คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
1. อย่าเกี่ยงงาน (ช่วงแรก)
จะเป็นนายคน ... งานงี่เง่า เล็กๆ เลอะๆ ต้องทำเป็นต้องผ่านมาก่อนครับ
วันหลังจะได้สั่งคนอื่นได้ และรู้ปัญหางี่เง่าๆ
... จบโท เมืองนอก ... แต่ให้ไปรื้อของในโกดังผมก็ไปครับ ทำงานเสาร์อาทิตย์ ตากแดด ยืนเฝ้า ผมทำหมดครับ
แต่ช่วงแรกเท่านั้นนะครับ ไปทำให้รู้ .. หลังจากผ่านไปซักพัก ผมใช้คนอื่นไปทำแทน แต่หลับตาบอกได้หมดเลยครับ
ว่าต้องทำอะไรบ้าง ต้องระวังตรงไหน พัฒนาอุดช่องโหว่ปัญหาตรงไหน เพราะผมลงไปคลุกมาหมดแล้ว
และคลุกแบบคอยหาวิธีพัฒนาให้มันดีขึ้นครับ เวลาผมสั่งลูกน้อง ผมบอกว่า ..ระวังตรงนี้นะ พี่เคยพลาดมาแล้ว ... ฟังดูน่าเชื่อมั้ยล่ะครับ
2. อย่าเกี่ยงงาน (คนอื่น)
งานแผนกอื่น ถ้าผ่านมา ผมก็ทำครับ แต่ทำครั้งเดียวเช่นกัน
เราจะประสานงานกับแผนกอื่นได้ยังไง ถ้าไม่รู้เรื่องอะไรเลยครับ ...เช่น ผมไม่ได้อยู่การเงิน
แต่พอมีเรื่องที่เกี่ยวกับการเงิน ผมไม่ใช่วิธีโยน "พี่การเงิน อันนี้ให้พี่ทำนะ ผมไม่รู้เรื่อง" ...ไม่ใช่ครับ
ผมจะใช้วิธี "พี่การเงิน สอนหน่อยครับ อันนี้ผมไม่เข้าใจ แนะนิดนึง" พอเราพอเป็นแล้ว วันหลังเราค่อยโยนให้แผนกอื่นครับ
คือพอเราเห็นภาพรวม เราจะรู้เยอะขึ้น ..บริษัท หรือองค์กร ไหนก็ตาม มีหลายแผนก ..เราจะค่อยๆเห็นภาพใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
แล้วเวลาหัวหน้าถาม เราจะตอบฉะฉานมาก ว่าไอ้นู่น ไอ้นี่ ทำไมเป็นอย่างงี้ ทำไมต้องทำอย่างงี้
เช่น วันนี้มีปัญหาเรื่องขนส่ง ลูกค้าสั่งของ แต่ของไม่ไปส่ง ... ในอดีตเหตุการณ์อื่นผมเคยไปถาม ไปคลุก ไปเรียนรู้มาครั้งเดียว
แต่พอวันนี้ผมตอบหัวหน้าโดยใช้ความรู้ครั้งนั้นได้เลยครับ ว่าขั้นตอนมันเป็นยังไง แล้วปัญหาอาจจะอยู่ตรงไหนได้บ้าง แล้วผมจะใช้วิธีไหนแก้ปัญหา
เช่น เดี๋ยวจะไปถามพี่คนนั้นให้ เพราะปัญหาอาจจะเกิดจาก บลาๆๆๆ
หัวหน้าฟัง มันก็ดูไอ้นี่พร้อมก้าวขึ้นตำแหน่งใช่มั้ยครับ เพราะมันรู้เยอะกว่างานที่มันทำ
ไอ้ตอนไปคลุกครั้งเดียว ก็ไปเรียนรู้ปัญหามาด้วยก็จะดีครับ
3.อย่าเป็น messenger
3.1 มีปัญหาอะไร อย่าไปหาหัวหน้าแล้วพูดว่า .. "หัวหน้า มีปัญหาตรงนี้ๆ พี่เค้าบอกมาอย่างนี้"
ให้คิดหา วิธีแก้ปัญหาก่อน 2-3 ทางเลือก อย่างน้อยซัก 1 ทางก็ยังดี แล้วไปบอกหัวหน้าว่า
"หัวหน้า พี่เค้าบอกว่ามีปัญหาอย่างนี้ครับ แต่ผมว่า ทำอย่างนี้ดีมั้ยครับ ... หรือว่า อย่างนี้ก็ได้นะครับ ..."
มันจะดูเราคิดมาแล้ว และหัวหน้าอาจจะแก้ว่าให้เปลี่ยนวิธีอะไร เราก็เรียนรู้ไป
ยิ่งถ้าเติบโตมากพอ แล้วมีอำนาจตัดสินใจ ... ให้แก้ปัญหาเบื้องต้นก่อนไปรายงานหัวหน้า เช่น...
"หัวหน้า พี่เค้าบอกมีปัญหาอย่างนี้ ..ผมทำแบบนี้ๆๆๆ ไปแล้ว โอเคมั้ยครับ และผมจะทำแบบนี้ต่อครับ...โอเคมั้ยครับ"
3.2 อย่าเป็น messenger ระหว่างแผนก .... มีหลายคนทำงานเป็นคนกลางประสานงาน
สุดจะเกลียด พวก forward mail แล้วบอกว่า ช่วยทำตามด้านล่าง ... เวลามีการประสานงาน
ช่วยอ่าน วิเคราะห์ แก้ปัญหา เสนอแนะ ก่อนส่งต่อครับ ..สรุป ย่อใจความ ซักหน่อยก็ยังดี
4. อย่าเข้าใจอะไรคนเดียว
คือ...คุณทำงานบางอย่างอยู่กับมัน 10 วันรู้เรื่องอยู่คนเดียว ... เวลาส่งเมล์ หรือโทรบอกแผนกอื่น พิมพ์ซะสั้นเชียว
แผนกอื่น ไม่เห็น ไม่เข้าใจ เค้าจะรู้สึก "ถูกสั่ง" ... แล้วบางครั้ง มันต้องเปลี่ยนแปลงไง ... วันนี้สั่งแบบนึง อีก 2 วัน ขอเปลี่ยน
โทรไปบอกแค่ว่า "ช่วยเปลี่ยนนี่ๆๆให้หน่อย" ...เค้าจะด่าเอาว่า "กลับไปกลับมา"
ผมไม่ใช้วิธีแค่ "สั่ง" ผมจะอธิบายให้เค้าเข้าใจ ที่มาที่ไป ...เค้าจะรู้สึกเป็นทีมเดียวกับเรา เค้าจะเข้าใจความจำเป็นที่ต้องเปลี่ยน
ผมเรียกมันว่า การ"เกริ่น"
เช่นลูกค้าสั่งของ A ใน 10 วันต้องเสร็จ
ผมจะไม่โทรไปบอกว่า คุณฝ่ายผลิต ช่วยทำ A ใน 10 วัน จบ???
ผมจะบอกเค้าว่า คุณฝ่ายผลิต..ลูกค้าคนนี้สำคัญยังไง แล้วมันจำเป็นยังไง รบกวนหน่อยครับ ช่วยทำ A ใน 10 วัน ขอโทษด้วยนะ วันหลังจะดำเนินการ xxx เพื่อให้ลูกค้า A สั่งให้ดีขึ้น มีเวลามากขึ้น ครั้งนี้ขอนะครับ ....
พอลูกค้า A เปลี่ยนเป็นขอ 8 วัน
บางคนโทรไปบอกว่า เฮ้ย ขอ 8 วันนะ .... ฝ่ายผลิตด่าพ่อตายเลยนะครับ
ผมจะโทรไปบอกว่า ... พี่ครับ มันมีเหตุแบบนี้ครับ มันติดตรงนี้จริงๆ พี่มีวิธีเร่งมั้ยครับ แบ่งส่งได้มั้ย (หา solution ให้ด้วย ช่วยกันคิด)
การเกริ่น การอธิบาย สำคัญมากในการประสานงาน ไม่ว่ากับแผนกอื่น กับผู้ supplier agency
จริงๆ มีอีก แต่ขี้เกียจพิมพ์ละ เอาไปปรับใช้ละกันครับ
แต่แค่นี่แหละ ระหว่างแผนกก็จะรักคุณ งาน smooth.. คุณเองก็จะมีศักยภาพ รู้ทั้งงานลึกๆ และงานกว้างๆ
หัวหน้าก็เห็นผลงานโดยไม่ต้องเลียใคร .. ขอให้โชคดีครับ
จะเป็นนายคน ... งานงี่เง่า เล็กๆ เลอะๆ ต้องทำเป็นต้องผ่านมาก่อนครับ
วันหลังจะได้สั่งคนอื่นได้ และรู้ปัญหางี่เง่าๆ
... จบโท เมืองนอก ... แต่ให้ไปรื้อของในโกดังผมก็ไปครับ ทำงานเสาร์อาทิตย์ ตากแดด ยืนเฝ้า ผมทำหมดครับ
แต่ช่วงแรกเท่านั้นนะครับ ไปทำให้รู้ .. หลังจากผ่านไปซักพัก ผมใช้คนอื่นไปทำแทน แต่หลับตาบอกได้หมดเลยครับ
ว่าต้องทำอะไรบ้าง ต้องระวังตรงไหน พัฒนาอุดช่องโหว่ปัญหาตรงไหน เพราะผมลงไปคลุกมาหมดแล้ว
และคลุกแบบคอยหาวิธีพัฒนาให้มันดีขึ้นครับ เวลาผมสั่งลูกน้อง ผมบอกว่า ..ระวังตรงนี้นะ พี่เคยพลาดมาแล้ว ... ฟังดูน่าเชื่อมั้ยล่ะครับ
2. อย่าเกี่ยงงาน (คนอื่น)
งานแผนกอื่น ถ้าผ่านมา ผมก็ทำครับ แต่ทำครั้งเดียวเช่นกัน
เราจะประสานงานกับแผนกอื่นได้ยังไง ถ้าไม่รู้เรื่องอะไรเลยครับ ...เช่น ผมไม่ได้อยู่การเงิน
แต่พอมีเรื่องที่เกี่ยวกับการเงิน ผมไม่ใช่วิธีโยน "พี่การเงิน อันนี้ให้พี่ทำนะ ผมไม่รู้เรื่อง" ...ไม่ใช่ครับ
ผมจะใช้วิธี "พี่การเงิน สอนหน่อยครับ อันนี้ผมไม่เข้าใจ แนะนิดนึง" พอเราพอเป็นแล้ว วันหลังเราค่อยโยนให้แผนกอื่นครับ
คือพอเราเห็นภาพรวม เราจะรู้เยอะขึ้น ..บริษัท หรือองค์กร ไหนก็ตาม มีหลายแผนก ..เราจะค่อยๆเห็นภาพใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
แล้วเวลาหัวหน้าถาม เราจะตอบฉะฉานมาก ว่าไอ้นู่น ไอ้นี่ ทำไมเป็นอย่างงี้ ทำไมต้องทำอย่างงี้
เช่น วันนี้มีปัญหาเรื่องขนส่ง ลูกค้าสั่งของ แต่ของไม่ไปส่ง ... ในอดีตเหตุการณ์อื่นผมเคยไปถาม ไปคลุก ไปเรียนรู้มาครั้งเดียว
แต่พอวันนี้ผมตอบหัวหน้าโดยใช้ความรู้ครั้งนั้นได้เลยครับ ว่าขั้นตอนมันเป็นยังไง แล้วปัญหาอาจจะอยู่ตรงไหนได้บ้าง แล้วผมจะใช้วิธีไหนแก้ปัญหา
เช่น เดี๋ยวจะไปถามพี่คนนั้นให้ เพราะปัญหาอาจจะเกิดจาก บลาๆๆๆ
หัวหน้าฟัง มันก็ดูไอ้นี่พร้อมก้าวขึ้นตำแหน่งใช่มั้ยครับ เพราะมันรู้เยอะกว่างานที่มันทำ
ไอ้ตอนไปคลุกครั้งเดียว ก็ไปเรียนรู้ปัญหามาด้วยก็จะดีครับ
3.อย่าเป็น messenger
3.1 มีปัญหาอะไร อย่าไปหาหัวหน้าแล้วพูดว่า .. "หัวหน้า มีปัญหาตรงนี้ๆ พี่เค้าบอกมาอย่างนี้"
ให้คิดหา วิธีแก้ปัญหาก่อน 2-3 ทางเลือก อย่างน้อยซัก 1 ทางก็ยังดี แล้วไปบอกหัวหน้าว่า
"หัวหน้า พี่เค้าบอกว่ามีปัญหาอย่างนี้ครับ แต่ผมว่า ทำอย่างนี้ดีมั้ยครับ ... หรือว่า อย่างนี้ก็ได้นะครับ ..."
มันจะดูเราคิดมาแล้ว และหัวหน้าอาจจะแก้ว่าให้เปลี่ยนวิธีอะไร เราก็เรียนรู้ไป
ยิ่งถ้าเติบโตมากพอ แล้วมีอำนาจตัดสินใจ ... ให้แก้ปัญหาเบื้องต้นก่อนไปรายงานหัวหน้า เช่น...
"หัวหน้า พี่เค้าบอกมีปัญหาอย่างนี้ ..ผมทำแบบนี้ๆๆๆ ไปแล้ว โอเคมั้ยครับ และผมจะทำแบบนี้ต่อครับ...โอเคมั้ยครับ"
3.2 อย่าเป็น messenger ระหว่างแผนก .... มีหลายคนทำงานเป็นคนกลางประสานงาน
สุดจะเกลียด พวก forward mail แล้วบอกว่า ช่วยทำตามด้านล่าง ... เวลามีการประสานงาน
ช่วยอ่าน วิเคราะห์ แก้ปัญหา เสนอแนะ ก่อนส่งต่อครับ ..สรุป ย่อใจความ ซักหน่อยก็ยังดี
4. อย่าเข้าใจอะไรคนเดียว
คือ...คุณทำงานบางอย่างอยู่กับมัน 10 วันรู้เรื่องอยู่คนเดียว ... เวลาส่งเมล์ หรือโทรบอกแผนกอื่น พิมพ์ซะสั้นเชียว
แผนกอื่น ไม่เห็น ไม่เข้าใจ เค้าจะรู้สึก "ถูกสั่ง" ... แล้วบางครั้ง มันต้องเปลี่ยนแปลงไง ... วันนี้สั่งแบบนึง อีก 2 วัน ขอเปลี่ยน
โทรไปบอกแค่ว่า "ช่วยเปลี่ยนนี่ๆๆให้หน่อย" ...เค้าจะด่าเอาว่า "กลับไปกลับมา"
ผมไม่ใช้วิธีแค่ "สั่ง" ผมจะอธิบายให้เค้าเข้าใจ ที่มาที่ไป ...เค้าจะรู้สึกเป็นทีมเดียวกับเรา เค้าจะเข้าใจความจำเป็นที่ต้องเปลี่ยน
ผมเรียกมันว่า การ"เกริ่น"
เช่นลูกค้าสั่งของ A ใน 10 วันต้องเสร็จ
ผมจะไม่โทรไปบอกว่า คุณฝ่ายผลิต ช่วยทำ A ใน 10 วัน จบ???
ผมจะบอกเค้าว่า คุณฝ่ายผลิต..ลูกค้าคนนี้สำคัญยังไง แล้วมันจำเป็นยังไง รบกวนหน่อยครับ ช่วยทำ A ใน 10 วัน ขอโทษด้วยนะ วันหลังจะดำเนินการ xxx เพื่อให้ลูกค้า A สั่งให้ดีขึ้น มีเวลามากขึ้น ครั้งนี้ขอนะครับ ....
พอลูกค้า A เปลี่ยนเป็นขอ 8 วัน
บางคนโทรไปบอกว่า เฮ้ย ขอ 8 วันนะ .... ฝ่ายผลิตด่าพ่อตายเลยนะครับ
ผมจะโทรไปบอกว่า ... พี่ครับ มันมีเหตุแบบนี้ครับ มันติดตรงนี้จริงๆ พี่มีวิธีเร่งมั้ยครับ แบ่งส่งได้มั้ย (หา solution ให้ด้วย ช่วยกันคิด)
การเกริ่น การอธิบาย สำคัญมากในการประสานงาน ไม่ว่ากับแผนกอื่น กับผู้ supplier agency
จริงๆ มีอีก แต่ขี้เกียจพิมพ์ละ เอาไปปรับใช้ละกันครับ
แต่แค่นี่แหละ ระหว่างแผนกก็จะรักคุณ งาน smooth.. คุณเองก็จะมีศักยภาพ รู้ทั้งงานลึกๆ และงานกว้างๆ
หัวหน้าก็เห็นผลงานโดยไม่ต้องเลียใคร .. ขอให้โชคดีครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 41
ผมขอแชร์ในกรณีของสายนักพัฒนานะครับ (Developer, Programmer)
ก่อนอื่นผมขอเล่าชีวิตผมสักนิดก่อนครับ ผมเริ่มเป็น Web programmer สมัยตอนที่ยังเรียนอยู่มหาลัยปีที่ 2 ในตอนนั้น ก่อนหน้านี้ผมรับทำงานนอกมาได้สักพักแล้วฮะ เกือบๆ ปีได้ รู้สึกชอบและสนุกกับการเขียนโปรแกรมมากๆ จนได้รับโอกาสจากอาจารย์ที่สอนเขียนโปรแกรมบนเว็บไซต์ ให้ไปทำงานด้วยในบริษัทที่เขากำลังจะเปิด ผมก็ไม่รอช้าครับเลยรีบไปทำกับแก ผมทำได้อยู่ 2 ปี เรียนจบพอดี เลยมองหาเป้าหมายใหม่ เพราะผมรู้สึกว่าในตอนนั้นงานค่อนข้างเหมือนเดิม ก็เลยได้วิ่งเข้าสู่เส้นทางของอาชีพนี้เต็มตัวจากตอนนั้นถึงตอนนี้รวมเวลาแล้วประมาณ 7 ปี ทำให้ตอนนี้เป็น Senior node.js developer อยู่ในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ Payment Gateway ทำงานมาไม่เคยใช้ใบปริญญาเลยครับ ทุกวันนี้ใบเน่าคาลิ้นชักมหาลัยไปแล้ว =="
หัวใจหลักที่ผมคิดว่าสำคัญต่อการเติบโตในสายงานนี้ (ผมจะซ้อนเนื้อหาไว้ใน Spoil หากคนไม่อยากอ่านเนื้อหาก็อ่านแค่หัวข้อก็ได้ครับ)
1. ภาษาอังกฤษ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. ทักษะในการมองปัญหา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3. การพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา รวมถึงสกิลที่จะต้องใช้ในสายงานแต่ละสาย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
4. ฉลาดในการทำงาน ไม่ใช่ การทำงานหนัก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
5. สร้าง Connection ให้เยอะเท่าที่จะทำได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
6. ให้รางวัลตัวเองเสมอ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
7. จริงใจกับคนรอบข้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผมมี Quotes อยู่ 3 คำที่จะคิดถึงเสมอ
1. Life is too short
2. Work smarter not harder
3. การทำงานให้ประสบความสำเร็จต้องอ่อนน้อมเหมือนคนไทย ตรงเวลาเหมือนฝรั่ง ขยันเหมือนคนจีน ทำงานเป็นทีมแบบคนญี่ปุ่น
ก่อนอื่นผมขอเล่าชีวิตผมสักนิดก่อนครับ ผมเริ่มเป็น Web programmer สมัยตอนที่ยังเรียนอยู่มหาลัยปีที่ 2 ในตอนนั้น ก่อนหน้านี้ผมรับทำงานนอกมาได้สักพักแล้วฮะ เกือบๆ ปีได้ รู้สึกชอบและสนุกกับการเขียนโปรแกรมมากๆ จนได้รับโอกาสจากอาจารย์ที่สอนเขียนโปรแกรมบนเว็บไซต์ ให้ไปทำงานด้วยในบริษัทที่เขากำลังจะเปิด ผมก็ไม่รอช้าครับเลยรีบไปทำกับแก ผมทำได้อยู่ 2 ปี เรียนจบพอดี เลยมองหาเป้าหมายใหม่ เพราะผมรู้สึกว่าในตอนนั้นงานค่อนข้างเหมือนเดิม ก็เลยได้วิ่งเข้าสู่เส้นทางของอาชีพนี้เต็มตัวจากตอนนั้นถึงตอนนี้รวมเวลาแล้วประมาณ 7 ปี ทำให้ตอนนี้เป็น Senior node.js developer อยู่ในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ Payment Gateway ทำงานมาไม่เคยใช้ใบปริญญาเลยครับ ทุกวันนี้ใบเน่าคาลิ้นชักมหาลัยไปแล้ว =="
หัวใจหลักที่ผมคิดว่าสำคัญต่อการเติบโตในสายงานนี้ (ผมจะซ้อนเนื้อหาไว้ใน Spoil หากคนไม่อยากอ่านเนื้อหาก็อ่านแค่หัวข้อก็ได้ครับ)
1. ภาษาอังกฤษ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. ทักษะในการมองปัญหา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3. การพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา รวมถึงสกิลที่จะต้องใช้ในสายงานแต่ละสาย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
4. ฉลาดในการทำงาน ไม่ใช่ การทำงานหนัก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
5. สร้าง Connection ให้เยอะเท่าที่จะทำได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
6. ให้รางวัลตัวเองเสมอ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
7. จริงใจกับคนรอบข้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผมมี Quotes อยู่ 3 คำที่จะคิดถึงเสมอ
1. Life is too short
2. Work smarter not harder
3. การทำงานให้ประสบความสำเร็จต้องอ่อนน้อมเหมือนคนไทย ตรงเวลาเหมือนฝรั่ง ขยันเหมือนคนจีน ทำงานเป็นทีมแบบคนญี่ปุ่น
แสดงความคิดเห็น
คนที่เริ่มต้นทำงานจากเงินเดือนน้อยๆจนได้เงินเดือนสูงๆ พัฒนาตัวเองอย่างไรคะ
ส่วนตัวทำงานมาได้ประมาณปีกว่า อยากฟังประสบการณ์จาก senior ค่ะ