ผิดมั๊ย ที่จะเก็บเงิน ซื้อมอเตอร์ไซด์ bigbike เอง ?

ต้องเล่ารายละเอียด ก่อนนะครับ
คือ ที่บ้านผม มีฐานะพอสมควร แต่ก็ไม่ถึงกับรวย มากมายอะไร พี่สาวผมก็มีรถยนต์ใช้ แฟนผมก็มีรถยนต์ แม่ผมก็มีรถยนต์ใช้  รวมรถส่งของด้วยก็ 5-6คันได้  ส่วนผมใช้มอเตอร์ไซด์ ไปกลับที่ทำงาน ซึ่งใกล้บ้านมากๆๆๆ 5นาที ก็ถึง ผมอายุ 30 ต้นๆ มี ลูกแล้ว2 คน จริงๆ แล้วผมก็เคยมี bigbike อยู่ก่อนแล้ว ซื้อเมื่อ7 ปีก่อนได้ ตอนนั้นซื้อมือหนึ่ง ออกศูนย์เลย 7 แสนกว่าๆ คราวนั้นก็เก็บเงินเอง ซื้อเอง ใช้ๆ มาพอดีมีช่วง รถยนต์คันแรกของรัฐบาลมาพอดี ผมก็เลยคิดว่า ขายbigbike ไปก่อน แล้วไปซื้อรถยนต์ ให้แฟน (ตอนนั้นแฟนยังไม่มีรถ) แล้วค่อยเก็บเงินใหม่ ซื้อมือสอง รุ่นเดิม กลับมา ถึงตอนนั้น ราคาก็คงถูกว่าตอนที่ขายไปตอนนี้  
              ที่บ้านผมเป็นกิจการส่วนตัว ในครอบครัว ช่วยกันทำ ผมทำงาน ออกบ้านตีห้ากว่า หกโมง กลับบ้าน หกโมง ทุ่ม  ถ้างานเยอะ ก็สองทุ่ม สามทุ่ม...ก็ว่ากันไป ทำงาน 7วัน ไม่มีวันหยุด ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยวบาร์ ไม่ติดหญิง ได้เงินเดือนมา ก็แบ่งใช้ 1ส่วน ก็พอใช้กินอยู่ เป็นเดือนๆไป เก็บ3ส่วน ส่วนที่เก็บฝากแม่ไว้ เพราะคิดว่าเผื่อแม่ เอาไปใช้หมุนเวียนในกิจการ ดีกว่าฝากธนาคาร (ถึงแม้เงินเดือนผมจะน้อยนิดเมื่อเทียบกับเงินหมุนเวียนในกิจการแต่ละเดือน 1ในร้อย ประมาณนั้น)
              ผ่านมา3 ปี ผมก็คิดว่าคงพอซื้อ bigbike ได้แล้ว ไม่ก็ใกล้ได้แล้ว ก็ขอแม่ซื้อ ก็ปรากฏว่า แม่ไม่ให้ซื้อ ยกเหตุผลมามากมาย เอาเวลาที่ไหนไปขี่ เดียวซื้อมาก็ต้องเอาไปขี่ไปนู้นมานี่ ผมก็บอกก็ไม่ได้ไป แค่ได้เห็น ลูบๆ คลำๆ ได้ขี่นิดๆ หน่อยๆ (ไม่ถึงกับว่าออกทริปไปไกลๆ หลายวัน) ก็พอแล้ว แม่บอกซื้อมาดู ซื้อมาทำไม (อืม ก็ผมชอบนี่ แค่ดูก็พอใจแล้ว) อยากดูก็ไปดู ไปจับที่เค้าโชว์รถสิ แล้วก็ว่าเดี๋ยว ซื้อมา เดี๋ยวก็ขาย ขายทุนอีก ซื้อมาทำไม ผมได้แต่ฟัง พอผมจะอธิบายว่าทำไม่ขายหรอกถ้าซื้อมา  ที่คันเก่าขายไปก็เพราะ จะไปซื้อรถคันแรก ก่อน  แม่ก็ไม่ฟังผมอธิบาย คือ ไม่ให้โอกาสพูดซะด้วยซ้ำ  เล่นพูดตัดบทเลย ซึ่งถ้าผมซื้อรถคันนี้แล้ว  ต่อไปเงินเก็บที่เหลือแต่ละเดือน ผมก็จะให้ครอบครัว ทั้งหมดอยู่แล้ว (ในความคิดผม แต่ผมไม่มีโอกาสได้พูดเลย) ตอนแรกก็คิดว่า ลองพูดบ่อยๆ ดู เผื่อจะใจอ่อน ลองพูดดูซัก3-4 ครั้งได้ พี่สาวก็มาบอก ไม่ต้องไปพูดเรื่องรถกับแม่แล้วนะ เค้าเครียด ปวดหัว ไมเกรนขึ้น  ตั้งแต่น้น ผมก็ไม่พูดอีกเลย จะขอเงินเดือนส่วนเหลือในแต่ละเดือน งวดต่อๆ มาก็ไม่กล้า ก็ได้แต่ใช้เงินส่วนที่มีไป ไม่มีเงินเก็บ เงินเก็บมีก็ใช้ไม่ได้ ถ้าแม่ไม่เห็นด้วย ผมกลุ้มใจจริงๆ
              ผ่านมา3-4 เดือน ลองพูดขอซื้อ ใหม่  ก็เหมือนเดิม คือไม่ได้  จะเอาเวลาไหนไปขี่  (ก็ผมก็ให้เวลาทำงาน ไม่ไปไหน ไม่หยุด หนิ เรื่องทำงานผมก็ไม่ว่าอะไร แต่จะขอระบายหน่อยไม่ได้เหรอ ระบายในที่นี้ก็หมายถึง ซื้อของที่ชอบ ได้แต่คิด แต่ไม่ได้พูด ) แล้วก็พูดซ้ำเรื่องเดิมๆ ซื้อมา เดี๋ยวก็ขายอีก ผมจะอธิบาย ก็ไม่ฟังอีก ตัดบทเหมือนเดิม  ผมมีเรื่องอะไรไม่ดี นี่ ขุดเรื่องเก่าๆ ขึ้นมาพูดหมด เรือ่งดี นี่ไม่พูดถึง  (คิดในใจ เราไม่น่าพลาดขายไปตอนนั้นเลย  ตอนนั้นถ้าไม่มีโครงการรถยนต์คันแรกมา ก็ไม่มีทางขายหรอก) ถึง ตอนนี้ว่าจะ ขอเงินเดือน ส่วนที่เหลือแต่ละเดือน ถัดๆ มาเก็บเอง  แล้วเก็บส่วนใหม่นี่ซื้อเอง ส่วนเก่าก็ช่างมัน ไม่ใช้ก็ได้  ซื้องวดนี้ก็คงซื้อแบบไม่บอก ให้เห็นเองเลย (แต่ว่าตอนจะขอเงินเดือน งวดปัจจุบันมาเก็บเอง ก็ไม่รู้จะพูดไงดี) ทำแบบนี้จะผิดรึเปล่าครับ ?

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่