โดนแอบอ้างปลอมแปลงเอกสารเพื่อใช้ในการติดตั้ง True Vision

กระทู้คำถาม
เมื่อวันที่ 19/02/16 ที่ผ่านมาได้เข้าไปเช็คค่าโทรทัพศ์ผ่านทาง iTrueService ซึ่งแปลกใจเนื่องจากมีค่าใช้จ่าย ทรูวิชชั่นเพิ่มขึ้นมา1รายการ ด้วยความสงสัยจึงสอบถามไปทางCallCenter ได้ความว่ามีการเปิดใช้บริการไปเมื่อวันที่ 12/02/16!!! ซึ่งการจะเปิดใช้บริการอะไรก็แล้วแต่ของทรูย่อมมีการใช้บัตรประชาชน และต้องมีการเซ็นเอกสาร ซึ่งทางเราเองก็ไม่นิ่งนอนใจ ก็พยายามสอบถามจากหลายๆทาง และก็ได้คำตอบเหมือนกันหมดว่า มีการเปิดใช้บริการทรูวิชชั่นจริงๆเมื่อวันที่ 12/02/16 นี่ก็ตกใจเพราะที่ห้องของตัวเองไม่มีทีวี และไม่ได้มีการติดต่อกับทางทรูเพื่อเข้ามาติดตั้งจานดาวเทียมแต่อย่างใด ทางเราก็ปฎิเสธกับทางทรูไปว่าเราไม่ได้เป็นคนเปิดใช้บริการ ไม่เคยติดต่อและกระทำการใดๆกับทรูมาเนินนานแล้ว คำตอบครั้งแรกที่ได้จากทรูคือ ขอเวลาตรวจสอบแล้วจะติดต่อกลับภายหลัง พอทราบว่ามีการปลอมแปลงเอกสารเกิดขึ้น ตัวเองก็รู้สึกใจคอไม่ดีกลัวว่าจะเอาไปทำธุกรรมอย่างอื่นด้วย เพราะขนาดเปิดใช้บริการจากทรู ยังสามารถเปิดได้ ก็เลยเช็คกับทางเพื่อนที่ทำงานอยู่ทรู และได้ทราบที่อยู่ที่ติดตั้งจานดาวเที่ยมเมื่อวันที่12ที่ผ่านมา และมีเบอร์โทรศัพท์ของบุคคลนั้นอยู่ด้วย เลยนำเบอร์โทรศัพท์ที่ได้ ค้นหาในเฟสบุค!! พระเจ้าเข้าข้างอย่างเหลือเชื่อ แค่ใช้เบอร์โทรศัพท์หาคนเจอด้วย แต่ทางเราเองก็ไม่แน่ใจ พยายามดูรูปภาพสถานที่ในเฟสบุคของคนคนั้นว่าสถานที่ใกล้เคียงกับที่อยู่ที่ติดตั้งจานดาวเทียมหรือป่าว ก็เลยส่งให้เพื่อนช่วยกันดูว่ามีใครรู้จักบุคคลคนนี้หรือมีบ้านใกล้กับคนคนนี้หรือป่าว โชคช่วยเป็นครั้งที่2 เพื่อนของเพื่อนดันอยู่แถวนั้นและรู้จักกับคนคนนี้ ซึ่งเราก็มีข้อมูลพอสมควรและได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับทางตำรวจ ที่ สน.โชคชัย4 ตำรวจก็ใจดีให้ข้อมูลเรามากมาย เนื่องจากเราเองก็ไม่ได้มีความรู้ด้านกฎหมายเยอะนัก หลังจากที่เล่ารายละเอียดให้ตำรวจฟังทั้งหมด ตำรวจเองได้โทรไปหาคนนั้นและให้คุยกับเราเอง เขาบอกเขาไม่รู้จักเรา ( _ _") แน่นอนล่ะค่ะ จะรู้จักได้ไง เรายังไม่รู้จักเธอเลย เขาบอกว่าวันที่เซ็นเอกสารเขาเซ็นเป็นชื่อตัวเอง ทางทรูเป็นคนมาติดตั้งให้เขาเอง (เหรอ......ทรูมาติดให้เองเหรอ ดีจัง) แล้วเราก็เลยบอกโอเคถ้าคุณมั้นใจว่าคุณทำทุกอย่างถูกต้องแสดงว่าทรูผิดเองที่ เอาจานไปติดตั้งบ้านใครก็ไม่รู้ แล้วบอกให้เขาเอาเอกสารทั้งหมดที่มีมาคุยกันที่ สน.เพื่อเราจะได้รู้ว่าใครผิดใครถูก เขาก็โอเคตอบตกลงมา เรารอที่ สน.ตั้งแต่2ทุ่มจน4ทุ่ม ไม่มีใครโผล่มา ทางตำรวจพยายามติดต่อไปแต่ไม่รับ เกือบจะ5ทุ่ม ได้มีบุคคลที่อ้างตัวว่า เป็นเจ้าหน้าที่จากทรูโทรเข้ามาสอบถามเรื่องราวจากเรา แต่นี่ก็แปลกใจว่าวันนี้ทั้งวัน ทรูก็ได้โทรติดต่อเรามาเป็นระยะและทุกคนที่ติดต่อเข้ามาพอจะทราบเรื่องบ้างแล้ว แต่ก็ได้เล่าให้ฟังเป็นบางส่วนเราก็ถามว่าแล้วทางคุณไปติดตั้งแล้วให้เซ็นสัญญากันโดยที่ไม่ดูข้อมูลอะไรเลยหรอ ทั้งที่บัตรประชาชนเป็นผู้หญิงและคนเซ็นเป็นผู้ชาย แล้วอีกอย่าง ไม่ใช้แค่จานดาวเทียมแต่มันพวกกัน ทั้งหมด 3 รายการ มีเบอร์มือถือ อินเตอร์เน็ต และจานดาวเทียม

เจ้าหน้าที่ : 3 รายการเลยหรอครับ!!!  
เรา : เห้ยยยยย  นี่คุณไม่ทราบโปรโมชั่นเลยหรอ??
เจ้าหน้าที่ : ผมเป็นแค่ช่างไปติดตั้งให้เฉยๆครับ
เรา : อ้าวแล้วตะกี้บอกเป็นเจ้าหน้าที่จากทรู
เจ้าหน้าที่ : ป่าวครับเป็นเพื่อนเขาไปติดจานให้เขาเฉยๆๆ  
เรา : ถ้าอย่างงั้นช่วยบอกทางเพื่อนของคุณด้วยนะคะให้เอาเอกสารมาคุยกันที่ สน. เพราะเราเองไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ นี่มันเป็นคดีอาญาเลยนะคะ งั้นคุณพอจะทราบชื่อจริงของเขาหรือป่าวคะ เราขอชื่อจริงนามสกุลด้วย
เจ้าหน้าที่ : เอิ่มมมม ไม่ทราบครับเดี๋ยวจะให้เขาติดต่อกลับมานะครับ

ชัดเลยยยยยยยย  ไม่ใช่เจ้าหน้าที่จากทรูแน่ๆๆ นี่ก็มานั่งคิดเพราะว่าวันนี้ทั้งวันเวลาที่ทรูโทรมา จะใช้เบอร์ CallCenter โทรมาทุกครั้ง และก็จะโทรเข้าเบอร์เราด้วยแต่นี่โทรเข้าเบอร์คุณตำรวจ เราก็คุยและปรึกษากบัคุณตำรวจว่าเราจะมาแจ้งความเผื่อจะจับใครสักคนเราต้องมีหลักฐาน อันนี้เราก็เข้าใจ เพราะเราก็รอเอกสารที่เซ็นสัญญากับทางทรู เพื่อใช้เป็นเอกสารในการแจ้งความาดำเนินคดีได้อย่างถูกต้อง หลังจากที่เรากลับมาถึงบ้าน คุณตำรวจได้ดทรกับมาและบอกว่าทางโน้นเขาได้ติดต่อมาบอกว่า ขอเวลา2วันเพื่อหาเอกสารและจะคุยกับทางผู้ใหญ่ก่อน ซึ่งทางตำรวจก็บอกให้ดูท่าทีเขาไปก่อน

วันที่20/02/16 เราก็พยายามติดต่อกับทางทรูว่าเรื่องไปถึงไหนแล้ว ทั้งทาง CallCenter และทาง FaceBook ซึ่งก็ได้คำตอบเหมือนกันค่ะ  รอ!!!!! รอ!!!! และ รอ!!!!!  

วันที่ 21/02/16 เราก็ได้ติดต่อไปยังทรูอีกครั้งเพื่อถามความคืบหน้า และให้ระงังสัญญาณโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ต แต่CallCenter แจ้งว่าไม่สามารถทำการระงับได้ ต้องไปที่ศูนย์เท่านั้น !!!!!  (O.O) ทำไม ทำไมต้องไปเองงงงงงงง  ในเมื่อตอนเปิดนี่ก็ไม่ได้เปิดเอง การทำสัญญาก็ไม่ถูกกฎหมาย ทำไมต้องให้เราไปเองงงงงง ทำไมคุณไม่ช่วยเรา เราไม่เข้าใจ ทำไมโทรศัพท์หายถึงแจ้งระงับได้เลย บัตรเอทีเอ็มก็เช่นกัน แต่นี้มันคือการแอบอ้างปลอมแปลง และทำไมถึงปิดให้เราไม่ได้!!!!!!!!  และคนที่แจ้งระงับก็คือเจ้าของบัตรตัวจริง เรื่องราวยุ่งอยากวุ่นวายมากมายก่ายกองค่ะ ส่วนเจ้าจานตัวปัญหาทางทรูได้มีการระงับไปตั้งแต่วันที่แจ้งความแล้ว

วันที่ 22/02/16
12.13 ได้มีผู้ชายอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ส่วนกลางของทรู โทรมาและสอบถามข้อมูลเราอีกแล้วววว และบอกเราจะตามเรื่องและดำเนินคะดีให้ เราเลยถามชื่อไปว่าติดต่อกับใครอยู่จะได้ประสานงานได้ถูกต้อง ทางเจ้าหน้าที่ไม่บอกชื่ออีกแล้วคร่าาาาาาาาาาาาา และได้ถามเราว่าเรารู้ตัวคนนั้นหรือยัง เราเลยบอกไปว่าไม่รู้ จะรู้ได้ไงในเมื่อเขาลงทะเบียนเป็นชื่อเรา เราก็พยายามถามชื่อเขาอีกครั้ง และเขาก็ไม่บอกและตัดสายทิ้งไป
13.26 ได้มีผู้หญิงแจ้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ร้านที่เข้าไปติดตั้งให้ เราก็กลัวว่าจะโดนหลอกถามข้อมูลอีก ถามทั้งชื่อจริงชื่อเล่น โอเคทางนั้นเค้าก็บอกเรามา และคุยแล้วน่าเชื่อถือเพราะเขารู้รายละเอียดเยอะกว่าผู้ชายที่โทรมาก่อนหน้านี้ และทางเขาเองก็ดูเดือนร้อนเพราะกลัวว่าชื่อเสียงร้านเขาจะเสียหาย ซึ่งเขาก็รับปากว่าจะพยายามหาเอกสารสัญญามาให้ได้และทางเขาก็จะดำเนินการกับทางพนักงานที่ให้ลูกค้าปลอมเอกสาร ซึ่งทางเราก็โอเคไม่ติดอะไร แต่อยากให้รีบเอาเอกสารตัวที่เซ็นมาให้เราเร็วที่สุด เนื่องจากเราเองก็อยากรู้ว่า บัตรตัวที่ใช้ทำสัญญาเป็นตัวไหน (คือเมือประมาณกลางๆปีที่แล้วเราทำบัตรประชาชนหาย)
16.22 มีผู้ชายอีกคนโทรมาและแจ้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากทรู แจ้งชื่อ และบอกว่าเป็นหัวหน้าของคนที่รับสมัครลูกค้าที่นำบัตรเราไปใช้ แต่ตอนนี้ติดต่อน้องคนนั้นไม่ได้ เขาก็ขออภัยกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับเรา แต่ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นสิคะ มันอยู่ตรงที่คุณเองไม่ตรวจสอบเอกสาร และยังให้ลูกค้าผู้ชายที่ถือบัตรประชาชนของผู้หญิง สมัครบริการของพวกคุณ ถ้าคุณบอกว่าคุณเป็นหัวหน้า แสดงว่าคุณรู้จักชื่อนามสกุล ของลูกน้องคุณ เขาบอกไม่รู้ รู้แต่เลขพนักงานเราเองก็ขอ เลขพนักงาน แต่เขาก็ไม่ยอมให้ บอกว่าจะติดต่อกลับมา  ตอนนี้ก็เงียบหายไป

   บางคนอาจคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลย แค่เงินไม่กี่บาท ทางทรูเขาก็ระงับสัญญาณให้แล้ว ยังต้องการอะไรอีก???
       คือเราไม่ได้สนใจเรื่องค่าใช้จ่ายที่ตามมา เรากลัวว่าเขาจะเอาบัตรของเราไปทำธุรกรรมอย่างอื่น ในเมื่อทรูยินยอมให้เขา ซึ่งไม่ใช่เจ้าของบัตรประชาชนเปิดใช้บริการ แสดงว่าอย่างอื่นก็ไม่ยาก ซึ่งเราก็มาคิดว่า บัตรประชนเราหายไปตั้งแต่เดือน สิงหาคมของปี2558 แต่ทำไมเขาถึงเพิ่งจะมาทำอะไรแบบนี้ หรือเขาอาจทำอย่างอื่นก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเราตรวจสอบไม่ได้ ตอนนี้เราคิดไปต่างๆนานา เนื่องจากเราเองก็ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ ยังไม่อยากที่จะยัดเยียดข้อหาให้กับบุคคลนั้น เราไม่รู้ว่าเขาถือบัตรประชาชนเราจริงหรือป่าว  เราไม่รู้ว่าตอนเซ็นต์เอกสารใช่เขาเซนต์จริงๆหรือป่าว เรายังไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่ผิด ทรู หรือ คนนั้น หรือผิดทั้งสองฝ่าย อันนี้ต้องรอดูเอกสารจากทรู ว่าเขาจะหาให้เราได้หรือป่าว หรืออาจจะช้าไปแล้ว เพราะเอกสารดันหายไป!!!  นี่ก็ไม่ทราบ เพราะ ทรู บอกให้ รอ  รอ  รอนะคะ ^__^


ปล. 1 เรารู้ ชื่อจริงและนามสกุลของคนนั้นแล้ว รู้ที่อยู่ รู้อาชีพ แต่ยังไม่อยากกล่าวหาลอยๆ ต้องรอเอกสารจากทรู
      2 นี่เป็นการตั้งกระทู้แรกผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ พิมพ์ผิดๆถูกๆบ้างก็ขออภัยด้วยนะคะ พอพิมพ์ไปแล้ว อารมณ์มันก็ขึ้น ^ ^

หลายคนถามต่อว่า ถ้าได้เอกสารมาแล้วจะทำยังไงต่อ  อันนี้ขอปรึกษากับทางผู้ใหญ่ดูก่อน แล้วก็ต้องดูอีกทีว่าเรื่องมันเป็นมายังไง เพราะตอนนี้เอาจริงๆก็มืด10ด้าน แต่ในเมื่อเราให้คุณมาคุยกับเราดีๆคุณไม่ยอม คุณทำร้ายเราก่อน เราเสียเวลาเสียการเสียงานเสียสุขภาพจิต  >_<
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่