สวัสดีครับ
เพิ่งไปยื่นวีซ่าเชงเก้น (สวิสเซอร์แลนด์) มาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และกว่าจะยื่นผ่านก็เสียเวลาและเสียเงินไปเกือบ 500 บาท เพราะเรื่องเอกสารใช้ไม่ได้ และรูปถ่ายไม่ได้มาตรฐาน ก็เลยมาแชร์ประสบการณ์และเทคนิคในการเตรียมเอกสาร เพื่อที่จะไม่โดนโขกค่าพิมพ์เอกสารและค่าถ่ายรูปราคาแพงๆ จากร้านในตึกสาธร ซิตี้ ทาวเวอร์ ครับ
มาดูราคาค่าบริการของร้านในตึกสาธรก่อนนะครับ ว่าทำไมเราควรเตรียมไปให้พร้อม
- ถ่ายรูป 6 แผ่น ราคา 250 บาท
- พิมพ์เอกสารจาก email แผ่นละ 50 บาท นี่หมายถึงต้องส่งเอกสารเข้าเมล์ของเขา แล้วให้เขาพิมพ์เอกสารให้
- ใช้งานคอมพิวเตอร์ 100 บาท ใช้ได้ไม่เกิน 20 นาที
ฯลฯ
เป็นไงครับ โขกสับเละเทะ ผมโดนถ่ายรูปใหม่ และพิมพ์เอกสารอีก 2 แผ่น ซี๊ดเลย..
มาเข้าเรื่อง การเตรียมเอกสาร กฎที่ต้องจำเอาไว้และถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด ห้ามบอกว่า "เอาไปเหอะ ไม่เป็นไรหรอก" "แค่นี้เอง" ไม่งั้นก็ต้องไปเสียเวลาพิมพ์เอกสารใหม่อีก
1. รูปถ่ายที่ได้มาตรฐาน ดูจากเว็บนี้ครับ
https://www.tlscontact.com/th2ch/help.php?id=picture_tips&l=th
ภาพข้างบนนี้ ใช้ได้ คือ ถ่ายเต็มหน้า เห็นคอ+ไหล่นิดหน่อยเท่านั้น ฉากหลังสีขาว และห้ามยิ้ม!!!! ถ้าผิดไปจากนี้แสดงว่าคุณจะต้องวิ่งไปถ่ายใหม่
ผมโดนให้ถ่ายใหม่ เพราะภาพที่ผมเตรียมไป เค้าบอกหน้าเล็กไปหน่อย... ทั้งๆ ที่ตอนถ่ายรูปผมได้เน้นย้ำร้านถ่ายภาพแล้วว่าเอาไปยื่นวีซ่า แต่ก็ยังไม่ผ่าน ภาพที่ผมถ่ายมา จะได้ประมาณนี้
ซึ่งเอาไปใช้ติดบัตร สมัครงาน สมัครสอบก็ได้แหละ แต่ไปยื่นวีซ่าไม่ผ่านไงครับ
2. เอกสารทุกอย่าง
ต้องเป็นภาษาอังกฤษ ทั้ง bank statement, ทั้งเอกสารการจองตั๋วเครื่องบิน , เอกสารจองโรงแรม , หนังสือรับรองการทำงาน ฯลฯ
ผมพลาดตรงที่เอกสารการจองตั๋วเครื่องบิน มันเป็นภาษาไทย โดยคิดว่ามันมีภาษาอังกฤษกำกับอยู่ก็คงใช้ได้ แต่ไปยื่นจริงใช้ไม่ได้ครับ
3. กรณีที่ยื่นพร้อมกันหลายคน เอกสารโดยเฉพาะการจองตั๋วเครื่องบิน เอกสารการจองโรงแรม ต้องมีชื่อของผู้ขอวีซ่าครบทุกคน เช่น ไปกับแฟน เอกสารจองโรงแรมก็ต้องมีชื่อเราและชื่อแฟนด้วย ถ้าจองกับ booking ก็ง่ายหน่อย เพราะสามารถแก้ไขผ่านทางหน้าเว็บได้ แต่ถ้าจองกับ agoda นี่ ต้องส่งเมล์ไปที่โรงแรมที่เราจองให้เขาส่ง email confirm ที่พักมาให้ด้วย โดยให้ระบุชื่อ-นามสกุลให้ครบทุกคน
4. การไปยื่นเอกสาร ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรไปมาก เพราะผมไปก็ไม่ได้สัมภาษณ์อะไรเลย เจ้าหน้าที่ทุกช่องเป็นคนไทย พูดภาษาไทย
นี่เป็นเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่แชร์มาจากประสบการณ์ของผมเอง ใครมีคำถามอะไรเพิ่มเติมก็ถามมาได้นะครับ ถ้าผมตอบได้จะมาช่วยตอบให้ครับ
แชร์เทคนิคการยื่นเอกสารวีซ่าเชงเก้น เพื่อที่จะไม่โดนโขกสับจากร้านพิมพ์เอกสารราคาแพง
เพิ่งไปยื่นวีซ่าเชงเก้น (สวิสเซอร์แลนด์) มาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และกว่าจะยื่นผ่านก็เสียเวลาและเสียเงินไปเกือบ 500 บาท เพราะเรื่องเอกสารใช้ไม่ได้ และรูปถ่ายไม่ได้มาตรฐาน ก็เลยมาแชร์ประสบการณ์และเทคนิคในการเตรียมเอกสาร เพื่อที่จะไม่โดนโขกค่าพิมพ์เอกสารและค่าถ่ายรูปราคาแพงๆ จากร้านในตึกสาธร ซิตี้ ทาวเวอร์ ครับ
มาดูราคาค่าบริการของร้านในตึกสาธรก่อนนะครับ ว่าทำไมเราควรเตรียมไปให้พร้อม
- ถ่ายรูป 6 แผ่น ราคา 250 บาท
- พิมพ์เอกสารจาก email แผ่นละ 50 บาท นี่หมายถึงต้องส่งเอกสารเข้าเมล์ของเขา แล้วให้เขาพิมพ์เอกสารให้
- ใช้งานคอมพิวเตอร์ 100 บาท ใช้ได้ไม่เกิน 20 นาที
ฯลฯ
เป็นไงครับ โขกสับเละเทะ ผมโดนถ่ายรูปใหม่ และพิมพ์เอกสารอีก 2 แผ่น ซี๊ดเลย..
มาเข้าเรื่อง การเตรียมเอกสาร กฎที่ต้องจำเอาไว้และถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด ห้ามบอกว่า "เอาไปเหอะ ไม่เป็นไรหรอก" "แค่นี้เอง" ไม่งั้นก็ต้องไปเสียเวลาพิมพ์เอกสารใหม่อีก
1. รูปถ่ายที่ได้มาตรฐาน ดูจากเว็บนี้ครับ
https://www.tlscontact.com/th2ch/help.php?id=picture_tips&l=th
ภาพข้างบนนี้ ใช้ได้ คือ ถ่ายเต็มหน้า เห็นคอ+ไหล่นิดหน่อยเท่านั้น ฉากหลังสีขาว และห้ามยิ้ม!!!! ถ้าผิดไปจากนี้แสดงว่าคุณจะต้องวิ่งไปถ่ายใหม่
ผมโดนให้ถ่ายใหม่ เพราะภาพที่ผมเตรียมไป เค้าบอกหน้าเล็กไปหน่อย... ทั้งๆ ที่ตอนถ่ายรูปผมได้เน้นย้ำร้านถ่ายภาพแล้วว่าเอาไปยื่นวีซ่า แต่ก็ยังไม่ผ่าน ภาพที่ผมถ่ายมา จะได้ประมาณนี้
ซึ่งเอาไปใช้ติดบัตร สมัครงาน สมัครสอบก็ได้แหละ แต่ไปยื่นวีซ่าไม่ผ่านไงครับ
2. เอกสารทุกอย่าง ต้องเป็นภาษาอังกฤษ ทั้ง bank statement, ทั้งเอกสารการจองตั๋วเครื่องบิน , เอกสารจองโรงแรม , หนังสือรับรองการทำงาน ฯลฯ
ผมพลาดตรงที่เอกสารการจองตั๋วเครื่องบิน มันเป็นภาษาไทย โดยคิดว่ามันมีภาษาอังกฤษกำกับอยู่ก็คงใช้ได้ แต่ไปยื่นจริงใช้ไม่ได้ครับ
3. กรณีที่ยื่นพร้อมกันหลายคน เอกสารโดยเฉพาะการจองตั๋วเครื่องบิน เอกสารการจองโรงแรม ต้องมีชื่อของผู้ขอวีซ่าครบทุกคน เช่น ไปกับแฟน เอกสารจองโรงแรมก็ต้องมีชื่อเราและชื่อแฟนด้วย ถ้าจองกับ booking ก็ง่ายหน่อย เพราะสามารถแก้ไขผ่านทางหน้าเว็บได้ แต่ถ้าจองกับ agoda นี่ ต้องส่งเมล์ไปที่โรงแรมที่เราจองให้เขาส่ง email confirm ที่พักมาให้ด้วย โดยให้ระบุชื่อ-นามสกุลให้ครบทุกคน
4. การไปยื่นเอกสาร ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรไปมาก เพราะผมไปก็ไม่ได้สัมภาษณ์อะไรเลย เจ้าหน้าที่ทุกช่องเป็นคนไทย พูดภาษาไทย
นี่เป็นเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่แชร์มาจากประสบการณ์ของผมเอง ใครมีคำถามอะไรเพิ่มเติมก็ถามมาได้นะครับ ถ้าผมตอบได้จะมาช่วยตอบให้ครับ