม่พูด ขึ้นมาจะพูดทำไม เค้าก็ว่าเราไม่ฟังเค้า แต่เค้าไม่เคยพูดอะไรเลย แล้วมาหาว่าเราไม่เข้าใจเค้า จนในที่สุดวันจันทร์เราก็ต้องไปฝากท้อง โดยการปั่นจักรยานไปฝากท้องคนเดียว
Part3..จนผ่านไป3เดือน เราเริ่มเหนื่อยละ เริ่มชิน กับการที่ มาดาม ส่งข่าวผ่านลูกน้อง มาแทะบ้าง แต่ผู้ชายก็ไม่เคยจะสนในอะไรเรากับลูกเรา ถ้าเราไม่บอกว่า ซื้อนั่น ซื้อนี่ อยากกินนั่น พาไปนี่หน่อย จนวันนึงเรา เราเลยตัดสินใจให้เค้าเลือก ว่าจะยังไง เพราะป้าเค้าเคยบอกว่าอย่าอคติ อย่าใจร้อน ค่อยๆคุยกัน พี่เราก็บอกว่าจะยังไง ทำไมปล่อยให้มันคารังคาซัง ซึ่งตอนนั้นพี่เรายังไม่รู้ว่าเราท้อง พอเราถามเค้า หรือจะคุยตกลงกับเค้าว่าจะเอายังไง เค้าก็บอกว่าไม่ได้คิด ไม่มีเวลาคิดเรื่องนี้ งานยุ่ง เค้าก็จะอ้างอย่างนี้มาตลอด เวลา 3 เดือนที่เราห่างกัน เราเลยตัดสินใจนัดเคลียร์ ให้มันจบๆ ทั้ง 3 คน โดยเราให้มาดามนัดผู้ชายออกมา เพราะถ้าเรานัดออกมา เค้าไม่ยอมแน่ๆ จึงให้มาดามเป็นคนนัด เค้าเลยออกมา พูกกันเลยซึ่งๆหน้า มี เลิกกับ คบกันต่อไป แค่นั้น โดยที่ ผู้ชายพูดว่าไม่ว่าจะกรณีไหนๆ ไม่ว่าจะเลิกกัน หรือคบกันต่อ เรื่องที่ผ่านมาจะไม่มีการรื้อฟื้อหรือพูดถึงอย่างแน่นอน แล้วผู้ชายก็ถามขึ้นมาว่า ถ้าเลิกกัน จะได้เจอหน้าลูกไม๊(เราแอบคิดในใจทุกวันนี้สนใจด้วยเหรอ) เราเลยบอกไม่รู้สิ คิดว่าไงหล่ะ แต่นิยามของคำว่าเลิกกันคือเหมือนตายจากกันไปเลย แล้วเค้าก็ถามต่ออีกว่า ถ้าคบต่อหล่ะ ก็เริ่มใหม่ไง แล้วก็สรุปได้ว่าเค้าเลือกที่จะจบ...โอเค ณ ตอนนั้นเราชัดเจนละ เพราะได้ตำตอบละ เพื่อที่จะไม่ต้องหวัง ไม่ต้องรออะไร
Part..4เมื่อทุกอย่างชัดเจน หลังจากที่ตกลงเลิกกัน เราใช้ชีวิตของเราปกติ แต่เวลาเราหายไปก็โทรหา เวลาเมาก็โทรๆๆๆ แล้วก็เข้ามาหา จนเราหนีเข้าไปอยู่กับพี่ที่นอกเมือง เลยตักสินใจบอกพี่ว่าท้อง แล้วอยากจะออกมาจากจุดที่เป็นอยู่ ตอนนั้นน่าจะท้องได้สัก 6 เดือน พี่และเพื่อน และเจ้ทุกคน แนะนำว่า ให้บอกแม่ ทีแรกเราก็กลัว นะ แต่พอบอกไปแล้ว แม่กลับหัวเราะ แล้วพูดว่า"นึกว่าจะไม่มีละ ปัญหาอย่างนี้ 28ละ"แม่เลยถามต่ออีกว่า แล้วแฟนล่ะว่ายังไง เราเลยบอกแม่ว่า ถ้าเราเนี่ยไม่เอาเค้าจะเป็นไรไม๊ คือยังแบบไม่กล้าที่จะพูดอะไรมาก แม่เลยบอกเราว่า งั้นก็ไปคุยกับแฟนก่อนสิว่าจะเอายังไง พ่อกับแม่ก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรอยู่แล้ว แค่มาผูกข้อไม้ข้อมือก็พอ เราเลยรับปากแม่ว่าจะให้โอกาสเค้า แต่เราก็ยังไม่อยากจะคุยกับเค้า จนแม่โทรมาบ่อยๆแล้วฟังจากน้ำเสียงเราว่าเราเหมือนจะไม่ไหว แม่เลยบอกว่ามาอยู่บ้านเราไม๊ เราบอกว่าไม่เป็นไร อยู่นี่แหละ อยู่ได้ ไม่ต้องห่วง เพราะว่าเราไม่อยากจะให้ใครมาว่าพ่อแม่เรา เราจึงเลือกที่จะอยู่ที่เชียงใหม่ คนเดียว จนแม่ห่วง โทรมาถามถี่เข้าๆ แต่ระหว่านั้นเราก็ยังปล่อยให้เค้าเข้ามาในชีวิตอยู่ จนวันนึงเค้าเมาเข้า เราเลยมีโอกาส จับโทรสัพ ถึงได้เห็นว่า เค้าก็ยังติดต่อกับมาดามอยู่ โดยมาดามจะเป็นคนโทรมา วันละหลายๆเวลา แต่ผู้ชายคนนี้ก็ยัง มีอีกคนนึง ที่คบกัน เป็นเพศที่3 เราเลยได้เบอร์น้องเค้ามาเลย ข้องใจเลยคุย เพราะว่ามันอะไรยังไงกันแน่ มันมาฮั้วกัน 3 - 4 คน อย่างนี้มันไม่ดีแน่ แต่น้องเพศที่ 3 ก็ยังคิดนะ ว่าสักวันลูกเมียเค้าต้องโผล่มาแน่ เพราะเวลาเค้าอยู่กับน้องเค้า เค้าจะไม่ให้ถามอะไร และน้องเค้าก็สงสัยว่าทำไมเลิกงาน 5 โมง แล้วไม่กลับบ้านไปนั่งทำไม หน้าร้านนวด เราเลยแจงเลย แต่เราก็บอกน้องเค้านะว่า ถ้าคบกันพี่ก็ไม่ว่าแต่อย่าให้เค้ากลับมายุ่งกับพี่อีกก็พอ แล้วอีก 2 วัน ผู้ชายกับน้องเค้าก็ทะเลาะกัน ผู้ชายโทรมาหาเรา ขอให้เราไปพูดกับน้องเค้า เราเลยบอกว่า ถ้ารักกันจริง ทำไมไม่ทำให้เค้าเห็นละว่าจริงใจ ตัดสิ ตัดฉัน ตัดมาดาม แล้วถ้าฉันไปพูดให้เธอ เธอจะไม่ดูแย่ไปกว่านี้เหรอ แม่ก็ตามเรื่อง ว่าเราคุยกับแฟนรึยัง เราเลยเอาสมุดสีชมพู ยื่นให้แฟน ถ้าจะเอาก็กรอกชื่อเลขบัตรมา ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ต้องกรอก แต่เราก็ไม่ได้หวังอะไร เพราะว่าถือซะว่าให้โอกาสตามที่หลายๆคนเค้าว่ามา
เ มื่ อ ฉั น ต้ อ ง เ ป็ น S i n g l e M o m.(เรื่องจริงยิ่งกว่าละคร) แก้ไข
Part1.. ตื่นมาด้วยเซ้นแปลก ที่บอกว่าต้องออกไปหาแฟน เลยปั่นจักยานออกไปหาแฟนที่รับจ๊อบอยู่ บริเวณพื้นที่บริษัทกับน้องที่ทำงานเครือเดียวกัน เราไปถึงก็เอาโทรสัพแฟนมาเล่นกเกมส์ตามปกติ เล่นไปเล่นมาเริ่มเบื่อ เลยถือโทรสัพแล้วนั่งดูเค้าทำงานกัน อยู่ดีๆก็มีเมสเสจเข้ามาเราก็เปิดอ่านก่อนเลยว่า "คิดถึง" จากมาดามร้านนวดชื่อ"ดีที่สุด"ย่านไนท์บาร์ซ่า พอใกล้ เลยเห็นละอึ้งไปสักพักแล้ววางโทรสัพเลย พอใกล้เวลาบ่าย3แฟนก็มาหยิบโทรสัพไปสแกนนิ้ว แต่คงเห็นแล้วหล่ะว่าข้อความโดนเปิดอ่าน แต่กลับมาก็ไม่ได้พูดอะไรกับเราเลย ไม่อธิบาย ไม่อะไรสักอย่าง แล้วเราเลยไปหาเพื่อนที่โรงบาล พาลจนไม่ขายของ พอกลับมา เราแวะไปหาที่ทำงานเค้าก็เงียบ เราก็เริ่มนอยส์ตามประสาผู้หญิง เลยวะนั่งร้านพี่ที่รู้จัก นั่งหาไรกิน แล้วก็โทรเรียกเค้า พี่เค้าก็นั่งรออยู่ด้วย แล้วเค้าก็ถามหาตามประสาเพราะเรากะแฟนไม่เคยจะห่างกัน ถามบ่อยๆเลยเลยโทรตาม แล้วบอกว่าอยู่นี่..นะ พี่เค้าถามหาจะมามั้ยเค้าก็บอกว่ามา เราก็รอๆๆกับพี่เค้า จนร้านปิดแฟนพี่แก เกิดคึกชวนกันไปเที่ยว โซอี้ เราก็โทรๆๆ เค้าก็ไม่รับ พี่เค้าก็โทรๆ แต่ก็ไม่มา เราก็เลยไปกัน พอกลับมาจากเที่ยวเค้าไม่อยู่ห้อง เราก็เลยโทรๆๆ อีกเป็นร้อยสายได้ เราเลยกะจับผิด ไปหอน้องเค้าที่เค้าเคยอ้าง เมื่อคราวก่อนเคยไปนอนด้วย นั่งตุ๊กๆไปเคาะห้องเลย ปรากฏว่าาไม่อยู่ ไปดูที่ทำงาน รถยนต์ รถมอไซด์ จอดอยู่ เราเลยกลับมาหอก่อน แต่ก็ยังโทรเรื่อยๆ อีกรอบตี5เราออกไปที่ทำงานเค้าอีกรอบ ทั้งโทรทั้งส่งเมสเสจ แต่ก็ไม่รับเหมือนเดิม เราเลยโมโห เอาสีเสปรย์ พ่นรถเลย "คิดถึง เด็กเจ้ จ "แล้วเอาหินปาใส่กระจกรถ แตก แล้วก็กลับถึงห้อง เก็บของๆเค้าทั้งหมดใส่ถุงแล้วกองไว้เลย พอเช้ามาเค้าเข้ามาประมาณ 10 โมง มาพูดว่าทำไมเราไม่ฟังเค้าบ้าง มาขอโทษ เค้าก็บอกว่าเค้าไปกินเหล้ากับเพื่อน ที่เคยเป็นทหารด้วยกัน พอดีมาเจอกันเลยไปด้วยกัน วันนั้นเราตัดสินใจไล่เค้าออก จากห้อง แต่ก็ทำใจยากเหมือนกันนะ ฟูมฟาย แทบบ้าไปเป็นเดือนเหมือนกัน จนต้องหนีไปอยู่กับพี่ อยู่พักใหญ่ แต่ก็ยังติดต่อกันอยู่บ้าง เราเป็นคนง้อซะส่วนใหญ่ เพราะยอบรับว่าผิดจริงอยู่ที่ทำไรแรงๆ แล้ะวู่วามไป
Part2..เมื่อเริ่มรู้ตัวว่าท้องละ(คือวันที่มีเรื่องกันเราตกเลือดด้วยหลังจากเที่ยวเลยไม่ได้คิดอะไร)กลับเข้ามาอยู่ในเมือง ขายของ แล้วตกลงกันเรื่องเด็กว่าจะเอายังไง กลายเป็นเราผิดที่ไม่ดูแลตัวเอง บลาๆๆ แต่ก็รู้ว่าเค้ากับ มาดามร้านนวดชื่อ"ดีที่สุด" แอบคบกันจริง แต่ตลอดเวลาเราก็พยายามง้อ พยายามตื้อ ทุกทาง แต่เค้าก็ไปๆมาๆ จนเราเริ่มเหนื่อยละ เวลาเราไปหาที่บ้านเค้าก็ไล่เรา ด่าเรา ตะคอก จนวันนึง เรารู้ว่าเค้าพาคนอื่นเข้าบ้าน แต่วันนั้นเราสบโอกาส วันนั้นเราเห็นกล้องถ่ายรูปเราเลยเปิดดูเล่นๆแต่ โช๊ะเด๊ะ...เหมือนฟ้าเป็นใจ ในกล้องมีรูปของคืนที่ ที่เกิดเรื่อง เป็นรูปที่ถ่ายที่ร้านคาราโอเกะ แล้วเผอิญ เป็นรูปที่แฟนเรากับมาดามร้านนวดชื่อ"ดีที่สุด" นั่งกอดกันอยู่ โดยมีพนักงานร้านนวด แล้วเพื่อนของ มาดาม นั่งชู2 นั่งข้างๆ ในใจคิดละ เมื่อไหร่จะสว่างจะได้ไปซะที พอสว่างเราก็ออกมาทันที แต่เค้าไม่รู้นะว่าเรารมีเมมกล้อง เราก็นิ่งไว้ก่อน หลังจากนั้น เราก็อยู่ของเราคนเดียวแหละ เค้าก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร บางครั้งเราก็ท้อนะ ที่หาความชัดเจนไม่ได้เพราะผู้หญิงทุกคนล้วนต้องการความชัดเจน จนเราท้อง 4 เดือน เราเคยวัดใจถามนะว่าเอาออกไม๊ ให้หายามาแต่เค้าก็เฉย แล้วเค้าก็กลับมาว่าเราว่าทำไมตอนนี้ถึงอยากได้ไว้ ในใจบอกว่าทำบาปมาเยอะละ แค่นี้ก็ทำอะไรไม่ขึ้นละ เลยตัดสินใจจะเก็บไว้ เค้าก็บอกว่าจะทำอะไรก็ทำเหอะ เคารพในการตัดสินใจของเรา(เรากับแฟนเคยเอาเด็กออกมาแล้ว)ผ่านมาได้เดือนเศษ จากเหตุการทั้งหมด เราเลยคุยกับพี่คนนึงที่อกหักเหมือนกกันในเฟสบุค ปรึกษาเค้าเพราะเค้าก็อกหักเหมือนกัน เค้าเลยบอกว่าให้ปรึกษาผู้ใหญ่ เราเลยโทรหาป้า เค้าเพราะป้าเค้าก็เหมือนแม่เค้าอีกคน ป้าเค้าเลยบอกว่าให้เราไปฝากท้อง เราเลยโทรหาเค้า ถามว่าวันศุกร์ไปไหนป่าวไปฝากท้อง เค้าบอกว่าไปทำธุระให้พ่อ เราเลยบอกว่าไม่เป็นไร แล้ววันจันทร์หล่ะเข้างานกี่โมง เค้าก็ปักมา พอถึงวันศุกร์ เราตื่นมาแล้วนอนเล่นโทรสัพอยู่บนที่นอน พอดีเป็นวันเกิดพี่ชายที่เราทั้งคู่สนิทกะแกเราเลยเข้าไปโพสอวยพรวันเกิด พอดีแฟนโพสไปก่อนหน้า แล้วมีคอมเม้นคุยกันกะพี่เค้า เหมือนชวนกันดื่ม แต่แฟนเราโพสรูปเหล้าบนเสื่อ เรารู้เลยเหล้ายี่ห้อนี้กับเสื่อแบบนี้ อยู่แถวไหน เดือด....ลุกมาแต่ตัว เก็บของใช้ที่เหลือใส่ถุงไปด้วย(กกน ถุงเท้า เส้ือ) นั่งตุ๊กๆไปเลยกะว่าต้องเจอคาหนังคาเขาให้ได้ แล้วโชคก็เข้าข้างเราเจอจริงๆ เราเลยลงไปที่ร้าน เห็นเราแล้วอึ้งกันหมด ทั้งแฟน มาดามร้านนวดชื่อ"ดีที่สุด" แล้วก็เพื่อนนาง (ปล.เวลาออกไปกินข้าวหรือสังสรรค์ที่ไม่ใช่ม่านรูด นางต้องเหน็บเพื่อนที่เป็นแคชเชียร์ออกไปด้วยทุกครั้งเพราะ เดี๋ยวสามีนางจะรู้และเผือเจอคนที่รู้จัก)แล้วถามว่าไหนบอกว่าไปธุระให้พ่อ ถามอะไรไมม่มีคำตอบจากผู้ชายสักอย่าง เราเลยหันมาบอกขอบคุณมาดามร้านนวดชื่อ"ดีที่สุด" ว่า.."ขอบคุณนะเจ้ ที่ทำให้ลูกของหนูไม่มีพ่อ " เพื่อนนาง ก็ถามนางกลับเลย ว่ารู้เรื่องไม๊ นางก็สายหัว เราเลยบอกว่า นอนด้วยกันไม่คุยกันเลยรึไง แล้วบอกให้เราสองคนออกมาเคลียร์กันข้างนอก เพราะเป็นเรื่องของเรากับแฟน เราสั่นไปหมดทั้งตัวเลย เราเลยบอกว่าอยากได้ก็เอาไป นี่ของเหลือเราก็เลยเทถุงของใช้ของแฟนที่เราเอาไปลงกลางวงเลย แล้วเราก็เดินขึ้นมา ถ่ายรูปเก็บไว้ แต่มาดามเห็น เลยให้แฟนเราตามขึ้นมา แฟนมาแย่งโทรสัพเรา เราเลยถามนี่มันอะไร เค้าบอกก็มาเคลียร์ไง เราเลยบอกเหรอ ละเมื่อกี้ต่อหน้าทำไมไม่พูด ขึ้นมาจะพูดทำไม เค้าก็ว่าเราไม่ฟังเค้า แต่เค้าไม่เคยพูดอะไรเลย แล้วมาหาว่าเราไม่เข้าใจเค้า จนในที่สุดวันจันทร์เราก็ต้องไปฝากท้อง โดยการปั่นจักรยานไปฝากท้องคนเดียว
Part3..จนผ่านไป3เดือน เราเริ่มเหนื่อยละ เริ่มชิน กับการที่ มาดาม ส่งข่าวผ่านลูกน้อง มาแทะบ้าง แต่ผู้ชายก็ไม่เคยจะสนในอะไรเรากับลูกเรา ถ้าเราไม่บอกว่า ซื้อนั่น ซื้อนี่ อยากกินนั่น พาไปนี่หน่อย จนวันนึงเรา เราเลยตัดสินใจให้เค้าเลือก ว่าจะยังไง เพราะป้าเค้าเคยบอกว่าอย่าอคติ อย่าใจร้อน ค่อยๆคุยกัน พี่เราก็บอกว่าจะยังไง ทำไมปล่อยให้มันคารังคาซัง ซึ่งตอนนั้นพี่เรายังไม่รู้ว่าเราท้อง พอเราถามเค้า หรือจะคุยตกลงกับเค้าว่าจะเอายังไง เค้าก็บอกว่าไม่ได้คิด ไม่มีเวลาคิดเรื่องนี้ งานยุ่ง เค้าก็จะอ้างอย่างนี้มาตลอด เวลา 3 เดือนที่เราห่างกัน เราเลยตัดสินใจนัดเคลียร์ ให้มันจบๆ ทั้ง 3 คน โดยเราให้มาดามนัดผู้ชายออกมา เพราะถ้าเรานัดออกมา เค้าไม่ยอมแน่ๆ จึงให้มาดามเป็นคนนัด เค้าเลยออกมา พูกกันเลยซึ่งๆหน้า มี เลิกกับ คบกันต่อไป แค่นั้น โดยที่ ผู้ชายพูดว่าไม่ว่าจะกรณีไหนๆ ไม่ว่าจะเลิกกัน หรือคบกันต่อ เรื่องที่ผ่านมาจะไม่มีการรื้อฟื้อหรือพูดถึงอย่างแน่นอน แล้วผู้ชายก็ถามขึ้นมาว่า ถ้าเลิกกัน จะได้เจอหน้าลูกไม๊(เราแอบคิดในใจทุกวันนี้สนใจด้วยเหรอ) เราเลยบอกไม่รู้สิ คิดว่าไงหล่ะ แต่นิยามของคำว่าเลิกกันคือเหมือนตายจากกันไปเลย แล้วเค้าก็ถามต่ออีกว่า ถ้าคบต่อหล่ะ ก็เริ่มใหม่ไง แล้วก็สรุปได้ว่าเค้าเลือกที่จะจบ...โอเค ณ ตอนนั้นเราชัดเจนละ เพราะได้ตำตอบละ เพื่อที่จะไม่ต้องหวัง ไม่ต้องรออะไร
Part..4เมื่อทุกอย่างชัดเจน หลังจากที่ตกลงเลิกกัน เราใช้ชีวิตของเราปกติ แต่เวลาเราหายไปก็โทรหา เวลาเมาก็โทรๆๆๆ แล้วก็เข้ามาหา จนเราหนีเข้าไปอยู่กับพี่ที่นอกเมือง เลยตักสินใจบอกพี่ว่าท้อง แล้วอยากจะออกมาจากจุดที่เป็นอยู่ ตอนนั้นน่าจะท้องได้สัก 6 เดือน พี่และเพื่อน และเจ้ทุกคน แนะนำว่า ให้บอกแม่ ทีแรกเราก็กลัว นะ แต่พอบอกไปแล้ว แม่กลับหัวเราะ แล้วพูดว่า"นึกว่าจะไม่มีละ ปัญหาอย่างนี้ 28ละ"แม่เลยถามต่ออีกว่า แล้วแฟนล่ะว่ายังไง เราเลยบอกแม่ว่า ถ้าเราเนี่ยไม่เอาเค้าจะเป็นไรไม๊ คือยังแบบไม่กล้าที่จะพูดอะไรมาก แม่เลยบอกเราว่า งั้นก็ไปคุยกับแฟนก่อนสิว่าจะเอายังไง พ่อกับแม่ก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรอยู่แล้ว แค่มาผูกข้อไม้ข้อมือก็พอ เราเลยรับปากแม่ว่าจะให้โอกาสเค้า แต่เราก็ยังไม่อยากจะคุยกับเค้า จนแม่โทรมาบ่อยๆแล้วฟังจากน้ำเสียงเราว่าเราเหมือนจะไม่ไหว แม่เลยบอกว่ามาอยู่บ้านเราไม๊ เราบอกว่าไม่เป็นไร อยู่นี่แหละ อยู่ได้ ไม่ต้องห่วง เพราะว่าเราไม่อยากจะให้ใครมาว่าพ่อแม่เรา เราจึงเลือกที่จะอยู่ที่เชียงใหม่ คนเดียว จนแม่ห่วง โทรมาถามถี่เข้าๆ แต่ระหว่านั้นเราก็ยังปล่อยให้เค้าเข้ามาในชีวิตอยู่ จนวันนึงเค้าเมาเข้า เราเลยมีโอกาส จับโทรสัพ ถึงได้เห็นว่า เค้าก็ยังติดต่อกับมาดามอยู่ โดยมาดามจะเป็นคนโทรมา วันละหลายๆเวลา แต่ผู้ชายคนนี้ก็ยัง มีอีกคนนึง ที่คบกัน เป็นเพศที่3 เราเลยได้เบอร์น้องเค้ามาเลย ข้องใจเลยคุย เพราะว่ามันอะไรยังไงกันแน่ มันมาฮั้วกัน 3 - 4 คน อย่างนี้มันไม่ดีแน่ แต่น้องเพศที่ 3 ก็ยังคิดนะ ว่าสักวันลูกเมียเค้าต้องโผล่มาแน่ เพราะเวลาเค้าอยู่กับน้องเค้า เค้าจะไม่ให้ถามอะไร และน้องเค้าก็สงสัยว่าทำไมเลิกงาน 5 โมง แล้วไม่กลับบ้านไปนั่งทำไม หน้าร้านนวด เราเลยแจงเลย แต่เราก็บอกน้องเค้านะว่า ถ้าคบกันพี่ก็ไม่ว่าแต่อย่าให้เค้ากลับมายุ่งกับพี่อีกก็พอ แล้วอีก 2 วัน ผู้ชายกับน้องเค้าก็ทะเลาะกัน ผู้ชายโทรมาหาเรา ขอให้เราไปพูดกับน้องเค้า เราเลยบอกว่า ถ้ารักกันจริง ทำไมไม่ทำให้เค้าเห็นละว่าจริงใจ ตัดสิ ตัดฉัน ตัดมาดาม แล้วถ้าฉันไปพูดให้เธอ เธอจะไม่ดูแย่ไปกว่านี้เหรอ แม่ก็ตามเรื่อง ว่าเราคุยกับแฟนรึยัง เราเลยเอาสมุดสีชมพู ยื่นให้แฟน ถ้าจะเอาก็กรอกชื่อเลขบัตรมา ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ต้องกรอก แต่เราก็ไม่ได้หวังอะไร เพราะว่าถือซะว่าให้โอกาสตามที่หลายๆคนเค้าว่ามา