13 ผลงานที่น่าทึ่งด้านวิศวกรรมโยธา


Model of a bridge reacting under seismic loading [Image Source: PDS Limited]


โครงการวิศวกรรมโยธายังคงครองรายการพาดหัวข่าวทั่วโลก
ตั้งแต่อาคารที่สูงที่สุดในโลก  ไปจนกระทั่งถึง
หมู่เกาะที่มนุษย์สร้างขึ้นมามีขนาดใหญ่ที่สุด
ทุกคนต่างพึ่งพากับนวัตกรรมวิศวกรรมโยธา
นวัตกรรมทั้งหมดนี้ มีความสัมพันธ์กับด้านก่อสร้าง
โดยต้องย้อนกลับไปที่จุดประสงค์หลักเรื่องหนึ่งคือ
การสนับสนุนการดำรงชีวิตของมนุษย์
ผลงานที่สร้างแรงบันดาลใจ
จากสิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมโยธา
ที่น่าทึ่งมากที่สุดและโครงการก่อสร้างที่เหนือกาลเวลา


1. Three Gorges Dam (2003)

เขื่อนใหญ่ที่สุดในโลก  ขณะเดียวกันก็เป็น
โรงงานผลิตไฟฟ้าพลังน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เขื่อนนี้มีขนาดผนังเขื่อนสูง 185 เมตร
ชื่อของมันมาแม่น้ำสามสายที่ท่วมท้นลงมาในเขื่อนแห่งนี้
มาจากแม่น้ำ Qutang, Wu Xia และ Xiling
โรงงานผลิตไฟฟ้าพลังน้ำที่ถูกสร้างขึ้นมา
สามารถผลิตไฟฟ้าได้รวม 4,700,000,000 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมงในแต่ละปี
ในระหว่างการก่อสร้างต้องใช้คอนกรีตถึง 27,200,000 ลูกบาศก์เมตร
ถ้าเทียบอัตราส่วนก็คือ ปริมาณขนาดเติมสระว่ายน้ำมาตรฐานโอลิมปิดได้ถึง 10,200 สระว่ายน้ำ


Three Gorges Dam [Photo via Wikimedia]



2. Jeddah Tower (Under Construction)

เดิมรู้จักกันในชื่อว่า หอคอยราชอาณาจักร
ทีมงานเริ่มก่อสร้างอาคารหลังนี้ในฤดูใบไม้ผลิ ปีค.ศ. 2013
เมื่อสร้างเสร็จแล้วคาดว่า จะมีค่าใช้จ่าย 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
และจะติดลำดับอาคารที่สูงที่สุดในโลก
แต่เดิมวิศวกรพยายามที่จะสร้างโครงสร้างสูงที่สุด
เท่าที่จะสร้างได้ถึง 1 ไมล์ (1.6 กิโลเมตร)
อย่างไรก็ตามในขั้นตอนการออกแบบ
กลับมีการลดสัดส่วนลงไปเหลือที่ 3,281 ฟุต (1,000 เมตร)
ถึงแม้จะมีการลดขนาดความสูงอาคารนี้ลง
ไปแล้ว
แต่มันก็ยังสูงกว่าอาคารที่สูงที่สุดในปัจจุบัน คือ
Burj Khalifa  ที่สูง 2,716.5 ฟุต (828 เมตร)
โดยจะสูงกว่า 564.5 ฟุต (172 เมตร)


Jeddah Tower under construction [via Hamed1122, Wikimedia]



3. Carlsbad Desalination Plant (Under Construction)

น้ำจะกลายเป็นทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุดในโลก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตแคลิฟอร์เนียตอนใต้
เรื่องน้ำดื่มกลายเป็นเรื่องที่หายากด้วย
หลายเมืองในพื้นที่ต้องหาน้ำดื่มมาจากที่ห่างไกลหลายร้อยไมล์
ขณะที่น้ำจืดก็มีราคาแพงมากแล้ว

การนำน้ำทะเลมาทำเป็นน้ำจืดจึงเป็นหนึ่งในทางเลือก
โครงการนี้มีเป้าหมายที่จะใช้น้ำทะเล
ถึง 50 ล้านแกลลอนต่อวันมาผลิตเป็นน้ำจืด
หรือ 189,270.5892 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
และกระจายน้ำจืดให้กับผู้อยู่อาศัย San Diego County


Birdseye view of current plant [via carlsbaddesal.com]



4. Danyang-Kunshan Grand Bridge (2010)

สะพานนี้มีระยะทาง 102.4 ไมล์ (164.8 กิโลเมตร)
เป็นสะพานที่ยาวที่สุดในโลก
และใช้เวลาเพียง 4 ปีในการก่อสร้าง
ทั้งยังแตกต่างจากสะพานส่วนใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นมา
ด้วยการออกแบบสะพานที่ทอดข้ามหุบเขาจำนวนมาก
เชื่อมต่อเมืองเซี่ยงไฮ้และหนานจิงในมณฑลเจียงซู
มีทางรถไฟที่สะพานเชื่อมต่อระหว่างทั้งสองเมือง
ครอบคลุมระยะทาง 818 ไมล์ (1,317 กิโลเมตร)
ซึ่งเป็นผลงานทางวิศวกรรมโยธาของจีนเอง


via Lazerhorse.org]



5. Palm Islands (2014)

ความพยายามของเมืองพ่อค้าน้ำมันจนร่ำรวย

นายกรัฐมนตรีของดูไบจึงได้มอบหมายให้มีการก่อสร้าง
โครงการก่อสร้างขนาดยักษ์ใหญ่เมื่อหลายปีที่ผ่านมา

ในทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ได้เห็นภาพของ
หมู่เกาะปาล์มนอกชายฝั่งของดูไบ

รีสอร์ทบนเกาะแห่งนี้เป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่
และความสำเร็จของของวิศวกรรมโยธาครั้งสำคัญ

เพราะโครงสร้างพื้นฐานทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกัน
จะถูกสร้างขึ้นมาจากทรายท้องทะเล

ทรายจำนวนกว่า 3 พันล้านลูกบาศก์ฟุต (85,000,000 ลูกบาศก์เมตร)
จะถูกขุดขึ้นมาจากท้องทะเลโดยเรือขุดขนาดใหญ่จำนวนหลายลำ
พร้อมเสริมด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก  
ทรายเหล่านี้จะถูกนำมาตกแต่งขึ้นเป็นรูปร่าง
ที่มีรากฐานดูซับซ้อนของต้นปา​​ล์ม และสนับสนุนด้วยอาคารโรงแรม
หมู่เกาะปาล์มในดูไบก่อสร้างเสร็จวันที่ 24 กันยายน ค.ศ.2008

ก่อนการก่อสร้างหินปูน หิน และทราย 210 ล้านลูกบาศก์เมตร
ถูกนำมาใช้งานสร้างฐานรากเพื่อรองรับโครงสร้าง
หาดทรายและแนวหินใช้หินกับทรายประมาณ 100 ล้านลูกบาศ์กเมตร
แล้วยึดเกาะเข้าด้วยกันกับคอนกรีตเสริมเหล็ก
เพื่อให้มั่นคงแข็งแรงสามารถคงรูปร่างไว้ได้
วงแหวนรอบนอกของหมู่เกาะปาล์ม
ใช้หินกับทรายถึง 10 ล้านลูกบาศก์เมตร
หินที่ถูกนำมาใช้ในการก่อสร้างของรูปเกาะ
ถูกนำมาจากเหมือง United Arab Emirates ทั้งหมด 16 แห่ง
รวมปริมาณของวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างของหมู่เกาะปาล์ม
จะเพียงพอที่จะทำกำแพงขนาดเล็กรอบโลกได้ไม่ต่ำกว่า 3 รอบ


[via cntraveler.com]


[Image Courtesy of the Palm Jumeirah]



6. Venice Tide Barrier Project  (2015)

หนึ่งในเมืองที่ที่ติดลำดับงดงามที่สุดในโลก
Venice  อิตาลีที่เต็มไปด้วยความงดงาม
แต่ภายในเมืองกลับประสบปัญหาวิศวกรรมที่สำคัญ
เพราะเมืองนี้ที่ได้รับลมฝนกระหน่ำในปีที่ผ่านมา
ทำให้ทั้งเมืองเกิดน้ำท่วมจากน้ำฝ​​น
เช่นเดียวกับการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล
เพื่อมองหาหนทางที่จะทำให้เมืองนี้ปลอดภัย
วิศวกรจึงได้คิดค้นวิธีการเฉพาะ
ด้วยการใช้แนวกำแพงกั้นน้ำขึ้นลงได้
เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำขึ้นที่ท่วมที่อ่าวได้

ปัญหาและอุปสรรคที่จะต้องเผชิญหน้าในอนาคตก็คือ
ความสามารถในการปิดล้อมเมืองเวนิส
จากกระแสน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นสูง
โครงการนี้อยู่ในขั้นตอนทดลองนำร่อง
วิศวกรได้ออกแบบแนวกำแพงให้มีเอกลักษณ์
และให้ความสำคัญกับการป้องกัน
น้ำท่วมของเมืองที่มีชื่อเสียงแห่งนี้


View of the mobile barriers in place [via guim.co.uk]



7. Kansai Airport (1994)

เมื่อวิศวกรญี่ปุ่นไม่มีห้องพัก/ที่ทำงานเพียงพอ
การที่จะขยายพื้นที่ภายในสนามบินนานาชาติโอซาก้า
ก็ทำได้อย่างยากลำบากเพราะความแออัดในเมือง
พวกเขาจึงแสวงหาเทคนิคในการก่อสร้างโครงการแบบใหม่
ที่ผิดแปลกไปจากเดิมเหมือนที่เคยทำมาในอดีต
เหมือนกับการสร้างเกาะปาล์มของดูไบ
หรือวิศวกรจีนสร้างเกาะเทียมในมหาสมุทรแปซิฟิค
ที่กลายเป็นกรณีพิพาทกับหลายประเทศในตอนนี้

ทำให้วิศวกรญี่ปุ่นสร้างสนามบินที่มีลู่วิ่งขึ้นลงยาวที่สุดในโลก
เสร็จสิ้นและเปิดทำการได้ในปีค.ศ.1994
ค่าใช้จ่ายรวมประมาณ 20 พันล้านเหรียญสหรัฐ
และเป็นสนามบินแห่งแรกที่สร้างขึ้นบนเกาะเทียม
มีระยะทางยาว 4 กิโลเมตร กว้าง 2.5 กิโลเมตร
ใช้เวลา 3 ปีในการก่อสร้าง
ใช้คนงานมากกว่า 10,000 คน
พร้อมกับเรือขุดจำนวน 80 ลำ
ใช้ขยะกว่า 21 ล้านลูกบาศก์เมตรจากหลุมฝังกลบ
ซึ่งจัดว่าเป็นความโชคดีอย่างหนึ่งของญี่ปุ่น
เพราะญี่ปุ่นมีการคัดแยกขยะมานานแล้ว
จัดว่าเป็นหนึ่งในโครงการวิศวกรรมโยธาที่แพงที่สุด
สนามบินที่สร้างขึ้นมานี้
มีโครงสร้างบางส่วนคล้ายรูปปีกเครื่องบิน
เพื่อให้ทนต่อลมพายุไต้ฝุ่นในพื้นที่ได้ระดับหนึ่ง



Arial view of airport structure atop the manmade island [via aveasia.files]


[Image Courtesy of the Kansai international airport]
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่