“เชียงใหม่” เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ “แม่ฮ่องสอน”
ทริปนี้เริ่มจากความต้องการของเพื่อนผมอีกคนที่อยากไปสัมผัสภาพสวยๆของ “หมู่บ้านรักไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน”
หมู่บ้านรักไทย.... คืออะไรว้า? ประโยคคำถามเกิดขึ้นหลังจากได้ยินความต้องการของเพื่อน
หลังจากหาข้อมูลก็พบว่าเป็นหมู่บ้าน ที่มีรีสอร์ทตั้งอยู่กลางไร่ชา ใน ตอนเช้ามีหมอก มองลงไปมีบึงน้ำขนาดใหญ่ด้านหน้า โอ้ โหหหห...รออะไรละครับ ผมตบปากรับคำทันที แต่มีเงื่อนไขหน่อย ... แวะไปเชียงใหม่ด้วยได้มั้ย 5555
และแล้วทุกอย่างถูกจองกันข้ามปี ทั้งที่พักที่แม่ฮ่องสอน ที่พักในเชียงใหม่ ตั๋วเครื่องบิน และตั๋วรถทัวร์ ...
อะพร้อมแล้วววว..ไปกันเลยครับ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
วันเดินทาง
[เย็นวันที่ 10.02.16]
“อีกครั้งแล้วสินะ...ที่ฉันต้องโยกย้าย”
ตัดภาพมาที่หน้าหมอชิต 5555 ใช่แล้วครับ “ หมอชิต” เราจะเดินทางโดยรถทัวร์ เพราะแม่ฮ่องสอนไม่มีเครื่องบินๆตรง
นอกจากจะลงที่เชียงใหม่ แล้วต่อเครื่องบินเล็กไปอีกที ... สรุปง่ายๆว่าเปลืองครับ 5555
ถ้าใครจำได้ในทริปที่แล้ว
http://pantip.com/topic/34024674 กับความอลหม่านของไอโหน่งที่หมอชิต เลยทำให้ทริปนี้ ผมค่อนข้างเผื่อเวลาในเดินทางมาหมอชิตพอสมควร ทำให้มีเวลาพอที่แวะกินกาแฟ เดินหาชานชลาแบบไม่ต้องวิ่งสี่คูณร้อย
6 โมงเย็นรถทัวร์ค่อยๆพาเราออกจากกรุงเทพ ...... ความเนิบ และ การพักผ่อน กำลังมาเยือนเราอย่างช้าๆ
ผมไม่ทันจะเอนหลังลงเบาะ เสียงคุณป้าด้านหลังก็ดังขึ้น..... “แอร์ไม่เย็นเลย ถ้าไปแค่อยุธยาจะทนอยู่ นี่ไปตั้งแม่ฮ่องสอน”
ตอนนั้นคิดในใจว่า ... ป้าเค้าใจร้อน ทั้งๆที่รถมันเพิ่งจะออกตัว เดี๋ยวแอร์มันคงค่อยๆเย็นขึ้นเรื่อยๆ .. อะเอนหลังหลับตาต่อดีกว่า
ผ่านวิภาวดีก็แล้ว รังสิตก็แล้ว .... แอร์ยังไม่เย็น....
ได้แต่บอกตัวเองว่า ครั้งที่แล้วนอนน้ำแอร์ย้อยใส่หัวยังผ่านมาได้ แค่นี่พี่สตรองมาก 555
รถเลยนวนครมาสักพัก เสียงจากพนักงานประจำรถประกาศขึ้น
“เรียนท่านผู้โดยสารทุกท่าน เนื่องจากเครื่องทำความเย็นมีปัญหา ทางบริษัทมีความประสงค์จะเปลี่ยนรถ จึงจะพาทุกท่านกลับไปเปลี่ยนรถที่สำนักงานใหญ่”
สิ้นเสียงประกาศ ผมรีบหันมาถามเพื่อน “สำนักงานใหญ่? ตรงไหนวะ” วิภาวดีหรอ...
รถทัวร์ยูเทิร์นกลับเข้ากรุงเทพไปเปลี่ยนรถคันใหม่ที่แอร์เย็นฉ่ำ ... เย็นพอที่เพนกวินจะเดินได้ 5555
สิริเวลาได้ออกจากกรุงเทพคือ 3 ทุ่มครับคุณผู้ชม
... ทุกอย่างราบรื่นจนกระทั่งตีสาม.... การเข้าโค้งได้เริ่มต้น เพื่อนร่วมทริปก็เริ่มปรุงโจ๊กเช่นกัน 5555
เลยทำให้ผมค้นพบว่า “แม่ฮ่องสอน คือ จังหวัดที่ต้องผ่านภูเขา คงอารมณ์ประมาณเหมือนไปปายตอนสมัยเรียนมหาลัย”
รอช้าอะไรละครับ รีบสะกดจิตตัวเองให้หลับต่อ ไม่อยากช่วยเพื่อนทำโจ๊ก …. 5555
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
Day 1 : แม่ฮ่องสอน
[11.02.16]
ประมาณ 10 โมง รถทัวร์พาเรามาถึงขนส่งจังหวัดแม่ฮ่องสอน
ภาพในหัวก่อนหน้านี้คิดเอาไว้ว่าคนต้องเยอะๆ ขนส่งต้องใหญ่เหมือนจังหวัดอื่นๆในภาคเหนือ
แต่ที่ได้เห็นกับตาคือ ความเงียบสงบของจังหวัดเล็กๆที่รอให้เราเข้าไปค้นหา
จากขนส่งเราโดยสารรถตุ๊กๆของคุณลุงไปที่ตลาดสายหยุด เพื่อที่จะต่อรถเหลืองไปที่ “หมู่บ้านรักไทย” จุดหมายแรกของทริปนี้
เห็นคิวรถเหลืองที่หน้าตลาดเราก็อุ่นใจว่าได้ไปแน่นอน แต่เดี๋ยวครับ...
จากการสอบถามคนขับแล้ว เค้าบอกว่า รถไปหมู่บ้านรักไทย มีแค่วันละ “หนึ่งเที่ยว” ย้ำ “หนึ่งเที่ยว” เท่านั้น
เพราะสายนี้รถมีอยู่แค่สองคัน สลับกันขับคนละวัน
และวันนี้รถจะออกประมาณเที่ยง เลยทำให้ผมและเพื่อนมีเวลาเดินเล่นถ่ายรูปแถวนั้น
เดินมาเรื่อยๆ ทะลุหลังตลาดสายหยุดไปกินไข่กระทะร้านของอุ้ย ที่ถึงแม้แกจะมีอายุแล้ว แต่ก็ยังหยิบจับทุกอย่างด้วยความคล่องแคล่ว
เที่ยงแล้ว ... รถเหลืองออกจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน
ด้วยรถโดยสารที่เข้าไปหมู่บ้านรักไทยมีแค่วันละหนึ่งเที่ยว ก็เลยทำให้รถคันนี้เป็นมากกว่ารถสองแถวที่เราชินตา เพราะนอกจากเพื่อนร่วมคันจะเป็นพริก หอม กระเทียมแล้ว ยังมีลังน้ำแข็ง และน้ำมันเบนซินอีก4ถัง เดินทางไปกับเราด้วย ...
นี่แหละคงเป็นเสน่ห์ของการเดินทางไปในเส้นทางใหม่
รถเหลืองใช้เวลาเดินทางมาถึงหมู่บ้านรักไทยประมาณ เกือบสองชั่วโมง แล้วเราก็รีบเข้ามาที่พัก
“ลีไวน์รักไทย” รีสอร์ทที่ปลูกขึ้นไร่ระดับแทรกตัวอยู่ท่ามกลางไร่ชา
ด้านในห้องถูกตกแต่งให้อารมณ์ประมาณญี่ปุ่น มีพัดลม มีเครื่องทำน้ำอุ่น และมีชา ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่เตรียมไว้ให้ผู้ที่มาพักด้วยครับ
เก็บของ พักเหนื่อย อาบน้ำเสร็จ ก็ได้เวลาออกมาเดินเล่นในหมู่บ้านรักไทย มองไปรอบๆ ความสวยงามได้ใจผมไปเต็มๆ ลืมบอกไปว่าที่รีสอร์ทลีไวน์รักไทย มีจักรยานให้เช่าปั่นด้วยนะครับ แล้วถ้ากินอาหารในร้านอาหารของที่พักก็มีส่วนลด แล้วถ้าซื้อของฝากในร้านขายของฝากของที่พักก็มีส่วนลดอีก .... 5555 ชอบๆเป็นการตลาดที่ดี
เดินเล่นถ่ายรูปจนท้องร้อง แบตในกล้องก็คงหิวไฟเหมือนกัน ... มื้อเย็นมื้อแรกที่หมู่บ้านรักไทยเลยไม่ได้ถ่ายรูปเอาไว้ มีแต่ความอร่อยที่ยังคงติดลิ้นไม่หาย ทั้งขาหมูพันปี หมั่นโถทอด เห็ดหอมอบซีอิ้ว ยอดฟักแม้วผัด รวมๆแล้วมื้อนี้หกร้อยกว่าบาทครับ
เมื่อพระอาทิตย์ลัดขอบภูเขา ความเย็นก็เริ่มเข้ามาเยือน เรารีบเข้าที่พัก ภาวนาให้ได้สัมผัสความหนาว
สองทุ่ม ...ทุกอย่างเงียบสงบราวกับกรุงเทพตอนตีสอง ได้ยินเพียงแต่เสียงร้องเพลงของลูกเสือที่เข้าค่ายมาจากไกลๆ
ไม่ถึงสี่ทุ่ม ... บรรยากาศและความอ่อนล้าไม่สามารถรั้งหนังตาเอาไว้ได้ ... หลับสิครับคุณผู้ชม ...
[CR] แม่ฮ่องสอน - เชียงใหม่ [ I come again ]
หมู่บ้านรักไทย.... คืออะไรว้า? ประโยคคำถามเกิดขึ้นหลังจากได้ยินความต้องการของเพื่อน
หลังจากหาข้อมูลก็พบว่าเป็นหมู่บ้าน ที่มีรีสอร์ทตั้งอยู่กลางไร่ชา ใน ตอนเช้ามีหมอก มองลงไปมีบึงน้ำขนาดใหญ่ด้านหน้า โอ้ โหหหห...รออะไรละครับ ผมตบปากรับคำทันที แต่มีเงื่อนไขหน่อย ... แวะไปเชียงใหม่ด้วยได้มั้ย 5555
และแล้วทุกอย่างถูกจองกันข้ามปี ทั้งที่พักที่แม่ฮ่องสอน ที่พักในเชียงใหม่ ตั๋วเครื่องบิน และตั๋วรถทัวร์ ...
อะพร้อมแล้วววว..ไปกันเลยครับ
[เย็นวันที่ 10.02.16]
นอกจากจะลงที่เชียงใหม่ แล้วต่อเครื่องบินเล็กไปอีกที ... สรุปง่ายๆว่าเปลืองครับ 5555
ถ้าใครจำได้ในทริปที่แล้ว http://pantip.com/topic/34024674 กับความอลหม่านของไอโหน่งที่หมอชิต เลยทำให้ทริปนี้ ผมค่อนข้างเผื่อเวลาในเดินทางมาหมอชิตพอสมควร ทำให้มีเวลาพอที่แวะกินกาแฟ เดินหาชานชลาแบบไม่ต้องวิ่งสี่คูณร้อย
6 โมงเย็นรถทัวร์ค่อยๆพาเราออกจากกรุงเทพ ...... ความเนิบ และ การพักผ่อน กำลังมาเยือนเราอย่างช้าๆ
ผมไม่ทันจะเอนหลังลงเบาะ เสียงคุณป้าด้านหลังก็ดังขึ้น..... “แอร์ไม่เย็นเลย ถ้าไปแค่อยุธยาจะทนอยู่ นี่ไปตั้งแม่ฮ่องสอน”
ตอนนั้นคิดในใจว่า ... ป้าเค้าใจร้อน ทั้งๆที่รถมันเพิ่งจะออกตัว เดี๋ยวแอร์มันคงค่อยๆเย็นขึ้นเรื่อยๆ .. อะเอนหลังหลับตาต่อดีกว่า
ผ่านวิภาวดีก็แล้ว รังสิตก็แล้ว .... แอร์ยังไม่เย็น....
ได้แต่บอกตัวเองว่า ครั้งที่แล้วนอนน้ำแอร์ย้อยใส่หัวยังผ่านมาได้ แค่นี่พี่สตรองมาก 555
“เรียนท่านผู้โดยสารทุกท่าน เนื่องจากเครื่องทำความเย็นมีปัญหา ทางบริษัทมีความประสงค์จะเปลี่ยนรถ จึงจะพาทุกท่านกลับไปเปลี่ยนรถที่สำนักงานใหญ่”
สิ้นเสียงประกาศ ผมรีบหันมาถามเพื่อน “สำนักงานใหญ่? ตรงไหนวะ” วิภาวดีหรอ...
รถทัวร์ยูเทิร์นกลับเข้ากรุงเทพไปเปลี่ยนรถคันใหม่ที่แอร์เย็นฉ่ำ ... เย็นพอที่เพนกวินจะเดินได้ 5555
สิริเวลาได้ออกจากกรุงเทพคือ 3 ทุ่มครับคุณผู้ชม
เลยทำให้ผมค้นพบว่า “แม่ฮ่องสอน คือ จังหวัดที่ต้องผ่านภูเขา คงอารมณ์ประมาณเหมือนไปปายตอนสมัยเรียนมหาลัย”
รอช้าอะไรละครับ รีบสะกดจิตตัวเองให้หลับต่อ ไม่อยากช่วยเพื่อนทำโจ๊ก …. 5555
[11.02.16]
ภาพในหัวก่อนหน้านี้คิดเอาไว้ว่าคนต้องเยอะๆ ขนส่งต้องใหญ่เหมือนจังหวัดอื่นๆในภาคเหนือ
แต่ที่ได้เห็นกับตาคือ ความเงียบสงบของจังหวัดเล็กๆที่รอให้เราเข้าไปค้นหา
เห็นคิวรถเหลืองที่หน้าตลาดเราก็อุ่นใจว่าได้ไปแน่นอน แต่เดี๋ยวครับ...
จากการสอบถามคนขับแล้ว เค้าบอกว่า รถไปหมู่บ้านรักไทย มีแค่วันละ “หนึ่งเที่ยว” ย้ำ “หนึ่งเที่ยว” เท่านั้น
เพราะสายนี้รถมีอยู่แค่สองคัน สลับกันขับคนละวัน
และวันนี้รถจะออกประมาณเที่ยง เลยทำให้ผมและเพื่อนมีเวลาเดินเล่นถ่ายรูปแถวนั้น
นี่แหละคงเป็นเสน่ห์ของการเดินทางไปในเส้นทางใหม่
ด้านในห้องถูกตกแต่งให้อารมณ์ประมาณญี่ปุ่น มีพัดลม มีเครื่องทำน้ำอุ่น และมีชา ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่เตรียมไว้ให้ผู้ที่มาพักด้วยครับ
เดินเล่นถ่ายรูปจนท้องร้อง แบตในกล้องก็คงหิวไฟเหมือนกัน ... มื้อเย็นมื้อแรกที่หมู่บ้านรักไทยเลยไม่ได้ถ่ายรูปเอาไว้ มีแต่ความอร่อยที่ยังคงติดลิ้นไม่หาย ทั้งขาหมูพันปี หมั่นโถทอด เห็ดหอมอบซีอิ้ว ยอดฟักแม้วผัด รวมๆแล้วมื้อนี้หกร้อยกว่าบาทครับ
สองทุ่ม ...ทุกอย่างเงียบสงบราวกับกรุงเทพตอนตีสอง ได้ยินเพียงแต่เสียงร้องเพลงของลูกเสือที่เข้าค่ายมาจากไกลๆ
ไม่ถึงสี่ทุ่ม ... บรรยากาศและความอ่อนล้าไม่สามารถรั้งหนังตาเอาไว้ได้ ... หลับสิครับคุณผู้ชม ...